EP.6 | ติดเธอ
#6
พระพาย POV :
“อะ อะไร?” ฉันเอ่ยถามฟาโรห์ออกไปทันทีที่เขาจับฉันยัดเข้ามาในรถ ร่างสูงนั้นไม่พูดไม่จาอะไรเอาแต่จ้องหน้าฉันอย่างกรุ่นโกรธท่าเดียว มิหนำซ้ำตอนนี้เขายังคร่อมร่างฉันอยู่อีกด้วย
เขาไม่รู้หรือไงว่าเบาะด้านหลังของรถที่เขาขับอยู่มันเล็ก ฉันอึดอัด!
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเธอเหรอ?” ฟาโรห์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ลมหายใจที่ฮึดฮัดบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอใจฉันอยู่
ไม่พอใจมากๆด้วย
“…”
“คุยกันก็แล้ว นอนกอดกันก็แล้ว มีอะไรกันก็แล้ว ไม่ได้เป็นอะไรกัน?” คนที่อยู่เหนือร่างเอ่ยถามพร้อมมองมาด้วยแววตาและน้ำเสียงตัดพ้อ
ฉันล่ะอยากจะถามเขาออกไปจริงๆ ว่าอยากจะเป็นอะไรกับฉันไปทำไมในเมื่อเขาไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับฉันอยู่แล้ว เขาแค่เข้ามายุ่งกับฉันเพียงเพราะใครบางคนเท่านั้นไม่ใช่หรือยังไง
“แล้วนายอยากเป็นอะไรล่ะ?” ฉันเอ่ยถามฟาโรห์ออกไปด้วยน้ำเสียงที่คิดว่านิ่งที่สุดพร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยของเขา
“ก็คง...อยากเป็นแฟนเธอมั้ง?” ซึ่งคำตอบที่ฟาโรห์ตอบออกมานั้นทำให้ฉันสั่นไหวอย่างน่าประหลาด ยอมรับว่าฉันคุยกับผู้ชายเปลี่ยนผู้ชายมาหลายคนก็จริง แต่ความสัมพันธ์ขจองฉันกับเขาพวกนั้นมันก็แค่ฉาบฉวย เพราะฉันไม่เคยคิดจะจริงจังกับใครอยู่แล้ว
ฉันกลัวการผูกมัด ฉันกลัวจะรู้สึกเกินเลยกับใครแล้วทำให้ตัวเองเจ็บเหมือนในอดีต ฉันไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว
ฉันไม่คิดจะจริงจังกับใครทั้งนั้น
ฟาโรห์เองก็เหมือนกัน ถึงฉันกับเขาจะมีความสัมพันธ์ที่มันลึกซึ้งต่อกัน แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะให้เขาเป็นมากกว่า...คนคุย
“อยากเป็นแฟนฉันมันไม่ง่ายหรอกนะ” ฉันยกท่อนแขนทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอฟาโรห์พร้อมมองไปทางด้านหลังของเขา
“แล้วทำไงถึงจะได้เป็น?” ฉันเก็บสายตากลับมาเมื่อสัมผัสถึงลมหายใจที่กรุ่นร้อนกำลังเป่ากระทบใบหน้า ปลายจมูกโด่งรั้นคลอเคลียอยู่ที่ปลายจมูกของฉัน ริมฝีปากหยักลึกก็เสียดสีอยู่กับริมฝีปากของฉัน
อย่างนั้นแหละดี ใกล้เข้ามาอีกสิฟาโรห์ ฉันอยากรู้ว่าถ้าคนด้านนอกเห็นว่าเราสองคนกำลังทำอะไรกัน อยู่ในรถที่คับแคบขนาดนี้ เธอจะแสดงอาการยังไง
“พาย” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปากของฉัน นี่มันไม่ต่างอะไรกับโดนจูบเลยนะ ร่างสูงขยับพูดทีริมฝีปากของเราก็เสียดสีกันที มันรู้สึก...
“หื้ม?”
“ต้องทำไงถึงได้เป็นแฟนเธอ?” คราวนี้ฟาโรห์ไม่ทำแค่ถาม แต่เขากำลังสอดแทรกฝ่ามือเข้ามาใต้กระโปรงทรงเอที่ฉันใส่อยู่ ฝ่ามือหนานั้นลูบไล้ไปมาราวกับต้องการจะปลุกอารมณ์บางอย่างของฉันให้ลุกโชน
สมองฉันขาวโพลนทันทีที่ฝ่ามือของฟาโรห์ตะปบเข้าที่กึ่งกลางร่าง หัวใจฉันเต้นกระหน่ำทันทีที่ปลายนิ้วใดสักนิ้วหนึ่งกดลงตรงจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกาย
“พาย...”
“…”
“ตอบ”
เมื่อกี้เขาพูดว่ายังไงนะ....
วันต่อมา
“ทำหน้าแบบนั้นยังไม่หายงอนชัวร์” ฉันจ้องหน้าเจ้าของส่วนสูง187เซนติเมตรที่กำลังยืนมองฉันอย่างไม่ลดละ ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
วันนี้ฉันจะเอาเลือดหัวเขาออกให้ได้
กล้าดียังไงมาทำเรื่องแบบนั้นกับฉันซ้ำสองแถมยังไม่ได้ป้องกันเลยสักครั้ง ไอ้หมอนี่มันกล้า มันกล้ามาก...
ถ้าฉันไม่เอาเลือดหัวเขาออกวันนี้แล้วมันจะเป็นวันไหนได้!
เมื่อวานนี้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก ฟาโรห์ลวนลามฉันในรถจนฉันสติหลุด พอเขาพาฉันมาส่งที่คอนโดก็ยังรังแกฉันต่ออีกจนเกือบเที่ยงคืน เขาทั้งตอกอัด บดเบียดและบดขยี้จนฉันแตกสลายคามือของเขา
นี่มันเรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้
ฉันตกเป็นของเขาหลายต่อหลายครั้งภายในระยะเวลาแค่สองวัน นี่มันบ้ามาก
“ฉันไม่ได้งอนนาย” ฉันตอบฟาโรห์ออกไปพร้อมปรายตามองข้าวผัดหมูในจานฝีมือเขาไปด้วย
หิวนะ อยากกินมาก แต่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะจับช้อนเลย
ฉันหมดแรงของจริงเลย ตั้งแต่ตื่นมาฉันยังไม่ได้ทำอะไรเองเลยสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำ แปรงฟัน หรือแต่งตัว ฟาโรห์นั้นเป็นคนจัดการให้ฉันเองทั้งหมด
ย้ำว่าทั้งหมด แม้กระทั้งอันเดอร์แวร์และเสื้อชั้นในเขายังใส่ให้ฉันเลย
“ไม่งอนก็กินข้าวสิ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำจนสุดฝีมือ นี่ของโปรดเธอไม่ใช่?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงดี๊ด๊าและสีหน้าสดชื่นขั้นสุด
ถามหน่อยว่าเขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนา เมื่อคืนก็ทำคนเดียวแทบทั้งคืนแล้วยังจะ...
ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอีก
“หรือว่าเธอไม่มีแรง?” ฉันถลึงตาใส่ฟาโรห์ทันทีที่เขาพูดพร้อมลากเก้าอี้มานั่งลงข้างๆ ฝ่ามือเรียวข้างซ้ายซึ่งเป็นข้างที่เขาถนัดใช้หยิบช้อนก่อนที่จะตักข้าวผัดกลิ่นหอมกรุ่นจนพูนมาจ่อตรงริมฝีปากที่บวมเห่อของฉัน
“ฉันกินเองได้ นายกินของนายเถอะ” ฉันว่าพร้อมมองหาจานข้าวผัดอีกจานที่ควรจะวางอยู่คู่กันเหมือนทุกที แต่ไม่ยักเห็น
“ฉันไม่กินหรอก” ฟาโรห์พูดแล้วมองมายังฉันไม่หยุดหย่อน
จะมองอะไรของเขานักหนา เมื่อคืนเขาก็เอาแต่มองฉันด้วยสายตาแบบนี้แหละ ไอ้สายตาเจ้าเล่ห์ที่ทำหน้าที่มอมเมาฉันจนหลงไหลไปกับเซ็กซ์ที่เร่าร้อนและหอมหวานในคราวเดียว
“ไม่หิวรึไง นายไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเลยนี่”
“จะหิวได้ไง” ริมฝีปากหยักลึกได้รูปเอ่ย ด้วยความที่ฉันไม่อยากจะสนใจว่าเขาจะพูดอะไรต่อเลยงับข้าวผัดที่ฟาโรห์จ่ออยู่ตรงหน้าเข้าปากด้วยความหิวโหย “ฉันกินเธอจนอิ่มแล้ว ไม่หิวหรอก...”
“แค่กๆๆ” ฉันสำลักข้าวที่อยู่ในปากทันทีที่ฟาโรห์พูดจบ
ไอ้หมอนี่มัน….
ฟาโรห์ POV :
“นายทำฉันไม่ได้ไปเรียน ถ้าฉันติดเอฟ ฉันจะให้นายไปเรียนเป็นเพื่อน” ร่างเล็กบ่นด้วยน้ำเสียงอู้อี้อยู่ภายในอ้อมกอดของผม
ใครจะปล่อยให้พระพายไปเรียนกันล่ะ ขนาดกินข้าวเธอยังไม่มีแรงแม้แต่จะจับช้อน ถ้าปล่อยให้ไปเรียนคนเดียวคงน่าเป็นห่วงแย่ นอนกอดกันที่ห้องทั้งวันแบบนี้แหละดีแล้ว
“สบายมาก วันนี้เธอเรียนอะไรนะ สถิติใช่ไหม ฉันเก่งเลขนะเผื่อเธอไม่รู้” ผมพูดพร้อมกดจูบลงบนศีรษะพระพายเบาๆหนึ่งที
ตั้งแต่ที่ผมกับพระพายเริ่มคุยกันผมก็ติดการสกินชิพ นิดๆหน่อยๆก็ขอให้ได้ทำ ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองติดการสกินชิพหรือติดเธอกันแน่
“ขี้อวด” เสียงเล็กบ่นอู้อี้อยู่ในลำคอทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“ฉันติดแล้วยังเห็นเป็นไร”
“ติดเอฟเหรอ? ไหนบอกว่านายเรียนเก่งไงทำไมถึงติดเอฟได้”
“ติดเธออ่ะดิ ติดจนไปไหนไม่ได้แล้วเนี่ย” ร่างเล็กผละออกพร้อมช้อนสายตามองมาที่ผม
“บ้าบอ” เธอพูดแค่นั้นก่อนที่จะซุกใบหน้าลงบนแผ่นอกของผมต่อ
“พาย...” ผมเรียกเธอ
“หื้ม?”
“เป็นแฟนกันมั้ย?”
