ตอนที่ 9 พาไปเที่ยว
สุดท้ายแล้ว เมื่อคืนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้ได้สยิวเล่นเลยสักนิดเดียว นาซึมะนี่ลุ้นระทึกมาทั้งคืนเผื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้เตรียมตัวเสียวทัน
นอนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนหันไปมองพื้นที่ข้างตัวที่ไออุ่นของคนที่อยู่ข้างกันทั้งคืนได้จางหายไปแล้ว แต่ภาพเมื่อคืนก็วูบโผล่ขึ้นมาในมโนความคิดให้หน้าร้อนผ่าว
มันเป็นสถานการณ์ที่ชวนเสียตัวมากที่สุดแต่มันดันไม่ได้เสียซะนี่ เนื่องจากคุณคาร์ตันที่ทิ้งตัวลงนอน หลังจากที่แกล้งกันเสร็จแล้ว
นาซึมะก็เข้าใจคุณคาร์ตันแหละ คือก็ออกไปทำงานทั้งวันจะเหนื่อยก็ไม่แปลก นาซึมะตัดสินใจลุกออกจากที่นอนเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว
หลังจากจัดการตัวเองเสร็จนาซึมะก็เดินออกมาจากห้อง แล้วก็พบกับเรเน่ที่ยืนรอเหมือนที่เคยเป็นมาตลอดตั้งแต่ตัวเองมาอยู่ที่นี่
แต่ทว่า หลังจากที่ประตูห้องอาหารเปิดออก ภายในกลับเงียบกริบและไร้ร่องรอยของเจ้าของบ้านและผองเพื่อนอย่างที่ควรจะเป็น
“เรเน่ ทุกคนไปไหนกันเหรอ”
“ประชุมกันอยู่ค่ะ แต่อีกสักพักก็คงมา”
นาซึมะพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่กิตติมศักดิ์ที่พึ่งได้รับการโอนย้ายจากคุณลูซให้มานั่งข้างๆคุณคาร์ตัน
ระหว่างนั่งรอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลางกดเบอร์โทรหาคนที่รักที่สุดหัวใจ ส่วนเรเน่ก็ทำหน้าที่ของเธอไป โดยการยกอาหารมาเตรียมให้กับทุกคน ในระหว่างที่รอสายอยู่นั่นก็คิดได้ว่า ตอนที่คุยกับแม่ครั้งล่าสุดยังไม่ได้ถามแม่เรื่องบ้านพักที่ท่านซื้อไว้ให้เลย เนื่องจากมีเหตุขัดข้องตอนที่คุณคาร์ตันเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน
“ฮัลโหล คิดถึงจังเลย”
(โทรมาอะไรตอนที่แม่กำลังยุ่งเนี่ย)
“ฮ่าๆ ก็ฟ้าพึ่งตื่น อยากได้ยินเสียงแม่นี่ครับ”
(แล้วตอนนี้อยู่ไหนละลูก)
นาซึมะถึงกับเงียบพลางคิดว่าควรจะบอกดีไหม แต่ก็ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงก็เลยบอกไปตามตรง
“อยู่ซิซิลีครับแม่”
แน่นอนว่าบอกออกไปไม่หมด
(ตายแล้ว! ทำไมไปอยู่ซะไกล แม่นึกว่าหนูอยู่มิลานซะอีก)
“เอ๊ะ?”
(ก็พ่อเราซื้อบ้านไว้ที่นั่นนี่น่า ตายจริง จดไว้เลยนะเดียวก็ลืมอีก)
และนาซึมะก็คุยกับแม่ไปเรื่อยๆรอเวลาที่ทุกคนจะมากินข้าวเช้าพร้อมกัน
หลังจากที่ได้ผลสรุปของการประชุมรอบเช้าแล้ว คาร์ตันก็ปิดการประชุมทันทีและให้คนอื่นๆแยกย้ายกันไปพักผ่อน หามื้อเช้ากินกันเพราะหลังจากมื้อเช้าคาร์ตันวางแผนที่จะพานาซึมะและคนอื่นๆไปเที่ยวข้างนอก เพราะตอนนี้คาร์ตันไม่ไว้ใจให้นาซึมะอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ถึงแม้ว่าจะมีคนของตัวเองอยู่เยอะก็เถอะ แต่ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะหนอนมันมีจริงๆและตัวเขาก็ไม่ต้องการให้นาซึมะมาเสี่ยงไปด้วย
ตอนนั้นเองที่กำลังเปิดประตูห้องอาหารเข้าไป ก็ได้ยินเสียงบทสนทนาด้วยภาษาที่ไม่รู้จัก อาจจะเป็นภาษาไทยก็ได้แค่ตัวเขาเองฟังไม่รู้เรื่องแค่นั้น
แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูอบอุ่นและมีความสุขมากๆในความรู้สึกของคาร์ตัน บอกตามตรง ความรู้สึกพวกนี้ตัวเขาลืมเลือนมันไปนานแล้วจนกระทั่งได้เจอกับนาซึมะ คาร์ตันสบตากับนาซึมะนิดหนึ่งก่อนที่เขาจะวางสายโทรศัพท์ไป
“ซึมะ คิดถึงจังเลย” คาร์ตันเหลือบสายตามองลิซ่าที่พุ่งตัวเข้าไปกอดคนของตัวเองที่นั่งตาโตกับการถูกลิซ่ารุกกอด
ทำไมถึงกล้าพูดว่าคนของตัวเองใช่ไหม? อย่าลืมสิ ว่าเราไปถึงขั้นไหนกันแล้วนะ
“นี่ๆกอดฉันบ้างสิ ฉันก็อยากกอดนาซึมะบ้างเหมือนกันนะ!”
“นาซึมะเป็นของฉัน ฉันไม่ยกให้นายหรอกโอเว่น”
“อะ เอ่อ ”
“นาซึมะเขาเป็นของเธอที่ไหนฮะ!”
“ก็ฉันเป็นคนดูแลเขา เขาก็ต้องเป็นฉันสิยะ!”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังปะทะคารมกันอยู่นั่น คาร์ตันก็นั่งลงบนเก้าอี้พลางลากสายตาไปมองสบกับนาซึมะ ที่กำลังขอความช่วยเหลือโดยไร้เสียงอยู่ แต่ก็เมินเฉยจนกระทั่งคำพูดนั้นหลุดออกมา ทำให้ทั้งห้องที่มีเสียงปะทะกันเล็กๆน้อยๆกลับเงียบลงไปในพริบตา
“พี่คาร์ตันครับ”
ด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนกำลังออดอ้อนอยู่นั้น มันทำให้ใจของคาร์ตันกระตุกไปวูบหนึ่งเลย
คาร์ตันกระตุกยิ้มทันทีที่ได้ยิน ไม่นึกว่านาซึมะจะใช้ไม้นี้ในการขอความช่วยเหลือจากตัวเอง คาร์ตันส่งสายตาไปทางลิซ่าและโอเว่นที่กำลังแย่งกันกอดนาซึมะ เพียงแต่คาร์ตันมองสายตาคู่นั้นของโอเว่นออกว่าเพราะอะไรถึงเข้าไปร่วมวง
“นั่งที่กินข้าวกันได้แล้ว”
“อะ เอ่อ นั่นสิ จู่ๆก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเลย” โอเว่นเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองก่อนส่วนลิซ่าก็จ้องหน้ามาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน
“ชิ ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ในที่สุดมื้อเช้าก็ผ่อนพ้นไปแทนที่จะเคร่งเครียด บรรยากาศรอบตัวผ่อนคลายลง ตั้งแต่ตอนไหนนะ ที่เป็นแบบนี้หรือว่า
ก่อนจะเหลือบสายตาขึ้นไปมองคนที่แจกรอยยิ้มให้กับทุกคนบนโต๊ะอาหาร แม้แต่ลูซเองยังต้องหลุดมาด พลางคิดว่ามันจะดีสักแค่ไหนกันนะ ถ้านาซึมะกลายมาเป็นคนในครอบครัวจริงๆ แต่จะในสถานะไหนล่ะ?
แต่สิ่งที่คาร์ตันคิด มันยังคงเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้เพราะยังไม่อยากให้นาซึมะเข้ามาเสี่ยงอันตราย ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหนบ้างก็ไม่รู้
หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ นาซึมะก็ขออนุญาตออกมาที่โดมดอกไม้ พร้อมสมุดและดินสอ
นาซึมะที่กำลังนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศ พลางเขียนต้นฉบับนิยาที่เขียนค้างเอาไว้ลงไปในสมุด
“ฉันชอบเธอนะมิล่า”ว่าพลางยื่นดอกไม้ให้หญิงสาว ท่ามกลางสวนดอกไม้นานาชนิดที่ส่งกลิ่นหอมอบอวล
“คนบ้า! ฉันเขินเป็นนะ!”ถึงอย่างนั้นก็ยังยื่นมือออกไปรับดอกไม้ที่ฝ่ายชายยื่นมาให้ด้วยใบหน้าที่เขินอาย
ระหว่างที่เขียนฉากสารภาพรักอยู่นั่น สมองของนาซึมะก็พลันนึกไปถึงตอนที่คาร์ตันถามว่าชอบดอกไม้ชนิดไหน
“ให้ตายสิ ถ้าตอนนั้นรออีกนิดเดียวผมก็จะบอกแล้วเชียวว่าผมชอบดอกไม้ชนิดไหนอะ”
ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ แล้วหยิบขนมเข้าปากแล้วลงมือเขียนฉากนี้ต่อให้จบ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจ้าของเสียงที่นาซึมะคิดถึงเมื่อสักครู่มาโผล่ที่ด้านหลังตอนไหนก็ไม่รู้!
“บ่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย”
“คะ คุณ!”
“หึ ไปกันเถอะ”
“ฮะไปไหนอะ”
นาซึมะถูกคาร์ตันดึงให้ลุกขึ้นยืน พลางเก็บของไปด้วย
“ไปเที่ยว”
“…!”
“นายอยากไปที่ไหนบอกมาได้เลย เดียวฉันพานายเที่ยวเอง”
ได้ยินไม่ผิดใช่ไหม ทุกคน คุณคาร์ตันชวนไปเที่ยวละ ไปเที่ยวเลยนะ!! โอ๊ย ดีใจที่ในที่สุดจะได้เที่ยวข้างนอกสักที!
