7.อาสา
เชอรีนมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเราจะต้องมาคุยงานในห้องที่เป็นเหมือนกับห้องนอนของเธอ อีกทั้งเขายังแต่งตัวสบายๆ แบบนั้นอีก..เรื่องการแต่งตัวเธอเข้าใจได้เพราะว่าที่นี่คือบ้านของเขา แต่เรื่องเวลาและสถานที่นั่นมันไม่เหมาะสมกับการคุยงานเท่าไหร่นัก
“นี่คือสัญญาการกู้ยืมเงิน...จำนวนเงินต้นห้าล้านและดอกเบี้ย..ที่กำลังเติบโตผลิดอกอย่างงดงามไปเรื่อยๆ จนกว่าที่ลุงภาคินจะมีเงินมาใช้หนี้”
เชอรีนรับสัญญาเงินกู้นั้นมาอ่าน..นี่การคือกู้เงินที่ดอกโหดสะบัด ต้องจ่ายดอกหลักแสนต่อเดือนแต่ทว่าเงินต้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะลดเลย ต้องจ่ายดอกและตัดต้นไปพร้อมๆ กันแบบนั้นเงินต้นถึงจะลดและดอกเบี้ยก็จะลดตาม ปัญหามันอยู่ที่สถานะทางลุงภาคินนั้นไม่ได้ดีขนาดที่จะมีเงินเดือนละหลายๆ แสนมาจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้เขา..
เรื่องนี้ดูท่าว่าจะยากพอสมควรแล้วล่ะ..หรือว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อทำงานให้เขาตลอดไปกันนะ
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงินต้นและดอกเบี้ยขนาดนั้นหรอกเชอรีน เพราะในช่วงเวลาที่เธอทำงานให้พี่..พี่จะลดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้เธอเลย ยกตัวอย่างเช่นการทำให้ไอ้คีตะมันเข้าหาและชวนเธอกินข้าว พี่จะลดเงินต้นให้ล้านนึง..อะไรแบบนั้น ยิ่งงานของเรามีความคืบหน้าเท่าไหร่ พี่จะลดเงินต้นให้เธอมากเท่านั้น”
ทุกครั้งที่ชื่อของคีตะหลุดออกมาจากริมฝีปากได้รูปของเขา เชอรีนคิดว่าเธอมองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นอัดแน่นในดวงตาคู่นั้น..ดูท่าว่าเขาคงจะมีความแค้นกับผู้ชายที่ชื่อคีตะอะไรนั่นมากพอสมควร
ส่วนเธอ..ยังมีทางเลือกไหนอีก นอกจากต้องทำตามที่เขาสั่ง
“ค่ะ ฉันจะพยายามจัดการกับอาการของตัวเองให้ดี..แล้วทำงานที่คุณต้องการอย่างเต็มที่”
เพื่อที่เรา..จะได้ไม่ต้องมาเจอหรือว่ามาอยู่ด้วยกันแบบนี้อีก
สวย..ฉิบหายเลยว่ะ อยากได้จนไม่รู้จะทำยังไงดี..อยากครอบครองเอาไว้จนมือทั้งสองข้างสั่นไปหมด อยากลองโอบกอดเธอดูแต่ทว่าหากเขากระทำเช่นนั้นคงไม่วายถูกเธอตบเข้าที่หน้านี้อย่างแน่นอน การบีบบังคับจะทำให้เธอเหี่ยวเฉา แต่การยอมจำนนจะทำให้เธอเปล่งประกายอย่างงดงามภายในกำมือของเขา
“อีกสองอาทิตย์จะมีงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อไอ้คีตะ.. (ซึ่งมันก็คืองานวันเกิดของพ่อเขาด้วย) และเมื่อถึงวันนั้น..เชอรีนต้องเข้าร่วมงานนั้นกับพี่นะ ที่งานมีคนเยอะมากพอสมควรและมันคงจะดีหากว่าเชอรีนจัดการกับอาการของตัวเองได้..”
สองอาทิตย์งั้นเหรอ เธอถูมือไปมาด้วยความรู้สึกประหม่าเพราะเวลามันกระชั้นชิดมากเกินไป
“ไม่ต้องกังวลเพราะหมอที่มารักษาเชอรีนบอกวิธีรักษากับพี่แล้ว นอกจากการกินยานั้น..จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกจิตใจไปด้วย”
เมื่อกล่าวจบสิงหาก็ยื่นถุงยาให้เชอรีน
“ฝึกจิตใจเหรอคะ คุณสิงหาหมายถึงการทำสมาธิอะไรแบบนั้น..”
ริมฝีปากของเขาจุดยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจเมื่อเธอเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้
เขารู้ว่าเชอรีนเป็นเด็กดีและรับผิดชอบงานได้ดีมาก ด้วยเหตุนั้นหากอยากจะเข้าใกล้เธอก็ต้องทำให้เธอพูดปฏิเสธออกมาไม่ได้สิ
“ก็ไม่เชิงว่าเป็นอย่างนั้น เพราะเชอรีนมาอยู่ในสถานที่แปลกใหม่ นั่นอาจจะทำให้เชอรีนรู้สึกไม่ปลอดภัย..ฉะนั้นแล้วจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคนที่เชอรีนไว้ใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่อยืนอยู่ข้างเขาคนนั้น..”
เขายื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเธอด้วยความแผ่วเบา
แม่งเอ้ย อยากดึงมากจูบชะมัด!!
คำกล่าวของเขามันฟังดูเป็นทางการและมีเหตุผลแต่ทว่าเธอก็อดรู้สึกทะแม่งๆ กับคำกล่าวนั้นไม่ได้เลย เพราะประโยคสุดท้ายเขาพูดเหมือนกับว่า..เขาคือใครคนคนนั้นคนที่เธอต้องไว้ใจ..มันใช่เหรอ..? ในที่นี้ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครไม่น่าไว้ใจเท่าเขาแล้ว
เขาให้ความรู้สึกอันตรายในทุกครั้งที่เธอทอดสายตามองหน้าเขา มันเหมือนกับว่าหากว่าเธอเผลอไผลและไม่ทันได้ระวังตัวเธอจะถูกดวงตาคู่นั้นดูดกลืนจนไม่หลงเหลือตัวตนของตัวเองอีกต่อไป..เขาให้ความรู้สึกแบบนั้นกับเธอจริงๆ ..และนั่นทำให้เชอ รีนรู้สึกกลัว
เธอกลัวว่าตัวเองจะจมลงสู่ห้วงแห่งความหลงใหลอันไร้ที่สิ้นสุด กลัวว่าเธอจะไม่สามารถยับยั้งชั่งใจของตัวเองได้
ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยมีความรักมาก่อน อาจจะเพราะทุกครั้งที่เธอมองดูรูปแม่ที่ติดเอาไว้ที่บ้านของลุงภาคินในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง เธอรู้สึกสงสารแม่จับใจที่ความรักทำลายแม่ได้ขนาดนั้น..
แม่ละทิ้งทุกอย่างทั้งชื่อเสียงและจิตวิญญาณของตัวเองเพื่อวิ่งตามหาความรัก สุดท้ายความรักพวกนั้นกลับกลายเป็นเปลวไฟที่เผาไหม้แม่จนไม่หลงเหลือความเป็นคน..
หากว่าเธอมีความรัก..จุดจบของเธอจะเป็นเหมือนแม่ไหมนะ ที่ยอมเข้าใกล้กองไฟเพราะต้องการไออุ่น ทว่ากลับเรียกร้องมากเกินไปเดินเข้าไปใกล้กองไฟและมอดไหม้..สลายหายไปจนหลงเหลือเพียงแค่กลุ่มควัน
“คุณสิงหาจะให้..คุณตงตงมาอยู่กับฉันใช่ไหมคะ”
หางคิ้วของตงตงที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตูถึงกับกระตุกเมื่อชื่อของตัวเองโผล่มากลางวงสนทนา
และเมื่อสิงหาได้ยินเช่นนั้นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แต่อาการตลกขำขันเหล่านั้นมันกลับไปไม่ถึงดวงตา
“ใช่แล้ว ที่พี่ดูๆ ไว้ตงตงถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลย เขาเก่งมากเรื่องการป้องกันตัว..ตงตง! เข้ามาหน่อยสิ!”
การยัดเยียดตัวเองมากไปไม่ใช่เรื่องที่ดี เขาต้องเว้นระยะห่างเพื่อให้โอกาสเธอได้หายใจหายคอบ้าง
ตงตงปาดเหงื่อก่อนจะเดินเข้ามาแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย
“นายเรียกผมเหรอครับ”
ดวงตาของสิงหาฉายแววเย็นชาจนตงตงรู้สึกเสียวสันหลัง
“ฉันว่าจะให้นายมาดูแลเชอรีนหน่อยน่ะ..มาทำความสนิทสนมกับเธอเพื่อให้เธอคุ้นเคยกับนาย..”
น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นราวกับจะฆ่ากันให้ตายหากว่าเขาตอบตกลง
“ขออภัยด้วยครับนาย ช่วงนี้ทางบ้านของผมยุ่งมาก อีกทั้งภรรยาของผมกำลังตั้งครรภ์..ผมไม่อาจทุ่มเทแรงกายแรงใจดูแลคุณเชอรีนได้เต็มทีหรอกครับ หากยังมีเรื่องของภรรยามาทำให้กังวล..ขออภัยด้วยนะครับนายท่าน ขอโทษด้วยนะครับคุณเชอรีน.ที่ผมทำให้ท่านทั้งสองผิดหวัง”
ดวงตาคมตวัดมองหน้าของตงตง ก่อนที่ริมฝีปากของสิงหาจะขยับรอยยิ้มพราย
“เข้าใจแล้วตงตง ในเมื่อนายมีภรรยาที่ต้องดูแลจะให้ฉันบังคับให้นายมาดูแลเชอรีนอีกนายก็คงจะไม่สะดวกสินะ..ออกไปข้างนอกก่อนเถอะ"
ตงตงกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก เขารีบเดินออกไปหน้าห้องในทันที
ธามหรี่ตามองหน้าของรุ่นพี่ด้วยแววตาสงสัย
“นี่พี่..มีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ แถมแม่พี่ยังท้องอีกงั้นเรอะ”
ตงตงยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ใบหน้า
“ทำงานอยู่ที่นี่ทุกวันจะเอาเวลาที่ไหนไปมี หากไม่บอกแบบนั้น..นายเอากูตายแน่!”
