005 น้ำหนักในมือนี้
เมื่อผมเดินออกมาจากห้องประชุมก็พบเอ็นพีซีนายทหารคนเมื่อกี้กับคนอื่นๆกำลังเดินไปตามทางเดินอีกด้าน ซึ่งน่าจะกำลังตรงไปยังสนามฝึก ผมเดินตามไปด้านหลังพวกเขา
ตามทางที่เดินผ่านมามีเอ็นพีซีนายทหารกับเพลเยอร์คนอื่นๆที่เหมือนจะเพิ่งออกมาจากห้องประชุมเช่นเดียวกันเดินตามหลังเรามา และเพลเยอร์กลุ่มใหม่กำลังเข้าไปยังห้องประชุมอีกหลายกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีประมาณ 30 คนเช่นเดียวกับกลุ่มของผม
เกมนี้มีเพลเยอร์ใหม่เข้ามาเรื่อยๆเลยแฮะ
เมื่อเดินตรงไปเรื่อยๆ ในที่สุดกลุ่มของผมก็เดินทางมาถึงสนามฝึกซ้อม มันมีลักษณะคล้ายโรงยิม พื้นปูด้วยไม้ขัดเงาจนแทบจะสะท้อนภาพของผมได้ ด้านหนึ่งของสนามฝึกมีชั้นวางอาวุธวางกองไว้มากมายทั้งอาวุธระยะประชิดอย่าง มีด ดาบ กระบอง รวมไปถึงอาวุธระยะไกลตั้งแต่หน้าไม้ ธนู ไปจนถึงปืนเลยทีเดียว
อีกด้านหนึ่งของสนามฝึกมีเสาเหล็กสูงประมาณสองเมตรวางตั้งไว้อย่างเป็นระเบียบ
“เอาล่ะ ฟังทางนี้!” นายทหารตะเบ็งเสียง ทำให้เพลเยอร์ทุกคนหยุดคุยและหันไปฟังเขาพูด “ต่อไปเราจะเริ่มการฝึกต่อสู้ระยะประชิดกันก่อน จากนั้นจะฝึกใช้อาวุธระยะไกล พวกนายสามารถเลือกอาวุธจากในชั้นอะไรก็ได้ตามใจชอบ”
“แล้วจะฝึกยังไง ให้สู้กันเองเหรอ?” เพลเยอร์ชายคนหนึ่งถาม
“คู่ฝึกของพวกนายก็อยู่นั่นไง” นายทหารชี้ไปยังกลุ่มแท่งเหล็ก ...ให้ฝึกตีเสาเหล็กรึ?
เมื่อกลุ่มเพลเยอร์เริ่มส่งเสียงพึมพำประมาณว่า ‘อะไรเนี่ย’ ‘โบราณเป็นบ้า’ นายทหารก็ดีดนิ้วดังเป๊าะ
กลุ่มแท่งเหล็กเริ่มขยับโดยเริ่มจากส่วนล่าง แยกออกเป็น 4 ส่วนกลายเป็นขา ด้านบนก็แยกออกเป็นแขน 2 ข้าง และหัว ทรานส์ฟอเมอร์โผล่มาแล้ว!!
“นั่นล่ะคู่ฝึกซ้อมของพวกนาย หุ่นพวกนี้เรียกว่าแบทเทิลโดรน ตอนนี้ฉันปรับความยากของหุ่นแค่ให้ฝึกซ้อมกันเท่านั้น เจ้าพวกนี้จะทำแค่หลบหลีกการโจมตีของพวกนายแล้วสวนกลับเบาๆในจุดอับของพวกนาย เพราะฉะนั้น! หากพวกนายถูกโจมตีกลับให้จำไว้เลยว่าพวกนายได้เปิดช่องโหว่แล้ว! หาทางโจมตีพวกมันโดยไม่ให้ถูกสวนกลับ เอ้าเริ่มได้!”
เหล่าเพลเยอร์แตกฮือไปทางกองอาวุธทันที ส่วนนายทหารก็ไปยืนพิงกำแพงและมองมาเงียบๆ ผมเดินไปที่ชั้นอาวุธพร้อมกับคนอื่นๆ
“เอาอะไรดีล่ะ อาวุธประชิดมาตรฐานก็ต้องเป็นดาบงั้นสิ?”
“ดาบก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวหรอกนะ แต่ไหนๆมีโอกาสทั้งทีลองหลายๆอย่างดูสิ เผื่อจะเจออะไรที่นายถนัดจริงๆ”
ผมแอบฟังคนอื่นคุยกันขณะเลือกอาวุธ
นั่นสินะ ตอนแรกผมก็ว่าจะลองดาบก่อนเหมือนกัน แต่ไหนๆก็มีโอกาสใช้ของพวกนี้ฟรีๆทั้งที ก็น่าจะลองดูหลายๆอย่าง ...แต่ว่า ไอ้สนน่ะสน แต่ไม่เคยใช้เลยนี่สิ เอาไงดี ใช้ของง่ายๆอย่างดาบเลยหรือว่าลองอะไรแปลกๆก่อนดี
อืม...
ขณะที่คิดไม่ตกว่าจะเลือกอะไรดี เพลเยอร์ส่วนหนึ่งที่เลือกอาวุธได้แล้วก็เดินไปทางแบทเทิลโดรน ลองไปดูพวกนั้นซ้อมสู้ดูก่อนละกัน เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงผละออกชั้นวางอาวุธ
ชายคนหนึ่งเลือกดาบขนาดกลางมาสองเล่ม ถือด้วยมือทั้งสองข้าง ดาบคู่รึ เท่ดีแฮะ
ทันทีที่เขาประจันหน้ากับแบทเทิลโดรนตัวหนึ่ง มันก็เริ่มตั้งท่าต่อสู้ทันที โดยการย่อขาลงโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย รอคอยการโจมตีของชายดาบคู่
ดูเหมือนชายคนนี้จะไม่คิดอะไรมากนัก เขาเลือกที่จะโจมตีอย่างรวดเร็วโดยการพุ่งเข้าไปฟัน ดาบในมือขวาฟันลงมาจากด้านบน เจ้าหุ่นสไลด์ไปอีกข้าง ซึ่งดาบในมือซ้ายรออยู่แล้ว เจ้าหุ่นถูกฟันไปหนึ่งที
แต่ฝ่ายที่ล้มลงกลับเป็นชายดาบคู่ เขาร้องโอดโอยพลางกุมสีข้างขวาไปด้วย
“นายโจมตีได้ดี แต่พอนายฟันทางซ้ายแล้วนายกลับเปิดด้านขวาโล่ง เลยโดนสวนกลับไงล่ะ”
นายทหารยืนค้ำหัวของชายคนนั้นแล้วพูดขึ้น
ตามที่นายทหารพูดนั่นล่ะ ทันทีที่เขาใช้ดาบทางมือซ้ายฟัน เขากลับดึงมือขวาไปด้านหลังซึ่งเปิดช่องว่างขึ้นเต็มๆจนถูกเจ้าหุ่นชกกลับจน ล้มลง...
ว่าแต่ถึงกับโดนชกจนล้มลงนี่ แปลว่าแม้แต่โมชั่นการรับความเสียหายเองก็เป็นไปตามจริงด้วยสินะ ไม่ใช่แบบเกมที่ถูกอัดแล้วก็ยังยืนเฉยอยู่ได้ แถมเมื่อกี้พอถูกอัดจนล้มแล้วยังส่งเสียงครางออกมาด้วย อย่าบอกนะว่า...
“อย่างที่คิดเลย เกมนี้ระดับความเจ็บปวดปรับไว้ค่อนข้างสูงจริงๆด้วย อาจจะเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้เลยมั้ง?”
เพลเยอร์ชายคนหนึ่งพึมพำขึ้นข้างๆผม
เอาล่ะสิ แบบนี้ชักไม่สนุกแล้ว ยังไงกันเนี่ย? ถ้าเล่นเกมแล้วต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ก็ชักจะไม่ไหวแล้วนา...
เพลเยอร์คนอื่นๆที่มองการต่อสู้ของชายดาบคู่เริ่มออกอาการแหยงๆออกมากันถ้วนหน้า
“อย่าทำสำออยนักเลยน่าเพื่อน มันจะเจ็บซักแค่ไหนเชียว! ของแค่นี้เอาน้ำลายป้ายก็หายแล้วนะเฮ้ย ไลดอน!” ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น เพื่อนกันล่ะมั้ง
ไลดอนดีดตัวลุกขึ้นและเดินมาทางเพื่อนของเขาที่ยืนอยู่ข้างๆผม
“ไม่เบาเลยล่ะ เมื่อกี้ตอนที่โดนชกกลับน่ะ แทนที่จะบอกว่าเจ็บจนล้ม ต้องบอกว่าตกใจมากกว่า... คือไอ้เจ็บน่ะเจ็บนะ แต่หมัดสวนของเจ้านั่นว่ากันจริงๆน่าจะหนักกว่านี้ แต่ที่ฉันโดนไปเหมือนมันเบายังไงชอบกล... เจ็บประมาณครึ่งนึงของปกติล่ะมั้ง”
“ครึ่งนึงรึ ก็ไม่น้อยอยู่ดีนะ เกมอื่นๆอย่างมากก็สิบหรือยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง”
“ก็นะ” ไลดอนยักไหล่ “นายก็อย่าโดนอัดสิ”
เอ็งเพิ่งโดนอัดล้มเมื่อกี้เองนา
ดูเหมือนคำพูดของเขาทำให้ความตึงเครียดของคนอื่นๆลดลง เพลเยอร์คนอื่นๆเริ่มฝึกซ้อมกับแบทเทิลโดรนกันบ้างแล้ว ส่วนไลดอนกับเพื่อนของเขาก็เริ่มไปฝึกซ้อมอีกครั้ง ผมซึ่งยืนหัวโด่อยู่คนเดียวจึงกลับไปที่ชั้นอาวุธอีกครั้ง
...ความเจ็บปวดราว 50 เปอร์เซ็นต์ ‘ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโดนอัดสิ’ คำพูดนั้นวนเวียนอยู่ในความคิดของผม
เอาล่ะ เมื่อเร็วๆนี้ผมเคยดูหนังเรื่องหนึ่ง เป็นนักรบชาวสปาตาร์ คนพวกนี้ใช้อะไรนะ... โล่กับหอกสินะ ลองใช้ดูดีกว่า
หนัง เรื่องที่ว่าชื่อ 101 เดอะโคตรสปาตาร์ เป็นเรื่องเราเกี่ยวกับชาวสปาตาร์ 101 คนที่ต้องต้านกองทัพคนป่าที่พยายามจะเข้าไปกินพืชผลทางการเกษตรของพวกตน ซึ่งดูเหมือนการเกษตรสมัยนั้นยังไม่เจริญนัก จึงได้พืชผลออกมาน้อยมาก การขโมยอาหารจึงเป็นโทษถึงชีวิตเลยทีเดียว เป็นหนังที่สนุกดี โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่ชาวสปาตาร์ใช้โล่และหอกตั้งรับคนป่าที่จำนวนมากกว่ามากได้อย่างแข็งแกร่ง
ในชั้นอาวุธแน่นอนว่ามีหอกกับโล่ แต่ก็มีหลายแบบหลายขนาดเหลือเกิน ผมลองยกหอกไพลัมมาเล่มหนึ่ง ปลายหอกทิ่มลงพื้นทันที หนักไป
ผมเก็บหอกไพลัมเข้าที่ เมื่อดูตามส่วนสูงและกำลังแขนเด็กน้อยของผม ผมคงเลือกอาวุธหนักมากไม่ได้ ผมหยิบหอกขนาดกลางขึ้นมาเล่มหนึ่ง ตรงปลายมีใบมีดแบบดาบ 2 คม น่าจะเรียกว่าดาบด้ามยาวมากกว่าหอก น้ำหนักไม่มากเกิน ผมถือด้วยมือเดียวได้
ผมลองแกว่งด้วยมือเดียวดู
.......
ซึ่งถ้าจะสรุปผลที่ได้ง่ายๆคือ ห่วยบรม
คือ ผมก็รู้ตัวนะว่าไม่มีทักษะการต่อสู้ทั้งโลกจริงและในเกมประเภทฟูลไดว์ฟ แต่อย่างน้อยผมก็รู้ขีดความสามารถตัวเอง ไม่ต้องลองถือหอกพร้อมโล่ผมก็รู้ตัวแล้วว่าคงจะไม่ไหว
หอกหนักเกินไป สมดุลยากเกินไป ระยะโจมตียาวกว่าดาบก็จริง แต่ถ้าต้องถือโล่ด้วยนี่.... ตอนนี้ความสามารถผมยังด้อยเกินไป
ผมวางหอกลง เอาล่ะ...ในเมื่อหอกไม่ไหว งั้นลองดาบกับโล่ดูก็ได้
ผมเดินไปที่ชั้นวางดาบแล้วเริ่มเลือกดาบที่น่าจะเหมาะกับผม
“ไม่เลวนี่เจ้าหนู ตัดสินใจได้ฉลาดดี”
ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็มีคนพูดขึ้นจากด้านหลัง เมื่อหันกลับไปมองก็เจอนายทหารกำลังก้มมองผมอยู่
“เอ่อ ครับ” ผมตอบกลับอย่างชาญฉลาด
นายทหารเดินมาข้างๆผมแล้วหยิบดาบขึ้นมาเล่มหนึ่งแล้วพูดพลางพิจารณาดาบเล่มนั้น
“ในการเลือกอาวุธน่ะ ใช่ว่าจะใช้ของที่มีพลังทำลายสูงอย่างเดียวแล้วใช่ว่าจะดี ถ้าอาวุธดีแต่คนใช้ ใช้มันไม่ได้เรื่องมันก็เป็นได้แค่ของประดับเท่านั้น” พูดแล้วเขาก็หันมามองผม “นายน่ะ ตั้งใจจะใช้โล่ด้วยสินะ ฉันสังเกตเห็นตอนที่นายพยายามถือหอกด้วยมือข้างเดียว”
“เอ่อ ครับ แต่มันค่อนข้างใช้ลำบาก”
นายทหารพยักหน้า
“หอกกับโล่น่ะ เป็นอาวุธที่เข้าคู่กันได้ดี โล่ที่ป้องกันการโจมตีได้ กับหอกที่ระยะโจมตียาว” เขายื่นดาบในมือมาให้ ผมจึงรับมันมา “แต่มันไม่เหมาะกับนายในตอนนี้ ถ้านายเลือกที่จะใช้โล่ ฉันแนะนำว่านายใช้ของที่มีน้ำหนักไม่มากดีกว่า แล้วนอกการจากใช้โล่ป้องกัน สำหรับนายการหลบหลีกก็สำคัญเหมือนกัน จำไว้ให้ดีล่ะ”
พูดจบเขาก็เดินไปให้คำแนะนำคนอื่นๆต่อ
ในเมื่อผมได้รับคำแนะนำมาแบบนี้ ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร ดาบที่เขาให้มาก็กระชับมือดี เป็นดาบสองคมที่ใบดาบตรงปลายกว้างกว่าเล็กน้อย น่าจะเหมาะกับการฟันโดยใช้แรงเหวี่ยงช่วย
ผมจึงเดินไปเลือกโล่ที่จะจะใช้คู่กัน อืม...โล่ที่มีน้ำหนักเบารึ ถ้างั้นเอาแบบที่ไม่ใหญ่มากและบางหน่อยดีกว่า แล้วผมก็ได้ดาบกับโล่มา
ผมเดินตรงไปที่ลานฝึกซ้อม หลายๆคนสู้ได้ดีเหมือนกับมีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก เช่นเดียวกันบางคนไม่ว่าจะเข้าโจมตีกี่ครั้งก็โดนสวนกลับมาตลอด
ผมยืนอยู่หน้าแบทเทิลโดรนตัวหนึ่ง มันตั้งท่าพร้อมสู้ทันที ผมถือโล่ในมือซ้ายยื่นไปด้านหน้า มือขวาจับดาบไว้มั่น หัวใจผมเริ่มเต้นรัวขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ก่อนอื่นผมคิดว่าควรจะดูเชิงหรือหลอกล่อมันดูก่อนดีไหม แต่แบทเทิลโดรนก็ไม่ขยับเข้ามา ดูเหมือนมันถูกตั้งโปรแกรมให้หลบกับสวนกลับเท่านั้นจริงๆ ผมขยับไปด้านหน้า ลดโล่ในมือซ้ายลงแล้วเหวี่ยงดาบในมือขวาเข้าใส่
มันสไลด์หลบไปด้านหลัง ผมพุ่งตัวตามยื่นดาบไปด้านหน้าหวังจะแทง พริบตานั้นมันก็หวดแขนซ้ายลงมา ผมรีบยกโล่กันทันที มือของมันกระทบเข้ากับโล่ส่งแรงสะเทือนมาที่ผม แขนของมันกระดอนไปอีกทาง ผมดันโล่ไปด้านหน้าทั้งตัวกะจะพุ่งชนใส่มันให้ล้ม แต่มันกลับหมุนตัวแล้วใช้ไหล่ขวากระแทกสวนจนผมกระเด็น
ผมส่งเสียงร้องโอ้ยออกมาเมื่อล้มก้นจ้ำเบ้าเต็มๆ ดาบกระเด็นออกไป ส่วนโล่ติดอยู่กับแขนซ้ายก็ตีเข้ามาที่หน้าของผมอีก เจ็บชะมัด
จริงอย่างที่ไลดอนว่า ความเจ็บปวดมากกว่ามาตรฐานของเกมทั่วไป แต่ผมก็ไม่รู้สึกแย่อะไร ตอนนี้ผมกลับรู้สึกสนุกมากกว่า บอกไว้ก่อนนะผมไม่ใช่พวกมาโช
ผมลุกขึ้น เก็บดาบแล้วตั้งท่าสู้อีกครั้ง ต้องจำไว้อีกอย่างนึง ...แรงสู้มันไม่ได้ แถมดูๆไปแล้วเจ้านี่คงจะออมแรงให้ผมอยู่ด้วย
ถ้าจะเอาจริงๆ ผมควรจะสู้มันยังไงดี ในเมื่อเจ้าตัวนี้เป็นเหล็กทั้งตัว แรงก็แพ้มันอีก... ก็เหลืออยู่ 2 จุดงั้นสิ ผมจ้องไปที่หัวกับข้อต่อของมัน
ข้อต่อเล็กเกินไป ผมควรจะลองเล็งหัวของมันดู ว่าแต่เครื่องจักรมีจุดตายอยู่ที่หัวงั้นเหรอ? อันนี้ผมก็ไม่รู้แฮะ แต่ช่างมันเถอะ
ผมสไลด์ตัวไปด้านขวา พยายามโจมตีมันจากด้านข้าง แต่มันกลับถอยไปอีกด้านหนึ่ง หลบเก่งจริงนะ!
ผมย่อตัวลงถีบพื้นแล้วพุ่งเข้าใส่ จับดาบในมือขวาให้มั่นแล้วฟันใส่โดยเล็งไปที่หัว มันยกแขนซ้ายขึ้นกันแล้วพยายามจะชกผมด้วยมือขวา แต่โล่ของผมขวางมันไว้ได้ ผมสลัดดาบออก แขนซ้ายมันตกลงเมื่อไม่มีอะไรค้ำไว้ แล้วผมก็โจมตีซ้ำอีกครั้ง คราวนี้แหละ โดน!!
ใบดาบของผมกระทบเข้ากับส่วนหัวของมันจนเกิดประกายไฟ มันรีบกระโดดถอยหลังแล้วส่งเสียงวี้ๆออกมาเหมือนกำลังโกรธ แต่มันก็ทำแค่นั้นไมได้บุกสวนกลับมา
ผมล้มนั่งลงกับพื้น หอบหายใจอย่างหนักหน่วง รู้สึกดีที่โจมตีโดนครั้งหนึ่ง เหงื่อกาฬไหลออกมาท่วมตัวจนเปียกไปหมดจากการผ่อนคลายหลังความตึงเครียด ไม่รู้เลยว่าการสู้กันจะสนุกแบบนี้ เมื้อกี้ผมว่าผมทำได้ดี สีหน้าของเพลเยอร์คนอื่นๆที่มองมาก็ยิ้มและพยักหน้าให้ราวกับจะชมว่า ‘ทำได้ดีนี่’ ผมจึงยิ้มและพยักหน้าตอบกลับไป
“เฮ้ นายสู้ได้ไม่เลวเลยนี่ เมื่อกี้น่ะ”
ชายคนหนึ่งทักผม ไลดอน นั่นเอง
“ตื่นเต้นน่าดูครับ เหงื่อท่วมเลย”
“โฮ่ อาการแบบนี้ อย่าบอกนะว่านายเพิ่งเคยถืออาวุธสู้ครั้งแรกน่ะ?” เพื่อนไลดอนถามอย่างประหลาดใจ
“เอ่อ ใช่ครับ”
“ฮ่าๆๆ! ดูสิไลดอน เด็กมันสู้ครั้งแรกยังทำได้ดีกว่านายอีก ส่วนนายถูกต่อยกลิ้ง ฮ่าๆๆๆ!!”
“นายก็ไม่ต่างกันหรอกเฟ้ย ไม่ต้องมาพูดเลย” ไลดอนตบหลังเพื่อนของเขาดังป๊าบ ซึ่งยังหัวเราะร่วนไม่หยุด
“อ้อ ฉันไลดอน ยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนเจ้าบ้านี่ชื่อเฮกเตอร์”
“เฮ้ ว่าไง” เฮกเตอร์ทักผม
“เทร็กซ์ครับ” ผมตอบกลับไปสั้นๆ เพราะยังหอบหายใจอยู่
“ว่าแต่นายน่ะ เลือกอาวุธได้เข้าท่าเหมือนกันนะ ดาบกับโล่รึ ดูเข้ากับนายดี”
“อ้อ พอดีได้ยินพวกคุณคุยกันน่ะครับ ที่ว่าระดับความเจ็บสูงแล้วก็อย่าโดนอัด”
“ไม่ต้องสุภาพก็ได้ อ้องั้นเองรึ ถ้างั้นก็ดีใจที่ได้ช่วยนายแบบอ้อมๆ ว่าแต่นายมาเล่นเกมนี้คนเดียวรึ?”
“มากับเพื่อนสองคนน่ะครับ แต่ผมเข้าเกมมาก่อน”
“ก็บอกว่าไม่ต้องสุภาพก็ได้ไง” ไลดอนพูดเสียงบูด
“เอ้า พอก่อน!” จู่ๆนายทหารก็ตะเบ็งเสียง “พวกนายหลายๆคนน่าจะพอจับจุดได้แล้วว่าตัวเองถนัดหรือไม่ถนัดอะไร! ใครอยากฝึกซ้อมเพิ่มไว้ค่อยทำทีหลัง ตอนนี้ฉันให้เวลาพวกนายพักสิบนาที ต่อไปเราจะฝึกใช้อาวุธระยะไกลกัน!”
“อาวุธไกลว่ะเพื่อน จะไปรอดมั้ยนายน่ะ” เฮกเตอร์ล้อไลดอน
“ปากดี มาแข่งกันหน่อยเป็นไง”
“โฮะโฮ๊! ขอมาก็จัดให้ มาเลยๆ จริงสิ ไหนๆก็ไหนๆละ เพื่อเป็นการฉลองในการพบกันของพวกเรา นายมาแข่งกับพวกเราด้วยเลยสิ ใครแพ้เลี้ยงข้าวตกลงมะ?”
“ได้เสียเด้ มาเลย” ไลดอนรับคำท้าอย่างกระตือรือร้น
เฮ้ย แต่ตูยังไม่ได้ตอบรับเลยนะ ไอ้สองหน่อนี่
