บทที่5 อินคิวปัส
"อ...อืม...อา..."
ลิซซี่เริ่มรู้สึกตัวเธอรู้สึกคอแห้งและวิงเวียน หล่อนพยายามมองไปรอบๆและแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ห้องของเธอ
"ที่นี่มันที่ใหนกัน นี่เรากำลังฝันไปหรือเปล่า..."
ลิซซี่พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่มีกระจกรอบเมื่อมองออกไปเธอเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯยามค่ำคืนในมุมสูง
เธอเดินไปที่กระจกแล้วมองออกไปข้างนอก จึงพบว่าเธอไม่ได้อยู่ในบ้านทั่วไปแต่เป็นอาคารสูง
คอนโดฯ...น่าจะราวๆชั้นที่ 30-40ได้มั้ง..."
"ตื่นแล้วเหรอ..."
เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลังทำให้ลิซซี่ตกใจ เธอรีบหันกลับไปมอง
"รุ่นพี่...เจสัน?"
เขายิ้มและมองหล่อนด้วยท่าทีที่แปลกกว่าทุกที ลิซซี่เริ่มไม่แน่ใจว่าเธอยังรู้จักเขาอยู่หรือไม่
"เอ่อฉัน...คือพี่มาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ"
อ้าว!ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็นี่มันคอนโดพี่นี่..."
"คอนโดพี่!?... เอ๋..หวายแล้วฉันมาได้ไงเนี่ย? "
ท่าทางเปิ่นของลิซซี่ทำให้เจสันหัวเราะ
"แล้วไม่ชอบที่นี่เหรอ"
"ชอบค่ะ...เอ้ยไม่ใช่ คือฉันไม่รู้ว่ามาที่นี่ได้ยังไง แต่ฉันต้องกลับแล้วล่ะค่ะ"
"กลับ!?ทั้งชุดนอนนี่นะ"
คำพูดของเจสันทำให้หล่อนฉุกคิด เธอก้มลงสำรวจตัวเองแล้วพบว่าอยู่ในชุดนอนอย่างที่เขาพูดจริงๆ แต่เสื้อของเธอเปื้อนของเหลวบางอย่าง"
"เมือก!?อี๋...อะไรเนี่ย? เอ๋?!หรือว่าเรากับรุ่นพี่ ทำ...ไม่จริงมั้งไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยนี่นา อ่า...พี่คะ...คือ"
"ทำไมเหรอลิซซี่..."
"โอ๊ะ!"
ลิซซี่ตกใจกับท่าทีของเจสันเขาเริ่มจู่โจมด้วยการโอบเอวเธอแล้วดึงเข้ามาไกล้ตัว ลิซซี่พยายามใช้แขนทั้งสองข้างดันตัวเขาออกแต่เขาก็แข็งแรงเหลือเกิน
"อย่าค่ะพี่จะทำอะไรน่ะ"
"เป็นของฉันนะลิซซี่ฉันจะทำให้เธอมีความสุข"
เจสันมองลิซซี่ด้วยสายตาท่าทีเคลิบเคลิ้ม คราวนี้เธอเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใดดวงตาสีเขียวเหลือบเหลืองแวววาวแก้วตาดำเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานช่างน่าสยดสยอง
"ไม่!!!"
ลิซซี่ร้องตะโกนลั่นเธอใช้เล็บทั้ง10จิกลงบนใบหน้าของเขาแล้วข่วนจนเป็นแผลลึก เจสันผลักเธอลงไปบนเตียงนอนอย่างแรงด้วยความโกรธ
"บัดซบ! แกเป็นคนแรกที่ไม่ต้องมนต์สะกดของข้าทำไม!"
"พี่เจสันพูดเรื่องอะไรคะ นี่มันเรื่องอะไรกัน!"
ท่าทางเจสันดูน่ากลัวเขาตวาดลิซซี่อย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับเดินเข้าหาเธอ ลิซซี่มองผิวภายใต้บาดแผลที่เธอข่วนไปเมื่อครู่อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
มันไม่ใช่สีแดงดั่งเช่นมนุษย์ทั่วไปแต่เป็นสีเทาอมน้ำเงินที่ดูน่ากลัว
"คุณพระช่วย!"
ลิซซี่รีบกระโดดลงจากเตียงนอนแล้วคว้าโคมไฟหัวเตียงมาถือเอาไว้เพื่อป้องกันตัวทันที
"คิดจะทำอะไรหือ!?ลิซซี่"
"อ...อย่าเข้ามานะ!"
เธอตะคอกใส่เขาแล้วรีบถอยออกมาให้ห่าง แต่ทว่าหล่อนก็สะดุดกับอะไรบางอย่างที่พื้นจนล้มลง เลือดสีแดงสดไหลซึมลงไปในพรมจนเปียกชุ่ม กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งลอยปะจมูก
ลิซซี่เดินถอยไปสะดุดร่างเด็กสาวคนหนึ่งที่นอนเเน่นิ่งอยู่ข้างโซฟา
"ร...รุ่นพี่อเล็กซิสโอ...ไม่!"
ลิซซี่จดจำใบหน้านั้นได้ เธอคืออเล็กซิสประธานชมรมเชียร์และเป็นแฟนของเจสัน ใบหน้าหล่อนไร้สีเลือดนัยตาเบิกโพลง
"พี่ฆ่าอเล็กซิส! ทำแบบนี้ทำไม!"
"ร่างกายและวิญญาณที่แปดเปื้อนมลทินไม่ใช่สิ่งที่ข้าปรารถนาแต่ไม่เหมือนกับเจ้า เจ้ามีสิ่งที่ข้าต้องการวิญญาณที่บริสุทธิ์ไม่แปดเปื้อนมลทินมาสิ...ลิซซี่ในโลกนี้นอกจากข้าไม่มีใครมองเห็นความงามที่แท้จริงของเจ้าหรอก..."
ตึง!!เพล้ง!!
โคมไฟในมือของลิซซี่ปลิวเข้าใส่หน้าเจสันอย่างจังจนแตกละเอียด ดูเหมือนคำพูดของเจสันจะแทงใจดำเธออยู่ไม่น้อย
"ปากเสียตาถั่ว ใครบอกไม่มีใครมองเห็นกันยะมีแต่คนชมว่าฉันออกจะสวย คนอย่างลิซซี่ไม่ยอมให้ไอ้โรคจิตอย่างแกได้แอ้มหรอก"
"แก ตลอดหลายพันปีไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธข้า ข้าอุตส่าห์ใจดีกับแกแล้วนะ"
ร่างของเจสันเริ่มเปลี่ยนไป ขาทั้งสองข้างของเขากำลังกลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับหางงูขนาดยักษ์ไม่มีเกร็ด ผิวของมัน มันวาวและเป็นสีเทาอมน้ำเงิน
เจสันเลื้อยพุ่งเข้าจู่โจมลิซซี่ที่กำลังวิ่งหนีไปที่ประตู
"กรี๊ด!!"
"มาให้ข้าขย้ำซะดีๆ..."
เจสันประกาศลั่นแต่ทว่า
"ข้าน้อย...คงให้ทำแบบนั้นไม่ได้ขอรับ..."
เสียงสุขุมเยือกเย็นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของคุมงเคียวบิ เขามาทันเวลาพอดี อสูรจิ้งจอกอุ้มลิซซี่กระโดดหลบการจู่โจมของเจสันแบบเฉียดฉิว ร่างครึ่งอสรพิษของเจสันกระแทกเข้ากับแพงจนทะลุเป็นโพรง
เจสันหันกลับมามองคุมงเคียวบิอย่างใจเย็น
"ปีศาจจิ้งจอก? เจ้านี่เองกลิ่นแปลกๆที่ข้ารู้สึกได้จากฮาร์ฟบลัดในตอนนั้น มันเป็นสมุนของเจ้าสินะ เจ้าอยากได้แม่นี่ล่ะสิ"
"หามิได้ขอรับเขาคือนายน้อยของข้า...และข้ามีหน้าที่ต้องปกป้องสาวน้อยคนนี้..."
คุมงเคียวบิตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ลิซซี่ซึ่งไม่เข้าใจในเนื้อหาของบทสนทนาเลยสักนิดเธอได้แต่ตกใจ แต่ที่แน่ๆเธอจำคุมงเคียวบิได้ตั้งแต่ที่เห็นเขาบนรถไฟเมื่อวันหลายวันก่อนเธอจึงกอดเขาไว้แน่น
"ฮึ.ฮึ.ฮึ...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันมุกตลกอะไรกันอสูรที่ยิ่งใหญ่ขนาดทำให้มนุษย์หวาดหวั่นไปทั่วตั้งแต่อินเดีย จีน จนถึงแผ่นดินญี่ปุ่นมาตลอด500ปี กลับมารับใช้เด็กน้อยฮาร์ฟบลัดงั้นเรอะ"
'คุมงเคียวบิ ปีศาจจิ้งจอก อสูรกายนี่มันฝันร้ายชัดๆถ้านี่เป็นความฝันก็ตื่นซักทีซิลิซซี่เอ้ย..'
หล่อนบอกตัวเองในใจว่านี่เป็นความฝันถึงมันจะเหมือนจริงไปหน่อยก็ตาม
"ส่งนังนั่นมาให้ข้า ข้าจะกินวิญญาณมันส่วนเลือดเนื้อข้ายกให้เจ้า"
"ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้ นายน้อยของข้าคงไม่พอใจแน่"
'ลัคกี้รอดเเล้วเรา...'
ลิซซี่แอบดีใจเล็กๆ แต่คงเร็วไปหน่อยประตูหน้าห้องถูกเปิดออกผู้คนเดินหลั่งไหลกันเข้ามาราว30-40คน ห้องกว้างกลับดูแคบไปถนัดตา
สายตาของพวกเขาดูเหม่อลอยพวกเขาเดินเข้ามาล้อมคุมงเคียวบิกับลิซซี่เอาไว้ เจสันชี้นิ้วมาทางลิซซี่เขาแสยะยิ้ม
"ไปเอาผู้หญิงคนนั้นมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!"
สิ้นเสียงสั่งทุกคนต่างกรูกันเข้ามารุมพวกเขาทั้งคู่ มือของคุมงเคียวบิไม่ว่าง เพราะลิซซี่อยู่ในอ้อมแขน เขาได้แต่ใช้เท้าขวางการเข้ามารุมทึ้งของคนพวกนั้นอย่างยากลำบาก เจสันมองท่าทีลำบากใจที่ต้องสู้กับมนุษย์ของคุมงเคียวบิแล้วยิ้ม
"เจ้าจะทำยังไงถ้าไม่ฆ่ามนุษย์! น่าขำนี่ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของเจ้าไม่ใช่เหรอแสดงตัวตนที่เป็นปีศาจร้ายของแกออกมาสิ!"
คนที่ถูกมนต์สะกดต่างเข้ามารุมทึ้งทั้งสองไม่หยุด ลิซซี่กรีดร้องด้วยความกลัวระคนกับความเจ็บที่ถูกดึงผม คุมงเคียวบิพยายามสลัดให้หลุดแต่พวกนั้นก็ยังกรูกันเข้ามาอีก ลิซซี่ไม่อยากเป็นภาระให้เขาอีกเธอรู้ว่าเจสันต้องการแต่ตัวเธอเท่านั้น
"ปล่อยฉันลงเถอะแล้วหนีไป..."
"ไม่ขอรับข้าน้อยรับคำสั่งมาแล้วยังไงก็จะช่วยคุณหนูขอรับ"
ลิซซี่เกือบจะท้อเสียแล้วแต่เธอเห็นความตั้งใจของคุมงเคียวบิมันทำให้เธอต้องยิ่งเข้มแข็ง
วิชาถนัดของคุมงเคียวบิคือวิชากงล้อเพลิงหากเขาใช้ไฟปีศาจของเขามนุษย์ทุกคนในห้องนี้รวมทั้งเจสันคงไหม้เป็นจุล
เหมือนที่เขาทำเมื่อหลายร้อยปีก่อน เขาใช้มันเผาผลาญเมืองแล้วเมืองเล่าที่เขาผ่านไป ผู้คนมากมายต้องล้มตายภายใต้เปลวเพลิงทมิฬที่ไร้ปราณี แต่ทว่าเขาก็ได้พบคนที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป
"ใช้ไฟไม่ได้เด็ดขาดไม่งั้นคนพวกนี้..."
ใจเขาไม่มีสมาธิเสียแล้ว เขาถูกพันธนาการไปด้วยคลื่นมนุษย์ที่ถาโถมเข้าใส่จนในที่สุดลิซซี่ถูกดึงตัวแยกจากคุมงเคียวบิ
"ไม่~ม...ช่วยด้วย!"
ลิซซี่กรีดร้องด้วยความตื่นตกใจเธอยื่นมือออกไปพยายามที่จะจับมือของคุมงเคียวบิ ซึ่งพยายามจะคว้าตัวเธอ แต่เขาก็โดนคลื่นมนุษย์รุมล้อมจับจนแน่นจนแทบขยับตัวไม่ได้
เจสันฉวยโอกาสนี้ใช้หางมหึมาฟาดเข้าที่ลำตัวของคุมงเคียวบิเข้าเต็มรัก มนุษย์ที่รุมจับเขาอยู่นั้นโดนลูกหลงไปด้วยจนขาดเป็นชิ้นๆร่างของจิ้งจอกขาวกระเด็นกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนทะลุไปอีก3ห้อง
"อั่ก...ไอ้เจ้าบ้านั่น..."
"คุมงเคียวบิคลางต่ำๆในลำคอ ก่อนจะชันกายลุกขึ้นยืน การกระทำของเจสันมันทำให้เขาฉุนขาด เขากำลังเดินกลับไปหาเจสันแต่ทว่ามนุษย์ที่อยู่ภายใต้มนต์สะกดกำลังเดินกลับเข้ามาหาเขาอย่างไม่ขาดสาย
'...ข้าขอสาบานต่อท่านนับแต่นี้ ตราบที่ท่านยังเชื่อมั่นในตัวข้าตราบนั้นข้าจะขอปกป้องมนุษย์ด้วยพลังทั้งหมดที่ข้ามี..'
คำสัญญายังคงดังก้องอยู่ในหัวเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานเขาขมวดคิ้วหลับตาแน่น เสียงกัดฟันดังกรอด เขากำลังตัดสินใจ
"ข้าทำไม่ได้...จะผิดสัญญางั้นรึ ถ้าไม่ทำผู้หญิงคนนั้นคง..."
คุมงเคียวบิเรียกพลังเพลิงมาไว้ในมือแต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรลงไปก็มีเงาของคนที่เขาคุ้นเคยพุ่งเข้ามาขวางระหว่างเขากับสมุนของเจสันเสียก่อน
"มัวเล่นอะไรอยู่ล่ะ คุมงเคียวบิ..."
"น...นายน้อย"
ชาโดว์ยืนแยกขาเล็กน้อยก่อนที่จะกัดนิ้วแล้วใช้เลือดเขียนอักขระในอากาศแสงจากอักขระเริ่มส่องสว่าง
"...ข้าคือผู้นำสารแห่งสวรรค์ด้วยเลือดแห่งพันธะสัญญาต่อเหล่าทวยเทพข้าขออัญเชิญ'ควีนเมียฟ'เทพพิทักษ์ฝัน ขอพลังแห่งท่านจงปกป้องเล่าลูกแกะที่หลงทางในความมืดมิด..."
แสงจากอักขระส่องสว่างเจิดจ้า บังเกิดร่างเรืองแสงคล้ายเทพธิดาใจกลางแสงนั้น ผู้คนที่ต้องมนต์สะกดต่างร้องทรมาณด้วยความเจ็บปวด
"...จงปัดเป่าสู่แสงสว่างณ.บัดนี้!..."
สิ้นเสียงเอ่ยโครงมนตรา เกิดแสงสีรุ้งส่องสว่างเงาสีดำทะมึนถูกผลักออกจากร่างผู้ต้องมนสะกดแล้วพลันสลายไปในบัดดล คนทั้งหมดนอนสลบไสลราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
ชาโดว์หันกลับมามองคู่หูแล้วยิ้ม
"คุมงเคียวบิไม่ใช่ว่านายจะเก่งคนเดียวหรอกนะ ถ้ากำลังลำบากหัดเรียกข้าบ้างสิ"
นายน้อย...เอ่อก็นายน้อยมาช้านี่ขอรับข้าจะเรียกได้ไงล่ะขอรับ..."
" ...เจ้านี่หัดซึ้งใจเวลาคนอื่นมาช่วยบ้างได้มั้ยเนี่ย..."
ชาโดว์บ่นอุบอิบ อุเหม่ก็คนอุตส่าห์ยืนเก็กหน้าเท่ ทำเสียอารมณ์ซะงั้น
"เอาล่ะหมดหน้าที่เจ้าแล้วจงพามนุษย์ทั้งหมดออกจากอาคารนี่ซะ"
"แต่นายน้อยผู้หญิงคนนั้น..."
"เดี๋ยวข้าจะไปตะบันหน้าไอ้บ้ากามนั่นเองเจ้าไปได้แล้ว"
ทางด้านเจสันเขาสั่งให้ลูกสมุนมัดลิซซี่ไว้กับเตียงนอนตอนนี้เหลือเพียงเขากับเธอแค่สองคน เจสันกลับสู่ร่างมนุษย์เขาขยับร่างเปลือยเปล่าขึ้นไปบนเตียงนอนแล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อของลิซซี่ออก
"ไม่นะ!..ไอ้บ้ากาม ไอ้ซาดิสม์ ไอ้ทุเรศไอ้#@$%& ฯลฯ "
ลิซซี่สบถคำด่าสารพัดไม่หยุดปากทำเอาเจสันประสาทเสีย
"โว้ยหยุด! ปากกรรไกรอย่างที่เจ้านั่นมันพูดจริงๆแฮะ ไม่เอาแล้วโว้ยยย!กินวิญญาณมันเลยแล้วกัน!"
เจสันบีบคางลิซซี่ให้อ้าปากเตรียมจะสูบวิญญาณให้หมดตัว แต่เขารู้สึกได้ถึงเงาร่างที่ลอยอยู่เหนือหัว
เขารีบหันกลับไปดูแต่ก็ต้องพบกับประกายสีขาววาววับของดาบยาว ซึ่งมาพร้อมกับความรู้สึกถึงคมดาบเย็นเฉียบแทงลงบนหน้าผาก ดาบทะลุผ่านกระโหลกศรีษะจนออกทางด้านหลัง เจสันสะบัดท่อนแขนหวดร่างผู้เข้าจู่โจมจนกระเด็น
"อะ..อ้าก!..กรอด.!...แก!"
เจสันกัดกรามแน่นเขาค่อยๆดึงดาบออกจากหัว ดาบนั้นละลายกลายเป็นเนยเหลว เขากำลังโมโหจัด ชาโดว์ลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากตัวเล็กน้อยแล้วแสดงสีหน้าท่าทางกวนประสาทแบบไม่กลัวเกรงเลย
"เป็นไงล่ะบอกแล้วอย่ากินของซี้ซั้ว..."
"แก!..ตายซะ!"
เจสันตวาดออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด ร่างเขากำลังเปลี่ยนไป ปีกค้างคาวสีดำสนิทกำลังงอกออกมาจากกลางหลังร่างท่อนล่างเปลี่ยนเป็นหางของงูยักษ์ผิวมันเลื่อม
ชาโดว์มองแผลที่หน้าผากของเจสันกำลังหายอย่างรวดเร็วแล้วบ่นเสียงหงุดหงิด
"ตายยากจริงนะไอ้ตัวน่าเกลียด"
"ข้าอินคิวปัส ไม่เคยคิดจะกินวิญญาณของผู้ชายมาก่อนแต่ข้าจะกินแกเป็นกรณีพิเศษ และเนื้อหนังของแกจะมาเป็นร่างใหม่ของข้า ไหนๆร่างนี้ก็กำลังจะหมดอายุการใช้งานแล้วนี่ หลังจากกินแกแล้วค่อยจัดการของหวานบนเตียงนี่"
"เฮอะ..ถ้าอยากได้ก็ต้องออกแรงกันหน่อย แต่ดูท่าแกจะไม่ได้กินของหวานแล้วว่ะ"
"ว่าไงนะ!?"
เจสันหันกลับไปมองลิซซี่หล่อนไม่ได้อยู่ที่เตียงเชือกถูกตัดขาดด้วยมีดซัด 2เล่ม ที่ชาโดว์ขว้างออกไปตอนที่จู่โจมเจสันและตอนนี้เธอกำลังวิ่งไปที่ลิฟท์ คราวนี้คงไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความโกรธของเจสันได้อีกแล้ว
"แกต้องชดใช้ ฮาร์ฟบลัด!"
