Episode-02 ผิดกฎ
ห้ามมีความรู้สึกเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกแบบไหนก็ตาม สิ่งเดียวที่มีร่วมกันคือเซ็กซ์ หากคนใดคนหนึ่งมีความรักหรือต้องการหยุดความสัมพันธ์นี้อีกฝ่ายต้องยอมรับและหยุดทุกอย่างด้วยความเต็มใจ
ห้ามเอาใจลงไปเล่นเพราะมันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ทางกาย เว้นช่องว่างของกันและกัน ห้ามคิดถึงอนาคต เก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ ห้ามตกหลุมรัก! และที่สำคัญป้องกันทุกครั้ง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทั้งเขาและเธอต่างรู้และยอมรับมันด้วยกันทั้งสองฝ่าย ...
“อาทิตย์หน้าไปทะเลกันไหม” อลันเสนอขึ้น
“ฉันคงไม่ได้ไปต้องกลับบ้านที่ปทุม” เจ้าหญิงตอบเสียงเรียบ
“อีกแล้วนะ ทริปที่แล้วเธอก็ไม่ได้ไป”
“ทริปต่อไปไม่พลาดแน่สัญญา”
“จะรอดู คราวที่แล้วเธอก็พูดแบบนี้” นัดกันทีไรทริปล่มทุกที แต่หากชวนปุ๊บไปปั๊บแบบนั้นถึงจะได้ไปครบทุกคน
“สิ้นเดือนที่บ้านจัดงานเลี้ยงเปิดตัวสินค้าใหม่ไปด้วยกันนะ”
“มึงพูดกับใครไอ้คิน” เธียร์เอ่ยเมื่ออยู่ ๆ อคินก็โพล่งขึ้นมา
“พูดกับทุกคนนั่นแหละ” เขาตอบเสียงเรียบพร้อมกับเงยหน้ามองเจ้าหญิงที่ไม่ได้สนใจฟังคำพูดของเขาตั้งแต่แรก “เธอช่วยสนใจคนรอบข้างหน่อยได้ไหมวะหญิง”
“ได้ยินแล้วไง” ปากพูดกับเขาแต่สายตาก็เอาแต่มองมือถืออยู่แบบนั้นจนณิชาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อดสงสัยไม่ได้
“ดูอะไร กรี๊ด! หล่อมาก”
“ชู่...อย่าเสียงดังสิ” เสียงของสาว ๆ ทำเอาเพื่อนชายอยากรู้ไปตามกัน
“ดูอะไรกันวะ” ออกัสต์ถามก่อนจะชะเง้อไปมองบ้างแล้วพูดความในใจออกมาตามประสา “กูหล่อกว่าตั้งเยอะ”
“ก็หล่อ แต่หล่อคนละแบบ” เจ้าหญิงว่ายิ้ม ๆ แล้วหันไปตั้งใจดูไลฟ์สดของเน็ตไอดอลชื่อดังที่เธอชื่นชอบต่อ
“คนละแบบนี่แบบไหนบ้าง” อคินถามด้วยความอยากรู้
“หล่อ หล่อเหี้ย ๆ หล่อฉิบหาย”
“แล้วฉันหล่อแบบไหน”
“หล่อฉิบหายก็พอ ถ้าหล่อเหี้ย ๆ มันดูเกินจริงไปหน่อย”
“หลอกด่าหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่าด่าเลย”
หลายวันผ่านไป
“ไม่เจอนานโตเป็นสาวแล้วสวยซะด้วย” น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยพร้อมกับลูบศีรษะด้วยความรัก “เรียนใกล้จบแล้วสิ”
“อีกสองปีค่ะ ยายต้องแข็งแรงไว้นะรอหนูเรียนจบมีงานดี ๆ ทำ”
“ใจอยากรอเลี้ยงเหลนด้วยซ้ำแต่สังขารมันไม่ไหว ไม่รู้เลยว่าสองปีจะอยู่ถึงหรือเปล่า”
“ถ้ารอเลี้ยงเหลนคงอีกนานค่ะ หนูยังไม่มีแฟนเลย”
“ตาย ๆ สวยขนาดนี้ไม่มีแฟนได้ยังไงเนี่ย”
นานหลายนาทีที่ยายหลานคุยกันด้วยความคิดถึง นับว่าเป็นการใช้เวลาร่วมกันได้คุ้มค่ามากเลยทีเดียว
“จะกลับแล้วเหรออยู่ค้างด้วยกันสักคืนสิลูก” น้าสาวเอ่ย
“ก็อยากค้างอยู่แหละค่ะแต่พรุ่งนี้หนูมีเรียน”
“เสียดายจัง”
“ถ้ายังไงจะหาโอกาสมาค้างที่นี่ให้ได้นะคะ”
“จ้า งั้นอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะแล้วค่อยกลับ”
“ค่ะ”
ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีกว่าจะถึงเวลาที่เธอต้องกลับท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
“ขับรถดี ๆ นะ ถึงคอนโดแล้วโทรมาบอกแม่ด้วย”
“รับทราบค่ะ” ขานรับอย่างเข้าใจพร้อมกับเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่อย่างเช่นเคย “แม่อยู่ที่นี่ก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะ หนูจะตั้งใจเรียนไม่ดื้อไม่ซน”
“ให้มันจริงเถอะ”
“จริงสิ แม่รอดูเลยหนูจะมีงานดี ๆ ทำ มีเงินเดือนแสนแพงมาให้แม่ภาคภูมิใจ”
“ไม่ต้องเอาอะไรมาอวดหรอกเอาตัวรอดได้แค่นั้นพอแล้ว”
“แม่อ่า”
ใช้เวลาเดินทางกว่าสองชั่วโมงก็ถึงที่พักแล้ว ระยะทางไม่ไกลแต่รถติดหนักมาก
ครืด... ครืด...
“ว่าไง” ปลายสายคือเพื่อนรักอย่างจันทร์เจ้า
(อยู่ไหนคะ)
“เพิ่งถึงห้องเมื่อกี้เอง”
(เธอไม่มาเรียนรู้สึกเหมือนขาดสมองซีกซ้ายไป)
“ฮ่า ๆ เว่อร์เกินไปแล้ว อยู่ไหนกันอะ”
(ร้านประจำ เธอมาไหมเดี๋ยวให้อลันไปรับ)
“ไม่ล่ะ เชิญตามสบายเลยฉันเพลียเต็มทีแล้ว”
(งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ)
“โอเค”
วางสายจากเพื่อนรักแล้วทำธุระส่วนตัวไปตามประสา แหงนมองนาฬิกาอีกทีก็ปาไปตีสองแล้ว
ติ๊ง!
[นอนหรือยัง]
“ยัง”
[เดี๋ยวไปหานะ]
แค่เพียงไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
บานประตูเปิดออกพร้อมกับน้ำหอมกลิ่นคุ้นเคยที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้อง
“ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอนอีก”
“มาถึงก็เที่ยงคืนแล้ว ซักผ้าทำนั่นทำนี่กว่าจะเสร็จอีก ว่าแต่ฉันแล้วนายทำไมไม่นอน”
“...” อคินไม่ตอบอะไรเขาเพียงแค่ดันร่างบางตรงหน้าให้นอนราบไปกับที่นอนอย่างที่เคยชอบทำ “คิดถึงร่างกายของเธอ”
“เว้นวันนี้สักวันได้ไหมฉันเพลีย” ดวงตากลมโตคล้อยจะหลับไปทุกที เห็นแบบนั้นเขาจึงพลิกตัวลงนอนข้าง ๆ แทน “จะนอนกับฉันหรือไง”
“อืม”
“ไม่สิ นายเคยบอกว่า...”
“นอนได้แล้วอย่าพูดมากอยู่”
“นายผิดกฎเองนะ”
“รู้แล้ว”
“ช่างเถอะ! ลุกไปปิดไฟให้ด้วย” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุม ใช่...เจ้าของห้องเธอหลับไปแล้ว
ครืด ... ครืด ...
โทรศัพท์มือถือของเขามีสายเรียกเข้าแต่พอเห็นเบอร์ที่โชว์หราอยู่ตอนนี้เขากลับเลือกที่จะตัดสายทิ้งแล้วกดปิดเครื่องไปแทน
เช้าวันใหม่
“อื้อ!” น้ำเสียงหงุดหงิดดังขึ้นเมื่อรู้สึกว่าร่างกายถูกรบกวน “อะไรวะ” เธอเผลอสบถออกมาก่อนจะลืมตามองหาบางอย่างที่รบกวนการนอนของเธอ
“วะอะไรเดี๋ยวตบปากแตก” อคินตอบเสียงเรียบ เขารู้สึกไม่ชอบใจที่ได้ยินประโยคหยาบคายออกจากปากเพื่อนสาวอย่างเจ้าหญิง
“อย่ากวนได้ไหมขอนอนอีกครึ่งชั่วโมง”
“จะสายแล้วนะ”
“อือช่างมัน” น้ำเสียงงัวเงียตอบแล้วหลับตาลงอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นใครอีกคนก็ยังไม่ลดละความต้องการของตัวเอง
อคินแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันแล้วซุกใบหน้าลงบริเวณหน้าอก ริมฝีปากหนาขบเม้นผ่านเนื้อผ้าจนเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยกับร่างกายนี้
“ถุงยางล่ะ” เขาถามขึ้นเมื่อเปิดลิ้นชักข้างเตียงแล้วพบเพียงความว่างเปล่า
“หมด”
“...”
“อย่าแม้แต่จะคิดนะ” นิ้วเรียวชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง แต่มีเหรอที่คนอย่างเขาจะฟัง “อคิน!”
“ก็มันตื่นแล้วจะให้ทำไง”
“มือไง”
“ไม่ถนัดแบบนั้นด้วยสิฉันถนัดแบบนี้มากกว่า” จบปะโยคก็หยัดตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วรั้งเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นนั่ง “เธอรู้ว่าควรทำยังไง”
“กัดให้ขาดไปเลยซะดีมั้งจะได้ไม่ต้องเป็นภาระ”
อคินไม่พูดอะไรออกมาอีกเขาเพียงยกยิ้มอย่างพอใจ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะบ่นแต่ก็ยอมทำตามความต้องการของเขาอยู่ดี
ตาคู่คมมองริมฝีปากเล็กกับเรียวลิ้นที่กำลังวุ่นวายอยู่ตรงส่วนนั้น รสเซ็กซ์เดิม ๆ แต่แปลกที่ไม่รู้สึกเบื่อ
แคก! แคก!
“ทำไมมันข้นจังปกติต้องใสกว่านี้” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับพิจารณาน้ำรักของเพื่อนชายที่เธอคายออกมา “ไม่ได้ปล่อย?”
“อืม”
“เป็นไปได้”
“เป็นไปแล้ว รีบอาบน้ำแต่งตัวเถอะเดี๋ยวพวกมันก็โทรตามหรอก”
“จริงด้วย” พูดจบก็ลงจากเตียงคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป
ราวครึ่งชั่วโมงเธอก็ทำธุระส่วนตัวเสร็จ เขามองเธอทุกอิริยาบถ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นหน้าเธอตั้งแต่เข้านอนยันตื่นนอน
“มองอะไร”
“เปล่า”
“เปล่าอะไรเห็นอยู่ว่ามอง”
“ก็เห็นอยู่ว่ามองแล้วจะถามทำไม”
“ไม่คุยด้วยแล้ว” เลิกสนใจเพื่อนชายแล้วหันมาแต่งหน้าแต่งตัวต่อ
“เดี๋ยวแวะห้องฉันก่อนนะขออาบน้ำแต่งตัวสิบห้านาที”
“นึกยังไงถึงมาค้างด้วย เมาเหรอหรือเครียดอะไร”
“ไม่ต้องสนใจหรอก”
“ต้องสนสิเพราะนายทำผิดกฎ อีกอย่างนะคนอื่นที่นี่เขามองว่าฉันเป็นเมียนายหมดแล้ว”
“ไร้สาระ”
