บท
ตั้งค่า

แค่แฟนเก่า 5 รักเขามากไหม

“เราจะไปคุยกันที่ไหนคะ” เดินออกมาไกลจากโรงอาหารของคณะบริหารแล้วนะ นี่ต้องไปไกลแค่ไหนกัน

แต่ทำไมฉันต้องเดินตามเขาล่ะ ฉันไม่ได้รู้จักเขาสักหน่อย

“รู้จักพี่ไหม” หนุ่มคณะวิศวะหยุดเดิน หันมาพูดกับฉัน

“เหมือนจะเคยเห็นนะคะ แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน”

“แล้วรู้จักไอ้เซ้นต์ไหม”

“อ้อ รู้จักค่ะ”

“เป็นอะไรกับมัน”

“...”

“ว่าไง”

“ก็คุย ๆ กันอยู่ค่ะ”

“คนคุย?”

“ทำไมคะ”

“ถ้าเป็นคนคุยงั้นก็คุยกับมันหน่อยสิ”

“หืม?”

“มันนั่งรออยู่ในรถ” หนุ่มวิศวะชี้ไปที่รถเก๋งสีดำเงาที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถ “ไปดิ”

“ค่ะ” เพราะท่าทางน่ากลัวของคนพูด ทำให้ฉันต้องเดินมาที่ลานจอดรถ เดินใกล้เข้ามาถึงได้ยินเสียงเครื่องยนต์ติดอยู่ ฉันเคาะที่กระจกฝั่งคนขับ

ไม่รู้เหมือนกันว่ามีคนนั่งอยู่ตรงนี้ไหม เพราะว่ามันมืด มองไม่เห็นด้านในของรถ

ประตูจากเบาะหลังเปิดออก ฉันชะโงกหน้ามองจึงเห็นว่าพี่เซ้นต์นั่งอยู่เบาะหลัง สีหน้าที่เรียบนิ่งผลักให้ฉันเดินเข้ามานั่งในรถข้างเขา

“ผู้ชายคนนั้นเพื่อนพี่เซ้นต์เหรอคะ” ฉันถามพลางมองไปที่หนุ่มวิศวะคนนั้นซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก แต่ก็ไม่ได้ใกล้มาก

พี่เซ้นต์เอื้อมมือปิดประตูโดยการขยับตัวมาใกล้ฉันมาก ๆ ฉันก็เลยพยายามลีบตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ไม่ต้องโดนตัวเขา แต่คนจะลีบตัวได้ยังไงใช่ไหมล่ะ แมวก็ว่าไปอย่าง แมวทำตัวใหญ่ได้ ทำตัวเล็กได้

“จำเป็นต้องรังเกียจพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าไหร่นัก คล้ายว่าฉันรังเกียจเขา

ฉันไปรังเกียจเขาเมื่อไหร่กัน หรือหมายถึงเมื่อกี๊เหรอ

“เปล่านะคะ เพ้นท์แค่หลบ กลัวเกะกะพี่”

“หายดีแล้วเหรอ”

“ค่ะ” ไม่ได้ป่วยกาย ฉันน่ะป่วยใจ แต่จะพูดกับเขาเพื่ออะไรล่ะ ไม่ได้สำคัญสักหน่อย

“พี่ทำอะไรให้เพ้นท์ไม่พอใจหรือเปล่า”

“เปล่านะคะ” เราเพิ่งทำความคุ้นเคยกัน เขายังไม่เคยล้ำเส้น จะมาทำอะไรให้ฉันไม่พอใจได้ “ทำไมถึงถามแบบนี้คะ”

“แล้วทำไมเพ้นท์ถึงทำแบบนี้”

“...ทำ ทำอะไรคะ” เขาจับได้แล้วเหรอว่าฉันดึงเขาเข้ามาเพื่อต้องการลืมออยล์

“อ้างว่าป่วยเพื่อปฏิเสธไม่มาเรียนพร้อมพี่ จากนั้นก็ไม่ติดต่อมาหา พี่ติดต่อไปก็ติดต่อไม่ได้ วันนั้นที่เราแยกกันพี่ก็คิดว่าทุกอย่างดีมากเลยนะ ตกลงพี่ทำอะไรผิด ทำไมเพ้นท์ถึงไม่คุยกับพี่แล้ว”

