4 - เข้าใจ
04
เข้าใจ
ปัง! ปัง! ปัง!
“ไอ้บี! เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ไอ้บีได้ยินไหมวะ ฉันบอกให้เปิดประตู”
เสียงตึงตังโวยวายดังสะท้อนเข้ามาขัดขวางภาพฝันแสนหวาน จากใบหน้าที่ยิ้มพริ้มยินดีก็บิดเบี้ยวยู่ยี่เมื่อเสียงน่ารำคาญแทรกรบกวนเวลานอนที่มีน้อยนิดเต็มทน
ฉันเปิดเปลือกตาขึ้น พลิกตัวหันไปยังประตูห้องนอนที่เป็นต้นเสียงพวกนั้น ตั้งใจว่าจะปล่อยเฉยเลยผ่าน แต่ก็ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะยิ่งกระหน่ำแรงเร่งจังหวะให้รัวเร็วมากยิ่งขึ้น
ปัง! ปัง! ปัง!
“ไอ้บี ฉันบอกให้เปิดประตูไงวะ ถ้าแกไม่เปิดฉันจะพังเข้าไปเดี๋ยวนี้”
ไอ้มารยาททราม...คำคำเดียวที่วนเวียนอัดแน่นอยู่ในหัวสมองและปากของฉันตอนนี้
ฉันผุดตัวลุกจากเตียงด้วยความหงุดหงิด เดินไปเปิดประตูกระชากมันออกก็เห็น ‘เอเดน’ พี่ชายฝาแฝดที่กำลังง้างแขนเตรียมทุบประตู
“มีอะไร!” น้ำเสียงรำคาญหงุดหงิดแผดลั่น ไม่ว่าจะเป็นสายตาหรือสีหน้าก็บ่งบอกชัดเจนว่าฉันกำลังไม่พอใจ
“ภาพพวกนี้มันคืออะไร เฮ้ย! แล้วหน้าแกไปโดนอะไรมา”
โทรศัพท์เปิดภาพที่ถูกแพร่สะพัดในกลุ่มของมหา’ลัย แต่ประเด็นนั้นก็ถูกปัดตกไปเมื่อสายตาคมเห็นเข้ากับรอยแดงช้ำบนใบหน้าของฉัน
มือใหญ่ยกขึ้นจับประคองทันที มันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงที่ฉันสัมผัสได้ หากแต่ฉันกลับเลือกที่จะปัดมือนั้นทิ้งและพูดถึงประเด็นที่เอเดนสงสัย
“ใช้เน็ตค่ายไหนไปเปลี่ยนซะนะ ข่าวมันแพร่ไปถึงไหนต่อไหนละ” ฉันกอดอกพลางกลอกตาไปมา ข่าวพวกนี้มันเป็นกระแสตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว ขนาดแม่ที่ไม่ค่อยสนใจลูกอย่างฉันยังรู้เรื่องไวกว่าพี่ชายที่เล่นมือถือยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย
แย่มาก ใช้ไม่ได้
“หน้าแกไปโดนอะไรมาบี ตอบฉัน” เอเดนยังถามต่อ สีหน้าของเขาหนักแน่นและดุดันมากจนฉันไม่รู้จะเปลี่ยนประเด็นเบี่ยงความสนใจยังไง
“แม่ตบ”
“มันต้องขนาดนี้เลยเหรอวะ ยายปีศาจนั่นแม่งทำเกินไปละ อย่างน้อยก็ลูกทั้งคน!”
‘ยายปีศาจ’ คือฉายาที่เราสองพี่น้องใช้เรียกแม่ตัวเอง คิดชื่อนี้จากรูปลักษณ์และอุปนิสัยโดยเฉพาะ หวยก็เลยมาออกที่ชื่อนี้เพราะเหมาะสมมากที่สุด
เอเดนถอนหายใจเฮือกระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่าน แน่นอนว่าความเดือดดาลตอนนี้ก็เป็นเพราะเรื่องรอยตบที่หน้าของฉันนี่แหละ
“เขาเคยเห็นฉันเป็นลูกที่ไหนล่ะ แต่ก็เข้าใจนะ...ฉันทำให้ที่บ้านอับอายเสียหายขนาดนั้น แกเห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่าชาวเน็ตแม่งขุดลึกขนาดไหน ป่านนี้สืบไปถึงรุ่นทวดแล้วมั้ง”
จากข่าวเสียหายของตัวฉันเองแท้ ๆ แต่พอมันเป็นกระแสใหญ่โตก็กลายเป็นว่าครอบครัวของฉันถูกขุดประวัติเกือบทั้งหมด จากลูกคุณหนูเหลวไหลก็เริ่มลามไปยันเพื่อนสนิทและพี่อย่างเอเดน แล้วก็เลยเถิดไปถึงแม่และธุรกิจที่บ้านที่ต้องพลอยโดนด่าไปด้วย
ไม่แปลกหรอกที่ฉันจะโดนตบหน้าช้ำแบบนี้ ฉันเข้าใจ
“เข้าใจก็เหี้ยละ! ถึงแกจะทำผิดแค่ไหนแต่ก็ไม่เห็นต้องทำร้ายกันป้ะวะ นี่อย่าบอกนะที่แกโดนตบเพราะแค่ภาพพวกนี้อะ?” ว่าแล้วก็เปิดภาพในกลุ่มของมหา’ลัยขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็ใช่สิ ฉันไม่ได้มีปัญหาอื่นนอกจากอันนี้ แค่อันเดียวก็ปวดประสาทจะแย่ละ” ฉันเดินกลับเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวนอนคว่ำลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยหน่าย
ตื่นมาดันเจอกับข่าวตัวเองก็อยากกลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง หรือไม่ก็ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาอีกเลย...
“แล้วแกรู้ไหมว่าใครมันปล่อย แม่งเอ๊ย...กูจะฟ้องให้หมด จะฟ้องให้ล้มละลายทั้งโคตรเหง้าเลยไอ้สัส!”
“ฟ้องแล้วจะทำให้คนลืมเรื่องนี้หรือไง ปล่อยไว้นั่นแหละเดี๋ยวข่าวมันก็ซา” เสียงอู้อี้ดังแทรกออกมาเนื่องจากฉันซบอิงใบหน้าแนบกับหมอนนุ่ม พยายามข่มตาหลับแต่สติก็ตื่นเต็มที่และได้ยินคำพูดของเอเดนชัดเจนทุกอย่าง
“มันไม่ใช่เรื่องจริงก็ต้องฟ้องดิวะ! ไอ้บีแกลุกขึ้นมาเลย ลุกเดี๋ยวนี้!”
“ฮื่อ! อะไรของแกเนี่ย น่ารำคาญ! แกรู้ได้ไงว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ภาพมันก็ฟ้องทนโท่”
ภาพถ่ายแม่งก็ชัดเจนมาก ชัดชนิดที่ว่าฉันยังงงว่าคนถ่ายมันแอบอยู่ตรงไหน แถมท่าทางและอิริยาบถก็ช่างเป็นใจ ท่าจับบุหรี่อย่างเซียน ท่านอนอย่างเมา ท่าเต้นอย่างยั่ว
นี่ฉันเองยังคิดเลยว่าหรือจริง ๆ แล้วฉันทำจริงวะ
“จริงก็เหี้ยละ แกไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แพ้แอลกอฮอล์ ไม่เล่นยา ถ้าบอกว่าคนในภาพคือแกในโลกคู่ขนานแม่งน่าเชื่อกว่าเยอะ”
คำพูดนั้นทำเอาฉันดีดตัวขึ้นจากเตียงเปลี่ยนจากการนอนมาเป็นการนั่งทันที
รู้สึกซาบซึ้งในตัวพี่ชายที่เกิดก่อนไม่กี่นาทีสุด ๆ เพราะปกติเราสองคนจะตีกันอยู่ตลอด และคำพูดของเอเดนก็ทำให้ฉันย้อนนึกไปถึงสิ่งที่พี่ธันวาพูดเมื่อคืน ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาคมเข้มคู่นั้นมันหนักแน่นมาก จำความรู้สึกตัวเองในตอนนั้นได้ดีเลยว่ามันทั้งตกใจ ตื่นเต้น สับสน แถมหัวใจก็เต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะจนนิ่งค้างไปร่วมนาที
“ขอโทษด้วยที่เมื่อวานฉันไม่อยู่บ้าน ถ้าฉันอยู่แกก็คงไม่โดนตบ”
ฉันเคลื่อนสายตามองพี่ชายที่กำลังแสดงออกถึงความรู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด
“ไม่เห็นเกี่ยว ในเมื่อเขาอยากตบต่อให้มีอะไรมาฉุดเขาก็ตบฉันอยู่ดี”
