บอสหนุ่ม : 4
"มาแล้ว?"
เสียงทุ้มติดหอบหน่อย ๆ ของมาเฟียหนุ่มหุ่นแน่นก็ถามขึ้น
ศิลาทำเพียงพยักหน้าทักทาย ดวงตาสีเข้มสบมองตั้งแต่ช่วงคอจนถึงแผงอกที่ตันติกรยังไม่ติดกระดุมเสื้อราวกับอยากอวดรอยรักจากคู่ขาให้คนตาร้อนเล่น ๆ ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ ขยับปากแซวเล็กน้อย
"กูว่าห้องนี้มึงควรรีโนเวท เมื่อกี้เสียงคู่ขามึงดังมาถึงที่นี่อย่างชัดแจ้ง"
"ถุย!"
ตันติกรส่ายหัวไม่ยอมรับ หากแต่มุมปากมาเฟียตัวหนุ่มกลับยกมุมสูงราวตัวร้ายในละครอย่างชอบใจคำแซวของศิลา
"แล้วนี่ไอ้หมอยังไม่โผล่หัว?"
เหลือบมองดูเวลาเกือบสามทุ่มแล้วแต่ยังไม่เห็นแม้เงาของคณาธิป เพื่อนคนสุดท้ายในแก๊ง
"นู่นไง"
ศิลาตาดีมองเห็นคุณหมอหนุ่มสุดฮอตกำลังเดินเข้าประตูหน้ามาอย่างไม่ปกปิดออร่าความหล่อ
"ทำไมมันไม่เข้าด้านหลังวะ"
ตันติกรว่าพลางเทน้ำสีอำพันลงแก้วแล้วยกขึ้นกระดกจนหมด
ไม่นานประตูห้องวีวีไอพีแห่งนี้ก็ถูกผลักเข้ามาพร้อมร่างสูงของคุณหมอสูติฯ อย่างคณาธิป
"แม่ง! รถจะติดไปไหน"
คณาธิปบ่นให้กับการจราจรของเมืองศิวิไลก่อนจะทิ้งก้นนั่งข้างตันติกร สายตาคุณหมอหนุ่มเหลือบมองอี้เฉินก่อนถาม
"เดินทางราบรื่น?"
"เพราะได้การ์ดดีของไอ้พี่ศิลาไปรับ"
อี้เฉินยกความดีความชอบให้พี่ใหญ่อย่างศิลา หากแต่คนถูกเอ่ยชมกลับดูไม่สนอกสนใจคนในห้องที่กำลังพูดถึงตนสักนิด
"เอาแล้ว สายตาล่าเหยื่อทำงานแล้ว"
คณาธิปเอ่ยแซวก่อนจะอมยิ้มขำ ๆ แล้วหันไปสนใจเหล้าในมือแทน
"วันนี้กี่คนดีครับไอ้พี่ศิลาสุดหล่อ"
เมื่อมีคนเปิดย่อมมีคนตาม อี้เฉินรีบแซวอีกคนทันที
"สักคนมั้ย?"
หากแต่คนถูกแซวกลับตอบไม่ตรงคำถาม เขาเอ่ยออกมาหนึ่งประโยคโดยที่ไมเอ่ยชื่อใครแต่ใช้สายตาไล่มองตั้งแต่อี้เฉิน ตันติกร และจบที่คณาธิป
"ผมขอบาย ตอนนี้ต้องเก็บตัว" ดาราหนุ่มสุดฮอตรีบส่ายหน้า
"กูเพิ่งตัวเบา" ตันติกรตอบเสียงเรียบ
เหลือเพียงคนสุดท้ายในกลุ่มที่ดูไม่ค่อยสนใจอะไรกับคำถามของศิลา ตันติกรคงทนไม่ไหวจึงจิกกัดเพื่อนรักสักประโยค
"มึงไม่ต้องคาดหวังกับคำตอบมัน ไอ้หมอมันคงเอียนกับช่องคลอดผู้หญิงจนนกเขามันไม่อยากขันไปแล้ว"
"ไอ้เชี่ยต้วน!"
คณาธิปรีบสับโบกหัวตันติกร จนถูกมาเฟียหนุ่มมองอย่างนิ่ง ๆ
"แค่เฉียด อย่าทำเหมือนเจ็บหนัก"
คณาธิปอ่านสายตาตันติกรออกว่ากำลังด่าเขาจึงรีบสวนออกไป
"ตกลงไม่มีใครจะเอาด้วยนะ ไอ้ต้วน กูยืมห้องสักชั่วโมง"
ไม่รอให้เจ้าของคลับอนุญาตเพราะรู้ ๆ กันอยู่ว่าเมื่อสามคนนี้มาที่ดีเอ็นดีคลับทีไรต้องมีเรื่องให้เปลี่ยนผ้าปูเตียงตลอด
ร่างสูงร้อยแปดสิบต้น ๆ รีบเดินออกไปจากห้องนี้โดยไม่สนใจเสียงจอแจของเพื่อน ๆ ที่เหลือสักนิด
"อ๊ะ อ้า ศิลาคะ เบา ๆ หน่อยค่ะ พิมมี่เจ็บ"
"อืม ถ้าเสียวก็ครางต่อ อย่าพูดมาก"
ร่างเปลือยท่อนบนของสาวสวยหุ่นแซ่บกำลังคลานเลียนแบบสุนัขอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ โดยมีศิลาที่ยังเหลือเสื้อผ้าทุกชิ้น ปลดเปลื้องแค่กระดุมที่เกะกะออก เขาสอบสะโพกกระแทกกระทั้นด้วยแท่งร้อนขนาดใหญ่เต็มกำมือเข้าออกช่องทางรักของคู่ขาเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้องที่ตันติกรเพิ่งออกไปได้ไม่ถึงสิบนาที
กิจกรรมรักของทั้งสองควรจะเป็นแบบส่วนตัวและดำเนินจนถึงฝั่งฝันหากไม่มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นเสียก่อน
"อึก ฮึก ๆ"
เสียงสะอื้นแสนจะโหยหวนเมื่อในห้องนี้มีเพียงแสงสว่างรำไรของโคมไฟเพียงดวงเดียว
"อ๊ะ อ้า ยะ...หยุดทำไมคะ"
พิมมี่คู่ขาในคืนนี้ของศิลาถามอย่างหัวเสีย เธอกำลังจะถึงฝั่งฝันแห่งความสุข แต่จู่ ๆ แท่งแกร่งที่ทะลวงถ้ำเธออยู่กลับหยุดชะงักทำเอาช่องรักเธอขมิบตอดถี่ ๆ อารมณ์ค้างบนยอดต้นตาลทันที
"ใครอยู่ตรงนั้น!"
"อ้ะ ศิลา คุณจะไปไหนน่ะ"
ศิลาไม่เพียงแค่ตะคอกถามเขาถึงกลับถอดมังกรยักษ์ออกจากถ้ำสวาทของพิมมี่อย่างไม่ใยดีว่าตัวเองหรือว่าเธอจะอารมณ์ค้างและทรมานแค่ไหน
"ฮึก ฮือ ไอ้คนเฮงซวย!"
ยิ่งศิลาก้าวเดินใกล้เตียงกว้างที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องมากเท่าไร เสียงปริศนาที่ฟังอู้อี้ไม่รู้เรื่องยิ่งดังชัดขึ้นเท่านั้น
พรึ่บ!
ไฟทั้งห้องสว่างโล่เมื่อมือหนากดเปิดสวิตซ์ เผยให้เห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนั่งกอดเข่าฟุบหน้าอยู่ข้างเตียงกว้าง ชุดสีแดงสดบนตัวเธอช่างขับผิวขาว ๆ นั้นจนศิลาถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว
"นี่แกเป็นใคร?"
พิมมี่จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินตามมาจนเห็นคนอื่นอยู่ในห้องนี้ด้วย
หมับ!
มือเล็กรีบกระชากผู้หญิงที่นั่งกอดเข่าให้ลุกขึ้นยืนเพื่อคุยกับเธอ
แต่ดูเหมือนแรงกระชากของพิมมี่จะทำให้คนที่เมาไม่ได้สติตรงหน้าเธอทำบางสิ่งบางอย่าง
"กรี้ด!!!"
