Chapter 4
“นี่ริว! นายเปลี่ยนรหัสทำไมเนี่ย! แล้วโทรไปทำไมไม่รับ ฉันคิดว่าตายไปแล้วซะอีก”
ไอรีนเหวี่ยงใส่ทันทีที่เห็นหน้าแฟนหนุ่มและตั้งท่าจะดันเขาให้หลบเพื่อจะเข้าไปในห้อง แต่เขากลับขืนตัวไว้ไม่ยอมให้เข้า
“ก็ฉันไม่อยากรับ แล้วนี่มันก็ห้องฉัน ฉันจะเปลี่ยนรหัสมันก็เรื่องของฉัน”
ไอรีนถึงกับอึ้งไปเลย เธอไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคเย็นชาแบบนี้หลุดออกมาจากปากเขา เพราะปกติเขาไม่ใช่คนพูดจาแบบนี้
“นี่ริว! นายบ้าไปแล้วเหรอ!”
ไอรีนถึงกับปรี๊ดแตก ริวคิ้วขมวดเป็นปมมากขึ้นก่อนจะใช้มือขวาเสยผมขึ้นอย่างหัวเสีย
“ใครกันแน่ที่บ้า! เธอนั่นแหละที่ทำทุกอย่างพัง พังไม่เหลือชิ้นดี!”
เหมือนเขาจะหมดความอดทนกับเธอแล้ว
“ทำไม ฉันทำอะไร!”
ไอรีนสงสัยจริงๆ ว่าเธอทำอะไรผิดนักหนา เขาถึงได้ตะคอกใส่เธอแบบนี้อีกแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยทำ เขาเปลี่ยนไปมาก และเธอต้องการเหตุผล
“นี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ! เธอนี่มันเหลือเกินจริงๆ”
“นี่ริว!”
“เราเลิกกันเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”
“ว่าไงนะ!” ประโยคนั้นทำเอาตัวเธอชาวาบตั้งแต่หน้าลามไปทั่วทั้งตัว “เลิกงั้นเหรอ! นายกล้าพูดออกมาได้ไง!”
“ใช่! เราจบกัน! พอแค่นี้ ฉันจะไม่ทนอีกแล้ว!”
“ทำไม!” ถึงแม้จะเจ็บปวดจนอยากร้องไห้ออกมา แต่เธอก็ต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหล เดี๋ยวเขาจะคิดว่าเธออ่อนแอ
“เพราะเธอทำลายชีวิตฉัน เหมือนที่กำลังทำลายชีวิตตัวเองไงล่ะ”
“นายพูดเรื่องบ้าอะไร!” เธอเริ่มสับสนกับคำพูดของเขาเรื่อยๆ
“พ่อฉันตัดสินใจจ้างคนนอกมาเป็นCEOแทนฉันที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวเพราะการกระทำโง่ๆ ของเธอวันนั้น! แล้วที่แย่กว่านั้นคือเขากำลังจะถอนหุ้นออกจากบริษัทพ่อเธอ โทษฐานที่เธอทำลายการลงทุนกับบริษัทSHJ!”
“..”
“เป็นเพราะเธอไม่ได้ทำงาน วันๆ เอาแต่ช็อปปิ้ง เธอเลยไม่รู้สินะว่าสถานการณ์ตอนนี้มันร้ายแรงแค่ไหน บริษัทฉันวางแผนจะร่วมหุ้นลงทุนกับบริษัทนั้นมาหลายเดือนเพื่อจะได้เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทที่ดีที่สุด แต่เพราะเธอเรียกนักข่าวมาตอนนั้น ทำให้ตอนนี้บริษัทฉันไม่แม้แต่จะเฉียดใกล้ได้ เพราะข่าวฉาวนั้น! บริษัทฉันต้องสูญเสียผลตอบแทนในอนาคตไปเท่าไหร่รู้มั้ย เธอรู้มั้ย!”
ริวเขย่าร่างไอรีนรัวๆ อย่างเหลืออด แต่ตอนนี้สติเธอกระเจิดกระเจิงไปแล้ว เธออาจไม่รู้เรื่องธุรกิจมากนัก แต่ตอนนี้เธอรู้แค่ถ้าบริษัทริวถอนหุ้นจากบริษัทพ่อ มันต้องวุ่นวายแน่ๆ เพราะเขาคือผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
“คราวนี้เธอรู้หรือยังล่ะว่าตัวเองมันโง่มากแค่ไหน” จากที่ตอนแรกเธอไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับการกระทำของตัวเอง แต่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบที่มันกำลังจะตามมา ร้ายแรงกว่าที่คิดไว้
“ริว พาฉันไปหาคุณลุงหน่อยได้มั้ย”
ไอรีนที่เพิ่งเรียกสติกลับคืนมาได้ก็เงยหน้าขึ้นมองริวอย่างอ้อนวอน
“อย่าว่าแต่เธอเลย ตอนนี้หน้าฉัน พ่อยังไม่อยากจะมองเลย”
“นะ ฉันต้องไปพบท่าน ไปบอกว่าฉันไม่ได้เป็นคนเรียกนักข่าว”
“ไอ เธออย่ามาโกหก ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร นั่นมันโรงแรมไพรเวตนะ!”
“ฉันจะไปรู้เหรอ! แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ฉันอ่ะ ทำไมทุกคนต้องคิดว่าเป็นฉันด้วย”
เธอชักจะหงุดหงิดแล้วนะ ตั้งแต่ลุงวิชัยล่ะ ทำไมการทำผิดแค่ครั้งเดียว ทุกคนถึงพาลกันเชื่อไปหมดว่าฉันเป็นคนเรียกนักข่าวมา ฉันไม่เข้าใจ!
“เพราะเธอชอบประจานให้คนอื่นอับอายไง! ต่อให้ครั้งนี้จะไม่ใช่เธอ แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว! มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”
“ได้สิ! ก็ฉันไม่ได้ทำอ่ะ ทำไมฉันต้องได้รับโทษในสิ่งที่ไม่ได้ทำด้วย!”
“เธอกลับไปเถอะ ไม่มีใครเขาเชื่อเธอหรอก แล้วเอาของเธอกลับไปด้วย”
ไอรีนยืนนิ่งในหัวคิดหลายสิ่ง ปัญหาที่กำลังจะตามมา ความไม่ยุติธรรมนี้! ก่อนที่ริวจะดันกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาให้ เธอก้มลงมอง มันคือพวกเสื้อผ้า รองเท้าที่ลืมไว้ในห้องเขา
“เธอทำตัวเองนะไอรีน ลาก่อน”
ปัง! แล้วประตูก็ถูกกระแทกปิดลงทันทีพร้อมกับหัวสมองที่กำลังว่างเปล่า แล้วเธอจะทำยังไงดีล่ะทีเนี่ย เธอทำอะไรได้บ้าง
