บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4: แมววิเชียรมาศ

“พี่มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ” เสียงของยัยพลอยดังมาจากทางด้านหลังของผม ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาผมที่กำลังนั่งอยู่ริมระเบียบบ้าน และนั่นทำให้ผมหันกลับไปมองน้องสาวของผมคนนี้ทันที

“พี่ออกมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนะ” ผมตอบยัยพลอย ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ทันที่ผมจะทันหันกลับไปมองท้องฟ้า ตัวของผมกับถูกยัยพลอยอุ้มขึ้นมากอด

ส่วนสาเหตุนั่นเป็นเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่มของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คำสาปได้ทำหน้าที่เปลี่ยนผมให้กลายเป็นแมวนั่นเอง

“พี่ยังคิดถึงเรื่องที่พวกเราคุยกันเมื่อวันก่อนอยู่อีกเหรอคะ” ยัยพลอยถามถึงเรื่องที่พวกเราได้คุยกันก่อนหน้านี้ที่ห้องกินข้าว ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงมองแมววิเชียรมาศที่อยู่ภายในอ้อมกอด

ใช่แล้ว!!! สำหรับคำสาปของผมมันได้เปลี่ยนร่างกายของผมให้กลายเป็น 'แมววิเชียรมาศ' หรือที่พวกเรารู้จักกันดีในชื่อของ 'แมวสยาม' แมวสายพันธุ์ไทยแท้ ที่มีดวงตากลมโตนัยน์ตาสีเทา สีขนบนลำตัวออกสีน้ำตาลอ่อน ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง ขาทั้งสี่ข้าง และหางเป็นสีน้ำตาลเข้ม

“ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจริงๆ” ผมตอบก่อนจะยอมให้ยัยพลอยอุ้มแต่โดยดี

“พี่ไม่ต้องโกหกน้องหรอกค่ะ เวลาที่พี่มีเรื่องให้คิดหรือไม่สบายใจ พี่มักจะชอบจ้องมองท้องฟ้าแบบนี้เสมอ”

“นั่นสินะ พี่คงปิดน้องไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ” ผมตอบ ก่อนจะหันหน้าไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง

“ถ้าพี่กังวลเรื่องของกินแก้คำสาป พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ หลังจากงานเลี้ยงปิดกล้อง น้องจะรีบออกเดินทางไปดูสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่ต่างจังหวัดทันที ช่วงนั้นน้องจะช่วยพี่หาของกินที่ไม่เคยกินมาก่อนและส่งมาให้พี่อีกแรงนะคะ” ผมขนลุกซู่ไปทั้งร่างกายเมื่อได้ยินยัยพลอยพูดแบบนี้

“พี่ว่าไม่ต้องก็ได้มั้ง” ผมหัวเราะ

“ไม่ได้สิคะ พวกเรามีเวลาเหลือแค่ 6 เดือนเท่านั้นนะคะ ยังไงน้องก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่ๆ ถึงแม้ว่าร่างแมวของพี่จะน่ารัก แต่น้องก็ชอบร่างคนของพี่มากกว่า” ยัยพลอยตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

ก่อนจะอุ้มผมขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาเพื่อให้ผมได้มองเห็นแววตาของเธออย่างชัดเจน เพราะเธอต้องการให้ผมรู้ว่าเธอนั้นจริงจังมากแค่ไหนในการตามหาของกินแก้คำสาปให้ผม

“ถ้างั้นก็ตามใจน้องแล้วกัน แต่ว่าของกินที่ส่งมา ขอเป็นของกินที่มันสามารถกินได้จริงๆ นะ ไม่ใช่ส่งมาแกล้งพี่” ผมหัวเราะและตอบตกลงเมื่อได้เห็นแววตาที่จริงจังของยัยพลอย

“จะถูกสาปให้กลายเป็นแมวอยู่แล้ว พี่ยังจะมาเรื่องมากอีก” ยัยพลอยหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ราวกับกำลังคิดวางแผนทำอะไรอยู่

และนั่นทำให้ผมนึกย้อนไปถึงของกินครั้งล่าสุดที่น้องสาวของผมส่งมาให้ หลังจากที่เธอไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด และสิ่งที่เธอส่งมาให้ผมกินนั้นมันมีทั้งงูเห่า เก้ง กวาง หมูป่า กบ ตะพาบน้ำ กระรอก หนูพุก คางคก ตุ๊กแก

โดยเฉพาะตัวล่าสุดที่ยัยพลอยส่งมานั่นก็คือ 'ตัวแลน' หรือถ้าเป็นแถวกรุงเทพฯก็เรียกว่า 'ตัวเงินตัวทอง' ทำเอาผมทำใจกินแทบไม่ลง และในใจก็คิดว่าถ้าหากว่าเนื้อตัวเงินตัวทองเป็นของกินแก้คำสาปของผมจริงๆ เเล้วล่ะก็ผมจะยอมถูกสาปให้กลายเป็นแมวไปตลอดชีวิตเลย

“ขอร้องเถอะ ไม่เอาตัวเงินตัวทองแบบครั้งที่แล้วนะ” ผมพูดอย่างอ่อนใจ

“เชื่อมือน้องได้เลย” ยัยพลอยยิ้มอย่างสดใส และนั่นทำให้ผมรู้ว่าเธอคงกำลังจะหาเรื่องแกล้งผมอีกแล้วแน่ๆ เพราะการที่ยัยพลอยได้เห็นผมกินของแปลกๆ มาตั้งแต่เด็ก มันได้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องสนุกของน้องสาวของผมไปแล้วยังไงล่ะ

“สุดท้ายถ้าพี่ไม่สามารถแก้คำสาปได้ พี่ฝากน้องดูแลคุณพ่อ คุณแม่เเละคุณปู่ด้วยนะ” ผมพูด และเมื่อยัยพลอยได้ยินประโยคนี้ เธอก็หยุดหัวเราะทันที

“พี่นี่นะ ไม่คิดว่าจะมีความหวังอยู่บ้างเหรอคะ” ยัยพลอยยกมือขึ้นมาลูบหัวและหลังของผมเบาๆ

“ก็มีความหวังแหละ แต่มาถึงจุดนี้แล้วก็คงต้องคิดเผื่อเอาไว้ด้วย เผื่อว่าพี่ไม่สามารถแก้คำสาปได้”

“มันก็เลยทำให้ช่วงนี้พี่มุ่งหน้าทำแต่งานอย่างเดียวโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะแก้คำสาปได้หรือไม่ได้ใช่ไหมคะ” ยัยพลอยสวนกลับ และนั่นทำให้ผมนิ่งเงียบไปชั่วครู่

“พูดถึงเรื่องงานน้องก็อยากจะบ่นพี่ต่อ เข้าใจนะว่าอยากทำงานให้ดีที่สุด แต่ไม่เห็นต้องทุ่มเทเหมือนกับคนบ้างานแบบนี้เลย รู้ไหมว่าทุกคนเขาเป็นห่วง” ยัยพลอยบ่นต่อในขณะที่ลูบหลังของผมไปด้วย

“พี่ก็แค่อยากให้ธุรกิจของเราเจริญก้าวหน้ามากกว่านี้เท่านั้นเอง อยากให้คุณพ่อ คุณแม่และน้องที่มารับช่วงต่อสามารถทำงานกันได้สบายขึ้น”

“น้องเข้าใจพี่นะคะ แต่ทุกคนอยากให้พี่มีความสุขมากกว่านี้ ไม่เห็นต้องทำงานมากขนาดนี้เลย เอาเวลาไปหาความสุขให้ตัวเองบ้างก็ได้ อีกอย่างหาแฟนให้ได้สักคนเถอะค่ะ ถือว่าน้องขอร้อง น้องเสียดายความหล่อ เสียดายความโสด เสียดายความรวยของพี่คร่าาาา” ยัยพลอยหัวเราะ

“นี่น้องเป็นน้องหรือแม่เนี่ย” ผมแซวยัยพลอยกลับ

“น้องสาวสิคะ เป็นน้องสาวที่กำลังเป็นห่วงพี่ชายอยู่ด้วยค่ะ”

“ไว้พี่จะพยายามหาแฟนนะ” ผมยิ้ม

“ไม่ใช่แค่พยายามค่ะ แต่คือต้องหาให้ได้!!!” ยัยพลอยจับตัวผมเขย่าอย่างหมั่นไส้

“ยัยพลอย แกจะฆ่าพี่หรือไง” ผมรู้สึกหัวเวียนหัวเมื่อถูกยัยพลอยเขย่าตัว

“เขย่าไล่ผีบ้างานให้ออกจากร่างของพี่ยังไงคะ” ยัยพลอยหยุดเขย่าแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“พี่ตอบคำถามสุดท้ายของน้องมาดีๆ พี่ไม่คิดจะหาแฟนจริงๆ ใช่ไหมคะ” คำถามของยัยพลอยทำเอาให้ผมนิ่ง ส่วนยัยพลอยก็นิ่งตามเพราะเธอรอคำตอบจากผม

“พี่เหลือเวลาแค่ 6 เดือนจะมีแฟนไปทำไม สู้เอาเวลานี้มาทำงานไม่ดีกว่าเหรอ แล้วอีกอย่างใครมันจะมารักสัตว์ประหลาดแบบพี่” ผมหัวเราะ

“พี่ไม่ใช่สัตว์ประหลาดซะหน่อย”

“แล้วน้องมองเห็นพี่ตอนนี้เป็นตัวอะไรล่ะ เป็นคนหรือเป็นแมว” ผมถามกลับ ทำเอายัยพลอยนิ่งอึ้งไปพร้อมกับแววตาที่สั่นระริก

“พี่ก็เป็นพี่ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือแมว” ยัยพลอยตอบหลังจากที่นิ่งไปนาน

“ก็การเป็นแมวนั่นแหละ พี่ทำให้พี่เป็นตัวประหลาด” ผมตอบยัยพลอย และนั่นทำให้ยัยพลอยกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม

“พี่เคยดูการ์ตูนเรื่องบิวตี้แอนด์เดอะบีสต์ไหมคะ” ยัยพลอยถามหลังจากที่คลายอ้อมกอดจากผม

“เคยสิ” ผมตอบ

“สุดท้ายเดอะบีสต์ก็ได้รับจุมพิตรักแท้จากคนที่เขารัก และกลายร่างเป็นเจ้าชาย และน้องก็เชื่อว่าเรื่องของพี่มันต้องจบลงแบบนี้แน่นอนค่ะ” ยัยพลอยพูดอย่างมั่นใจ

“นั่นสินะ อย่างน้อยพวกเราก็เห็นตัวอย่างของรักแท้อยู่คู่หนึ่งแล้ว” ผมยิ้มเมื่อนึกถึงรักแท้ของคุณพ่อเเละคุณเเม่

“คุณพ่อเเละคุณแม่ใช่ไหมคะ” ยัยพลอยถามเเละยิ้มเมื่อนึกถึงรักแท้ของคุณพ่อและคุณแม่ หญิงสาวเจ้าของธุรกิจขายอัญมณีกับแมวสฟิงซ์ คู่รักที่พวกเราเรียกว่าบิวตี้แอนด์เดอะบีสต์ตัวจริง

“เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาส พี่จะลองเปิดใจและตามหาบิวตี้ของพี่ละกัน” ผมบอกยัยพลอยด้วยรอยยิ้ม

“หาเวลาลุกออกจากโต๊ะทำงานให้ได้ก่อนเถอะค่ะ ก่อนที่จะมาบอกว่าจะเปิดใจและตามหาบิวตี้ของตัวเอง” ยัยพลอยประชดและหัวเราะ

“ไม่ต้องมาประชดพี่เลย” ผมตอบยัยพลอย ก่อนที่ยัยพลอยจะวางตัวของผมลงบนระเบียงที่ผมเคยนั่งอยู่ในตอนแรก ก่อนที่จะถูกเธออุ้มขึ้นมา

“ได้ค่ะ ถ้างั้นน้องไม่กวนพี่แล้วนะคะ แล้ววันพรุ่งนี้อย่าลืมไปส่งน้องที่คอนโดด้วยล่ะ” ยัยพลอยบอกผม

และเนื่องจากวันพรุ่งนี้คือวันจันทร์ วันเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ดังนั้น เธอจึงจะขอติดรถของผมกลับไปที่คอนโดของเธอ เนื่องจากตอนมาที่บ้านของคุณพ่อและคุณแม่ ผมไปรับเธอมาจากกองถ่ายละครซึ่งทำให้ยัยพลอยไม่ได้ขับรถมานั่นเอง

“ได้สิ ไม่มีปัญหา”

“ขอบคุณค่ะพี่ ฝันดีล่วงหน้านะคะ” ยัยพลอยยกตัวผมขึ้นมากอดพร้อมกับหอมมาที่แก้มของผมก่อนจะวางลงที่เดิมอีกครั้ง

“ฝันดีเช่นกัน ยัยตัวแสบ” ผมพูดกับยัยพลอยเช่นกัน และหลังจากที่ยัยพลอยบอกฝันดีผมเเล้ว เธอก็เดินกลับเข้าไปในบ้านทันที

“บิวตี้แอนด์เดอะบีสต์งั้นเหรอ ถ้าชีวิตจริงมันเหมือนอย่างในนิยายก็คงดี” ผมนั่งมองดูท้องฟ้ายามราตรีพร้อมกับพูดออกมาเบาๆ

ฮัดชิ้ว!!!!

“ไอ้แมวบ้าพวกนี้ อยู่นิ่งๆ หน่อยสิ ดิ้นอย่างนี้เมื่อไหร่ผมจะอาบน้ำให้พวกแกเสร็จกันล่ะเนี่ย” เสียงบ่นของคนที่พยายามจับแมวตัวป่วนให้อาบน้ำนิ่งๆ ดังขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความวุ่นวายในการไล่จับแมวทั้งห้าตัวให้อาบน้ำ มันจึงทำให้เขาลำบากและถูกน้ำกระเด็นใส่จนเปียกโชกไปทั้งตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel