Chapter3
[Chapter3]
ณ.คอนโดมิ้นท์
คอนโดชานเมืองห่างไกลความศิวิไลซ์ โชคดีที่มีรถไฟฟ้าวิ่งถึง ทำให้การเช่าที่นี่ไม่ลำบากนัก มิ้นท์ยังคิดเรื่องในความฝัน เธอจำเรื่องราวได้ดีรวมไปถึงสีหน้าและน้ำเสียงผู้หญิงคนนั้นด้วย
"เป็นอะไรแก เดินเหม่อมาเชียว" น้ำตาลเพื่อนสนิทคนเดียวของมิ้นท์เอ่ยทัก เพราะเห็นว่าอีกไม่กี่ก้าวเพื่อนรักก็จะเดินชนโต๊ะแล้ว
"มันแปลกๆ วะแก" มิ้นท์ทำท่าพูดไปคิดไป ทำเอาน้ำตาลอยากรู้ไปด้วย
"แปลกยังไงวะ"
"ไม่รู้ซิ วันนี้ฉันเจอแต่เรื่องแปลกๆ คนแปลกๆ แล้วก็ฝันแปลกๆ "
"ที่ว่าแปลกเนี่ย มันยังไง"
"ไม่รู้วะ แต่โคตรไม่ชอบ"
มิ้นท์ไขว้ไหล่แสดงออกว่าไม่สบอารมณ์นัก น้ำตาลรู้นิสัยเพื่อนดีว่าต่อให้เค้นความจริงยังไง ถ้ามิ้นท์ไม่อยากจะเล่าเธอก็ไม่เล่า สู้อยู่เงียบๆ คอยรับฟังปัญหาเพื่อนจะดีกว่า
"แกคงเหนื่อยแหล่ะ ทำงานทั้งวันแถมยังโดนใช้ไปทำนอกเหนืองานอีกก็ยิ่งเหนื่อย" น้ำตาลพูดปลอบ
"อืม... ก็จริง นี่แกรู้ไหมว่าไอ้งานด่วนที่ฉันเล่าให้ฟังอะ ฉันไปเจออะไรมาบ้าง" พอเห็นน้ำตาลไม่ถาม มิ้นท์ก็เลยเล่าเอง เล่าละเอียดยิบจนเห็นภาพโดยเฉพาะช่วงบะลักอักอุกกันมิ้นท์เล่าติดตลกจนเห็นภาพกว่าตอนไหน แถมน้ำตาลเป็นคนทะลึ่งนิดๆ ยิ่งเมาท์กันสนุกปาก
"โห่! หล่อแต่โรคจิตก็ไม่ไหวนะ ขนาดมีคนโผล่หน้าไปยังไม่มียางอายเลยหรอ" น้ำตาลวิจารณ์ตามคิด
"นั่นดิ! แถมแม่นั้นยังขู่แง่มๆ ทำยังกับฉันจะไปแย่งกระดูกนาง" มิ้นท์พูด
"แล้วตาบอสนั่นจ้องแกไหมล่ะ ดูจะเคลมแกไหม"
"บ้าน่า... ลูกค้าไหม เขาก็แค่ให้ฉันไปส่งของ"
"ตลกล่ะ แกคิดจริงดิ! ว่าแค่ส่งเอกสาร กระดาษเปล่าป่ะเหอะ"
"ช่างคิด! นิสัยคนรวยก็งี้แหล่ะแก อยากจะจิกหัวใช้ฉันมากกว่า" พอนึกถึงบอสหนุ่มมิ้นท์ก็เหวี่ยงเสียงหงุดหงิด
"ปลงเถอะ คิดซะว่าถ้าเขาโรคจิตจริงแกก็ได้บุญนะ ถือว่าช่วยเขาไป"
น้ำตาลพยายามพูดเบรกอารมณ์เพื่อนเพราะเห็นมิ้นท์เล่าออกรส แต่กลับไม่มีท่าทีรังเกียจ จากประสบการณ์ที่เปลี่ยนแฟนมาเดือนละคน น้ำตาลก็พอเดาได้ว่าความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจมิ้นท์แล้ว
"ทั้งที่ลูกค้าแกน่ารังเกียจขนาดนี้ แต่พูดเรื่องเขาไม่หยุดเลยน่าาาา" น้ำตาลลากเสียงล้อ
"เปล่าสักหน่อย! ฉันก็แค่เล่าให้แกฟัง ช่างเหอะ! ไปอาบน้ำดีกว่า" มิ้นท์สะบัดเสียงแล้วเดินเข้าห้องไปทันที น้ำตาลมองตามจนประตูห้องเกือบปิดลง เธอหันกลับมองแป้นพิมพ์ที่ยังทำงานค้างไว้ไม่ถึงเสี้ยวนาทีเธอได้ยินเสียงเดินลากเท้าผ่านไป น้ำตาลเหลือบมองตามจนเห็นแผ่นหลังไวๆ เดินเข้าห้อง
"ตาฝาดหรอวะ" น้ำตาลคิดแค่นั้นแล้วก็กลับมาตั้งใจทำงานต่อ
ขณะที่ด้านนอกน้ำตาลยังปั่นงานจนดึกส่วนมิ้นท์อาบน้ำเสร็จนั่งทาครีมอยู่หน้ากระจก เธอจดจ้องภาพสะท้อนตรงหน้า ทอดสายตาเหม่อลอยนั่งนิ่งหายใจแผ่วแต่มุมปากค่อยๆ ยกยิ้มพอใจ
ปลายนิ้วลูบไล้ครีมกลิ่นหอมลงช่วงแขน แม้ดวงตายังเหม่อลอยแต่ใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เธอนวดครีมลงหลังมือ ลากผ่านไปจนถึงช่วงท้องแบนรายและลากสูงมานวดคลึงสองเต้าอวบ จากนุ่มนวลแผ่วเบาปลายนิ้วค่อยลากวนจากส่วนฐานไปจนถึงปลายยอด แน่นหนักขึ้นจนผิวเหนือเริ่มแดงก่ำ บีบเคล้นส่วนยอดยกจนเม็ดแข็งแดงเป็นจ้ำ
"แกไม่ช่วยฉันก็ได้ แต่ร่างกายแกฉันขอนะ" เสียงยะเยือกพูดพร้อมลากมือสำรวจร่างกายส่วนอื่นคล้ายอยากให้ร่างกายนี้รับรู้ว่าเธอเคยเจออะไรมาบ้าง
ร่างนั่งชันเข่าอ้ากว้างบนโซฟานุ่ม ชุดคลุมหลุดลุ่ยจนแทบไม่เหลือปิดกาย ส่วนสงวนเผยกลีบอวบชมพูฉ่ำ สองมือจิกเกร็งขนานลำตัวเชิดหน้าอ้าปากกว้างครางอื้อสุขสม เอวคอดเด้งร่อนถี่ กระแทกบั้นท้ายลงเบาะนิ่มเด้าอากาศเร้า ฝ่ามือบางเกร็งกำหากันจนเล็บจิกลงเนื้อ ดวงตาปิดสนิทมีริ้วน้ำใสเอ่อหางตา
‘ฮะ.. ฮ่ะ.. อืมม ฮื้ออ’ เสียงครางกระเส่าดังเล็ดรอดออกจากห้อง น้ำตาลได้ยินแล้วแปลกใจเพราะปกติเพื่อนสาวไม่เป็นแบบนี้
"ทำอะไรวะ หรือว่ามันจะ..." น้ำตาลคิดตามเสียงที่ได้ยิน เพราะเสียงครางระงมแบบนี้ไม่น่าใช่กิจกรรมอย่างอื่นแน่ น้ำตาลทำตาลุกวาวความอยากรู้อยากเห็นน่าสนใจกว่างานตรงหน้าแล้ว
"ไอ้มิ้นท์มันร้องไห้หรือช่วยตัวเองอยู่วะ ทำไมทำเสียงแปลกๆ " เพราะเสียงที่น้ำตาลได้ยินคือเสียงครางสลับกับเสียงร้องไห้ เธอคิดเอาเองว่าเพื่อนน่าจะนอนละเมอ แต่พอจะผละเดินออกเสียงก็ยิ่งดังขึ้นๆ จนเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้
มือบางผลักประตูเข้าไปช้าๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือร่างโยกตัวถี่ของมิ้นท์ เธอหลับตาสนิท เนื้อตัวเกร็งสั่น อ้าปากครางโหยหวนไม่เป็นตัวเอง น้ำตาลทำอะไรไม่ถูก เธอยืนอึกอักไม่กล้าขัดจังหวะแต่ก็สงสัยว่าเพื่อนเป็นอะไรกันแน่
'ก็อกๆ ก็อกๆ '
น้ำตาลตัดสินใจเคาะมือลงประตูห้อง เพราะอย่างน้อยก็อยากให้เพื่อนรู้ตัวก่อนตัวเองจะเดินเข้าไป มิ้นท์ยังคงอยู่ท่าเดิมจากที่เด้งเร้าๆ เริ่มชักกระตุกคล้ายคนชัก
"มิ้นท์! มิ้น! แกเป็นอะไร ตื่นๆ " น้ำตาลรีบปรี่ไปปลุกเพื่อน เขย่าเต็มแรงแต่มิ้นท์ก็ยังไม่ตื่น
"ละเมอหรอแก ตื่นซิตื่น! " น้ำตาลตะโกนเรียกเสียงดัง จากเขย่ามือเริ่มทุบแรงขึ้นๆ คว้าฝ่ามือที่เกร็งแข็งของมิ้นท์มาจับไว้
"เป็นอะไรวะเนี่ย" น้ำตาลพยายามแกะมือที่เกร็งอยู่ของเพื่อนออก สีหน้าเธอยิ่งวิตกกังวลกว่าเก่าเพราะตอนนี้ฝ่ามือมิ้นท์ถูกเล็บจิกจนเลือดซึม
น้ำตาลทำอะไรไม่ถูกคิดว่ามิ้นท์คงเป็นลมชักหรือป่วยอะไรสักอย่าง เธอตัดสินใจจะโทรหาพ่อแม่มิ้นท์ รีบวิ่งไปคว้าโทรศัพท์แต่ก็ปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ เธอรีบคว้ามือของมิ้นท์ขึ้นมาปลดล็อก แม้ทุลักทุเลอยู่มากแต่ก็เข้าใช้งานจนได้
'ฟรึ่บ! ' ภาพหน้าจอสว่างวาบฉายให้เห็นว่ามิ้นท์ตั้งรูปพ่อแม่ไว้หน้าจอหลัก น้ำตาลรีบคว้าโทรศัพท์ตั้งใจจะกดโทรออกแต่อยู่ๆ ร่างมิ้นท์ก็หยุดสั่นแล้วลืมตา
"อะไรหรอแก" มิ้นท์ถามเสียงงั่วเงีย
"ไอ้มิ้นท์แกเป็นอะไร ฉันตกใจหมด" น้ำตาลเห็นเพื่อนตื่นก็รีบชักถามทันที
"คือ... แล้วฉันเป็นอะไรอะ"
มิ้นท์ถามกลับงงๆ ดวงตาปรือกระพริบถี่คล้ายเพิ่งปรับโฟกัสได้ เธอเริ่มเห็นสภาพอล่างฉ่างของตัวเอง รีบกระชับชุดคลุมปิดส่วนสงวนทันทีแล้วเบี่ยงหน้ามองนาฬิกาฝ่าพนัง
"เมื่อกี้แกหลับหรอ" น้ำตาลถามแบบกล้าๆ กลัวๆ
"ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แล้วก็ทาครีม.." ตั้งแต่เข้าห้องมามิ้นท์ก็ทิ้งตัวหลับ พักสายตาไปตื่นหนึ่งแล้วค่อยลุกมาอาบน้ำเป็นไปไม่ได้เลยว่าเมื่อกี้จะเผลอหลับไป เพราะตอนออกจากห้องน้ำมันตอนสิบนาทีที่แล้วนี่เอง
"ยังไงคืนนี้แกนอนห้องฉันไหม" น้ำตาลเห็นเพื่อนหน้าซีดก็เดาได้ว่าเพื่อนต้องมีเรื่องในใจแน่ บวกกับตอนแรกที่เธอเห็นอะไรแปลกๆ จึงชวนย้ายไปนอนด้วยกันอีกห้อง
สองสาวต่างเงียบใส่กันแต่รับรู้ถึงความผิดปกติได้ดีโดยเฉพาะมิ้นท์เธอรู้สึกถึงเมือกหนึบหนับกลางลำตัว แถมในปากยังมีรสคาวน่าสะอิดสะเอียนติดอยู่ น้ำตาลเห็นเพื่อนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็เลยชวนคุย
"เมื่อกี้แกครางดังมากเลยอะ ฉันตกใจหมดเลย"
"ครางยังไงวะ"
"ก็ครางไงแก ครางแบบผู้หญิงโดนเอาอะ"
"ก็เชี่ยล่ะ! ฉันไม่ได้ทำงั้นซะหน่อย"
"เออๆ เพื่อนกันจะอายอะไรวะ ฉันไม่ล้อแกหรอก"
"ก็บอกว่าไม่ได้ทำไง"
เถียงกันไปเถียงกันมามิ้นท์ก็เริ่มจะร้องไห้จริง เธอเสียงเครือดวงตาสั่นระริก ลมหายใจหอบถี่เถียงเพื่อนเสียงแข็ง
"ถ้าคิดว่าช่วยตัวเองมันจะสบายใจกว่านะ" น้ำตาลเบือนหน้ามองทางอื่น พูดลอยๆ คล้ายอยากให้เพื่อนเชื่อแบบนั้น
"ฉันไม่เคยทำแบบนั้นนี่ จะให้คิดแบบนั้นได้ยังไง"
มิ้นท์เสียงเจื่อน ผ่านร้อนผ่านฝนมายี่สิบกว่าปีแล้ว วันๆ ทำแต่งานจะให้เอาเวลาตอนไหนไปสนใจเรื่องพวกนั้น แถมนิสัยเรียบร้อยอย่างมิ้นท์จะเผลอครางดังขนาดนั้นได้ยังไง
"ไม่เคยก็เคยซะ เผื่อแกจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น" น้ำตาลพูดพร้อมลุกไปปิดไฟ เธอไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ ความกลัวระคนความสงสัย ทำให้น้ำตาลอยากคว้าโอกาสนี้เอาไว้
ห้องมืดสนิทมีร่างของสองสาวนั่งพิงหัวเตียง น้ำตาลชันตัวคร่อมร่างมิ้นท์ไว้ เธอช้อนใบหน้าลงต่ำ สบตานิดหนึ่งก่อนประกบริมฝีปากจูบ สองกลีบนุ่มทาบทับสัมผัสกัน มิ้นท์ได้แต่นิ่งรับไม่ได้ตอบสนองแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
จูบเงอะงะดำเนินต่อไป ชุดคลุมผ้ามันถูกคล้ายปมเชือกเผยสัดส่วนกลมกลึงผิวเนื้อเนียนนุ่มที่ดูแลรักษามาอย่างดี น้ำตาลจูบริมฝีปากแสนหวานจนหนำใจแล้วค่อยย้ายซุกไซ้ซอกคอขาว ฝ่ามือลูบไล้ไหล่บางลากผ่านแผ่นหลังแล้วแวะลูบเล่นแถวสีข้าง
มิ้นท์สั่นสะท้านสองแขนกอดตอบอัตโนมัติ เชิดหน้าเฉยซอกคอให้ได้จูบซับง่ายดาย น้ำตาลลากมือขึ้นมาคลึงสองเต้าอวบ มิ้นท์สะดุ้งตามไม่ใช่เพราะรู้สึกเสียวแต่กลับเจ็บจี๊ดคล้ายถูกทำร้ายมา
"เจ็บหรอแก" น้ำตาลเอ่ยถามเพราะดูออกว่าทำเพื่อนเจ็บ
‘อืมม..’ มิ้นท์เพียงครางตอบ น้ำตาลเริ่มลังเลเพราะกลัวจะทำครั้งแรกเสียบรรยากาศ เธอตัดสินใจเอื้อมไปเปิดไฟหัวเตียงทันที
"แกจะทำอะไรน่ะ" มิ้นท์ตกใจถาม ก็แหม่! เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยังเป็นแค่เพื่อนกันอยู่เลย แล้วดูซิตอนนี้มาทำอะไรกัน
"ไม่ต้องอายแก ถ้าอายฉันถอดเป็นเพื่อนเอาไหม" น้ำตาลไม่รอคำตอบ จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองจนหมดทำให้เห็นเห็นสัดส่วนไซส์เอสเอสที่แบนราบจนแทบไม่ต่างจากกระดาน
"โห่! แดงมากเลยแก มา! เดี๋ยวฉันทำแผลให้" กลีบปากสีหวานที่เพิ่งพูดเอาใจโผล่เข้ามาบดจูบอีกรอบแต่คราวนี้รุกเร้าจนมิ้นท์ยอมจูบตอบ เมื่อรสหวานของโพรงปากอุ่นขยับเย้าจนพอใจ น้ำตาลก็เริ่มยื่นลิ้นสากสอดเข้าไปสะกิดเร้าให้ได้เกี่ยวพันกัน ฝ่ามือลูบไล้ทำงานตามรสจูบ น้ำตาลจับเรียวขากางแยก รูปมือลงก้นกลมซ้ายขวาลากปลายนิ้วเล่นปัดป่ายเฉียดใกล้เนินกลางตัวแต่ยังไม่แวะไปทักทาย
"หืมม! แฉะเลยนะแก" น้ำเกรอะกังตามง่ามขาประจานว่าเมื่อกี้มิ้นท์เล่นเสียวมาแค่ไหน สายตาเจ้าเล่ห์ของน้ำตาลจ้องลึกนัยน์ตาเพื่อนสาว จากที่ตกตะลึงเริ่มเอียงอายแล้วเบี่ยงหนีมองทางอื่น เพียงแค่นี้ก็พอให้น้ำตาลได้ใจทำต่อ
วงแขนสวมกอดเอวคอด ใช้ลำตัวกดทับให้เรียวขากางแยกไว้แบบนั้น ริมฝีปากปรี่เข้าจูบปลายยอดดูดุนลงลิ้นสากสะกิดไตแข็งซ้ำๆ ก่อนจะเลียจนทั่วทั้งเต้า แรงดูดหนักหน่วงตามใจรู้สึก มิ้นท์เริ่มครางหวานดิ้นตัวหนีความเสียวที่เรียวลิ้นมอบให้ ลมหายใจอุ่นปลอบประโลมรอยแผลให้รู้สึกดีขึ้น ตอนนี้มิ้นท์ไม่เจ็บอีกแล้วมีแต่จะเสียวจนทำตัวไม่ถูก
"ฉันใส่นะ"
ฝ่ามือบางวางกระชับเนินกลางตัว นิ้วเรียวออกแรงนวดคลึงจนสองกลีบค่อยๆ บานออก เมือกฉ่ำไหลเยิ้มเต็มฝ่ามือ น้ำตาลเอ่ยถามก่อนจะสอดนิ้วเข้าโพรงอุ่นร้อน มิ้นท์พยักหน้าแทนคำตอบ เธอเสียวจนไม่เป็นตัวเองแล้ว หลับตาแน่นได้แต่กลั้นเสียงครางรอรับรสแปลกใหม่ที่ไม่เคยมาก่อน
นิ้วกลางสะกิดยั่วเม็ดติ่งกลางตัว มิ้นท์เริ่มโยกร่างส่ายร่อนราวไม่อยากให้นิ้วนั้นหายไป น้ำตาลแทงสวนสุดความยาวกระแทกเน้นๆ ใช้อีกมือช่วยขยี้ติ่งเนื้อ ‘อืมม...’ ไม่นานร่างไม่ประสารสกามก็กระตุก เธอหอบพร่าในขณะที่นิ้วซุกซนยังแทงถี่
"ทำได้แค่นี้เองหรอ ฉันอยากได้มากกว่านี้"
