6.อยากเห็น
“แย่..มากกว่าที่คิดเอาไว้ ไม่ใช่แค่อาการแพนิคเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอาการวิตกกังวลและ..สภาพจิตใจเลวร้ายมากทีเดียว จริงๆ แกควรจะส่งเธอไปหาคอนเซ้าจิตแพทย์ด้วยนะ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า”
ผืนป่ากำลังแนะนำเพื่อนของเขาให้พาเชอรีนไปหาหมอเฉพาะทางเพื่อที่รักษาควบคู่กันไป
“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะ แล้วทำไมที่ผ่านมาไม่เห็นเธอเป็นไรเลย..”
ผืนป่าขมวดคิ้ว
“ที่ผ่านมาที่เธอไม่แสดงอาการอะไรออกมา เพราะเธออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตัวเองคิดว่าปลอดภัยไง นี่มึงพาเธอมาที่นี่ สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยไม่รู้จักใครๆ ก็ต้องตกใจบ้างเป็นธรรมดา..”
ที่ไอ้หมอพูดมาก็ถูก
“แล้ว..กูควรทำไง”
ผืนป่ามองหน้าเพื่อนของเขาก่อนจะหรี่ตาเล็กน้อย เท่าที่คบกันมานานหลายสิบปี เขาไม่เห็นว่าไอ้สิงมันจะอยากดูแลผู้หญิงคนไหนขนาดนี้เลย..ไหนบอกว่าพามาเพราะแผนการแล้วไอ้อาหารเป็นห่วงเป็นใยพวกนี้มันคืออะไรกันวะ
“อันที่จริงมันสามารถรักษาอาหารหวาดกลัวพวกนั้นได้นะเว้ย คือมึงต้องทำให้คุณเชอรีนรู้สึกปลอดภัย ก็แค่ทำให้เห็นว่าที่ข้างๆ มึงมันปลอดภัยและจะไม่มีใครมาทำร้ายเธอ..”
ที่จริงบ้านเขาปลอดภัยจะตายไป มีบอดี้การ์ดหลายสิบคน ไม่มีใครจะเข้ามาทำร้ายเธอที่นี่ได้หรอก
“บ้านกูเนี่ยปลอดภัยสุดๆ แล้ว..”
ผืนป่าส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“มึงคิดว่าในตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ คุณเชอรีนเค้ากลัวใคร คำตอบคือเค้ากลัวมึงไง..มึงต้องทำให้เห็นดิว่ามึงจะไม่ทำร้ายเขา..”
“นั่นยากว่ะ เพราะกูว่ากูจะทำอย่างแน่นอน..แค่คิดว่าในบ้านหลังนี้มีเชอรีนเดินไปเดินมากูก็แทบจะคลุ้มคลั่งแล้ว ให้กูอดใจยังไงไหวกูถามหน่อย..”
แล้ว..เขาควรช่วยใครดี ผืนป่าคิดในใจพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“นั่นมันเรื่องของมึงนะ เรื่องของกู กูทำเสร็จแล้วเอาไว้อาทิตย์หน้ากูจะมาดูอาการใหม่ ก็สั่งยาไว้ให้แล้วให้คนของมึงเอาใบจ่ายยานี่ไปรับยาที่โรงพยาบาลกูได้เลย..กูไปละ เรื่องหลังจากนี้อยู่ที่มึงเลยว่าจะเอาไง”
จะอดเปรี้ยวไว้กินหวานหรือว่าจะอดหวาน..เลือกกินเปรี้ยวเลย
“มึงก็พูดได้ มึงยังไม่เจอผู้หญิงที่อยากได้นี่หว่า”
ผืนป่าหัวเราะ
“เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่กูอยากได้เลยว่ะ มีแค่ผู้หญิงอยากได้กูทั้งนั้น..”
สิงหากลั้วหัวเราะ
“เออ กูจะคอยดูไอ้หมอปากดี..อย่าให้กูเห็นว่ามึงครางหงิงๆ ตอนถูกทิ้งก็แล้วกัน”
ผืนป่าส่ายหน้า
“ไม่มีทาง มึงเองก็เหอะ ไหนว่าเอาเขามาใช้เพื่อจัดการไอ้คีตะ ไปๆ มาๆ เสือกอยากได้เอง..กูละเชื่อมึงจริงๆ แผนล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่ม”
“แผนไม่ล่มเว้ย กูแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ อีกทั้ง..กูลงทุนไปหลายล้านนะเว้ย ให้กูเก็บดอกเบี้ยบ้างเหอะ..ไสหัวไปได้แล้วไอ้ผืนป่า ไปหาคนไข้สาวๆ ของมึงเลยไป”
ผืนป่ามองหน้าเพื่อนสนิท ก่อนที่เขาจะส่ายหน้าเบาๆ
คนที่ครางหงิงๆ น่ะมึงไม่ใช่กูแน่นอนไอ้สิง..แต่สวยขนาดนั้น..ไม่แปลกหรอกที่ไอ้สิงจะอยากได้น่ะ
...................
“นี่เรากำลังทำเรื่องเลวร้ายแบบสุดๆ กับพี่รึเปล่าคะพ่อ..พี่ขึ้นรถไปกับคนพวกนั้นโดยที่เราไม่รู้ว่าพวกเขาเอาพี่ไปไหน โทรศัพท์พี่เชอรีนก็ไม่ได้เอาไว้ ให้ตายดิ..เราควรจะทำยังไงกันดีพ่อ”
เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าของพี่เชอรีนด้วยซ้ำ ในตอนที่พี่เชอรีนกล่าวว่าจะอาสาไปกับเจ้าหนี้พวกนั้น เพราะว่าเธอละอายใจเกินไป..ที่ตัวเองในช่วงเวลานั้นทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากนั่งเงียบๆ เพื่อรอให้ใครสักคนพูดขึ้นมา
“ไม่เป็นไรพลอย..พี่เชอรีนเป็นคนเก่ง ไม่ว่ายังไงพี่เชอรีนจะต้องเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือการหาเงินมาให้ได้มากที่สุด ยิ่งเราเอาเงินไปใช้หนี้คุณสิงหาเขาเร็วเท่าไหร่ เชอรีนก็จะกลับมาอยู่กับเราเร็วเท่านั้น..”
พลอยใสกำมือแน่น นั่นสินะสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือการหาเงินและ..เธอจะทำงานทุกอย่างที่ได้เงินมาใช้หนี้
“พ่อคะ..หนูจะไปลองออดิชั่นดู!”
พลอยใสโตมาในครอบครัวที่เห็นแต่นักแสดงและดาราจนชินตา ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นดาราเด็กด้วย แต่ในช่วงเวลาที่พลอยใสกำลังเติบโตขึ้นมา เมื่อกำลังจะเข้ามหาลัยและตั้งใจว่าจะเรียกทางด้านการแสดง ข่าวของพี่เชอรีนทำให้พลอยใสต้องคิดทบทวนเรื่องนั้นใหม่..
ในยามที่ยืนอยู่จุดสูงสุด ยิ่งเปล่งประกายมากเท่าไหร่ในตอนที่ดับแสงและหล่นลงมาก็ยิ่งแตกสลายมากแค่ไหน เรื่องของพี่เชอรีนทางเรามีทั้งพยานและหลักฐานว่าพี่เชอรีนไม่ได้ไปเป็นเมียน้อยใครแต่ทางสื่อก็ไม่คิดแก้ข่าวให้ ทุกครั้งที่เธอนำข้าวเช้าไปให้พี่เชอรีนที่คอนโด พลอยใสรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นพี่เชอรีนนั่งมองวิวภายนอกห้องตรงหน้าต่าง..ในสายตาของเธอตลอดระยะเวลาที่เธอเติบโตมา สิ่งที่ชัดเจนในสายตาของพลอยใสคือความเจ็บปวดของพี่เชอรีน
แต่ตอนนี้เธอมามัวกลัวไม่ได้แล้ว หากอยากช่วยเหลือพี่เชอรีนออกมา เธอจะต้องกล้ามากกว่านี้
“หนูจะเป็นนางเอกให้ได้เลยค่ะพ่อ!! หนูจะช่วยพี่เชอรีนออกมาเอง และจะทำให้พ่อหมดหนี้หมดสินสักที!”
.................
เชอรีนประหม่าพอสมควรเมื่อคุณสิงหา..อ่า..เธอพึ่งรู้ชื่อของเขาในตอนที่มีแม่บ้านเอาชุดและของใช้มาให้
เชอรีนเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่านี่เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว..เขาบอกว่าเขาจะมาหาเธอในวันนี้ตอนสามทุ่มและนี่ก็สามทุ่มแล้ว แต่ว่าเขายังไม่...ประตูเปิดออกในทันทีที่เธอกำลังมองมัน
“อย่าบอกนะว่ากำลังรอพี่อยู่..มานี่สิเชอรีนมานั่งคุยกัน”
คุณสิงหามาแล้ว เขามาในชุดที่ไม่ได้เป็นทางการเหมือนกับที่เคยเห็น ผมที่ปกติจะเซ็ทและหวีเอาไว้อย่างดิบดีในตอนนี้ถูกปล่อยลงมาอย่างไม่ใส่ใจและมันกำลังปรกลงตรงหน้าผาก เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำ นี่คือชุดที่สุดแสนจะธรรมดามากๆ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนที่มันถูกสวมอยู่บนร่างกายของเขามันถึงได้ดูดีมากขนาดนั้น
สองแก้มของเชอรีนขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ยิ่งเธอเดินเข้าไปใกล้เขามากเท่าไหร่ กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นยาสระผมของเขาก็ยิ่งทำให้ในใจของเธอรู้สึกปั่นป่วนมากขึ้นเท่านั้น
ตั้งสติหน่อยสิเชอรีน เขาเป็นเจ้าหนี้เธอนะโว้ย!!
สิงหาจุดยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ เมื่อเขาเห็นเชอรีนที่อยู่ในชุดที่เป็นทางการเกินกว่าที่จะใส่ชุดเช่นนี้ในช่วงเวลาสามทุ่มหรือว่าช่วงเวลาก่อนนอน
เธอไม่ได้สวมชุดนอนแบบที่เขาคิดเอาไว้ ตรงกันข้ามเลยเธอสวมเสื้อแขนยาวและกระโปรงที่ยาวคลุมถึงตาตุ่ม
บางทีเขาควรจะจัดการกับแม่บ้านที่เอาชุดที่ปกปิดมากเกินไปแบบนี้มาให้เธอ..อันที่จริงเขาควรจะสั่งให้แม่บ้านเตรียมชุดนอนลายลูกไม้ที่เปิดโอกาสให้เขาเห็นผิวเนื้อเนียนละเอียดภายใต้ร่มผ้าของเธอบ้าง
ให้ตายสิตรงนั้นจะเป็นสีอะไรกันนะ..สีชมพูอ่อนหรือว่าสีแดงอยากชักอยากจะเห็นแล้วละสิ
