10.ผู้ชายแบบที่เชอรีนชอบ
ริมฝีปากของเขาไล่ตามมาช่วงชิงลมหายใจของเธออีกครั้ง ราวกับไม่คิดยินยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ ทว่าในครั้งนี้เชอรีนเริ่มจะจัดการกับลมหายใจของตัวเองได้ดีมากกว่าครั้งที่แล้ว อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องดันร่างกายของเขาออกเพื่อที่จะขอเวลานอกในการหายใจ
จูบ..เป็นแบบนี้เองสินะ มันแปลกมากทีเดียวในช่วงเวลาที่ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน เธอไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าจะยินยอมเปิดปากออกเพื่อรับเขาเข้ามาในช่วงเวลานั้น..แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเธอคิดอะไรไม่ออก..หรือไม่ในใจของเชอรีนก็คงอยากจะลิ้มลองมันดูสักครั้ง รสชาติของเขาว่ามันจะเร้าใจมากแค่ไหน
สิงหาละริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้าและเสียดาย ริมฝีปากของเธอนั้นฉ่ำแย้มน้อยๆ เป็นภาพที่กระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของเขาได้อย่างดีเยี่ยม..
ยังก่อน ยังไม่ใช่วันนี้
เขาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยลงไปบนกลีบปากนั้น ก่อนจะพลิกตัวเพื่อนอนลงข้างๆ เธอ
“ต้องเล่านิทานให้ฟังด้วยไหม..เธอถึงจะหลับ..”
เชอรีนรู้สึกร้อนไปหมดทั้งร่างกายและหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เธอยกมือขึ้นมากุมหัวใจและกำลังเอ่ยขอบคุณเขาในใจที่เขายินยอมหยุดเอาไว้เพียงแค่นี้
“ไม่ต้องค่ะ..ไม่ต้องเล่านิทานหรอกค่ะ”
เชอรีนหลับตาลงเธอเหนื่อยล้ามากเหลือเกิน เพราะวันนี้มีรื่องแปลกใหม่เกิดขึ้นมาเต็มไปหมด หนึ่งในเรื่องที่รับมือได้ยากมากที่สุดคงเป็นเรื่องของเขา..
ผู้ชายที่มีชื่อว่า..สิงหา
คงเพราะเขาเกิดในเดือนสิงหาคมรึเปล่านะ เขาถึงได้มีชื่อแบบนี้..
ภายนอกเขาเป็นคนน่ากลัวชนิดที่ว่าเขาอาจจะใช้กำลังในการแก้ปัญหามากกว่าที่จะใช้เหตุผล แต่ทว่าเขากลับมีมุมที่อ่อนโยนและเอาใจใส่เธอในแบบที่เธอคาดไม่ถึงเลย
รุ่งเช้าเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วและสิ่งแรกที่สิงหาทำคือการเดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปพบเจอกับเพื่อนสนิทของเขา
“เชอรีนทานยาไปแล้ว เมื่อคืนกูได้ลองพูดคุยกับเธอ..เหมือนกับว่าที่เธอมีอาการหวาดกลัวเมื่ออยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ เพราะว่าเธอเคยถูกทำร้ายมาก่อน..น่าจะเป็นแบบนั้นนะ”
เชอรีนไม่ได้บอกเล่าให้เขาฟังถึงรายละเอียดที่เธอกลัวการออกไปข้างนอก แต่คิดว่าเธอน่าจะถูกทำร้ายมา..
“หากเป็นแบบนั้นก็คงต้องเริ่มจากการพาเธอไปข้างนอก..มึงควรเริ่มจากที่ที่เธอชอบก่อน เพราะเมื่อไปในที่ที่อยากไปอย่างน้อยเธออาจจะมีกำลังใจในการพยายามที่จะต่อสุ้กับความหวาดกลัวอะไรแบบนั้น”
สิงหาขมวดคิ้วเล็กน้อย
“มึงก็พูดเหมือนกูรู้จักกับเชอรีนมานานมาก กูจะรู้ได้ไงวะว่าเชอรีนชอบไปที่ไหน?”
ผืนป่าถอนหายใจ เขากำลังยุ่งกับการทำงานเป็นอย่างมาก แต่ไอ้เพื่อนตัวดีนี่ก็ดันมาขอคำปรึกษาโดยไม่มีการบอกล่วงหน้าเลย..
“มึงลืมไปแล้วรึไงวะไอ้สิง ว่าครั้งหนึ่งเชอรีนเคยเป้นดารา ทำไมมึงไม่ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตวะ สถานที่ที่ชอบ อาหารที่ชอบ และสเป๊คผู้ชายแบบที่เธอชอบน่ะ!”
ทันทีที่ผืนป่ากล่าวจบ สิงหาก็หัวเราะออกมาในทันที
“เออกูลืมคิดไปเลย เดี๋ยวกูจะไปหาเรื่องที่เชอรีนชอบในอินเตอร์เน็ตก็แล้วกัน แต่เรื่องสเป็คที่เธอชอบกูไม่หาหรอกว่ะ เพราะกูจะให้เชอรีนชอบ..กูในแบบที่กูเป็นตัวเอง”
ผืนป่าแค่นหัวเราะ
“อย่ามามั่นหน้า กูว่ามึงต้องไปค้นหา..ผู้ชายในแบบที่เชอรีนดาชอบเป็นอันดับแรกแน่นอน ไอ้สิง..ระวังหน่อยนั่นลูกหนี้มึงนะ จะปล่อยให้ลูกหนี้มามีอำนาจเหนือเจ้าหนี้ไม่ได้นะเว้ย มันเสียระบบ”
สิงหาไม่สนใจคำกล่าวของเพื่อนรักแม้แต่น้อย เขารีบเดินออกมาจากห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลในทันทีก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าอินเตอร์เน็ตแล้วพิมพ์ค้นหาไปว่า
“สเป็คผู้ชายที่เชอรีนดาชอบ”
เมื่อกดคำว่า “ค้นหา” ข้อความมากมายก็เด้งขึ้นมาในทันที
สเป๊คผู้ชายในแบบที่ดาราสาวเชอรีนดาชอบนั้นคือผู้ชายอบอุ่น และมีความเป็นผู้ใหญ่สูง ชอบผู้ชายที่รักสัตว์และมีน้ำใจ เรื่องหน้าตาและฐานะไม่จำเป็นเลยค่ะ หากเป็นหนุ่มที่อายุมากกว่าจะพิจารณาเป็นพิเศษค่ะ
เมื่อได้อ่านข้อความพวกนั้นสิงหาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองในทันที เขากำลังเก็บซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ตรงสเป๊คที่เธอชอบอยู่ข้อหนึ่งแหละน่า ตรงที่เขา..อายุมากกว่า
ให้ตายสินี่มันใช่เวลาที่เขาจะทำอะไรแบบนี้งั้นเรอะ เขาควรจะรักษาอาการของเธอให้ดีขึ้นเพื่อที่จะพาเธอไปร่วมงานวันเกิดของพ่อเขา...
เพื่อทำลายไอ้คีตะเขายินดีที่จะทำทุกวิถีทาง!!
....................
“ขายหนี้ไปแล้วงั้นเหรอ?”
เจ้เล้งยกมือขึ้นปาดเหงื่อ
“แหม ก็ตอนนั้นเจ้ร้อนเงิน เจ้าลูกชายของเจ้มันดันอยากจะเอาเงินไปลงทุนในธุรกิจของมัน เจ้ไม่มีทางเลือก ตอนนั้นเจ้ติดต่อคุณคีตะไม่ได้ด้วย..เห็นใจเจ้เถอะนะ เจ้ไม่ได้ตั้งใจจะไม่บอกคุณคีตะจริงๆ”
ชายเบื้องหน้าอายุน้อยกว่าเจ้เล้งหลายสิบปี แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงดูน่ากลัวมากขนาดนั้น
“ใครครับ..คนที่เจ้ขายหนี้ไปให้เขา..มีชื่อว่าอะไรครับ”
คีตะยกยิ้ม มันคือรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาของเขาด้วยซ้ำ เขาไม่ได้รู้สึกสนุกหรือว่าชอบใจอะไรเลย แต่กลับรู้สึกอยากจะฆ่าผู้หญิงสูงวัยเบื้องหน้ามากกว่า
“..ระ..เรื่องนั้นเจ้ไม่รู้จักเขาเลยค่ะ เขาส่งตัวแทนมาและไม่ได้เอ่ยชื่อของตัวเองให้เจ้รู้ ขอโทษด้วยนะคะที่เจ้ช่วยเหลือคุณคีตะไม่ได้เลย”
คีตะหัวเราะออกมาเบาๆ มันคือเสียงหัวเราะที่ฟังดูแล้วขนหัวลุกแบบแปลกๆ
“เจ้กำลังทำให้ผมผิดหวังนะครับ..รู้รึเปล่าว่าคนที่แล้วที่ทำให้ผมผิดหวังตอนนี้ตำรวจยังหาศพมันไม่เจอเลย..อีกสองวันผมต้องรู้ให้ได้ว่าคนที่เจ้ขายหนี้ของลุงภาคินให้..มันมีชื่อว่าอะไร หากผมยังไม่ได้คำตอบก็อย่าหวังว่าเจ้และลูกของเจ้จะได้หายใจต่อไปเลย..”
เขาโกรธ..คีตะมั่นใจว่าเกิดมาในชีวิตเขาไม่เคยโกรธใครมากขนาดนี้มาก่อนเลย เขาอดทนและรอคอยอย่างใจเย็นเพื่อที่จะค่อยๆ กลืนกินเชอรีนอย่างช้าๆ เขาใช้ให้เจ้เล้งปล่อยกู้ให้กับลุงภาคินและให้เจ้แกเก็บดอกอย่างโหดเหี้ยมเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเพื่อไม่ให้ลุงภาคินสามารถใช้หนี้คืนได้ แต่แค่เขาไปอยู่จีนสองปีเพื่อทำธุรกิจ..สองปีนั้นเมื่อเขากลับมาเจ้เล้งกลับขายหนี้ไปแล้ว..
แผนการที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบของเขา มีอันต้องสะดุดเพราะอีแก่คนนี้เหรอวะ..
เขาไม่ยอมหรอกนะ คีตะไม่คิดยินยอมให้แผนการที่เขาสร้างมาพังทลายลงเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้หรอก เขาต้องรู้ให้ได้ว่าคนที่ซื้อหนี้ของลุงภาคินไปมันเป็นใครกันแน่!!
