บทที่ 1

ย้อนกลับไปเมื่อสามปีที่แล้ว อินอรตั้งครรภ์และครอบครัวผู้ชายคนนั้นก็ตราหน้าว่าเธอปล่อยตัวเองให้ท้องเพื่อจับผู้ชาย แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นคนที่กำลังมีอนาคตไปได้ดีอย่าง เอกณัฐ คุณาธรรมคุณ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพฯ

อินอรในตอนนั้นกล้าเดินเข้ามาบอกความจริงกับเอกณัฐเพราะเชื่อใจว่าผู้ชายที่ส่งเสียเลี้ยงดูเธอในฐานะนางบำเรอจะเข้าใจ เพราะเอกณัฐรู้จักพื้นเพทั้งชีวิตและครอบครัวของเธอดี ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ต้องมาขายเรือนร่างแลกเงินทองของเขา

แต่เมื่อผู้ชายที่เลี้ยงดูเธอมาเป็นเวลาร่วมปีรู้ว่าเธอมีลูกกับเขา ตัวชายหนุ่มเองพูดออกมาเลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเอกณัฐจบความสัมพันธ์กับอินอรมาเกือบสองเดือนแล้ว

ใช่…ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เอกณัฐให้เงินเธอหนึ่งก้อนเพื่อยุติสถานะนางบำเรอ เพราะเขาต้องการให้ชีวิตและอนาคตของเขาขาวสะอาดไร้มลทินใด ๆ

ชายหนุ่มไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้ว่า ว่าที่ส.ส.หนุ่มอนาคตไกลจะเลี้ยงเด็กนักศึกษาไว้ในปกครอง เอกณัฐไม่ต้องการให้อินอรมาเป็นจุดแปดเปื้อนใด ๆ ในชีวิตเขา เอกณัฐไม่ได้พูดออกมาแต่อินอรรู้ว่าเขาคิดเช่นนั้น

และเมื่อรู้ว่าเธอท้อง เอกณัฐไม่ได้ปฏิเสธในทันที แต่เขาเลือกที่จะวางเฉยปล่อยให้มารดาของเขาจัดการทุกอย่าง

อินอรจำได้ว่าเขาหันไปบอกมารดาของเขาด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ ว่าที่ผ่านมาเอกณัฐดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เขาไม่ปล่อยให้ใครมาทำลายอนาคตที่กำลังรุ่งโรจน์ของเขาอย่างแน่นอน

แม้อินอรจะไม่เข้าใจโลกของคนพวกนี้มากนัก แต่เธอก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่เข้าใจว่าเอกณัฐกำลังพูดถึงอะไร และมันหมายถึงอะไร

ต่อให้อินอรรักหรือเทิดทูนบูชาเขามากกว่านี้...เอกณัฐก็ไม่มีวันแยแสทั้งเธอและลูก

หรืออีกนัยหนึ่งเอกณัฐกำลังบอกเธอว่าเขาไม่มีวันปล่อยให้เธอและลูกมาทำลายชีวิตเขา…

อินอรอยู่กับเอกณัฐในช่วงที่เขากำลังจะก้าวไปเป็นส.ส.แบบเต็มตัว เขาทุ่มเทแทบทั้งหมดของชีวิตเพื่อเดินไปเส้นทางนั้น

เขาทั้งบอกและชี้ให้เธอมองเห็นว่าจุดสูงสุดที่ตัวเขาเองต้องการจะยืนว่ามันคือจุดไหน...มันสูงกว่าที่เธอคิดฝันไว้แค่ไหน และเธอไม่มีวันไปถึงที่นั่น เธอไม่มีวันยืนเคียงข้างเขาได้ นั่นคือกฎเหล็กระหว่างความสัมพันธ์ของเรา

อินอรเข้าใจมาโดยตลอดและยิ่งเข้าใจในวันที่เลิกรากัน เขาไม่เคยมองเธอด้วยความรู้สึกอื่นใด เธอเป็นเพียงสิ่งของที่เขาซื้อมาหาความสุขก็เท่านั้น

แน่นอนว่าเราเลิกกันด้วยดี แต่ที่ติดท้องเธอมาคือลูกของเอกณัฐ อินอรไม่ได้ปล่อยตัวเองท้องเพื่อจับและทำลายชีวิตเขา เธอรู้ว่าเขาต้องการไปให้ไกลกว่านี้ ชีวิตทั้งชีวิตจะมาพังเพราะเธอไม่ได้

ข้อนั้นอินอรรู้ดีแต่เธอท้องแล้ว ท้องลูกของเขา และเขาก็ปฏิเสธเธออย่างเลือดเย็น

เอกณัฐปักใจเชื่อว่าอินอรตั้งใจจะใช้ลูกมาผูกมัดเขาไว้ เขารู้ดีว่าเธอรักเขา แม้อินอรจะไม่อยากจบแต่เธอก็ต้องจบ เพราะเอกณัฐต้องการจบ หญิงสาวจึงเอาคืนเขาด้วยวิธีสิ้นคิดแบบนี้

ครอบครัวของเขาปฏิเสธที่จะรับผิดชอบผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงินอย่างเธอ แถมยังบอกว่าอินอรได้จากเอกณัฐไปเยอะแล้ว

ไม่ว่าป้าที่ผู้ปกครองเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่จะร้องแรกแหกกระเชอที่กลางห้องรับแขกคฤหาสน์คุณาธรรมคุณดังแค่ไหน พวกเขาก็ไม่ยอมรับและไล่เธอกับป้าให้กลับออกไป

เมื่อคุณาธรรมคุณไม่ยอมรับ ป้าของเธอจึงยังยืนยันจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด ทั้งเรียกเงินเลี้ยงดู ทั้งให้ยินยอมจดทะเบียนรับเธอเป็นภรรยา และถ้าเขายังไม่ยอมรับหรือรับผิดชอบอีก ป้าของเธอจะเอาเรื่องนี้ไปบอกสื่อ

สื่อ...เป็นสิ่งที่เอกณัฐทั้งรักทั้งเกลียดและข้อนั้นอินอรก็รู้ดี นี่คือจุดอ่อนของเขา เพราะการที่ได้อยู่ด้วยกันเธอซึมซับทั้งความรักความเกลียดต่อสิ่งนี้มาจากเอกณัฐแทบทั้งหมด

ในจุดนั้นอินอรเหมือนกับเซฟโซนของเอกณัฐ ที่ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรเธอก็จะไม่มีวันเอาไปพูดต่อ

อินอรเคยคิดว่าตัวเองสำคัญที่เอกณัฐมักจะเอาเรื่องอะไร ๆ มาพูดกับเธอ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพราะเธอไร้ค่าเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกไปแล้วจะมีคนเชื่อ นักศึกษาที่ขายร่างกายแลกเงินใครมันจะไปเชื่อคำพูดเธอกัน

ตั้งแต่วันที่อินอรไปบอกเอกณัฐว่าตั้งท้องกับเขา ทุกอย่างยิ่งเลวร้ายลงเรื่อย ๆ และเลวร้ายอย่างที่สุดเมื่อวันที่ผล DNA จากโรงพยาบาลออกมาผลปรากฏว่า เด็กในท้องไม่ใช่ลูกเอกณัฐ…

อินอรมั่นใจว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา เพราะทั้งชีวิตเธอมีเขาเพียงคนเดียว ไม่ว่าจุดเริ่มต้นของเรามันจะเลวร้ายอย่างไร เขาไปเก็บเธอมาจากที่ไหน เขาเลี้ยงดูเธอด้วยอะไร แต่เด็กในท้องคือลูกของเขา ลูกของเอกณัฐ รักแรกและรักเดียวของเธอ

แต่เมื่อผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกออกมาปรากฏว่ามันมีบางอย่างผิดพลาด เด็กในท้องของอินอรไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขคุณาธรรมคุณ

อินอรจำได้ว่าตัวเองกรีดร้องคุกเข่าอ้อนวอนผู้ชายคนนั้นให้เชื่อในสิ่งที่เธอพูดมากแค่ไหน แต่เขาไม่เชื่อและไล่เธอออกไปจากชีวิต 

อินอรบอกกับเขาว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาด เขาไม่รู้จักนิสัยมารดาของเขาหรือไง ปรากฏว่าเขาสะบัดมือใส่แขนเธอ และไล่ให้เธอกับลูกจะไปตายที่ไหนก็ไป

เอกณัฐยังคงยืนยันจนวินาทีสุดท้ายที่อยู่ในโรงพยาบาลว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของเขา ลูกของเขาจะไม่มีวันเกิดกับผู้หญิงอย่างเธอ และผล DNA ก็ยืนยันความจริงทุกอย่างแล้ว 

เอกณัฐบอกว่าเธอสวมเขาให้เขา เอกณัฐบอกว่าเธอมีผู้ชายคนอื่น...อินอรล้มทั้งยืน หัวใจปริแตกคล้ายว่าแหลกสลายไปหมดแล้ว

เธอจำสายตาเกลียดชังของครอบครัวคุณาธรรมคุณได้เป็นอย่างดี จำความรู้สึกเจ็บปวดในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี จำได้ว่าเธอเองทำให้ป้าที่เป็นผู้มีพระคุณของเธออับอายแค่ไหน

ท่านขอตัดขาดจากเธอ อินอรต้องกลายเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร ไร้ที่พึ่งพิง ไร้ที่ซุกหัวนอน เท่านั้นยังไม่พอตัวแทนของคุณาธรรมคุณคือนพคุณเข้ามาพร้อมกับข้อเสนอดี ๆ และบีบบังคับให้เธอรับมันไว้

อินอรต้องรับในสิ่งที่คนใจร้ายพวกนี้หยิบยื่นให้เพื่อตัดจบทุกอย่าง นพคุณนัดวันและโรงพยาบาลให้เสร็จสรรพ

‘ผมขอให้คุณโชคดี เริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากนี้…อย่ากลับมายุ่งกับคุณเอกอีก’

คนพวกนั้นคงลืมไปว่าสิ่งที่พวกเขาไม่มีแต่เธอมีมันคือ ‘ความเป็นคน’

และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมารดาของเอกณัฐถึงได้ตามมาพูดคุยกับเธอถึงที่นี่...เพราะคนพวกนั้นไม่คิดว่าเธอจะยังเก็บเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณาธรรมคุณเอาไว้