บท
ตั้งค่า

008 ข้าวผัดมรณะ

ผมกลับมาที่ป้ายบอกทางในสวนเอเทรีย มองหาสถานที่ที่น่าจะมีของกิน

โดยปกติแล้วเกมแนวฟูลไดว์ฟนั้นเพลเยอร์จะมีประสาทสัมผัสครบถ้วนสมบูรณ์ คือ การรับรู้ภาพ รส กลิ่น เสียง สัมผัส เพราะฉะนั้นการกินจึงถือเป็นสีสันส่วนหนึ่งในโลกเวอร์ชวลแห่งนี้ แต่ถึงอย่างนั้นหลายๆเกมจะมีการกินเพื่อรับรู้รสเท่านั้น ไม่ได้มีความรู้สึกอย่างความหิวหรือกระหายแต่อย่างใด กลับกันแน่นอนว่าถ้ามีเกมที่ไม่ได้มีความหิว ก็ย่อมมีเกมที่มีความรู้สึกหิวอยู่อย่างเช่นเกมนี้นั่นเอง

โชคดีที่ตอนนี้ผมมีเงินอยู่ 500 พอนโซซึ่งเป็นหน่วยเงินของเกมนี้ น่าจะได้มาพร้อมกับฟรีเทรนนิ่งพาส

ผมยังไม่รู้ว่าค่าครองชีพในเกมนี้ใช้เงินขนาดไหน ราคาอาหารหนึ่งจานอาจจะราคาสิบ ร้อย หรือพันก็ได้ แต่เรื่องนี้แค่ลองไปดูตามร้านค้าเดี๋ยวก็รู้

ผมเดินไปตามทางที่เขียนว่าชอปปิ้งมอล แน่นอนว่าบรรยากาศเริ่มครึกครื้นมากกว่าในสวนที่แสนสงบ

เมื่อผมเดินลอดใต้ประตูขนาดใหญ่ผมก็มาโผล่ในสถานที่ที่เหมือนศูนย์การค้าสมชื่อ มันเป็นลานขนาดใหญ่ที่เปิดช่องตรงกลางขึ้นไปจนถึงเพดานซึ่งทำด้วยกระจกเหมือนกับในสวน ตรงกลางลานเป็นพื้นที่โล่งที่เต็มไปด้วยเพลเยอร์ที่ขายและซื้อของกันอย่างคับคั่ง ดูท่าพื้นที่นี้จะเป็นฟรีมาเก็ตที่ใครๆจะซื้อหรือขายอะไรกันก็ได้ ต่างจากชั้นบนที่เป็นร้านค้าแบบประจำ

ผมเดินไปรอบๆดูว่าพวกเขาขายอะไรกันบ้าง ...ก็เหมือนกับเกมอาพีจีทั่วไปนี่ มีทั้งอาวุธ เสื้อผ้า ชุดเกราะ วัตถุดิบและของแปลกๆมากมายซึ่งผมคิดว่ายังไม่จำเป็นสำหรับผมในตอนนี้ ถ้าจะจำเป็นคงจะเป็นอาวุธสักอันนี่แหละ ดาบกับโล่ก็ไม่เลว แต่ก็มีอาวุธประเภทปืนด้วยที่น่าสน เงินห้าร้อยนี่จะพอมั้ยนะ?

“โทษครับ ดาบเล่มนี้ราคาเท่าไหร่ครับ”

ผมหยิบดาบขนาดกลางจากร้านแผงลอยร้านหนึ่งขึ้นมาถามราคา เป็นดาบที่ดูธรรมดาๆไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

“สวัสดี หน้าใหม่ใช่มั้ย หืม? ดาบเล่มนั้นไม่แพงหรอกนะ แปดร้อยพอนโซน่ะ สนใจไหม?” เจ้าของร้านหันมาตอบผมด้วยท่าทางเป็นมิตร

ผมขอบคุณเขา วางดาบลงที่เดิมแล้วเดินออกมา

เงินเท่านี้คงไม่พอจะซื้ออาวุธอะไรแน่ๆ

ผมเดินดูของได้สักพักก็เจอกับป้ายแผนที่ของชอปปิ้งมอล มันเขียนไว้ว่าชั้น 1 ถึงชั้น 4 จะเป็นร้านสรรพสินค้า ...ที่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลย ดูท่าการจัดการร้านค้าส่วนมากจะเป็นของทั้งเพลเยอร์และเอ็นพีซีที่ขายของกันแบบประจำซึ่งอาจจะต้องเช่าพื้นที่ก็ได้? ส่วนชั้น 5 เป็นสถานที่ที่ผมหมายตาไว้ ...ศูนย์อาหาร

ผมเดินขึ้นบันไดพลางมองร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อย มีร้านค้าหลายชนิดมากมายทั้งของเพลเยอร์และเอ็นพีซีปะปนกัน อย่างร้านเสื้อผ้าที่ดีไซน์และสั่งตัดเฉพาะคน อาวุธชุดเกราะสั่งทำ หรือแม้แต่เครื่องประดับชิ้นเล็กๆแต่ราคาแพงหูฉี่

ไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองไหม แต่ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆที่ไม่น่าจะมีในสถานที่แบบนี้ ...ถ้าจะแปลงออกมาเป็นคำพูดคือ..... อึดอัด? เหมือนมีความตึงเครียดแผ่ออกมาจากทั้งคนซื้อและคนขาย หวังว่าผมจะแค่คิดไปเอง

ผมเดินมาถึงชั้น 5 ก็พบกับร้านอาหารเรียงกันเป็นตับ มีทั้งร้านอาหารจานด่วนราคาถูก ร้านเหล้าแบบตะวันตกที่ไม่รู้ทำไมมีเสียงปืนดังออกมาเป็นระยะๆ ไปจนถึงร้านระดับภัตตาคารหรูเลิศอลังการ

แน่นอนว่าผมเดินเข้าร้านราคาถูก

ร้านนี้เป็นร้านอาหารจานเดียวที่เปิดโดยเอ็นพีซีราคามิตรภาพ ราคาโดยเฉลี่ยคือ 50 พอนโซ ส่วนรสชาติน่ะผมยังไม่พูดถึงละกัน

“ยินดีต้อนรับค่ะ สั่งอาหารเลยมั้ยคะ?” บริกรหญิงเดินมารับออเดอร์เมื่อผมนั่งลงบนโต๊ะตัวหนึ่ง ผมมองไปตามรายการอาหารบนฝาผนัง อืม...เลือกอะไรดี

ถ้าพูดถึงการทดสอบรสชาติอาหารของร้าน ผมเคยได้ยินมาว่า ‘ข้าวผัด’ คือรายการที่จะทดสอบความสามารถโดยรวมของร้านนั้นได้ ...จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ล่ะ

ผมมองดูรายการข้าวผัดที่ร้านนี้มี มีหลายอย่างทีเดียวทั้งข้าวผัดซองโก ข้าวผัดคิเมร่า ข้าวผัดไข่ตัวอะไรสักอย่าง?

...

เอ่อ ก็เข้าใจนะว่านี่คืออาหารในเกม ยิ่งเป็นเกมแนวอาพีจีแล้วย่อมต้องมีการนำของแปลกๆที่มีเฉพาะในเกมมาทำเป็นอาหารอยู่บ้าง แต่นี่มัน...

“ขอข้าวผัดไข่ตัวอะไรสักอย่าง? ที่นึงละกันครับ”

ผมสั่งของที่ดูท่าจะปลอดภัยที่สุดออกไป บริกรสาวทำตาลุกวาว ก่อนจะบอกว่าทราบแล้วค่ะแล้วเดินจากไป

...ผมคิดถูกแล้วใช่มั้ย?

ระหว่างที่รออาหารผมก็สังเกตเหล่าเพลเยอร์คนอื่นๆ ที่ส่วนมากมีบรรยากาศอึมครึม ...ทำไมล่ะ?

“แบบนี้ท่าจะไม่ไหวแล้วนะ!” เพลเยอร์หญิงที่อยู่โต๊ะฝั่งตรงข้ามผมโวยวายกับเพลเยอร์ชายอีกคน

“ไม่หรอกน่า... จริงๆแล้วมันมีเยอะกว่านี้ แต่เพราะยังเจาะทะลวงออกไปไม่สำเร็จ ของมันก็เลยไม่เพิ่ม”

“แต่! ...แล้วเมื่อไหร่กันล่ะถึงจะขยายออกไปได้ นี่เปิดมาครึ่งปีแล้วนะ! ถ้าไม่เพราะพวกมันบุกมาเรื่อยๆ ป่านนี้เราไม่ฆ่ากันเองแล้วรึ!?”

“เฮ้ย ไม่หรอกน่า ได้ยินว่าเร็วๆนี้แหละ จะมีการรวมพลบุกตีป้อมปราการเซ็นที่อยู่แถวชายฝั่งโซเฟเรียอีกครั้ง”

“แต่เราก็เคยบุกตีตั้งหลายครั้งแล้วนี่! จนป่านนี้ก็ยังไม่สำเร็จเลยนะ ฉันกับนายก็เคยเข้าร่วมด้วยจำไม่ได้หรือไง!? ตอนนั้นเราโดนถล่มยับเลยนะ!”

“ตอนนั้นกองหลังเราหละหลวมเลยถูกตีกระหนาบ แต่คราวนี้ได้ข่าวมาว่าได้เพลเยอร์ฝีมือดีมาเพียบเลย ต้องสำเร็จแน่ๆ”

“ถึงนายจะพูดแบบนั้นก็เถอะ...”

หลังจากนั้นพวกเขาก็คุยกันเงียบๆพลางกินอาหารไปด้วยทำให้ผมไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน

ผมพยายามทำความเข้าใจกับบทสนทนาที่ได้ฟังเมื่อกี้ อะไรจะหมด? แล้วบุกตีชายฝั่งที่ว่าคือตีกองทัพอินเวเดอร์ใช่มั้ย?

ระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่อาหารที่ผมสั่งก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ซึ่งภาพอาหารตรงหน้าทำให้ผมถึงกับลืมเรื่องที่คิดอยู่จนเกลี้ยงหัว

...คือ ผมไม่ขอพรรณนาถึงอาหารจานนี้ได้มั้ยเนี่ย? ไม่ได้สินะ....

ผมจำได้ว่าอาหารที่ผมสั่งคือ ‘ข้าวผัดไข่ตัวอะไรสักอย่าง?’ ก็นะ มันคงจะดีกว่านี้เยอะถ้ามันไม่เป็นสีเขียวข้นจนออกดำ แถมมีฟองอากาศลอยปุดๆ ส่งกลิ่นไม่น่าพิสมัยออกมา

“เอ่อ...นี่มัน...”

“ค่ะ ข้าวผัดไข่ตัวอะไรสักอย่าง? ที่สั่งไงคะ เราคัดสรรวัตถุดิบที่มีอย่างดีที่สุดสำหรับคุณลูกค้าโดยเฉพาะ เชิญทานขณะที่ยังร้อนๆได้เลยค่ะ” กรุณาหยุดยิ้มให้ผมเถอะครับ

เพลเยอร์คนอื่นๆเริ่มสนใจอาหารที่ผมสั่ง ต่างหันมาดูผมพลางกระซิบกระซาบกันอย่าง ‘หมอนี่จะใจกล้าไปหน่อยม้าง’ ไม่ก็ ‘อาเมน’

ผมเหงื่อไหลซิบๆ จ้องมองข้าวผัดไข่ตัวอะไรสักอย่าง? ตรงหน้าพลางเหลือบมองไปด้านบนซึ่งบริกรหญิงยังคงยืนยิ้มให้ผมอยู่ที่เดิม ...ผมขอจ่ายเป็นสองเท่าแล้วไม่กินจะได้มั้ย?

“เชิญเลยค่ะ กรุณาทานขณะที่ยังร้อนๆอยู่นะคะ ถ้าอาหารเย็นลงอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็เป็นได้ค่ะ” พลางยื่นช้อนให้ผม ดวงตาลุกวาวอย่างสนุกสนาน ใครก็ได้มาจับยัยนี่ไปขังที

ผมรับช้อนมาแล้วกลืนน้ำลายดังเอื้อก ตอนนี้ข้าวผัดไข่ตัวอะไรสักอย่าง? เริ่มมีควันสีเขียวๆลอยออกมาแล้ว ปล่อยไว้นานกว่านี้ท่าจะแย่นะเนี่ย เฮ้ย!?

เอาก็เอาฟระ! ไหนๆก็อยู่ในเกมอยู่แล้ว จะกระเดือกอะไรลงไปมันไม่ทางส่งผลถึงร่างกายจริงของผมอยู่แล้วน่า! ใช่มั้ย!? ใช่แล้ว! ประสบการณ์ไง! นี่ต้องเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีทางหาได้จากโลกจริงได้แน่นอน! อะ...เอาเลย แด้กมันเข้าไป แด้กมันให้หมดในทีเดียวเลย!

ผมพยายามสะกดจิตตัวเอง ยื่นช้อนเข้าไปจ้วงข้าวผัดไข่ตัวอะไรสักอย่าง? ตักมันขึ้นมาเพื่อเอาเข้าปาก

...ขอโทษครับ ช้อนผมละลายไปแล้ว

ผมรีบลุกจากเก้าอี้เตรียมจะเผ่น แต่กลับโดนล็อกหลังไว้!? คะ...ใครกัน ปล่อยตูไปเหอะ!!

“อ๊ะ ขอบคุณค่ะที่ช่วย แหมๆ คุณลูกค้าคะ ทานเหลือมันไม่ดีนะคะ อาหารจานนี้เชฟของเราทำสุดฝีมือเลยนะคะ ไม่ทานสักคำเชฟของเราก็เสียใจแย่”

แล้วถ้าผมแด้กแล้วเดี้ยงจะเสียใจให้ผมมั้ยครับ?

ผมโดนบริกรสาวกับเพลเยอร์จอมเสร่อที่นึกสนุก (แต่ตูไม่สนุกแล้ววว) มาช่วยกันล็อกตัวผมให้กลับมานั่งที่

“แหม ต้องขออภัยจริงๆค่ะ ฉันลืมหยิบช้อนพิเศษมาให้ นี่ค่ะเชิญเลย” เธอหยิบช้อนโลหะเคลือบที่ค่อนข้างหนามากๆมาให้ผม ...ไอ้ช้อนนี่ยังทนไม่ไหวแล้วตูจะรอดได้ไง

“คุณลูกค้าคะ” ยัยคนนี้ก็ไม่เลิกหว่านล้อมผมสักที “เมนูนี้ของเราขึ้นชื่อมากเลยนะคะ คุณน่ะตาถึงจริงๆที่สั่งเมนูนี้ เชฟของเราตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ทำให้จานละ... ให้อร่อยจนลืมโลกเลยค่ะ ถ้ายังไงให้ฉันป้อนให้ไหมคะ?”

ขึ้นชื่อแบบไหนกันครับ!? แล้วคุณทำสำเร็จสุดๆเลยครับในการหว่านล้อมผมน่ะ แค่ทำให้ผมอยากหนีมากกว่าเดิมนิดหน่อยเองครับ!

ผมเงยหน้าไปด้านหลังที่เพลเยอร์ชายคนหนึ่งล็อกแขนผมไว้อยู่พลางส่งข้อความทางสายตาไปให้

‘เฮ้ย ปล่อยตูไปเหอะ ขอร้อง’

‘ไม่เอาน่า สั่งอาหารมาแล้วก็ต้องกินให้หมดสิ’

‘ใจจริงล่ะ?’

‘เรื่องน่าสนุกแบบนี้จะปล่อยไปได้ไง’

แก๊!!! ไอ้พระเจ้าเขื่อน!!! ไอ้ขี้ศักดิ์สิทธิ์!!! ขอสาปส่งให้อาหารทุกมื้อของแกมีแครอทผสมอยู่ด้วย!

“เอ้า อ้ามค่ะ” ...ผมยอมแพ้แล้วอ้าปากเงียบๆ เพลเยอร์รอบๆต่างส่งเสียงตื่นเต้น สนุกนักมาเปลี่ยนตัวกันหน่อยมั้ยครับ?

ทันทีที่ข้าวผัดตัวอะไรสักอย่าง? เข้ามาในปากผม ผมก็รู้สึกเหมือนเห็นภาพหลอนเกี่ยวกับความเป็นความตาย สัจธรรมของโลก อาเมน สาธุ

.....

..........

................

ผมลืมตาขึ้นอย่างงงๆ มองไปรอบๆห้องที่มีสภาพเหมือนห้องพักของพนักงาน ดูท่าทางผมจะเผลอหลับไป ทำไมล่ะ? ผมพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ผมนึกออกแค่ว่ากำลังรอกินข้าวอยู่ แล้วจู่ๆก็มาตื่นอยู่ที่นี่ซะงั้น

“แหม ขอโทษด้วยนะคะเมื่อกี้ ไม่มีคนสั่งเมนูเพชฌฆาตมานานแล้ว” ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาแล้วพูดอะไรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ ดูๆแล้วเธอน่าจะเป็นเอ็นพีซีของเกมนี้ เธอมีหน้าตาสะสวยผมสีทองยาวประบ่า สวมชุดที่น่าจะเป็นบริกรคือเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำและกระโปรงสีดำ ...เหมือนผมจะเคยเจอเธอมาก่อน ....มั้งนะ?

“ทำไมผมมาหลับอยู่ในนี้ล่ะครับ?”

“เอ๋? จำไม่ได้เหรอคะ ...ถ้าอย่างนั้น ...คือเมื้อกี้คุณลูกค้ามาทานอาหารร้านเราแล้วเกิดสลบไปโดยไม่ทราบสาเหตุค่ะ อาจจะหิวจนหน้ามืด.... ฉันจึงพามาพักที่หลังร้านค่ะ”

เป็นไปได้ด้วยรึหิวจนหน้ามืด? ผมจำได้แค่จะมาหาอะไรกิน แต่ความจำหลังจากนั้นมัน...

ผมพยายามจะนึกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมกลับเสียวสันหลังวาบ เหงื่อเย็นเฉียบซึมออกมาน้อยๆ...

บางอย่างลืมๆมันไปก็ได้มั้ง

“ถ้าอย่างนั้น ขอบคุณที่ช่วยไว้ แล้วผม เอ่อ... ขอตัวก่อนนะครับ” อะไรบางอย่างในตัวผมบอกให้ผมรีบไปจากที่นี่

“ได้ค่ะ อ๊ะ!...ฉันจะให้นี่ไว้ละกันนะคะ เป็นบัตรทานอาหารร้านเราฟรีหนึ่งเดือนค่ะ แล้วแวะมาใหม่นะคะ อ้อ แล้วฉันชื่อว่าเทรีน่านะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

ผมรับบัตรที่ว่ามา มันหายลงไปในช่องคีย์ไอเท็มของผม ‘บัตรทานอาหารฟรีร้านเปิบทะลุโลก 30 วัน’ ผมรู้สึกสยองเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อร้านโดยไม่ทราบสาเหตุ

“ขอบคุณมากครับ ผมชื่อเทร็กซ์ครับ”

ผมรีบเผ่นออกมาขณะที่เทรีน่ายิ้มพลางโบกมือให้ อะไรทำให้ผมกลัวขนาดนี้ได้ ไอ้ช่วงเวลาที่ความจำมันหายไปนี่มัน...

ผมเดินกลับมาที่สวนเอเทรียอีกครั้ง คิดไปด้วยว่าอะไรที่นึกไม่ออกค่อยมานั่งนึกทีหลังก็แล้วกัน อย่างน้อยผมก็กินอะไรมาเรียบร้อยแล้ว...

ผมจ้องมองแผนผังสถานที่ซึ่งมีรายละเอียดเยอะและบางทีก็เยอะเกินไป ผมลองเอามือขวาแตะที่แผงผังดู ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างออกมาเล็กน้อย ของที่ดูเหมือนข้อมูลดิจิตอลพุ่งออกจากแผนผังเข้ามาในฝ่ามือของผม

ผมเดินถอยออกมาแล้วเปิดพีดีเมนู โอ๊ะ! ที่หน้าจอแผนที่มีคำสั่งแผนผังส่วนกลางของยานฮาเวสเตอร์ด้วย ผมกดมันลงไปเพื่อแสดงแผนที่ออกมา

นอกจากพื้นที่ตรงกลางซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่อื่นๆให้ลองสำรวจอยู่อีกมาก เช่นส่วนที่พักอาศัยที่ผมออกมา เทรนนิ่งฮอลและชอปปิ้งมอลที่ไปมาแล้ว นอกจากนั้นก็มีคลังแสง ศูนย์วิจัย/หอสมุด พื้นที่เกษตร ห้องประชุม พอทัลเกตและ อะไรอีกก็ไม่รู้สารพัด แต่ดูเหมือนพื้นที่พวกนั้นจะห้ามเพลเยอร์เข้าซึ่งก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

สำหรับตอนนี้ ถ้าจะมีอะไรที่ผมขาดมากที่สุดตอนนี้ก็คือข้อมูลเกม ซึ่งสถานที่ที่ผมควรจะไปต่อแน่นอนว่าเป็น ศูนย์วิจัย/ห้องสมุด นั่นแหละนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel