EP.2
[วานิลา แองโควเวอร์
เกิดวันที่สองเดือนห้า
อายุยี่สิบ กรุ๊ปเลือด โอ]
“ข่าวใหญ่ พระเจ้า! พวกเธอต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าฉันได้อะไร” ออกอาการชัดเจนจนเพื่อนสองคนงุนงงและยิ่งงงมากขึ้นวานิลาโผเข้ากอดแพรอมด้วยความดีใจ
“สรุปมันมีอะไร” ถึงเวลาต้องแทรกขัดอารมณ์เพื่อนให้ตั้งสติบอกความจริง
“จดหมายจากนาซ่า โอ้ว ไม่อยากจะเชื่อ ฉันได้รางวัลเรียนรู้ดวงจันทร์กับนักสำรวจตัวจริง ตื่นเต้นชะมัด เธอต้องไปกับฉันแพรอท” บอกพร้อมคว้ามือเจ้าของชื่อขึ้นมากุมมองตาปริบ
“แต่ฉันไม่ได้ยื่นเรื่องขอ”
“ฉันส่งชื่อเธอเป็นผู้ติดตาม ไปด้วยกัน เป็นทริปที่สุดยอด ปิดภาคเรียนใหญ่พอดี ไปด้วยกันนะแพรอท”
“พลการแบบนี้ ฉันทิ้งโบสถ์ไม่ได้ ขึ้นดวงจันทร์ไม่ใช่แค่วันสองวัน”
“ฉันรู้ เดี๋ยวฉันไปอ้อนวอนต่อพระเจ้า ขอพาเธอไปกับฉัน รับรองดูแลอย่างดี ส่วนไมค์กลับปารีสเอาของฝากมาด้วย ฉันคงเก็บสูญญากาศมาฝากนายไม่ได้”
“งั้นเธอก็เก็บเศษกระส่วยมาให้แล้วกัน เดินทางเมื่อไหร่” ไมค์ถามกลับอย่างยียวน แพรอทมองวานิลาชูจดหมายก่อนก้มอ่านถี่ถ้วนแล้วเงยหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม
“พรุ่งนี้เก็บตัว ได้ออกสื่อใหญ่แน่”
“ไม่เร็วไปหน่อยหรือไง ตั้งตัวไม่ทัน แล้วพี่วิคเตอร์ช่วงนี้พักร้อน คงไม่ใช่เรื่องดีถ้ารู้ความจริง” แพรอมรีบขัดทันทีเมื่อน้องสาวได้ยินชื่อพี่ชายผู้มาอายุห่างจากตนมากถึงกับเซชนไมค์
“งานเขาเยอะจะตาย ไม่มีเวลารับฟังเรื่องน้องสาวหรอก เอาเป็นว่าเราไปเก็บของที่จำเป็นกันดีกว่า” วานิลาตอบปัดเปลี่ยนเรื่องกอดแขนแพรอทเดินลงบันไดตามหลังด้วยไมค์
โอ๊ยยยยย
เสียงร้องทำหญิงสาวหยุดทันทีมองซ้ายมือจนคนเดินตามชนวานิลา หญิงชรานั่งจับขาเกิดจากหกล้มเลือดไหล ทำให้แพรอทต้องรีบเข้าช่วยหยิบกระปุกกลมขนาดเล็ก ตบไหล่ไมค์ช่วยประคองหญิงชรา
“หนุ่มสาวเอาใจคนแก่ใกล้ตาย น่าชื่นชม” หญิงชรายิ้มปลื้มถูกพามานั่งม้านั่งจับหัวเข่า วานิลาเอาผ้าเช็ดหน้าของเธอมาเช็ดคราบเลือดให้
“อายุยืนค่ะคุณยาย อย่าตัดพ้อสิคะไม่ดีเสียเลย” วานิลาฉีกยิ้มหลีกทางให้แพรอทนั่งคุกเข่าดูแผลแทน หญิงชรามองสบตาก่อนมองกระปุกยาที่แพรอทกำลังทายาให้
“ยาเย็นะคะ อีกสักพักก็หาย เดินจนแทบวิ่งกลับมาเป็นสาวเลย” แพรอทยิ้มกริ่มทาแผลอย่างเบามือพร้อมมองหน้าหญิงชราอย่างอบอุ่น
“ขอบใจ ยานี่ดีจริง หายเจ็บฉับพลัน ได้ยามาจากไหนหรือหนู”
“วิหารแมกนีเซียมค่ะ ที่นั่นช่วยเหลือคนยากไร้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยค่ะ แพรอทเป็นอาสาอยู่ที่นั่น ยาพวกนี้สมุนไพรทั้งนั้น” วานิลาอธิบายพร้อมจับไหล่แพรอท ยกยอเพื่อนอย่างภาคภูมิใจ
“ทั้งน่ารักและจิตใจดี มีโอกาสคงได้เจอกันอีก” หญิงชรายื่นมือจับแก้มแพรอทจนเธอชะงักในขณะที่ปิดฝากระปุก ไมค์มองบาดแผลแห้งกรังจากแผลสดอย่างน่าเหลือเชื่อแต่เพราะเห็นบ่อยจนไม่คิดสิ่งใด
“ไปกันเถอะต้องเก็บของอีกนะสาวๆ” ไมค์ขัดจังหวะหลังมองนาฬิกา
“ใช่ โชคดีค่ะคุณยายพวกเราต้องไปก่อน” วานิลาโอบเอวแพรอทเดินออกไปด้วยกัน หญิงชรามองตามหลังด้วยรอยยิ้มแล้วก้มลงดูหัวเขา ค่อยๆ เอามือลูบช้าๆ เงยหน้ามองท้องฟ้าให้สายลมพัดผ่านทะลุร่างจางหายเหลือเพียงม้านั่ง
ณ ค่ายศิลปะการต่อสู้ ตั้งอยู่บนภูเขาแสนห่างไกลจากเมืองหลวงบรรยากาศเย็นสงบเหมาะแก่การทำสมาธิ กำแพงล้วนประดับด้วยของจีนโบราณผสานกลิ่นอายธรรมชาติทำให้ดูโดดเด่นเป็นที่เอ่ยขาน สาวสวยผมดำขลับสวมโรลเลอร์เบลดวิ่งวนรอบลานฝึกมองดูศิษย์สำนักกำลังประลองต่อสู้ตัวต่อตัว
[เหมยลี่ จาง ชีเลียง
เกิด ยี่สิบเก้า เดือนสิบ
อายุ ยี่สิบสี่ กรุ๊ปเลือด เอ]
ดวงตาเปล่งประกายหมวยชาตินิยมเหลือบมองผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลทองกระโดดถีบขาคู่น๊อคคู่ต่อสู้แม้เสียเปรียบทางสรีระ ด้วยฝีมือเกินคาดจึงไม่สิ่งใดน่ากังวล
“ล้มเลยเซรา รีบจบเกมซะ” เสียงเชียร์ดังเป็นเสียงเดียวได้ตามคำขอเจ้าของชื่อสวนหมัดน็อครอบจบเกมชายร่างใหญ่ล้มตึง หญิงสาวชูมือรับชัยชนะก่อนหันมองคนเรียก
