บท
ตั้งค่า

Chapter 11

“เอาอีกมั้ย” เขานั่งลงข้างๆ ฉันพลางรินมันใส่แก้วโดยไม่ต้องรอให้ฉันตอบ รู้ใจจริงๆ แล้วความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามา หมอนี่คิดจะมอมฉันเปล่าเนี่ย แต่เขาก็รินใส่แก้วของตัวเองเหมือนกัน แล้วจิบมันช้าๆ แบบเสพบรรยากาศไปด้วย

“เธอชื่ออะไรเหรอ”

“ไอรีน นะ… คุณล่ะ” ฉันเกือบเรียกนายล่ะ แต่เบรกไว้ทัน ต้องมีมารยาทนิดหนึ่ง

เขามองหน้าฉันด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นตายิ้ม

“ไคริล ยินดีที่ได้รู้จัก” เขาเบนแก้วมาชนกับแก้วฉันดังแกร๊ง ก่อนจะกระดกมันเข้าปากรวดเดียวหมด “ทำไมถึงมาเที่ยวคนเดียวล่ะ”

“รู้ได้ไงว่าฉันมาคนเดียว”

“ก็ฉันไม่เห็นใครนอกจากเธอ แถมยังโดนล่อลวงมาอีก เกือบไปแล้ว”

ก็จริงของเขา ถามอะไรโง่ๆ จริงฉัน

“ก็ฉันตัวคนเดียว” ฉันพูดด้วยความรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดหัวใจ ก่อนจะยกแก้วดื่มอีกครั้งหวังว่ามันจะช่วยชำรพล้างความขมขื่นในใจ

“ไม่มีญาติเลยเหรอ”

“มียาย แต่ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่”

“งั้นเหรอ”

“แล้วคุณล่ะ”

“ก็มาล่องเรือเที่ยวปกติ เบื่อๆ น่ะ”

“นั่นสิ น่าเบื่อเนอะ” คราวนี้ยกหมดแก้วเลยจ้า แล้วเขาก็รินแชมเปญใส่แก้วฉันอีกรอบ

“แล้วนี่กลับโรงแรมยังไง”

“แท็กซี่มั้ง”

“ให้ไปส่งป่ะ”

ฉันหันมองหน้าไคริลที่กำลังก้มรินแชมเปญใส่แก้วตัวเองด้วยใบหน้าที่กำลังแต้มรอยยิ้ม

“จีบป่ะเนี่ย”

“ฮ่าๆ ตรงจัง แต่แค่เป็นห่วงน่ะ กลับบ้านคนเดียวเดี๋ยวจะโดนล่อลวงอีก”

“อ๋อ” ฉันจิบแชมเปญแก้เก้อเขิน

“แต่ขอเบอร์ไว้หน่อยก็ดี”

“...” ฉันหันกลับมามองหน้าไคริลทันที หลังจากที่เมื่อกี้แอบผินหน้ามองวิวแก้เขิน

“ไม่ดีกว่า”

“ว้า แย่จัง”

ไคริลแสร้งทำหน้าเศร้า แต่ไม่นานก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม ร้ายจริงๆ

แล้วเรือยอร์ชก็จอดเทียบท่าเรือ

“ตกลงให้ไปส่งนะ”

“ก็ได้”

เขายิ้มดีใจก่อนจะยกดื่มหมดแก้ว ฉันก็ยกหมดแก้วเช่นกัน แล้วก็พากันขึ้นฝั่งเดินไปยังรถ BMW คันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกลจากท่า

“เชิญครับ”

เขาเปิดประตูรถด้านหลังในฉันเข้าไปนั่ง ส่วนตัวเองก็สอดตัวตามเข้ามา โดยมีผู้ชายอีกคนเป็นคนขับรถ

“เธอพักที่ไหน”

ฉันบอกตำแหน่งสถานที่ใกล้บ้านยายให้เขารู้ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าหลังไหน อายน่ะ แต่ก็เอาเถอะ ยังไงก็ไม่ได้เจอกันแหละ

“ลงนี่แน่เหรอ” ไคริลถามพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง

“อื้ม ขอบคุณนะ”

“เดี๋ยว” เขารั้งแขนฉันที่กำลังขยับตัวลงจากรถ ฉันหันไปมองเขาอย่างงงๆ “นี่นามบัตรฉัน มีอะไรก็โทรมาได้นะ”

ฉันมองมันสลับกับหน้าเขา ไม่รู้ว่าควรจะรับไว้ดีมั้ย แต่เขาก็ยัดใส่มือฉันเรียบร้อย

“มีอะไรให้ช่วยก็โทรมาได้”

“อะ อื้ม”

ฉันก็รับมันก่อนจะก้าวลงจากรถคันหรู ระหว่างเดินกลับบ้านยายก็ก้มลงมองนามบัตรในมือ

อ๋อ เป็นเจ้าของบาร์แถวป่าตองนี่เอง แต่นามสกุลก็คุ้นอยู่นะ คงมีชื่อเสียงอยู่บ้างแหละน้า

22.15 น.

รอให้ยายหลับตั้งนานกว่าจะได้ออกมา โชคดีมากที่ละแวกบ้านยายอยู่ใกล้กับหาดแถวป่าตอง ฉันเลยลองเดินมาดูตอนนั่งรถผ่านเห็นถนนคนเดินที่มีบาร์เยอะๆ อยู่น่ะ เพราะอารมณ์ยังค้างจากการดื่มแชมเปญเมื่อบ่ายเลยอยากดื่มต่อ คงสงสัยสินะว่าทั้งที่ฉันเพิ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญขนาดนั้นทำไมถึงยังกล้ามาเที่ยวบาร์คนเดียวอีก ไม่กลัวเหรอ ตอบได้เลยว่าก็ใจหวิวๆ แต่พอดีตอนไปเรียนอเมริกา ฉันเที่ยวคนเดียวบ่อยน่ะ เพราะตัวเองเข้ากับใครไม่ค่อยได้ ด้วยนิสัยขี้วีนเลยต้องใช้ชีวิตคนเดียวบ่อยๆ นี่แหละเหตุผลที่พ่อกับแม่กล้าทิ้งฉันไว้ที่ไทยคนเดียว

ถนนคนเดินครึกครื้นมากเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติบวกกับเสียงดนตรีที่บาร์ข้างทางแย่งกันเปิดแข่งกัน ทั้งดนตรีสดและดนตรีแดนซ์ที่มีสาวๆ มาเต้นรูดเสาเรียกแขก ฉันเดินมาหยุดที่บาร์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นดนตรีสด แขกในร้านเต้นกันน่าสนุกเชียว ฉันเลยลองเดินเข้าไปดู บรรยากาศดีที่เดียวเลยล่ะ

พนักงานพาฉันมานั่งที่โต๊ะเดียวชิดกำแพงพร้อมยื่นเมนูให้ ฉันก้มลงดูเมนูเล็กน้อย ตั้งใจว่าจะนั่งเสกบรรยากาศไปเรื่อยๆ เพราะมาคนเดียวจึงสั่งค็อกเทลไปแก้วหนึ่งเบาๆ นั่งมองนักร้องสาวที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีอย่างสนุกสนานผลัดกับนักร้องชายในวงนั่นแหละ มีคนให้ทิปพวกเขาเยอะเลย คนลุกไปเต้นน่าเวทีก็เยอะ ฉันปล่อยตัวโยกไปตามดนตรีอย่างผ่อนคลาย

“มาคนเดียวเหรอครับ” ฉันเหลือบตามองผู้ชายหน้าตาบ้านๆ คนหนึ่งที่ถือวิสาสะนั่งลงข้างๆ ฉัน ก่อนจะแอบชักสีหน้าใส่เล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยิ้มให้อย่างมารยาท

“ค่ะ”

“งั้นขอนั่งด้วยคนนะครับ” นั่งไปแล้วนิ จะมาขอเพื่อ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel