Episode-04 ไม่เป็นปัญหา
ครืด... ครืด...
มือถือของอคินมีสายเรียกเข้าแต่เจ้าของเครื่องกลับไม่สนใจที่จะรับมันจนอลันทนความรำคาญไม่ไหว
“กูขอร้องล่ะไอ้คินถ้ามึงไม่อยากรับสายช่วยปิดเครื่องเหมือนตอนกลางวันที กูรำคาญมากเลยตอนนี้” อลันบอกด้วยท่าทีรำคาญ นี่ไม่ใช่สายแรกที่เขาทนฟังเสียงเรียกเข้าจนจบ
“ปิดไม่ได้เผื่อแม่กูโทรมา” ได้ยินแบบนั้นอลันจึงมองไปที่หน้าจอเพื่อดูว่าปลายสายเป็นใคร
“ควีน”
“อะไร?”
“นี่ไง คนชื่อควีนโทรมา” ได้ยินแบบนั้นเขาจึงกดรับสายแล้วออกไปคุยที่ระเบียง ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาเพื่อนรักเป็นอย่างมาก เหมือนว่าตอนนี้พวกเขาชักอยากรู้แล้วสิว่าอคินมีความลับอะไรกันแน่
“คิดถึงหรือไง”
(อือ ถ่ายใบงานส่งมาให้ดูหน่อยฉันขี้เกียจคิด)
“เป็นซะแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะฉลาด”
(ไม่เห็นจำเป็นต้องฉลาดเลยแค่มีคนเก่งอย่างนายอยู่ด้วยแค่นี้ฉันก็ฉลาดแล้ว)
“อยู่ไหนเนี่ยเสียงดังจัง” อคินไม่ได้สนใจสิ่งที่เจ้าหญิงพูดสักนิดแต่สนใจบรรยากาศรอบตัวมากกว่า
(ร้านอาหารใกล้คอนโดนี่แหละ) ได้ยินแบบนั้นเขาจึงเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองแล้วพูดต่อ
“สี่ทุ่มแล้วนะ ขึ้นห้องได้แล้ว”
(รู้แล้วกำลังจะขึ้นนี่ไง ว่าแต่นายเถอะยัยรองเท้ามาหาอีกไหม)
“ตอนนี้ยัง อีกเดี๋ยวคงมา”
(แฟนเหรอ) เธอถามอย่างลืมตัวเพราะนี่เป็นกฎที่คุยกันไว้แต่แรกว่าจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน แต่เธอดันพลั้งปากไปแล้ว
“รู้สึกไม่อยากใช้คำนี้กับใครเลยแต่ช่างเถอะมันไม่เป็นปัญหาสำหรับเราอยู่แล้ว”
(แน่ใจ?)
“แน่สิ”
(งั้นแค่นี้แหละจะขึ้นห้องแล้ว อย่าลืมถ่ายรูปส่งมาให้ดูนะ) จบประโยคเจ้าหญิงก็วางสายไป
กลับเข้ามาในห้องตามเดิมก็เจอสายตาจ้องจับผิดมองมาทางเขา
“อะไร”
“มึงน่ะอะไร เดี๋ยวนี้ความลับเยอะนะ” ออกัสต์แซวอย่างไม่จริงจังมากนัก แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าอคินมีใครสักคนอยู่ก็ตาม “มีความรักเหรอวะ”
“ไร้สาระ”
“กูว่าไม่ไร้สาระนะ” อลันค้านขึ้นมาบ้าง “ช่วงหลังมานี้มึงคุยโทรศัพท์บ่อย แถมยังไปรับสายไกลด้วยอย่างกับกุมความลับบริษัทไว้”
“จริง! โดยเฉพาะคนชื่อควีนกูเห็นโทรเข้าโทรออกบ่อยนะครับ” เธียร์เสริมขึ้นมาอีกคน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นชื่อนี้จากโทรศัพท์ของเพื่อนรัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าเธอคนนี้คือใคร มีตัวตนอยู่ที่ไหนเท่านั้นเอง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก …
อคินไม่ทันได้ตอบอะไรเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
เขาลอบถอนหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุคคลที่อยู่นอกห้อง
“กูไปเปิดให้” เธียร์เสนอตัวก่อนจะเป็นฝ่ายไปเปิดประตูซะเอง
บานประตูเปิดออกพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ฉุนไปทั่วบริเวณจนรู้สึกเวียนหัว ร่างบางดูแปลกใจไม่น้อยที่คนหลังประตูไม่ใช่ผู้ชายที่เธออยากเจอ
“พี่คินอยู่ไหมคะ” เธอเอ่ยถามตามมารยาททั้งที่ก่อนหน้านี้แผงฤทธิ์ใส่เจ้าของห้องจนเขาไม่สามารถอยู่ร่วมได้
“อยู่ครับแต่ไอ้คินไม่สะดวกรับแขก ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะ” เธียร์บอกด้วยคำสุภาพแต่เหมือนคนตรงหน้าดื้อดึงไม่ยอมฟังเขา
“บอกเขาให้หน่อยค่ะว่าหนูมีเรื่องจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไรครับ สำคัญมากไหม”
“เรื่องส่วนตัวค่ะ” เธอตอบเสียงเรียบคล้ายหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว “แล้วคุณเป็นใครไม่ทราบถึงได้กล้าถามนั่นถามนี่ธุระของคนอื่น”
“ถ้างั้นคงไม่สำคัญอะไรเพราะถ้าสำคัญคุณต้องรู้ว่าผมเป็นใคร” เธียร์ตอบด้วยคำพูดแสนธรรมดาก่อนจะปิดประตูใส่หน้าเธอเต็มแรง แม้ว่าเขาจะพูดจาไพเราะแต่เวลาด่าก็เจ็บใช้ได้
“ใครวะ” ออกัสต์ถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเธียร์เดินกลับมาคนเดียว “ใช่น้องควีนอะไรของไอ้คินไหม”
“ไม่ใช่หรอก” เธียร์ตอบอย่างมั่นใจ ระดับอคินลูกคุณหนูขี้วีนแบบนี้ไม่ใช่สเปคที่ชอบแน่นอน แต่ถ้าอยากได้เฉย ๆ อันนี้ได้อยู่
เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการออกัสต์จึงหันมาถามอคินแทน
“ตกลงใครมา? ห้ามตอบว่าไม่รู้นะ มึงต้องรู้แน่!” ไม่พูดเปล่าเขายังทำท่าทีจริงจังออกมาให้เห็นอีกด้วย
“ลูกแพร์”
“มึงช่วยอธิบายขยายเรื่องราวโดยที่พวกกูไม่ต้องถามต่อได้ไหมวะ”
“ก็ยัยนี่แหละที่ไปบอกพ่อแม่กูแถมยังเสนอหน้าขนข้าวของย้ายมาอยู่กับกูด้วย” ไม่พูดเปล่าเขายังเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีของคนอื่นแขวนอยู่ให้เพื่อนดูอีกต่างหาก “เป็นคนแรกเลยที่ล้ำเส้นกูขนาดนี้”
“เอาเล่น ๆ สนุกจะตายไม่เห็นมึงต้องซีเรียสเลย” อลันบอกอย่างไม่คิดอะไร ที่ผ่านมาเพื่อนเขากินทิ้งกินขว้างอยู่บ่อยครั้ง แต่จะด่าก็ไม่ได้เพราะเจ้าตัวไม่มีแฟน ไม่คิดจะมีด้วยซ้ำมั้ง
“กูยกให้มึงเอาไหมล่ะ”
“ไม่อะ กูไม่ชอบคุณหนูขี้เหวี่ยงขี้วีน น่ารำคาญ!”
“ถ้าเรียบร้อยมึงจะเอาว่างั้น?”
“กูไม่นิยมกินต่อเพื่อน”
ช่วงดึกเขายังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่างขะมักเขม้น กระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนถึงตีสาม
“กว่าจะเสร็จ แทบหลับกลางอากาศ”
“เออ ให้กูอ่านหนังสือสอบยังดีกว่านี้อีก”
บ่นพึมพำกันตามประสาก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า
เพียงแค่ไม่นานทุกคนก็หลับหมด มีเพียงเจ้าของห้องอย่างอคินที่ยังกดมือถือเล่นอยู่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ...
เสียงประตูห้องถูกเคาะอีกครั้ง คราวนี้เป็นเขาเองที่ไปเปิดและไม่ลืมหยิบข้าวของทุกอย่างที่เป็นของคนอื่นติดมือมาด้วย
“พี่คิน” ร่างบางยิ้มดีใจในที่สุดอคินก็ยอมออกมาเจอเธอ ไม่เสียแรงที่เฝ้าหน้าห้องอยู่ครึ่งค่อนวัน
“ของเธอ” เสื้อผ้าราคาแพงถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดีเช่นเดียวกับรองเท้าที่ถูกโยนก่อนหน้านี้นั่นแหละ “ทีหลังอย่าเสียมารยาทเข้าห้องคนอื่นแบบนี้อีก”
“แต่คุณลุงเป็นคนอนุญาตนะคะ”
“แต่ฉันเป็นเจ้าของห้องฉันไม่อนุญาต!”
“บอกดี ๆ ก็ได้ค่ะไม่เห็นต้องดุขนาดนี้เลย” ใบหน้าสวยสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรแค่อยากอยู่ใกล้คนที่ตัวเองแอบชอบเท่านั้นเอง “ต้องทำยังไงหนูถึงจะอยู่ในสายตาพี่บ้าง”
“ไม่ต้องทำ ถ้าฉันอยากสนใจเดี๋ยวฉันสนใจเอง”
“...”
“เก็บข้าวของกลับบ้านเธอไปได้แล้วอย่าให้ฉันต้องโยนทิ้งแบบนี้อีก เพราะเรื่องเล็ก ๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ถ้าเธอยังดื้อดึงแบบนี้” ได้ยินแบบนั้นคนตัวเล็กจึงยอมก้มเก็บข้าวของของตัวเองอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนที่เธอจะตัดสินใจถามเรื่องที่อยากรู้ออกไปตามตรง
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอคะ”
“คนไหน?”
“คนที่ออกจากห้องพร้อมพี่เมื่อเช้า”
“เพื่อน”
“เป็นเพื่อนกัน ... มีอะไรกันได้ด้วยเหรอคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ ขนาดเธอเป็นคนอื่นยังมีอะไรกับฉันได้เลย” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอัตโนมัติ รู้ว่าเขาเป็นคนพูดตรงแต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดขนาดนี้ “กลับไปได้แล้ว”
