Chapter 5
หลายวันแล้วที่ไอรีนไม่ได้ออกไปไหนได้แต่นั่งดูรูปเก่าๆ ที่เธอเคยถ่ายกับริวรวมถึงแชทที่เคยคุยกันด้วยน้ำตาที่ไหลซึม เธอโทรหาเขาทุกวันแต่เขาไม่ยอมรับสายเธอเลย ทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันนานขนาดนี้เพราะทุกครั้งริวจะเป็นคนตามง้อเธอก่อนตลอด คราวนี้เธอจึงหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นอีก แต่เขาก็ยังไม่มีท่าทีที่จะติดต่อกลับมาเลย
ไอรีนจึงคิดขึ้นมาได้ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้ง้อ เธอก็ตามง้อเขาได้นิ เมื่อคิดได้แบบนั้นจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ เพื่อไปหาเขาที่คอนโด จะมัวแต่มานั่งซึมแบบนี้ก็ไม่ช่วยให้คืนดีกับเขาได้หรอก
รถจอดเทียบหน้าคอนโดมิเมียนหรูที่คุ้นเคย เธอลงจากรถแล้วเดินขึ้นไปหาริวที่เพ้นท์เฮ้าส์เพราะไม่รู้รหัสใหม่จึงต้องกดออดเพื่อเรียกเขาให้ออกมาคุยกัน แต่ใครจะไปคิดว่าคนที่มาเปิดประตูจะเป็นผู้หญิง… แค่นั้นก็โกรธจะแย่แล้วแต่นังนั้นยังเหยียดยิ้มเย้อหยันใส่เธออีก
“ที่รัก มีใครมาหาแน่ะ” เหมือนหล่อนจะจงใจใช้สรรพนามเพื่อยั่วโมโหเธอ
“ใครเหรอ… ไอรีน” ไม่นานนักก็ปรากฎร่างสูงของผู้ชายที่เธอคุ้นเคย สีหน้าเรียบนิ่งเมื่อครู่กลายเป็นตึงเครียดทันทีที่เห็นว่าใครยืนอยู่หน้าประตู
“มาทำอะไรที่นี่”
“นังนี่ใคร” ไอรีนตวาดเสียงดังอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ลืมสิ้นว่าตัวเองมาเพื่อง้อเขาแต่ใครเห็นแบบเธอก็ต้องขึ้นกันทั้งนั้นแหละ
“นี่เบาหน่อยได้มั้ย” ริวว่าคิ้วขมวดกันแน่น
“ก็ตอบมาก่อนสิ” เขาถอนหายใจอย่างระอา
“จะเป็นใครก็ได้ไอ อย่าลืมสิว่าเราเลิกกันแล้ว”
“เลิกงั้นเหรอ เลิกกันไม่ถึงอาทิตย์นายก็มีคนใหม่แล้วงั้นเหรอ”
“เรื่องของฉัน และเธอก็ไม่ควรมาที่นี่อีก กลับไปซะ” สิ้นประโยคนั้นนังหน้าด้านข้างๆ ก็สอดมือเข้ามากอดแขนเขาเพื่อต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ได้สิ จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย!
ใช้จังหวะที่ริวเผลอผลักออกแล้วเข้าจิกหัวผู้หญิงคนใหม่ของเขาทันที อยากยั่วโมโหกันดีนัก เดี๋ยวแม่จะจัดให้ชุดใหญ่เลย
เพี๊ยะ เพี๊ยะ
เสียงฝ่ามือกระแทกใบหน้าสวยซ้ำไปซ้ำมาทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นจะเอาคืนก็ได้แต่เพราะริวกำลังยื้อยุดฉุดกระชากไอรีนให้ออกจากตัวเธอ เธอจึงแสร้งทำเป็นเจ็บ บีบน้ำตา ร้องโอดโอย เรียกคะแนนสงสาร
“ไอ! พอ!”
เพี๊ยะ!
ราวกับวิดีโอที่ถูกกดหยุดเอาไว้จนภาพตรงหน้านิ่งสนิท ไอรีนตัวแข็งทื่อ ยืนหน้าชาอยู่กับที่ด้วยความช็อก ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมามองผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นแฟนด้วยสายตาตัดท้อหลังจากโดนเขาตบเป็นครั้งแรก… น้ำตาไหลจากขอบตาเช่นกับเลือดที่ซึมตรงมุมปาก วินาทีนั้นเธอถึงได้ตาสว่างว่าริวไม่ใช่คนเดิมที่เธอรู้จักอีกแล้ว…
ทุกอย่างมันจบแล้ว…
ไอรีนเดินตัวชาหยิบกระเป๋าที่กระเด็นแล้วเดินผ่านร่างของทั้งสองคนโดยไม่พูดอะไรสักคำ คล้อยหลังพวกเขาเธอก็เดินเช็ดน้ำตา ยกมือขึ้นลูบผมให้เข้าทรงตามเดิมเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของผู้คน แต่น้ำตาต่อให้เช็ดครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังคงไหล พอเข้ามานั่งในรถได้เธอถึงได้ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น ความเจ็บที่ใบหน้ายังไม่เท่ากับใจที่ร้าวรานเป็นชิ้นๆ เมื่อถูกชายที่รักตบแถมยังทำต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นอีก มันทั้งเสียใจทั้งอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ริวไม่ควรทำกับเธอแบบนี้และเธอจะไม่ยอมโดนทำลายศักดิ์ศรีคนเดียวแน่
ไอรีนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโพสต์รูปที่สาวๆ กิ๊กของเขาชอบส่งมาให้เธอเพื่อยั่วโมโห ภาพเขากำลังนอนกกกับเหล่าผู้หญิงมากหน้าหลายตาแล้วเขียนแคปชั่นว่า ‘ผู้ชายใจหมา หน้ากระหรี่’
เธอมองโพสต์ที่เพิ่งอัพขึ้นฟีดแล้วเหยียดยิ้ม… ก่อนจะเช็ดน้ำตาออกไปเป็นครั้งสุดท้าย
ถือว่าหายกันแล้วนะริว…
หลายเดือนต่อมา
ก๊อกๆ
“ขอแม่เข้าไปได้มั้ยลูก”
ไอรีนลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้แม่ ลินลดามีอาการตกใจเล็กน้อยที่เห็นสภาพลูกสาวในตอนนี้ แน่สิ ใครมาเห็นสภาพเธอตอนนี้ก็ต้องช็อกกันทั้งนั้นแหละ ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าซีดเซียว ตาบวม
แม้จะโพสต์ประจานริวไปแล้วแต่ความเสียหายที่ได้รับจากการถูกตบครั้งนั้นทำลายความรู้สึกของเธอมากกว่าที่คิด เธอไม่ได้เสียดายริวแล้วแต่เสียใจ เสียหน้าและเสียศักดิ์ศรีจนไม่กล้าออกไปไหนได้แต่ดับตัวอยู่ในห้องไม่ติดต่อใคร
“แม่มีอะไรคะ”
“แม่กับพ่อวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวภูเก็ตน่ะ ถือโอกาสไปเยี่ยมคุณยายด้วย ลูกว่าเป็นไงจ๊ะ”
“ก็ดีค่ะ แต่หนูขอบายนะ”
“ทำไมล่ะ นี่เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้วนะ”
“หนูเบื่อ อยากนอนอยู่บ้าน” สิ้นคำพูดนั้นไอรีนเดินกลับไปทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้งอย่างคนหมดแรง
“ไม่เอาน่าไอ แม่รู้ว่าลูกกำลังเสียใจอยู่ แต่ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไปนะลูก เราต้องมีความสุขเพื่อให้เขาเสียดายสิ นั่นถึงจะสมกับเป็นลูกแม่”
“...” เธอนิ่งเงียบ
“นะ… ไอรีน ถือว่าแม่ขอ”
“ก็ได้ค่ะ ไปวันไหนคะ” ได้ยินแบบนั้นเธอจึงยอมให้แม่ดึงตัวเองขึ้นมานั่งแม้สีหน้าจะไม่ดีขึ้นเลย
“พรุ่งนี้จ้ะ แม่จองตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมเอาไว้แล้ว”
“ปุบปับจัง”
“แม่จองไว้นานแล้ว แต่เพิ่งจะมาบอกลูก”
“ค่ะ”
“ถ้าตกลงก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วมาจัดกระเป๋ากัน”
ลินลดาดึงแขนลูกสาวให้ลุกขึ้นยืนแล้วดันหลังไปเข้าห้องน้ำจนสำเร็จ และไอรีนเป็นต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าตัวเองในกระจก สภาพแย่กว่าที่คิด ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะอาการหนักขนาดนี้
