5.เรียกพี่ได้ไหม
ถึงแม้ว่าจะรับปากอย่างดิบดี..ถึงเรื่องที่จะยินยอมทำตามที่เขาสั่งแต่ทว่าในตอนนี้..เชอรีนกำลังหลับ เรายังเดินทางไม่ถึงบ้านของเขาเลยด้วยซ้ำแต่ทว่าเธอกลับนอนหลับ..
“พอถึงบ้านแล้ว..ตามหมอมาให้หน่อยสิ”
อาการของเธอน่าเป็นห่วงจนเขาคิดว่าเธอควรจะเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน..
เธอเอนใบหน้าซบลงบนไหล่ของเขา ทั้งๆ ที่ครั้งแรกยังแสดงทีท่ารังเกียจขี้หน้าเขาอยู่เลยแต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าไหล่กว้างๆของเขาจะเป็นที่พึ่งพิงเดียวของเธอที่ต้องใช้ในการเอนหน้าซบเพื่อที่จะหลับตาได้อย่างปลอดภัย..
เขาจินตนาการถึงใบหน้าสวยๆ นี่หลายแบบมากทีเดียว ด้วยข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์และข่าวที่เด่นหราอยู่บนหน้าอินเตอร์เน็ต เขาคิดว่าบางทีเธออาจจะเป็นนางมารร้ายที่หากหยิบยกเรื่องเงินมาพูดคุยกัน อะไรๆ มันอาจจะง่ายดายมากกว่าที่เขาคิดก็ได้ แต่กลับกลายเป็นเชอรีน..หรือว่าเชอรีนดานั้นไม่ตรงตามที่เขาคิดเอาไว้เลยแม้แต่นิดเดียว ในด้านหน้าตาเธออาจจะสวยมากกว่าในรูปอยู่มากโขแต่ทว่าในเรื่องของนิสัย..เธอไม่ใช่นางมารร้ายแต่เป็นหนูน้อยที่ไม่กล้าก้าวเดินออกมาจากโลกแคบๆ ของตัวเอง..เพราะเธอกำลังหวาดกลัว
เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังกลัวอะไรกันแน่ แต่เขาจำเป็นที่จะต้องรักษาเธอก่อน เพื่อให้แผนการของเขามันดำเนินไปอย่างราบรื่น เขาต้องการกำจัดไอ้สารเลวคีตะ..ต้องการทำลายครอบครัวจอมปลอมของมันให้สิ้นซาก และเธอคือหมากตัวเดียวที่เขาคิดว่าเธอจะมีประโยชน์
ทว่าในใจของสิงหาไม่ได้เผื่อใจเอาไว้เลยว่าหากเธอไม่มีประโยชน์ในเกมกระดานนั้น..หากว่าไอ้คีตะไม่ได้สนใจใบหน้าสวยๆ นี่แล้ว เขาจะทำอย่างไรกับเธอดี..
สิงหาขยับปลายลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะปรายตามองใบหน้าหวานที่กำลังหลับอยู่
เอาเถอะ..อย่างน้อยความสวยนี่ก็พอจะทำให้เขารู้สึกเจริญหูเจริญตาได้บ้าง หากไม่มีประโยชน์ เช่นนั้นเขาก็จะจับเธอใส่แจกันและตั้งเอาไว้ในบ้านของเขา
สิงหาคิดว่าเขาคงจะเชยชมเธอได้ไม่มีวันเบื่อ..กับความสวยและความประหม่าไร้เดียงสาพวกนั้น จากที่คนของเขาไปสืบมา..เธอถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากลุงภาคินที่ไม่มีญาติแท้ๆ เพราะแบบนั้นตาแก่คนนั้นจึงสำคัญสำหรับเธอมากเลยสินะ
เขาสามารถกักขังเธอเอาไว้ข้างกายได้ตลอดเวลาหากว่าเขาหยิบยกชื่อตาแก่ภาคิน มากล่าวอ้าง..
มันง่ายดายเสียยิ่งกว่าการเดินไปซื้อรองเท้าสักคู่อีก ง่ายเสียยิ่งกว่าการจ่ายเงินแล้วจ้างโสเภณีมานอนด้วย..การครอบครองผู้หญิงคนนี้มันง่ายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แค่เขาหยิบมือเธอก็พร้อมจะแหลกสลายภายใต้กำมือของเขาแล้ว..
เชอรีน เชอรีนดา..เธอหนีไม่รอดแล้ว
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองนั่งรถมานานเท่าไหร่ แต่พอลืมตาอีกทีก็พบว่ารถจอดสนิทนานแล้ว และวิวที่นอกหน้าต่างรถยนต์ไม่ใช่บนถนนแต่กลับเป็นบ้านขนาดมหึมาหลังหนึ่ง..ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือเธอใช่ไหล่ของเขาในการแอบอิงซบนอนอย่างสบายใจ พร้อมกับทิ้งคราบน้ำลายเอาไว้บนเสื้อของเขาอีกต่างหาก
เชอรีนยกมือขึ้นมาเช็ดที่มุมปากเบาๆ ก่อนที่เธอจะรีบยื่นมือไปเช็ดที่เสื้อของเขา..ทว่าสิงหากลับรีบรวบมือของเชอรีนเอาไว้ในทันทีที่เธอจะสัมผัสเขา
“..ระวังหน่อย มาแตะมั่วซั่วเดี๋ยวได้เกิดเรื่องขึ้นมาหรอก..พี่ยิ่งเป็นคนความรู้สึกไวอยู่”
เธอขมวดคิ้วเมื่อเขาแทนตัวเองว่าพี่
“ทำไมมองแบบนั้น ถึงยังไงพี่ก็อายุมากกว่าเธออยู่แล้ว จะเรียกพี่ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง หรือว่าเธออายุมากกว่าพี่..”
เธอไม่ได้ติดตรงที่เขาอายุมากกว่า แต่ทว่าเพราะเธอไม่คิดว่าเราจะสนิทไวขนาดนี้..อีกทั้งสถานะของเราคือเจ้าหนี้และลูกหนี้ หากเธอเรียกเขาว่าพี่มันจะไม่ดูน่าเกลียดงั้นเหรอ
“หากไม่อยากเรียกพี่เรียกว่าที่รักก็ได้นะ พี่ไม่ติดหรอก..จะลงจากรถเองหรือว่าจะให้พี่อุ้มลงไปดีล่ะคนสวย”
เชอรีนเบนสายตามองไปทางอื่น
“ละ..ลงเองค่ะ”
เธอเดินลงจากรถด้วยความรู้สึกสั่นไหว เชอรีนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูว่ามีใครกำลังมองเธออยู่รึเปล่า แต่ปรากฏว่าที่นี่กลับไม่มีชายชุดดำยืนอยู่เหมือนเมื่อเช้าเลย.มีแค่เธอกับเขาเท่านั้น
เชอรีนพ่นลมหายใจออกมายาวผ่านทางปลายจมูก ไหล่ทั้งสองข้างที่กำลังเกร็งนั้นลู่ลงเล็กน้อยด้วยความโล่งอก
“มาสิ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการ..หาหมอ แค่มีหมออีกคนเธอคงไม่รู้สึกอึดอัดมากนักหรอกใช่ไหม..”
เธอไม่ได้ตอบแต่ถึงอย่างนั้นเชอรีนก็เดินตามเขาไปพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง
บ้านของเขาใหญ่ขนาดที่มีสิบห้องนอนน่าจะได้ ที่นี่ใหญ่โตมากเกินไป และ..นั่นทำให้เธอมองแผ่นหลังที่แสนโดดเดี่ยวของเขาได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“..คุณ..อยู่ที่นี่คนเดียวเหรอคะ คือว่าหากจะไม่ตอบก็ไม่เป็นไร..”
เธอแค่คิดว่าบรรยากาศระหว่างเรามันเงียบมากเกินไปจึงชวนเขาคุย แต่ทว่าเมื่อได้ลองมาคิดดูดีๆ การเอ่ยถามเช่นนั้นมันออกจะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเขามากไปหน่อย
สิงหาแค่นหัวเราะเบาๆ
“เมื่อก่อนพี่อยู่คนเดียว แต่ต่อจากนี้ไปพี่จะอยู่กับเธอ..”
นั่นคืออีกเรื่องที่ต้องกังวล เธอได้ลองคิดดีๆ ก็พบว่าเธอนั่งรถมาไกลมากพอสมควร และบรรยากาศโดยรอบของที่นี่มันไม่ใช่ต่างจังหวัดแบบที่เธอเคยอยู่
บางทีเธออาจจะไม่ได้กลับไปหาพลอยใสและลุงภาคินจนกว่าหนี้สินของเราจะหมด
“หากว่าคุณว่างแล้ว เชออยากจะพูดคุยเกี่ยวกับหนี้สินของเรา..ว่าคุณลุงมียอดหนี้ที่ติดค้างคุณเอาไว้เป็นยอดเงินเท่าไหร่”
“เรื่องนั้นเราจะคุยกันคืนนี้ หลังจากที่เธอเข้ารับการรักษากับหมอเสร็จแล้ว..เข้าไปสิเชอรีน อาการป่วยบางอย่างไม่สามารถรักษาให้หายเองตามธรรมชาติได้หรอกนะ และอาการป่วยของเธอมันกระทบต่องานของเรา..”
เธออยากจะถามและแย้งเขาสักหน่อยว่าทำไมเรื่องหนี้ของเราจะต้องคุยกันคืนนี้ แต่ก็ถูกเขาดันหลังให้เดินเข้ามาในห้องนี้ซะก่อน
“สวัสดีครับ คนไข้ชื่อว่าคุณเชอรีนสินะครับ..เอาล่ะเรามาลองพูดคุยกันสักหน่อยดีกว่านะครับ..ไม่ต้องกลัวนะ คิดซะว่าเราคือเพื่อนกันแทนที่จะเป็นหมอกับคนไข้”
โห..เป็นหมอต้องหล่อขนาดนี้ไหมเนี่ย เชอรีนเดินไปนั่งลงยังเก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้
“เอาล่ะลองหลับตาก่อนนะครับ ทีนี้คิดตามที่หมอพูดนะคุณเชอรีน รู้สึกยังไงครับเวลาที่มีคนจ้องมองมาที่คุณ..”
เมื่อสายตาพวกนั้นมองมา เธอรู้สึกเจ็บปวดและหวาดกลัว พวกเขามองพร้อมกับหันไปกระซิบกันและหัวเราะออกมาราวกับกำลังเยาะเย้ยเธอ
“กลัวค่ะ..เชอกลัวสายตาพวกนั้น”
หมอมองหน้าของเชอรีนอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มจดบันทึกอาการของเธอลงไป
“เคยถูกทำร้ายเหรอครับ..”
เธอพยักหน้า
“มันแย่ตรงที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ไม่ว่าจะพยายามพูดออกไปมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครคิดสนใจเลย..ฉันแค่จะอธิบายแต่พวกเขากลับมองว่านั่นมันคือการแก้ตัว..หลังจากนั้นเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาทำร้าย คนที่เหลือก็กรูกันเข้ามาทุบตีและด่าทอ..ฉัน..กลัวค่ะ กลัวว่าในช่วงเวลาที่เดินออกไปข้างนอกจะถูก..ทำร้ายแบบนั้นอีก”