“...” อ้อ เหตุผลนี้เหรอ ฉันก็นึกว่าเขารู้เรื่องฉันกับออยล์ ก็งงอยู่ว่าเขาจะรู้ได้ยังไง

“ว่าไง พูดให้พี่หายสงสัยที”

“เพ้นท์ไม่สบาย กินยาแล้วก็นอนยาว ๆ ไม่ได้คุยกับใครเลย โทรศัพท์ก็ไม่ได้จับ ก็เลยไม่รู้ว่าแบตหมด วันนี้ก็ลืมพกมา”

เพราะสามวันที่ผ่านมาอยู่ในช่วงจำศีล ไม่ติดต่อใครสักคน แม่ฉันก็ไม่ได้ติดต่อ แบตที่มีน้อยนิดของคืนนั้นที่เกิดเรื่องก็เลยหมดไปเอง ซึ่งฉันที่เมาก็ไม่ได้สนใจเครื่องมือสื่อสาร บวกกับอยากยู่คนเดียว ทบทวนตัวเอง ฉันก็เลยปล่อยให้มันหมดไป หลังจากเมาเต็มที่ วันนี้มีสอบก็เลยต้องตั้งสติและแบกสังขารมาเรียน โทรศัพท์ถูกหยิบมาชาร์จแบตโดยที่ไม่ได้เปิดเครื่อง เมื่อเช้ามองนาฬิกาแล้วเห็นว่าสายก็เลยรีบออกมา นึกขึ้นได้ว่าลืมก็ไม่ทันแล้ว ขี้เกียจเสียเวลากลับไปเอา

“สามวันกินยาแล้วนอน กินยาแล้วนอนตลอดเลยเหรอ”

“ค่ะ” กินเหล้าก็เหมือนกินยาแหละ ยาใจ ช่วยให้จิตใจฟื้นฟู เหล้านี่เป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะ เหล้ากินแล้วต้องเมา เหล้าไม่เคยหลอกเรา กินทีไรก็เมาตลอด

“...” หน้าพี่เซ้นต์เหมือนจะไม่เชื่อฉันเลย เหตุผลฉันฟังไม่ขึ้นเหรอ

“วันนั้นเพ้นท์โกหก ที่จริงบ้านเพ้นท์ไม่มีคนอยู่ แม่เพ้นท์เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่ต้องออกไปทำงาน บางทีก็ไปต่างจังหวัด บางทีก็ไปต่างประเทศ แม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน เพ้นท์อยู่บ้านคนเดียว เวลาป่วยก็กินยาแล้วนอน ร่างกายก็จะดีขึ้น” ที่พูดมาก็ไม่ได้โกหกนะ ป่วยใจก็ต้องใช้เหล้าช่วย

“...”

“...” แล้วทำไมเอาแต่จ้องหน้าล่ะ พูดอะไรสักอย่างสิ

“วันนั้นพี่ถามแล้วว่ามีคนอยู่ด้วยไหม”

“...”

“ถ้าเกิดอาการหนักแล้วฟุบไปใครจะช่วย เครื่องมือสื่อสารก็ไม่เปิด รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน แต่พอเพ้นท์หายไปนานวันเข้าพี่ก็คิดว่าเป็นเพราะเพ้นท์อยากเลิกคุยกับพี่เพ้นท์ถึงหายไปแบบนี้ ติดต่อก็ไม่ได้”

“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ หน้าเพ้นท์ไม่เหมือนคนป่วยเหรอ”

“...เหมือน ดีขึ้นหรือยัง”

“ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ” ที่เหมือนคนป่วยก็เพราะฉันกินเหล้ายาว ๆ ข้าวแทบไม่ลงท้อง ท่าทางก็เลยคล้ายคนป่วย

“ดีขึ้นอะไร โทรมมาก”

“...” นี่กำลังว่าฉันไม่สวยเหรอวะ

“ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะ รู้ปะว่าพี่เป็นห่วง น่าจะบอกว่าไม่มีใครอยู่ด้วย พี่จะได้ไปอยู่เป็นเพื่อน”

“เราเพิ่งคุยกัน เพ้นท์จะกล้ารบกวนพี่เซ้นต์ได้ยังไงคะ” คำตอบดูนางเอกจัง ทั้งที่ความจริงถูกขืนใจจนสภาพไม่น่ามอง ถ้าเกิดพี่เซ้นต์เห็นเขาคงรับไม่ได้และเลิกคุยกับฉัน

“พี่ชอบเพ้นท์ ชอบมาปีกว่าแล้ว เพ้นท์รบกวนพี่ได้เต็มที่พี่ยินดี”

“...” ฉันมองหน้าพี่เซ้นต์ที่พูดคำว่าชอบออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังมาก ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาก

“ไม่เชื่อพี่เหรอ”

“...พี่ชอบเพ้นท์เพราะอะไร” ฉันตัดสินใจแล้ว ก่อนที่เขาจะชอบฉันไปมากกว่า ก่อนที่ฉันจะผิดต่อเขาเหมือนที่ออยล์ทำผิดต่อฉัน ฉันควรจะจบเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่วันข้างหน้าฉันจะทำให้เขาเสียใจ

“ไม่รู้สิ เห็นแล้วก็รู้สึกชอบ ชอบใครสักคนต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ”

“นั่นสิเนอะ” หัวใจคนเราเป็นอะไรที่ควบคุมได้ยากที่สุดแล้ว

“ตอนอายุ 18 เพ้นท์เคยมีแฟน เราเคยมีอะไรกัน เพ้นท์เคยมีอะไรกับแฟนคนแรก ถ้าพี่รับไม่ได้ เราสามารถเลิกคุยกันได้ก่อนที่ความรู้สึกจะถลำลึกไปมากกว่านี้ เพ้นท์ไม่อยากทำให้พี่เสียใจ”

“พี่สนเรื่องนั้นที่ไหนกัน พี่ก็ไม่ได้มีเพ้นท์เป็นแฟนคนแรกนะ พี่ก็เคยผ่านผู้หญิงมา เราต้องแคร์เรื่องนี้กันด้วยเหรอ ถ้าคนในอดีตไม่ใช่ เราไม่สามารถเริ่มกับคนใหม่ได้เหรอเพ้นท์”

“...เพ้นท์กับเขาเพิ่งเลิกกัน”

“...”

“เพ้นท์บอกพี่เพราะไม่อยากทำผิดต่อพี่ ถ้าพี่ถอยจากเพ้นท์ตอนนี้ยังทันนะ เพราะเพ้นท์ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีขนาดนั้น เพ้นท์มีข้อเสีย และการที่เพ้นท์คุยกับพี่ก็เพราะอยากลืมเขา เพ้นท์ไม่อยากใจอ่อนให้เขาอีกแล้ว”

“...รักเขามากไหม”

“ไม่รักแล้ว”

“งั้นต่อไปรักพี่นะ พี่จะดีกับเพ้นท์ พี่จะเป็นแฟนที่ดี เราเป็นแฟนกันนะ”

“...พี่เซ้นต์รับได้จริงเหรอ เพ้นท์ไม่ได้จริงใจกับพี่ตั้งแต่แรกนะ”

“พี่ชอบเพ้นท์ ชอบเพ้นท์มาก ๆ เลยนะ ยิ่งเราคุยกัน เราอยู่ด้วยกันพี่ยิ่งชอบเพ้นท์มากกว่าเดิม เป็นแฟนพี่นะ”

“...”

“เป็นแฟนพี่นะเพ้นท์”

“พี่เซ้นต์ยังไม่มีแฟนแน่เหรอ” เขาหล่อนะ คนที่หล่อแบบเขาจะไม่มีแฟนได้ไง

“ไม่มีมานานแล้วครับ แต่ตอนนี้กำลังจะมีนะ”

“...”

“ว่าไง เป็นแฟนกันไหม”

“...”

“ยังไม่ต้องชอบพี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่จะค่อย ๆ ทำให้เพ้นท์ชอบพี่เอง เป็นแฟนกันนะ”

“ค่ะ ลองดูก็ได้”

เอาจริงฉันไม่ได้อยากตอบตกลงเร็วขนาดนี้ ทว่าสายตาพี่เซ้นต์ดูคาดหวังกับคำตอบ ฉันก็เลยตกลง

ก็เผื่อว่าจะมีเรื่องดี ๆ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ไม่ได้หลอกใช้เขา ไม่ได้เล่นกับความรู้สึกของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel