บท
ตั้งค่า

Chapter 3 : คุณหมอ (1)

"หมดแก้ว หมดแก้ว! หมดแก้ว!!"

"เร็วเข้า!!"

"อีกนิดเดียว"

"อย่าแพ้นะ นายต้องชนะเท่านั้น!!!"

เสียงร้องตะโกนเชียร์ของเพื่อนๆ กว่า 16 ชีวิต ดังลั่นห้องรับรองภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งใจกลางกรุงโตเกียว บนโต๊ะใหญ่กลางห้องมีแก้วช็อตที่บรรจุเครื่องดื่มสีอำพันจำนวน 10 ใบวางเรียงยาว 2 แถว ซึ่งตอนนี้ถูกคุณหมอหนุ่มทั้งสองจากแผนกกระดูก และแผนกผิวหนัง ยกดื่มรวดเดียวจนแก้วว่างเปล่าไปกว่าครึ่งแถว

ความร้อนของแอลกอฮอล์กว่า 40 ดีกรีลวกผ่านลำคอลงไป จนใบหน้าของพวกเขาเหยเกด้วยความทรมาน แต่การเดิมพันในครั้งนี้ก็ไม่อาจทำให้พวกเขาหยุดลงกลางคันได้ จนกระทั่งมาถึงแก้วที่ 7

จู่ๆ สปีดของหมอผิวหนังก็เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ

"8"

"9"

"10"

เคร้ง!!!

แก้วใบสุดท้ายถูกวางลงบนโต๊ะอย่างแรง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเพื่อนๆ วินาทีนั้นร่างของไคที่ดื่มมาหลายแก้วก่อนหน้านี้ ก็ถึงกับทรุดลงกับพื้นปล่อยให้แก้วใบที่ 8 หลุดมือหล่นกระจาย ก่อนที่เพื่อนๆ จะรีบเข้ามาประคองเขาขึ้นจากพื้นและพาไปนั่งพัก

"นายแพ้แล้วเพื่อน"

"ม่าย…"

"เพราะงั้นก็ยอมเราซะดีๆ~"

.

.

ภาพที่เห็นค่อยๆ พร่าเลือนก่อนจะมืดดับลง และหลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

"ผมนึกว่ามันคงไม่มีอะไร จนเพื่อนที่อยู่ในแลปบอกว่ามีคนมาค้นหาประวัติของผม ถึงได้รู้ว่าตัวอย่างเชื้อของตัวเองถูกส่งเข้าแลปไปตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน …หลังจากงานเลี้ยงนั่นจบลง"

มิคาสะนั่งมองคุณหมอหนุ่มด้วยใบหน้าสับสน ในตอนนี้หัวของเธอกำลังเต้นตุบๆ และประมวลผลอย่างหนัก จึงทำได้เพียงแค่นั่งนิ่งๆ ราวกับตุ๊กตาที่จิตหลุดลอยไปไกลแสนไกลจนกู่ไม่กลับแล้ว

"และผมต้องการให้คุณเลือกหลอดทดลอง จากผู้บริจาคคนใหม่"

คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเขา ทำให้เส้นเลือดในขมับของเธอกระตุกอย่างแรง

'เขากำลังพูดบ้าอะไรอยู่เนี่ย…'

ผู้ชายคนนี้ไม่รู้อะไรเลยว่าตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งเดือน ที่เธอต้องวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น และแบกความหวังเอาไว้ทุกวันว่ามันจะต้องสำเร็จ แต่เขาทำอย่างกับว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อย่างง่ายดาย

"พวกคุณมันบ้า!!"

"…"

"ทำไมถึงเล่นอะไรบ้าๆ ที่สิ้นคิดแบบนี้!?"

เธอตะคอกใส่เขาด้วยความโกรธ และนั่นทำให้ใบหน้าของหมอไคหดเล็กลงกว่าเดิมในความคิดของเธอ

"ผมรู้…และผมขอยอมรับผิดทุกอย่าง"

เขาค้อมศีรษะลงต่ำด้วยความสำนึกผิด จนแทบจะโขกลงบนโต๊ะกาแฟ

"แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ต้องการให้ใครท้อง เพราะการกระทำบ้าบอนี้แน่ๆ"

ถ้าหากว่าเป็นตอนนี้ล่ะก็ ถ้าเธอกินยาคุมฉุกเฉินก็อาจจะยังทัน...

"วันนี้คุณหมอนัดคุณมาทำ IUI ใช่ไหม?"

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะอ้าปากตอบ เขาก็เอ่ยขึ้นมาไม่เว้นช่องไฟให้เธอแม้แต่วินาทีเดียว

"ผมสามารถช่วยคุณได้นะ ในห้องแลปยังมีเชื้อที่แข็งแรงอีกมาก"

.

.

"ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผมจะดูแลให้เอง คุณไม่ต้องกังวล..."

"ไม่ทันแล้วค่ะ"

คำพูดทะลุกลางปล้องของเธอ ทำให้หมอหนุ่มถึงกับปิดปากลงด้วยความตกใจ

"วันนี้ฉันไม่ได้มาฉีด ...แต่มาฟังผล"

จู่ๆ ลำคอของเขาแห้งผากขึ้นมากะทันหัน จนรู้สึกว่าการเปล่งเสียงแต่ละคำออกมานั้น มันช่างยากเย็นเหลือเกิน

"นาน...แค่ไหน?!"

"สองสัปดาห์"

เข่าของชายหนุ่มแทบทรุด และตกใจหนักกว่าเดิมเมื่อเธอยื่นใบผลการตรวจเลือดให้เขาดู ในตอนนี้ใบหน้าของไคซีดเผือด จนเกือบไร้สีเลือด

"ผม..."

.

.

"ต้องรับผิดชอบ"

"ไม่ต้องค่ะ!!"

มิคาสะรีบส่ายหน้าด้วยความตื่นตระหนก และอธิบายให้เขาเข้าใจถึงความต้องการของเธอ

"ที่มาทำ IUI เพราะว่าฉันอยากมีลูก ไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น"

เขาเลื่อนกระดาษแผ่นนั้นคืนให้เธอ ด้วยใบหน้าหดหู่ อ่อนล้า และเศร้าหมองอย่างชัดเจน

"แต่เขาก็เป็นลูกของผมเหมือนกัน"

ผลของการไม่ตั้งใจ...

นั่นก็หมายถึงไม่ปรารถนาให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เขาไม่อยากและไม่เคยมีความคิดที่จะบริจาคเสปิร์มเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นมันเป็นอะไรที่เหนือการควบคุม แอลกอฮอล์ที่ดื่มในปริมาณมาก ทำให้สติของเขาหลุดและมั่นใจว่าตัวเองคอแข็งมาก…มากจนทำให้ประมาทคู่ต่อสู้

และตกลงรับข้อเสนอที่แสนบ้าระห่ำนั้นออกไป

มันคงไม่ดีแน่…ถ้าคนที่มีความคิดต่อต้านการบริจาคเสปิร์มตัวพ่ออย่างเขา อยู่ๆ จะมีลูกที่เกิดจากผู้หญิงมากมายล้นเมือง และปัญหาร้ายแรงที่จะตามมาคือ การแต่งงานในสายเลือดเดียวกันโดยไม่รู้ตัว

...นี่แหละคือสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด

คำพูดที่เด็ดเดี่ยวของคุณหมอไค ทำให้มิคาสะถึงกับพูดไม่ออก เขาออกตัวชัดเจนว่าจะรับผิดชอบ และขอหมายเลขติดต่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน แต่เธอตั้งใจจะเล่นแง่กับเขาและตั้งใจจะให้หมายเลขมั่วๆ

"กดหมายเลขของคุณลงในโทรศัพท์ของผม และโทรออกนะ เราจะได้มีเบอร์ของกันและกัน"

ไคไม่ยื้อเธอเอาไว้นาน เขาก้มลงดูนาฬิกาก่อนจะขอตัวกลับขึ้นไปทำงาน มิคาสะที่ยังคงมีอาการงุนงงกับหลายเรื่องที่ถาโถมมาพร้อมกัน ก็รีบขับรถกลับไปที่บ้านแม่ที่ห่างจากบ้านพักของเธอกว่าสองร้อยกิโลเมตร พร้อมกับพาข่าวดีนี้กลับไปด้วย

2 ชั่วโมงต่อมา

รถ CRV เคลื่อนตัวเข้ามาจอดบนถนนหน้าบ้าน ที่ตอนนี้มีร่างเล็กๆ ของมิซาโอะ กำลังนอนเล่นกลิ้งเกลือกบนสนามหญ้ากับ มารุ เจ้าฮัสกี้สีขาวตัวใหญ่อย่างสนุกสนาน

"แม่!!!! พี่มิคาสะมา..!?"

เสียงเล็กที่กำลังตะโกนเงียบลงพลัน เมื่อถูกมือของพี่สาวปิดปากเอาไว้ แต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อแม่ของเธอ ที่กำลังเตรียมแปลงดินปลูกดอกไม้อยู่ข้างบ้าน รีบวิ่งมาต้อนรับลูกสาวด้วยใบหน้าแจ่มใส

"จบเลย กะจะเซอร์ไพรส์ซะหน่อย"

"อ้าว?"

มิซาโอะย่นคิ้วมองพี่สาวของตนด้วยความงุนงง

"ป่ะ เข้าบ้านกันแม่ทำซุปเห็ดหลินจือไว้ด้วยนะ"

"ซุปเพื่อสุขภาพ"

เธอเอ่ยแซวเมนูโปรดของป๊า ที่ท่านบอกว่ามันเป็นยาบำรุงชั้นเยี่ยม

"วันนี้คุณยายจะมาหาด้วย เห็นว่าจะเอาท้อมาฝากเซอร์ไพรซ์ไหม?"

"เซอร์ไพรซ์สุดๆ ไปเลยค่า~"

ทั้งที่ตั้งใจว่าจะนัดเจอกันแค่คนในครอบครัวแท้ๆ แต่กลับมีแขกมากันพร้อมหน้าจนเต็มบ้านไปหมด

"ทีตอนนัดแคมป์ปิ้งปีกลาย ไม่เห็นพร้อมหน้ากันขนาดนี้เลย"

คุณน้ายามาโมโตะเอ่ยแซวเสียงขำ ซึ่งก็เป็นจริงดังว่า…ราวกับพวกเขารู้ว่าวันนี้จะมีเรื่องเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้ ทำให้มิคาสะชั่งใจอยู่นาน ว่าจะบอกป๊ากับแม่วันนี้เลยดีหรือเปล่า

"มิคาสะจัง แล้วงานหมั้นหนูกับฟูจิซังไปถึงไหนแล้วจ๊ะ?"

คำถามของคุณป้า ทำให้ญาติทุกคนหันมามองมิคาสะเป็นตาเดียว ในตอนนี้เธอไม่สามารถคาดเดาสีหน้าของตัวเองได้ว่าเป็นอย่างไรตอนนี้

"ช่วงนี้พี่เขายุ่งๆ ใช่ไหมลูก"

มิคาสะทำเพียงแค่พยักหน้า ตามน้ำไปกับผู้เป็นแม่

"ว่าแต่ทางนั้นน่ะ จะเริ่มย้ายบ้านใหม่กันเมื่อไหร่ จะได้ให้มิซารุลงไปช่วย"

"อีกสักพักเลยค่ะพี่ เห็นช่างบอกว่าบ้านใหม่ช่างชุดเก่าทำงามหน้า บ้านนี่ร้าวเกือบทั้งหลัง"

"ตายจริง แล้วทำยังไงทีนี้?!"

บทสนทนาถูกเบี่ยงเบนออกไปไกลตัว ทำให้มิคาสะอยากขอบคุณแม่ขึ้นมาจับใจ และนั่นทำให้เธอมีโอกาสปลีกตัวเข้าไปในครัว เพื่อช่วยป้าสะใภ้เตรียมอาหาร

มื้อค่ำที่อบอุ่นพร้อมหน้าก็ดำเนินไปร่วมชั่วโมง จนกระทั่งอาหารค่ำจบลงญาติๆ ต่างก็พากันทยอยกลับบ้าน จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ปริปากบอกใครสักคน

"แล้วเมื่อไหร่หมอจะนัดฟังผลล่ะ?"

คำถามของแม่เป็นใบเบิกทางเข้าประเด็น ที่เธอเฝ้ารอมาตลอดทั้งวัน

"ตรวจมาแล้วค่ะ แม่อยากฟังข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อน?"

ตัวเลือกของลูกสาวทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับคิดหนัก

"ทำไมต้องเลือกด้วยล่ะ แม่เริ่มกลัวแล้วนะ"

"เลือกเลยค่ะ ไม่ต้องกลัว"

"เอาเป็นข่าวดีก่อนละกัน"

เธอคลี่ยิ้ม และเอื้อมมากุมมือของผู้เป็นแม่ไว้แน่น

"เสียใจด้วยนะคะแม่... แต่แม่กำลังจะได้เหนื่อยอีกแล้วล่ะ"

"...?"

"หนูท้องแล้วค่ะแม่!!"

ไม่ใช่เพียงแม่ของเธอที่ได้ยินแต่ป๊าเองก็ด้วย ส้มผลใหญ่หลุดจากมือของท่าน ก่อนจะกลิ้งไปไกลอย่างไร้ทิศทาง ในตอนนี้สีหน้าของป๊าไม่ได้มีความยินดีหรือยินร้ายใดๆ ท่านได้แต่ยืนมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่เบิกกว้างและตื่นตระหนก

"ป๊าจะมีหลานแล้วนะ ดีใจไหม!!?"

เธอแกล้งพูดใส่ผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงดีใจออกนอกหน้า นั่นทำให้เขาถึงกับส่ายหน้ากุมขมับ และทิ้งตัวนั่งลงข้างภรรยาของตนด้วยความอ่อนใจ

"ลื้อนี่มันจริงๆ เลยนะ มีลูกติดแบบนี้ผู้ชายที่ไหนเขาจะเอา!?"

"ป๊า หนูตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่คนเดียว"

"ทำไมถึงได้ดื้อรั้นแบบนี้นะ!"

"ป๊าไม่สงสารลูกสาวเหรอ โดนผู้ชายทำให้เสียใจขนาดนี้อ่ะ ยังอยากจะไล่ให้ไปหาผู้ชายอีกเหรอ?"

"แต่ถ้าได้คู่ดีก็จะได้ดูแลกันไปจนแก่..."

เสียงของพ่อขาดห้วง เมื่อมือของภรรยาแตะลงบนตักของเขาเบาๆ

"คุณคะ... แล้วมิคาสะจะต้องเสียใจไปอีกกี่ครั้งถึงจะเจอผู้ชายดีๆ ล่ะคะ?"

"...!?"

"ลูกของเราโตแล้วนะ ให้แกได้ตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองเถอะ เกิดมาทั้งทีก็เลือกชีวิตที่มีความสุขและสบายใจไม่ดีกว่าหรือคะ?"

คำพูดนั้นทำให้ชายสูงวัยถึงกับพูดไม่ออก ตอนสาวๆ เขาก็บอกกับเธอว่า

'ให้ไปเรียน…ไม่ได้ให้ไปหาผู้ชาย'

ตลอดมาเขาได้เห็นว่าลูกสาวคบกับใคร ก็ไม่เคยมีความสุข มีแต่ร้องไห้ทุกข์ใจไม่เว้นวัน แต่ตอนนี้พอเธอเกิดอยากอยู่คนเดียวขึ้นมา...ทำไมเขาต้องผลักไสให้ลูกไปลงนรกอีกล่ะ?

"…"

เสียงถอนหายใจของพ่อดังขึ้น ทำให้สองแม่ลูกถึงกับหันมาสบตากันด้วยความหวั่นใจ

"ถ้าพวกลื้อว่าดี..."

และท่านก็เดินไปเก็บส้มบนพื้น และวางในกระจาดตามเดิมก่อนจะปลีกตัวเดินเข้าห้องไป

"ป๊าจะเป็นอะไรไหมคะ?"

"คนแก่ขี้น้อยใจก็แบบนี้แหละ เดี๋ยวก็หาย"

เธอพยักหน้าและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อมีหมายเลขแปลกโทรเข้ามา

"สวัสดีค่ะ มิคาสะพูดค่ะ"

[...ผมเซริซาว่า ไค คุณถึงบ้านหรือยัง? ...]

ปลายสายที่เอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับคำถามที่ถูกยิงมา ทำให้มิคาสะถึงกับหน้าเจื่อน แต่ผู้เป็นแม่กลับสัมผัสได้ถึงท่าทีของลูกสาว ทำให้เธอยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมลุกไปไหน

"ฉันอยู่บ้านแม่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่า?"

[...ถึงบ้านปลอดภัยก็ดี อย่าลืมทานยาที่หมอให้มาด้วยนะผมต้องไปเข้าเวรแล้ว ไว้จะโทรมาใหม่...]

สายของเขาตัดไปแต่มิคาสะก็ยังคงนั่งอึน มองดูหมายเลขที่ไม่ได้บันทึกไว้ด้วยใบหน้างุนงง แตกต่างจากผู้เป็นแม่ที่นั่งมองเธอ ด้วยใบหน้าที่เต็มใบด้วยความสงสัย

"ใครน่ะ... แฟนเหรอ?"

"หมอค่ะ"

"มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า โทรมาดึกดื่นขนาดนี้?"

"ไม่มีค่ะ แค่โทรมาให้รายงานตัว"

"เรานี่พูดจาแปลกๆ นะ รายงานตัวอะไรกันนี่มันใช่เวลาทำงานของหมอที่ไหน?"

เธอชั่งใจอยู่พักใหญ่ จนในที่สุดก็ยอมเปิดปากเล่าความจริงทั้งหมดให้ผู้เป็นแม่ฟัง และแน่นอนว่าท่านตกใจมาก …มากจนถึงกับต้องหยิบนิตยสารบนโต๊ะมาโบกพัดไปมา ทำท่าเหมือนจะเป็นลม

จนเธอต้องรีบเข้ามาช่วยบีบนวดบ่าของท่าน ด้วยความเป็นห่วง

"เนี่ยแม่ไม่ชอบเลย พวกผู้ชายชอบเล่นอะไรพิเรนทร์!"

"หนูได้ยินครั้งแรกยังคิดว่าถูกอำเลยค่ะ จนเห็นว่าใบที่เขาถือติดมือมามันมีรูปหน้าเขาแปะชัดเจนขนาดนั้น ก็พูดอะไรไม่ออกเลย"

"แล้วเราจะทำยังไงต่อล่ะ เขาจะรับผิดชอบอะไรยังไง... แม่ งงไปหมดแล้ว?"

"เขาไม่ได้บอกค่ะ คงต้องรอดูต่อไป"

"แล้วข่าวร้ายที่เราจะบอกแม่น่ะ มันยังมียิ่งกว่านี้อีกไหม?!"

มิคาสะส่ายหน้าเบาๆ อย่างอ่อนใจ ขณะที่ยังคงกุมมือผู้เป็นแม่เอาไว้แน่น

"นี่แหละค่ะ ...ข่าวร้ายที่ว่า"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel