บท
ตั้งค่า

Chapter 2 : ระทึก (1)

ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของมิคาสะ เธอเพิ่งได้รู้ว่าการมีลูกโดยการทำ IUI เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนมาก

คุณหมอให้เธอกินยากระตุ้นการตกไข่ และต้องมานัดฉีดยากระตุ้นอีกเป็นเวลา 3 วัน ในเวลาเดียวกันเป๊ะๆ และเอฟเฟคของตัวยานี้ก็มีผลกับชีวิตประจำวันมากพอสมควร มิคาสะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวและหน้าอกก็คัดตึง เธอมีอาการมึนหัวจนไม่สามารถจับงานเอกสารมาตรวจได้ ซึ่งหมอบอกว่าอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์ แต่คนแอคทีฟแบบเธอก็มักจะฝืนร่างกายของตัวเองอยู่เสมอ

และในตอนเช้าของวันนี้คุณหมอนัดให้มาอัลตร้าซาวด์ บนหน้าจอตอนนี้ปรากฏโพรงสีขาวดำที่เคลื่อนไหวไปมา มิคาสะไม่สามารถมองออกได้เลยว่าภายในมดลูกนั้นมีอะไรบ้าง จนกระทั่งคุณหมอนัทสึมิเอ่ยไขข้อข้องใจของเธอขึ้นมา

"ความหนาของผนังมดลูกประมาณ 8-9 มิล ตอนนี้เราได้ไข่ที่สมบูรณ์มา 2 ใบนะคะ"

จำนวนไข่ทำให้เธอตกใจ และเอ่ยถามออกมาด้วยความใสซื่อ

"ถ้าผสมแล้วจะได้ลูกแฝดหรือเปล่าคะ? "

คุณหมอคลี่ยิ้มและส่ายหน้า

"โอกาสไม่ได้มีมากขนาดนั้นค่ะ โดยปกติแล้วจะมีไข่เพียงหนึ่งใบสมบูรณ์ที่สุด จะได้รับการผสมกับน้ำเชื้อ และไข่แต่ละใบจะมีอายุเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น"

"งั้นก็ต้องฉีดวันนี้เลยใช่ไหมคะ?"

"ถ้าคุณมิคาสะยังไม่พร้อม เราเลื่อนไปคราวหน้าได้นะคะ"

"พร้อมค่ะ!!"

เธอเอ่ยด้วยความมั่นใจ โดยไม่แม้แต่จะลังเลหรือหยุดคิดสักนิด คุณหมอจึงเขียนใบนำจ่ายเชื้อให้กับพยาบาล

ขณะที่รอทั้งสองก็นั่งคุยกันถึงเรื่องการดูแลตัวเองหลังจากทำ IUI เรื่อยมาจนถึงการเลี้ยงดูลูกชายทั้งสามคน ซึ่งตอนนี้บางคนโตเป็นหนุ่ม ทำงานและแต่งงานมีลูกกันแล้ว

"กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็พลาดช่วงเวลาสำคัญของพวกเขาไปหลายๆ อย่าง ขนาดช่วยกันเลี้ยงลูกสองคนกับสามี ก็ยังคลาดสายตาไปเล่นซนกันจนได้แผลมาหลายครั้ง เป็นเด็กผู้ชายที่ซนกันน่าดูเลย"

เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะเมื่อนึกถึงสมัย 30 ปีก่อน ตอนที่ลูกชายของเธอยังเป็นเด็กน้อย 2 , 5 , และ 10 ขวบ

"พอไปดูคนพี่แข่งบอล ก็ต้องพลาดงานเต้นของเจ้าคนสุดท้อง แล้วก็ต้องให้คุณป๊าเขาไปแทน"

"เหนื่อยแย่เลยนะคะ"

"มานึกดูแล้ว การเลี้ยงลูกเนี่ยถึงจะเหนื่อยขนาดไหน แต่ความสุขกลับมีมากกว่า"

มิคาสะมองดูใบหน้าเปื้อนยิ้มของคุณหมอไม่ละสายตา ด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจไม่ต่างกัน เมื่อนึกถึงคุณแม่และป๊าของเธอ ที่ต้องดูแลลูกๆ ทั้ง 3 เช่นกัน

"ยิ่งได้เห็นพวกเขาได้ประสบความสําเร็จ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูก มีชีวิตเป็นของตัวเอง... ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะค่ะ"

สายตาที่ลอดผ่านแว่นคู่นั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างที่เอ่ยจริงๆ แววตาอบอุ่นและหัวใจอันยิ่งใหญ่ที่แผ่ออกมานั้น ช่างคล้ายกับแววตาของแม่เธอไม่มีผิด

นี่สินะที่เขาเรียกว่าสัญชาตญาณของความเป็นแม่

ทั้งสองนั่งคุยกันจนกระทั่ง พยาบาลเข็นรถเข้ามาภายในห้องตรวจ ซึ่งในนั้นบรรจุกล่องเหล็กปลอดเชื้อที่มีทั้งอุปกรณ์สำหรับสอดท่อ และใส่หลอดเชื้อที่ผ่านการละลายแล้ว แนบมาพร้อมกับกระดาษใบนำส่ง

"ความหนาแน่นของเชื้อ 38 ล้านตัว กว่า 85% วิ่งดีแข็งแรงมากเลยค่ะ"

เสียงของคุณหมอยังคงดังขึ้นเจื้อยแจ้ว ขณะที่พยาบาลพา มิคาสะมายังด้านหลังของม่านกั้น เพื่อถอดกางเกงและชั้นในออก เปลี่ยนเป็นสวมผ้านุ่งของโรงพยาบาล ก่อนจะกลับมานั่งพักที่เตียงขาหยั่งกลางห้อง และเตียงนี้ก็ถูกม่านกั้นสีครีมดึงปิดรอบเตียงจนมิดชิด

"รบกวนตรวจสอบ ชื่อ-นามสกุล เจ้าของเชื้อด้วยนะคะ"

มิคาสะอ่านย้ำถึงสองครั้งจนมั่นใจ และส่งหลอดบรรจุเชื้อคืนให้พยาบาล

ขณะที่รอคุณหมอเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เธอพยายามทำใจให้สงบเงยหน้ามองเพดานห้อง กวาดสายตามองไปรอบๆ จนแทบจะนับได้ว่าบนนั้นมีตำหนิทั้งหมดกี่จุด หรือมีรอยเปื้อนตรงไหนบ้าง

"อย่าเกร็งนะคะ"

ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อท่อเล็กแข็งถูกสอดผ่านช่องคลอดเข้ามายังปากมดลูก เธอก็เผลอสะดุ้งความตกใจ จู่ๆ ความรู้สึกปวดหน่วงก็แล่นเข้ามาที่ท้องน้อย แม้กระทั่งน้ำเชื้อเย็นๆ ที่ถูกฉีดเข้ามา มิคาสะก็รับรู้และสัมผัสถึงมันได้ทุกวินาที

"แบบนั้นแหละค่ะ เรียบร้อยแล้ว"

เพียงชั่วอึดใจปลายท่อก็ถูกดึงออก ก่อนที่คุณหมอจะส่งอุปกรณ์คืนให้พยาบาล

"เป็นยังไงบ้างคะ?"

"เอ่อ…หน่วงๆ แล้วก็…ตื่นเต้นยังไงไม่รู้ค่ะ"

"เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ"

ทั้งสองคลี่ยิ้มและสบตากัน ก่อนที่คุณหมอจะผละออกไปยังโต๊ะทำงานของตน

"หลังทำ IUI ก็นอนพักประมาณ 30 นาทีแล้วค่อยกลับบ้านได้ค่ะ"

"ฉันไปทำธุระอะไรต่อได้ปกติเลยใช่ไหมคะ"

"ใช่ค่ะ หรือถ้ากังวลใจจะกลับไปพักผ่อนก่อนก็ได้"

"ขอบคุณมากค่ะ"

"งั้นเดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะคะ"

คุณหมอถอดถุงมือยื่นให้พยาบาล ก่อนจะพากันเดินออกจากห้องนี้ไปจนเหลือมิคาสะแค่เพียงลำพัง

เธอควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าใบน้อย และรีบส่งข้อความไปรายงานแก๊งเพื่อนสาวด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้ทุกคนดีใจกันยกใหญ่ และพยายามกดวิดีโอคอลมาคุยกับเธอ แต่มิคาสะก็ไม่ได้กดรับและห้ามพวกเขาเอาไว้

'อยู่โรงพยาบาลห้ามเสียงดัง' : มิคาสะ

อาเนะ : 'อดเลย'

ฮิริเมะ : 'อยากเห็นว่าหน้าซีดเป็นไก่ต้มหรือเปล่า'

'ฉันไม่ได้กลัวเข็มกลัวหมอเหมือนมัดซึดะนะ': มิคาสะ

'จำผิดคนแล้ว': มิคาสะ

มัสซึดะ : 'ถ้าหมอหล่อฉันก็ไม่กลัวย่ะ!! ?'

อาเนะ : 'ไม่จริงอ่ะ'

'ไว้กลับถึงบ้านจะเล่าให้ฟังนะ': มิคาสะ

ขณะที่เธอกำลังรอก็ปล่อยให้ข้อความของเพื่อนๆ ไหลไปจนถึงบทสนทนาเรื่องอื่นๆ ส่วนเธอก็นอนเลื่อนอะไรอ่านไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคิวงานของสัปดาห์หน้า หรือข่าวหุ้นตลาดโลกของจีนที่ตอนนี้ค่าเงินยังคงแข็ง และกำลังการซื้อยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นแหล่งทำเลทองที่น่าสนใจไม่น้อย

"รู้งี้ไปเปิดสตูที่โน่นด้วยดีกว่า"

เธอริเริ่มวางแผนด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ที่จะขยายสาขาการทำงานเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายชาวจีน และเมื่อพูดถึงจีนก็ต้องนึกถึงคุณลุงท่านหนึ่งขึ้นมา คนที่ทำให้เธอเกือบจะได้ไปเรียนโทต่อที่นั่น เพื่อจะได้ไปช่วยงานสถานีโทรทัศน์เจียงซูกับท่าน

แต่เป็นเพราะตอนนั้นมิคาสะกำลังคบกับไซโตะ โปรดิวเซอร์หนุ่ม และเธอต้องรับผิดชอบโปรเจคใหญ่ ซึ่งอยู่คนละช่องกับคุณลุงก็เลยเอ่ยปฏิเสธไป และล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้เธอได้ยินข่าวมาว่ารายการ 'Wood camp' ในเครือของคุณลุง ที่นำไอดอลสายการแสดงอย่าง ‘หยางอี้ฟง’ และนักร้องชื่อดัง ‘หวังจื่อหลิน’ มาแข่งทำกิจกรรมในป่าถูกสั่งระงับชั่วคราว

เพราะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุนักแสดงสาวจมน้ำกลางกองถ่าย มิซารุที่โทรไปถามข่าวบอกว่าคุณลุงจิตตกไปพักใหญ่ ถึงแม้ว่าเสียงในสายจะฟังดูสบายดี แต่ภายในใจของเขานั้นจะเป็นยังไง ก็ไม่อาจมีใครหยั่งรู้ได้ว่าท่านกำลังแบกรับปัญหาอะไรเอาไว้บ้าง

'คุณลุง ต้าจ้าวชิง จะเป็นยังไงบ้างนะ?'

มิคาสะตัดสินใจส่งข้อความไปทักทายท่านด้วยความคิดถึง และนอนรอให้เวลาไหลไปเรื่อยๆ จนกระทั่งครบกำหนดพยาบาลก็เข้ามาพยุงตัวเธอลงจากเตียง และเปลี่ยนกลับไปชุดเดิม ก่อนจะถูกพามายังอีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีคุณหมอท่านเดิมนั่งรออยู่

"ตัวนี้เป็นยา Duphaston ป้องกันการแท้งนะคะ จะช่วยให้ผนังมดลูกเราแข็งแรงขึ้น และทำให้ไข่ฝังตัวได้ดีขึ้นด้วย"

เธอรับถุงยามาเก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย

"ถ้ามีอาการแพ้ หรืออาเจียนภายใน 1-2 วันกลับมาให้หมอเช็คอาการหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อนมากรักษาสุขภาพด้วยนะคะ"

"เช่นกันค่ะคุณหมอ ขอบคุณนะคะ"

"โชคดีค่ะ"

มิคาสะออกจากโรงพยาบาลด้วยหัวใจที่โลดแล่น รีบขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า เพื่อซื้อของสดมาเติมตู้เย็นโดยไม่ลืมแวะดูหนังสือแม่และเด็กกลับมาด้วยหลายเล่ม

ในรถเข็นที่มักจะมีซีเรียล ขนม และเครื่องดื่มอัดลมแคลอรี่สูงที่เธอโปรดปราน ถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์ พืชผักต่างๆ และนมพาสเจอร์ไรซ์ แม้ว่าจะรู้สึกขัดใจไปบ้างแต่นี่ก็ถือว่าเป็นการปฏิวัติการกินในชีวิตเธอ

…เพื่ออีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดมา

เมื่อกลับมาถึงบ้าน คนที่เธอไม่คาดฝันที่สุดก็มาดักรออยู่ก่อนแล้ว

"มิซารุ มิซาโอะ!?"

น้องชายทั้งสองกำลังนั่งตีพุงอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ขณะที่มิคาสะเดินมาวางของบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะรีบตามพวกเขามานั่งที่โซฟา นั่นทำให้มิซาโอะกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของเธอ และทิ้งตัวอ้วนป้อมลงมาอย่างแรง

"มากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?"

"เมื่อกี้เอง แม่ให้ไปรับเจ้าตัวแสบกลับบ้าน ก็เลยแวะมาหาก่อนแต่ลืมไปว่ามีบางคนไปหาหมอ"

มิซารุหน้าหงิกงอ เมื่อเขาต้องปีนขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อปลดล็อกหน้าต่างห้องของตน เพื่อเข้าไปปลดล็อกหน้าต่างครัว พาน้องชายเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเล

"แล้วก็ไม่โทรมาบอกก่อน"

"ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ไหมล่ะ!? ถ้าพี่มาช้ากว่านี้มิซาโอะได้ร้องงอแงจะกลับบ้านแน่ๆ "

มิซาโอะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน และส่งถุงขนมให้มิคาสะแกะ

"แล้วไปฉีดมาเป็นยังไงบ้างล่ะ?"

"ก็ไม่ยังไงนะ แต่มันปวดๆ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า"

"กลับไปอยู่บ้านไหม"

"ฮะ?"

"อยู่นี่คนเดียวเกิดเป็นอะไรขึ้นมาไม่มีใครดูนะ"

"โอ๊ย ฉันโตแล้วนะดูแลตัวเองได้"

"ก็รู้... แต่เข้าใจคำว่าอุบัติเหตุไหม... "

"…"

"สิ่งที่ไม่คาดฝันน่ะ ต่อให้ใช้ชีวิตระวังแค่ไหนมันก็เกิดขึ้นได้"

"โห่ บ่นยิ่งกว่าพ่อ"

เมื่อถูกพี่สาวงอแงใส่มิซารุก็ทำเป็นหูทวนลม

"แล้วนี่จะอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนหรือเปล่า?"

"ไม่อ่ะ เดี๋ยวไปส่งมิซาโอะที่บ้านเสร็จ ก็ต้องกลับไปที่ค่ายแล้ว ช่วงนี้เขากำลังคัดเลือกเมนแดนเพื่อไปออกทัวร์ทั่วประเทศ"

"ว้าว ขอให้ได้นะ!"

"อืม"

สีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของน้องชาย ทำให้มิคาสะอดห่วงไม่ได้ จนเธอต้องเอื้อมแขนไปโอบบ่าเขาและตบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ

"เราทำได้อยู่แล้ว มั่นใจในตัวเองหน่อย"

"อืม เข้าใจแล้ว"

มิคาสะรู้ดีว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เส้นทางการเป็นศิลปินของมิซารุสาหัสมาก ตั้งแต่อายุ 14 เขาออกเดินทางจากญี่ปุ่นเพื่อไปยังประเทศจีน และเป็นเด็กฝึกอยู่ที่นั่นเกือบ 5 ปี จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าแข่งขันในรายการ Bright of idol แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

เพราะเด็กต่างชาติแบบเขา ไม่มีแรงสนับสนุนจากแฟนคลับมากพอ และผลโหวตที่ได้นั้นไม่สามารถส่งเขาเข้าไปถึงรอบลึกๆ ได้ แต่ก็ทำให้เขาได้มีเพื่อนมากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือ 'หวังจื่อหลิน' เขาได้มีโอกาสร่วมทำการแสดงในรอบรองสุดท้ายร่วมกับเธอ ถึงมิซารุจะมีคุณลุงเป็นถึงผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ แต่ก็ไม่เคยคิดใช้เส้นสายเพื่อเป็นใบเบิกทาง ให้ตัวเองได้โลดแล่นในวงการบันเทิง

นั่นคือสิ่งที่เธอภาคภูมิใจในตัวของน้องชายที่สุด

จนกระทั่งเวลาที่จีนของมิซารุได้หมดลง เมื่อป๊าเรียกตัวเขากลับบ้าน แต่มิซารุก็ไม่ละทิ้งความฝันเขายังคงมุ่งหน้าไปบนเส้นทางสายดนตรี และฝึกฝนตัวเองอย่างหนักทุกวัน เธอในฐานะคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาในทุกช่วงเวลา ได้แต่หวังว่าจะมีใครที่เห็นค่าความพยายามของเขาเข้าสักวัน

"พี่รู้ไหม ลุงต้าจ้าวชิงชวนฉันไปจีนอีกแล้วล่ะ"

"แล้วป๊าว่าไง? "

"แน่นอนว่าไม่"

ชายหนุ่มเค้นเสียงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ถ้าเขาได้ไปที่นั่นอีกครั้ง มันจะเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ 'แสง' ส่องลงมาถึงเขาง่ายกว่าที่นี่แท้ๆ

...แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อผู้เป็นพ่อค้านหัวชนฝาขนาดนี้

"ถ้าอะไรมันลงตัว... พี่ก็ว่าจะไปเปิดตลาดสตูดิโอที่จีนนะ"

"..."

"ฐานลูกค้าที่นู่นก็มีหลายเจ้า และที่สำคัญตอนนี้ธุรกิจสื่อกำลังไปด้วยดีด้วย ถ้าเกิดอยากไปเมื่อไหร่ก็บอกนะ"

"ทำไมจะขอป๊าให้เหรอ?"

"เปล่า..."

"อ้าว?"

"จะได้เตรียมเก็บเสื้อผ้า…แล้วก็หนีไปด้วยกัน"

ทั้งสองคนหัวเราะออกมาเสียงดัง เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะได้กลับไปที่นั่นอีก ป๊าคือลูกชายของนักลงทุนรายใหญ่แห่งไห่หนาน แต่เมื่อท่านได้มีโอกาสมาญี่ปุ่นเพื่อทำการค้า ท่านก็รู้สึกหลงรักเกาะเล็กๆ ของญี่ปุ่น และก็ได้มีโอกาสพบรักกับแม่ ถึงแม้จะถูกครอบครัวกีดกันและต้องถูกตัดขาดจากตระกูล แต่ป๊าก็ไม่เคยยอมแพ้

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ป๊ายังอยู่ญี่ปุ่น และตั้งใจว่าจะไม่กลับไปเหยียบที่นั่นอีก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แม้ว่าอากงกับอาม่าจะล่วงลับไปแล้ว หรือลุงต้าจ้าวชิงจะขอร้องป๊าอย่างไรท่านก็ไม่ยอมใจอ่อน

"พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกด้วย จะได้มาช่วยเก็บของ"

สองพี่น้องหัวเราะเบาๆ ก่อนที่มิคาสะจะเหลือบมองนาฬิกา ซึ่งล่วงเลยไปเกือบค่ำแล้ว

"เอาไว้ค่อยคุยกัน พาน้องไปส่งบ้านก่อนเถอะเดี๋ยวแม่เป็นห่วง"

"โอเค เดี๋ยวว่างๆ จะแวะมาหา"

เธอเดินออกมาส่งน้องชายทั้งสองที่หน้าบ้าน และรอจนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกไป

มิคาสะยิ้มโบกมือให้พวกเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง พยายามสลัดความคิดเรื่องที่จีนและเรื่องของป๊าออกไป ก่อนจะกลับเข้ามาในบ้านเพื่อเตรียมมื้อค่ำ

และก่อนเข้านอนตามที่สัญญาไว้ เธอใช้เวลาเกือบค่อนคืนไปกับการวิดีโอคอลคุยกับเพื่อนๆ ถึงประสบการณ์ IUI เพื่อเป็นวิทยาทานให้พวกเขา เผื่อว่าวันข้างหน้าเพื่อนๆ อาจจะสนใจ ไม่ใช่แค่เฉพาะความคิดอยากเป็นซิงเกิลมัม แต่ภาวะการมีบุตรยากก็สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ เพื่อเป็นอีกทางออกให้กับคู่รักเหล่านั้นได้เช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel