9.จูบปลอบ
เขาไม่ใช่คนดีอะไร สิงหาพูดได้เต็มปากเลยว่าในบางครั้งเขาคือคนสารเลวด้วยซ้ำ แต่ทว่า..ไม่ควรมีใครต้องพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้..
สิ่งที่ไอ้คีตะมันทำ ไม่ใช่แค่การบีบบังคับให้เชอรีนต้องออกจากวงการ แต่มันทำให้ชีวิตของคนคนหนึ่งมืดมนจนไร้หนทางออก เธอเก็บซ่อนตัวอยู่ในที่ที่มืดมิดอยู่ตามลำพัง เพราะหวาดกลัวผู้คนแปลกหน้าและเสียงพูดคุยที่ฟังดูคล้ายเสียงด่าทอ..เธอเก็บซ่อนตัวอย่างมิดชิด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเปล่งประกายอยู่เสมอ..
สิงหายื่นมือไปจับมือของเชอรีนเอาไว้
“ตลอดเวลาที่เธออยู่ข้างๆ พี่..จะไม่มีใครมาทำร้ายหรือด่าทอเธอได้ทั้งนั้น ขอให้เชอรีนมั่นใจว่าพี่จะไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่ หากมีใครหน้าไหนที่มันจะเข้ามาทำร้ายเธออีก..”
ในห้องนอนที่มืดมิดแต่ทว่าเขากลับดูเหมือนแสงสว่างหนึ่งเดียวของเธอ
ยามราตรีที่มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่สอดส่องและนำทาง แสงสีเงินนั่นทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน..มันชัดเจนมากเสียจนเชอรีนมองลึกเข้าไปในสายตาของเขาได้..ว่าคำพูดที่เขาพึ่งจะพูดออกมานั่นเขาไม่ได้โกหกแม้แต่ครึ่งคำ
ฝ่ามือหนาของเขากุมมือเธอเอาไว้เงียบๆ
คาดหวังได้รึเปล่านะ..ฉันสามารถคาดหวังกับชายผู้นี้ได้รึเปล่า..
“อะ..อ่า ขอบคุณนะคะ เชอมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย..ก่อนถึงงานเชอจะต้องดีกว่านี้แน่นอนค่ะ”
เธอพยายามพูดเสียงให้ปกติที่สุดเพื่อไม่ให้เขาจับได้ว่าน้ำตาของเธอมันกำลังไหลลงมาอย่างเงียบๆ
ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครแสดงตัวหรือพูดว่าจะปกป้องเธอเลย ในช่วงเวลาที่เธอถูกทำร้ายก็ไม่มีใครหน้าไหนที่เข้ามาห้ามปราม ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นใช้กำลังกับเธออย่างไม่ถูกต้องแท้ๆ ผู้คนมากมายเลือกที่จะเดินผ่านไป บางคนมองดู และบางคนเข้ามาช่วยรุมทุบตีเธอ
เชอรีนยังจำได้ดีว่ากระดูกนิ้วข้างซ้ายแทบจะแหลกละเอียดเพราะถูกกระทืบ เธอเจ็บมากจริงๆ และร้องขอให้พวกเขาหยุด
“อีนังเมียน้อย สวยจริงต้องมีผัวเป็นของตัวเองสิ!!”
เธอไม่ได้ทำ..ไม่ได้เป็นเมียน้อยหรือว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคุณไมเคิลอะไรนั่นเลย แต่ไม่ว่าเธอจะพูดออกไปมากแค่ไหน เสียงเล็กๆ ของเธอกลับดังไปไม่ถึงความโกรธ ของคนพวกนั้น..
เธอถูกรุมทำร้ายราวกับว่าถูกอีกฝ่ายโกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
บางทีสิ่งที่เชอรีนโหยหามากที่สุดคงเป็นใครสักคน..แค่ใครสักคนที่หยัดยืนขึ้นมาปกป้องเธอ หรือไม่ก็ใครสักคนที่จับมือแล้วพาเธอวิ่งหนีออกไปจากความกลัวเหล่านั้น
แค่..ใครสักคน
สิงหามองเห็นหยาดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาราวกับไข่มุกเม็ดงาม เขาอยากจะแกล้งๆ มองไม่เห็นเพราะดูจากใบหน้าของเชอรีนที่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นแล้วเธอคงไม่อยากให้เขาเห็นหยดน้ำตานั้น
แต่..เขาแสร้งไม่เห็นไม่ได้หรอก เขาเสแสร้งไม่เก่งเท่าไหร่นัก
สิงหายื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ
“ต่อจากนี้ไป ก็อย่าร้องไห้คนเดียว แต่มาร้องไห้ต่อหน้าพี่เถอะนะ แล้วก็..”
เขาพลิกตัวขึ้นคล่อมทับร่างกายของเชอรีนเอาไว้ ก่อนที่ปลายนิ้วจะไล้บนริมฝีปากของเธอเบาๆ
“อย่ากลั้นเสียงสะอื้น การร้องไห้ไม่ใช่เรื่องน่าอายสักหน่อย..”
เธออยากจะร้องไห้ต่ออีกหน่อย แต่ทว่าเพราะเขา..กำลังคล่อม ร่างกายของเธออยู่ ใบหน้าของเราห่างกันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น และนั่นทำให้เชอรีนสัมผัสได้ถึง..อันตราย
“ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้..พี่ไม่คิดจะทำอะไรเธอหรอก..จะไม่ทำจนกว่าเชอรีนจะต้องการมัน..”
เขาจ้องมองริมฝีปากของเธออย่างไม่อาจควบคุมได้ และคืนนี้สิงหาก็ตั้งใจว่าเขาจะทำ..แค่นี้เท่านั้นแค่จูบเธอสักครั้งก็พอ
เชอรีนยกมือขึ้นมาปิดปากเขาในทันทีที่เขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ เขากล่าวว่าจะไม่ทำอะไรแต่กลับจะจูบเธอเนี่ยนะ!
สิงหารวบมือนั้นเอาไว้เหนือศีรษะของเธอเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดมาห้ามปรามเขาได้อีก
“นี่คือการ..จูบปลอบใจ พี่ปลอบใจคนอื่นไม่เก่งฉะนั้นแล้วในทุกครั้งที่เชอรีนร้องไห้พี่จะจูบปลอบเชอรีนเอง..”
จูบปลอบใจ? เขานี่มันคนฉวยโอกาสโดยแท้
เธอยังไม่ทันได้กล่าวคำใดริมฝีปากนั้นของเขาก็เริ่มจุมพิตที่หน้าผาก เธอหลับตาลงในขณะที่ริมฝีปากนั้นไล้ลงมาที่เรือนแก้ม ก่อนที่มันจะทาบทับลงไปอย่างแผ่วเบาที่ริมฝีปากของเธอ
เขาแตะค้างเอาไว้ครู่หนึ่ง เมื่อไม่เห็นอาการขัดขืนหรือว่ารังเกียจ สิงหาจึงเริ่มแลบลิ้นออกมาเพื่อเลียลงไปบนริมฝีปากนั้น เขาเลื่อนกลีบปากแนบติดลงไปอีกครั้งอย่างใจกล้า แม้ตาก็ไม่หลับ สิงหาจงใจมองหน้ากันในระยะประชิดเพื่อเก็บสวยที่ไม่อาจละสายตานี้เอาไว้ในความทรงจำ
“อ้าปากออกหน่อยสิเชอรีน แค่นี้เขาไม่เรียกว่าจูบหรอกนะ”
เธอยังคงเม้มปากติดกันแน่น ไม่ยินยอมให้เขาได้ล่วงล้ำเข้าไปแต่โดยดี และนี่ไม่ใช่เรื่องราวเหนือการคาดหมายของสิงหาสักเท่าไหร่ เขางับเบาๆ ที่กลีบปากล่าวของเธออย่างใจเย็นแล้วสอดลิ้นเข้าไปด้านในทีละน้อย
เกลียวลิ้นเล็กที่แทรกเข้ามาทำให้ เชอรีนรู้สึกแปลกไม่น้อยเลย เธอรับรู้ได้ว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากหน้าอก
เธอคลายริมฝีปากที่เม้มสนิท ตอบรับอีกฝ่ายที่บดลงมาและเมื่อเกลียวลิ้นของเขาแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ สิงหาก็ไม่แทบจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า นี่คือสิ่งที่เขากระหายมาโดยตลอด รสชาติหวานล้ำที่ชวนให้หัวใจล่องลอย
เธอหอมหวานและรสชาติดีเหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ ความหวานแผ่กระจายเสียเกินจริง นี่ช่างดียิ่งกว่าความหวานที่เคยลิ้มลองจากที่ใดๆ
น้ำหนักที่กดทับลงมาทำให้หัวใจหลอมละลาย นี่คือจูบแรกที่เชอรีนรับมือไม่ไหว เธอหายใจไม่ออก และมันเหมือนกับว่าเขาดูดกลืนลมหายใจของเธอไปจนหมด ราวกับว่าตัวเองกำลังจมดิ่งสู่ใต้ผืนน้ำ เชอรีนยกมือขึ้นมาแล้วออกแรงผลักเขาออกเบาๆ เพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอรับมือกับรสจูบแสนเร่าร้อนนี้ไม่ไหว
เขาผละริมฝีปากออกมาเชื่องช้า สิงหาใช้ลิ้นเลียไปรอยๆ ริมฝีปากของเธอราวกับเขาไม่คิดจะยินยอมรามือเพียงเท่านี้ และเมื่อเชอรีนสูดลมหายใจเข้าไป เขาก็บดเบียดริมฝีปากเข้าไปอีกรอบ สิงหาเอียงใบหน้าเล็กน้อยเพื่อให้จุมพิตทวีความร้อนรุ่มมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิท..แต่ก็ไม่อาจเก็บซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจเอาไว้ได้เลย
เขาหมุนวนลิ้นไปรอบอวัยวะเดียวกัน แล้วกลืนกินลมหายใจของเธออีกครั้ง จังหวะจู่โจมหนักหน่วง แลกเปลี่ยนลมหายใจแนบชิดกักเสียงอื้ออึงไว้ในลำคอ
