บทที่4 หมายตา
การยื่นคำขาดของอาจารย์ ทำเอาลิซซี่สิ้นเรี่ยวแรงหล่อนออกอาการเซ็งสุดขีดมีก็แต่แอนนาที่ดีใจจนออกนอกหน้า
หลังกินอาหารกลางวันแล้วแอนนาถือโอกาสเป็นไกด์พาชาโดว์เที่ยวรอบๆโรงเรียนแบบเต็มใจสุดๆ โดยอ้างว่าอยากช่วยแบ่งเบาภาระเพื่อน
เหลือก็แต่ลิซซี่ที่ไม่เต็มใจเท่าไหร่
...ถ้าคุณไม่พาผมเที่ยวชมโรงเรียนผมจะรายงานอาจารย์มิเกลอยากลองมั้ยล่ะ...
แค่นึกถึงคำพูดของเขาก็แสนจะหงุดหงิด
"ไอ้บ้า ไอ้โรคจิตหนอยข่มขู่เรางั้นเหรอ&%$#@"
"บ่นอะไรงึมงำน่ะลิซซี่"
แอนนาหันมาถามเพื่อนรักที่กำลังขยำขยี้ดอกเข็มในมือ ที่เด็ดมาจากข้างสนามหญ้าของโรงเรียนอย่างกับแค้นกันมาสัก10ปีอย่างงั้นแหละ
"เปล่า หล่อนควงแฟนหล่อนเดินไปเหอะไม่ต้องสนใจฉันหรอก...โอ๊ะ!"
หล่อนอุทานออกมาเพราะเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อเช้าเธอกำลังจะเปิดจดหมายในโต๊ะมาอ่าน
"เป็นอะไรไปอีกล่ะลิซซี่"
"เอ่อเดินกันไปก่อนนะ...ฉันจะไปห้องน้ำ"
ลิซซี่พูดแค่นั้นก็วิ่งปรู๊ดไปหน้าตาเฉยทิ้งแอนนาให้ยืนมองตาปริบๆ
"ได้การสงสัยลิซซี่อยากเปิดโอกาสให้เราล่ะมั้ง...เอ่อชาโดว์เราไปนั่งที่สวนแล้วซื้อไอศครีมเย็นๆมาทานกันดีมั้ยคะ"
"เอ่อแอนนา..."
"ขา~า...ว้าว ชาโดว์เรียกชื่อฉันซะสนิทขนาดนี้เลยเหรอ"
"ผมไปห้องน้ำก่อนนะคุณไปรอผมที่ซุ้มขายไอศครีมก่อนก็แล้วกัน"
พูดจบชาโดว์ก็วิ่งหายไปเช่นกันทิ้งให้แอนนาได้แต่ยืนอึ้ง เป็นครั้งที่2
"โธ่ไปซะแล้ว...ฮือ~ฮือ "
ลิซซี่วิ่งกลับไปที่โต๊ะควานหาจดหมายไปทั่ว ก็เล่นใส่ทุกอย่างไว้ในนั้นนี่นะ จะเจอง่ายๆได้ยังไง และแล้วเธอก็เจอของที่หา
"เจอแล้ว!...เจอแล้ว!"
ลิซซี่ดีใจกระโดดโลดเต้นเป็นการใหญ่แต่ก่อนที่เธอจะได้แกะจดหมายในมือมาอ่านก็มีอีกมือมาดึงจดหมายออกจากมือเธอเสียก่อน
"ชาโดว์!...จะทำอะไรน่ะเอาคืนมานะ!"
ลิซซี่กระโดดเหยงๆพยายามแย่งคืนแต่เขาตัวสูงกว่าเธอ
"เดี๋ยวก่อน....แหมไม่นึกไม่ฝันว่าหน้าตาบ้านๆอย่างเธอยังอุตส่าห์มีคนส่งจดหมายรักมาให้อีกนะเนี่ย"
"หุบปากไปเลยไม่ใช่เรื่องของนายเอาคืนมาเดี๋ยวนี้!"
"ไม่มีทางฉันไม่ให้เธอได้อ่านมันหรอก"
"อ๊ะ!...อย่านะ!..ไม่!"
เสียงห้ามของลิซซี่ไม่เป็นผลชาโดว์ลงมือฉีกจดหมายเป็นชิ้นๆต่อหน้าต่อตาเธอ
เพี๊ยะ!
ลิซซี่บันดาลโทสะตบเขาอย่างจังเสียงตบดังมิใช่น้อยหล่อนตบไปเสียแรง แต่แทนที่เขาจะโกรธ เขากลับแสดงสีหน้าเรียบเฉย และเขาไม่สนน้ำตาของลิซซี่ที่คลออยู่ที่เบ้าตาจนตาแดงก่ำ
"แอนนาคอยผมอยู่ที่ร้านไอศครีมจะมาก็ได้นะ"
ลิซซี่ไม่ตอบอะไรเธอนั่งร้องไห้เก็บเศษกระดาษที่พื้น คืนนั้นเธอนั่งต่อจดหมายอยู่ทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอนแต่เมื่อได้อ่านข้อความข้างในก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
"อา...เสร็จเเล้วจดหมายรักฉบับแรกในชีวิต เอ๋?จากรุ่นพี่เจสันนี่ กรี๊ด นี่ไม่ใช่ความฝันใช่มั้ย พรุ่งนี้งั้นเหรอว้าวฝันที่เป็นจริง"
ลิซซี่รอเวลานัดอย่างใจจดใจจ่อ หล่อนรีบรุดไปที่จุดหมายในทันทีที่ได้ยินเสียงระฆังบอกเวลาพักกลางวัน
"เฮอะเตือนแล้วก็ไม่ฟัง"
ชาโดว์บ่นเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นท่าทางกระดี้กระด้าของลิซซี่ คุมงเคียวบิปรากฎกายเป็นภาพอันเลือนลางเบื้องหลังชาโดว์ มีเพียงชาโดว์เท่านั้นที่มองเห็นร่างของเขา
"นายน้อยจะจัดการยังไงขอรับ..."
"ก็คงต้องช่วยอย่างงั้นล่ะนะ ไม่นึกว่ามันดันหมายตาลูกสาวหมอนั่นซะได้ โลกกลมจริงๆแถมไอ้เจ้านั่นก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ซะด้วยมันฆ่าคนมาเยอะแล้ว"
"งั้นข้าจะตามไปห่างๆนะขอรับ..."
"อย่าดีกว่ากลิ่นอายอสูรของนายแรงเกินไปมันจะรู้ตัวก่อนฉันจะตามไปเอง"
"ขอรับ..."
คุมงเคียวบิรับคำก่อนจะเลือนหายไปจากที่นั้น โดยปกติเขาจะซ่อนตัวอยู่ในอีกมิติที่ทับซ้อนกับโลกมนุษย์และจะปรากฏตัวเมื่อชาโดว์เรียกเขาเท่านั้น
ลิซซี่เข้าไปรอรุ่นพี่เจสันในเรือนเพาะชำ เวลาพักกลางวันมักไม่ค่อยมีใครเดินเข้ามาแถวนี้จึงเป็นสถานที่เหมาะในการนัดพบกัน
"อลิสา..."
"อ๊ะ!...รุ่นพี่จดหมายนี่...รุ่นพี่มีอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ..."
"ให้ผมเรียกคุณว่าลิซซี่เหมือนที่เพื่อนคุณเรียกจะได้ไหม..."
สีหน้าของลิซซี่แดงเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อเห็นเจสันยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน หัวใจเธอเบาหวิวราวขนนก
"ด ได้ค่ะ...จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ หรือว่ารุ่นพี่แอบชอบเราแหง"
"ขอบคุณสำหรับผ้าเช็ดหน้านะครับตั้งแต่งานปฐมนิเทศน์ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ผมหยุดคิดถึงคุณไม่ได้เลย"
"จ...จริงหรือคะ ...ว้ายนี่ นี่ฉันจะมีแฟนจริงๆแล้วใช่มั้ยเนี่ย.. "
"จริงสิผมจะโกหกคุณทำไมล่ะ..."
เจสันพูดไปด้วยก็เดินเข้าไกล้เธอทุกทีทุกที
หัวใจลิซซี่เต้นตูมตามจนแทบระเบิดรู้ตัวอีกทีก็ถอยหลังไปชนกำแพงเรือนเพาะชำเสียแล้วเขาใช้แขนทั้งสองข้างยันที่กำแพงด้านหลังของลิซซี่แล้วโน้มตัวมาหาเธอ
ตัวเธออยู่ในอ้อมแขนเขาพอดิบพอดี ลิซซี่รู้สึกเขินจนทำอะไรไม่ถูกที่ห็นหน้าของเขาอยู่ไกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน
"จ...จะทำอะไรคะรุ่นพี่ "
ลิซซี่กล่าวเสียงตื่นเต้น ในขณะที่เจสันขยับริมฝีปากเข้ามาหา พร้อมที่จะจูบเธอ เขากระซิบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอใจสั่น
ชักอยากจะเคี้ยวเธอซะแล้วสิกลิ่นบริสุทธิ์ของเธอมันช่าง..."
"เฮ้! เฮ้!อายผีสางเทวดาซะมั่งสินี่มันกลางวันแสกๆนะ"
เสียงทักดังมาจากประตูทางเข้าเรือนเพาะชำทำให้เจสันหยุดไว้เเค่นั้น เขาหันกลับไปมองเจ้าของเสียงทันควัน
"แกเป็นใครข้าได้กลิ่นแปลกๆจากตัวแก..."
"เป็นใครไม่สำคัญแต่ปล่อยแฟนผมมาดีกว่านะ"
"จะบ้าเรอะชาโดว์!ฉันไม่ใช่แฟนนายซะหน่อยอย่ามามั่วนิ่มนะ!"
ลิซซี่โวยวายใหญ่เธอไม่อยากให้เจสันเข้าใจผิด ชาโดว์ได้แต่ขยี้หัวตัวเองอย่างสุดเซ็ง
"ยัยบ้าเอ้ย!ไม่เข้าใจสถานการณ์เลยหรือไงนะเอาเป็นว่าคืนแม่ปากกรรไกรนั่นมาให้ผมดีกว่า"
"ไม่! ลิซซี่ไม่ชอบแก! แกไปซะ!"
'หวายศึกชิงนางไม่น่าเชื่อเลยแฮะนี่เราสวยขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย...'
ลิซซี่แอบดีใจเล็กๆที่กลายเป็นคนสำคัญของหนุ่มหล่อ2คน ที่พยายามแย่งตัวเธอ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถึงแม้หนึ่งในสองจะปากเสียไปหน่อยก็เถอะ
แต่ก่อนที่สถานการณ์จะตึงเครียดไปมากกว่านี้ ก็มีนักเรียนหลายคนเดินเข้ามาเสียก่อน เจสันหันไปมองนักเรียนหลายคนที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
"ชิ! ฤกษ์ไม่ดีซะแล้ว คนเยอะเกินไปแล้วคราวหน้าค่อยมาคิดบัญชีกันใหม่"
"รีบมาเร็วๆล่ะไอ้หื่นกาม! แบร่"
ชาโดว์แลบลิ้นปลิ้นตาใส่เจสันด้วยท่าทียียวนกวนประสาทเจสันแสดงสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปแต่โดยดี แต่ลิซซี่ดูท่าทางจะหงุดหงิดกว่า
"อีตาบ้า!นายทำอะไรของนายน่ะ อิจฉาล่ะสิที่คนอย่างฉันมีคนมาชอบน่ะ"
เฮอะ!ทำคุณบูชาโทษแท้ๆเลย คนอุตส่าห์ช่วยไม่ให้เป็นอาหารมื้อกลางวันของไอ้บ้ากามนั่นแท้ๆ"
"อะไร?...นายพูดอะไรหมายความว่าไง?"
"จะบอกอะไรให้ ถ้าไม่อยากถูกกินทั้งร่างกายและวิญญาณล่ะก็อยู่ห่างๆหมอนั่นเอาไว้"
ชาโดว์พูดจบก็เดินจากไปเฉยๆทิ้งให้ลิซซี่ได้แต่ยืนงง
ห้องของลิซซี่ บ้านจตุรเทวฤทธิ์.....
"เฮ้อ...วันนี้มันวุ่นวายซะจริ๊ง..."
ลิซซี่บ่นกับตัวเองเธออาบน้ำเสร็จกำลังเตรียมตัวเข้านอน แต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อกลางวันหน้าก็พลันแดงก่ำ
"โอไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ย ว่าสาวน้อยน่ารักอย่างเราจะเสน่ห์แรงถึงเพียงนี้มีผู้ชาย2คนมาแย่งเรา แถมคนนึงยังเป็นรุ่นพี่ที่เราแอบชอบซะด้วย ส่วนนายปากปลาร้านั่นชิ้วๆไปให้ไกลๆเลย ใครจะไปสนกันล่ะ"
ลิซซี่ล้มตัวลงนอนแล้วหยิบหมอนข้างมากอดอย่างแนบแน่น
"ใช่ๆอย่าไปนึกถึงเรื่องน่าโมโหนึกถึงเรื่องรุ่นพี่ดีกว่า...เมื่อกลางวันพวกเราเกือบจะ...ว้าย"
ลิซซี่นึกถึงเรื่องที่เกือบจะจุมพิตกับเจสันเมื่อตอนกลางวันหน้าก็ยิ่งแดงก่ำรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวราวกับเป็นไข้
หล่อนลุกพรวดขึ้นนั่งแล้วใช้มือทั้งสองข้างจับแก้มที่ร้อนผ่าวพร้อมกับส่ายหน้าเป็นการใหญ่ดูท่าคงจะนอนไม่หลับซะแล้ว
"ไม่นะ!...ไม่นะลบ..ลบ..ลบออกไปให้หมดฉันเป็นกุลสตรีนะยะคิดเรื่องน่าเกลียดได้ไงเนี่ย ..ฮ้าว..ว เอ๋!?ทำไมอยู่ดีๆถึง...ง่วงจั...งเลย..ย"
หล่อนรู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้งจนแทบลืมตาไม่ขึ้นรู้สึกอ่อนแรงกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุเพียงไม่กี่นาทีเธอก็ล้มตัวลงบนเตียงนอนและหลับไปทั้งอย่างนั้นราวกับต้องมนต์สะกด
...ลิซ...ซ...ซี่...ลิซซี่...
เสียงอันน่าสะพรึงกลัวของอมนุษย์ดังมาจากทางหน้าต่างมันเรียกชื่อเธอด้วยเสียงที่ฟังดูน่าขนลุกหล่อนได้ยินเสียงนั้นแต่ลุกไม่ไหว
"ใคร?...ใครเรียกฉัน..."
ร่างที่คล้ายกับอสรพิษกำลังเลื้อยเข้ามาทางหน้าต่างผิวของมันเรียบลื่นสีเทาอมน้ำเงินไม่มีเกร็ด
มันใช้ขนาดอันมหึมาของมันพันรอบๆตัวลิซซี่อย่างนุ่มนวลเธอไร้เรี่ยวแรงดิ้นรนนัยตาสีเขียวเหลือบเหลืองของมันจ้องมองลิซซี่ด้วยความรู้สึกกระหาย
"สวยเหลือเกินวิญญาณอันบริสุทธิ์เปี่ยมด้วยพลัง..."
"สวยน่ะสวยอยู่แต่ปากกรรไกรไปนิดกินมันจะไม่อร่อยนะไอ้บ้ากาม..."
คำพูดปากกล้ากับน้ำเสียงประชดประชันมิใช่ใครอื่นชาโดว์นั่นเอง เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างหน้าต่างตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่เขาเห็นพฤติกรรมชวนขยะแขยงแล้วหมั่นไส้
"แกอีกแล้วไปให้พ้น! เด็กสาวนี่เป็นเหยื่อของข้าข้าไม่แบ่งให้ใคร"
"ถึงอยากแบ่งก็ขอผ่านล่ะ แถมข้าวด้วยกระสอบนึงยังไม่เอาเลย นี่อุตส่าห์หวังดีไม่อยากให้ท้องเสียเพราะหม่ำผู้หญิงปากกรรไกรเข้าไปนะเนี่...อ้าว!?..เฮ้ย!"
โครม~มมม!!!!
อสูรกายสะบัดหางฟาดชาโดว์อย่างไม่ลังเลก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคด้วยซ้ำ ชาโดว์ใช้ความว่องไวหลบพ้นรัศมีการทำลาย โต๊ะเก้าอี้พังกระจายตามแรงหวด
ชาโดว์รีบหันกลับไปมองอสูรกาย แต่มันหายไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ร่องรอยเมือกไว้เป็นทาง ชาโดว์รีบกระโดดออกทางหน้าต่างแล้ววิ่งตามไปทันที
"คุมงเคียวบิ!"
"ขอรับนายน้อย..."
อสูรจิ้งจอกขาวปรากฏตัวทันทีที่เขาเรียก เขาวิ่งตามมาข้างๆชาโดว์
"เจ้านั่นมันตัวอะไร..."
"บุตรของอดัมกับลีลิธขอรับ.."
"ปีศาจฝันสินะ...แย่ล่ะคุมงเคียวบิ!เจ้ารวดเร็วกว่าตามมันไปอย่าให้คลาดสายตาเร็วเข้า!"
คุมงเคียวบิพยักหน้ารับคำแล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้าน เขากระโดดข้ามไปหลังเเล้วหลังเล่าอย่างรวดเร็วปานสายลม
