Chapter 1 : ยืนหยัด (2)
"คุณโคบายาชิ มิคาสะ ขอเชิญที่ห้องหมายเลข 2 ค่ะ"
ร่างเล็กเดินตามพยาบาลเข้ามาภายในห้องตรวจ บุคคลแรกที่เธอเห็นกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านในสุด คือแพทย์หญิงร่างท้วมค่อนข้างมีอายุ กำลังนั่งคีย์ข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของตน
แต่เมื่อเห็นคนไข้เข้ามาคุณหมอก็วางมือ และหันมาเอ่ยทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร
"สวัสดีค่ะคุณหมอ"
"เชิญนั่งก่อนค่ะ คุณโคบายาชิ"
"เรียกมิคาสะก็ได้ค่ะ"
"งั้นดิฉันขออนุญาตนะคะ"
มิคาสะคลี่ยิ้มจางๆ ก่อนที่คุณหมอจะหันกลับไปยังหน้าจอ ซึ่งประวัติของเธอจากหน้าห้องตรวจจากพยาบาล ถูกส่งเข้ามายังคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว
คุณหมอใช้เวลาไม่นานในการไล่อ่านข้อมูลคร่าวๆ ก่อนจะเริ่มตรวจร่างกายทั่วไป ทั้งเช็คความดัน รอบเดือน สอบถามโรคประจำตัวต่างๆ และนั่นรวมไปถึงข้อมูลสำคัญ เพื่อประกอบการพิจารณา ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการสำคัญ
"นี่เป็นคำถามคร่าวๆ ที่เราอยากสอบถามคุณมิคาสะ ยังไงรบกวนตอบอย่างจริงใจด้วยนะคะ"
เธอพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น ขณะที่คุณหมอเริ่มจากคำถามทั่วไป อาชีพ การเงิน และสถานภาพของเธอในตอนนี้
"ฉันมีสตูดิโอเป็นของตัวเองค่ะ รับถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอทั้งในและนอกสถานที่ ตอนนี้ก็... โสดค่ะ"
"สถานภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณ"
"ฉันเป็นพี่สาวคนโต มีน้องชาย 2 คนครอบครัวปกติดีไม่มีปัญหาหย่าร้างค่ะ"
จนกระทั่งมาถึงการทดสอบสภาพจิตใจ โดยการเลือกรูปภาพจากการ์ดบนโต๊ะทั้ง 10 ชุดจำนวนชุดละ 3 ใบ โดยมีคำถามทั้งหมดกว่า 10 ข้อ ได้แก่
ภาพที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุข
ทำให้คุณเศร้า
ทำให้คุณรู้สึกกลัว
ทำให้คุณรู้สึกอึดอัด
การเผชิญหน้ากับปัญหา
ทำให้รู้สึกท้าทาย
.
.
และอื่นๆ โดยคุณหมอไม่ได้สรุปคะแนนว่าเธอได้เท่าไหร่ และก่อนที่การทดสอบจะเสร็จสิ้น แววตาที่แสนอ่อนโยนเบื้องหน้า ก็ยังคงจ้องมองมาที่มิคาสะไม่ละสายตา
"และข้อสุดท้าย ขอทราบเหตุผลที่อยากมีลูกค่ะ"
มันเป็นคำถามพื้นฐาน แต่สำหรับมิคาสะมันช่างบีบหัวใจของเธอไม่น้อย เมื่อรับปากกับคุณหมอไว้แล้วว่าจะตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา
เธอจึงไม่คิดจะปิดบังมันอีกต่อไป…
"ฉัน… เคยผ่านการมีแฟนมาแล้วสามคน"
มือเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะกำลังประสาน และบีบกันแน่นโดยที่เธอไม่รู้ตัว ขณะที่พยายามนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาเหล่านั้น
"และทุกคนก็แพลนถึงขั้นแต่งงานมีลูก แต่อะไรหลายๆ อย่างทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลงค่ะ"
"…"
"และฉันก็ตระหนักได้ว่าจริงๆ แล้วฉันแค่อยากมีลูก อยากมีเจ้าตัวเล็กเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านของเรา โดยไม่ต้องมีสามีไม่ต้องมีคนที่ทำให้เสียใจอีก"
.
.
"และฉันมั่นใจว่าสามารถเลี้ยงเขาเพียงลำพัง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและปลอดภัย"
ดวงตาของเธอประสานแน่วแน่กับคุณหมอสูงวัย ไม่มีแม้ความกังวล หรือลังเลใจอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย
"เขา..."
.
.
"จะต้องโตมาเป็นเด็กแข็งแรง น่ารัก และ.."
เสียงหวานที่สั่นเครือขาดห้วง เมื่อมือของเธอถูกคุณหมอกุมไว้ จนความอบอุ่นแล่นเข้ามาภายในหัวใจของเธอ เป็นสัมผัสของคนรุ่นแม่ที่เข้าใจหัวอก และความปรารถนาของลูกผู้หญิงด้วยกัน
แววตาอบอุ่นคู่เดิมและความใจดีที่มอบให้นั้น ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว จนเกือบจะกลั้นน้ำตาแห่งความตื้นตันเอาไว้ไม่อยู่
"เขา...จะต้องมีความสุข …มีความสุขมากแน่ๆ ค่ะ"
.
.
"ฉันตั้งใจให้เป็นแบบนั้น"
กระทั่งวินาทีนี้มือทั้งคู่ก็ยังคงกุมกันไว้แน่น และนั่นเป็นเหมือนเครื่องค้ำจุนจิตใจของเธอเอาไว้... ให้ตระหนักถึงบทบาทใหม่ และภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงที่เธอกำลังจะเผชิญในวันข้างหน้า
“ขอบคุณสำหรับการตอบคำถามอย่างซื่อตรงนะคะ”
ทิชชูในกล่องถูกยื่นมาให้มิคาสะ ก่อนจะตามมาด้วยแฟ้มสีดำขนาดใหญ่ที่ระบุอายุ ส่วนสูง และมวลร่างกายเอาไว้ ในมือของมิคาสะตอนนี้มีข้อมูลคร่าวๆ ของผู้ชายเกือบครึ่งร้อยปรากฏอยู่เต็มหน้ากระดาษ
"คุณหมอมีคำแนะนำไหมคะ?"
เธอเอ่ยถามด้วยความเขินอาย บรรยากาศในตอนนี้ช่างดูเหมือนว่า เธอกำลังอยู่ในสำนักงานจัดหาคู่ไม่มีผิด
"ถ้าเป็นดิฉันก็คงเลือกที่ความหล่อก่อนนะคะ"
ทั้งสองคนหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความเขิน มิคาสะรับคำแนะนำเหล่านั้นมาพิจารณา และความหล่อใน 'อุดมคติของเธอ' นั้นก็ทำให้ตัวเลือกค่อยๆ ลดลง จนในที่สุดก็เหลือเพียงแค่ 4 คน
"เลือกได้น่าสนใจดีนะคะ"
มิคาสะมองดูพวกเขาด้วยแววตาพินิจพิเคราะห์ เพราะลักษณะเด่นของพวกเขาเหล่านี้ จะปรากฏอยู่บนใบหน้าของลูกสาวหรือชายของเธอในอนาคต นั่นทำให้เธอต้องไตร่ตรองซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้งจนกระทั่งแน่ใจ
"คนนี้ค่ะ"
ปลายนิ้วเล็กชี้ไปยังรูปริมขวาสุด ก่อนที่คุณหมอจะรับแฟ้มคืน และกรอกชื่อกับหมายเลขผู้ลงทะเบียนลงในระบบ ทำให้ข้อมูลของเขาปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
"รบกวนตรวจสอบอีกครั้งนะคะ"
หน้าจอคอมพิวเตอร์ถูกหันมาหาหญิงสาว เธอกวาดสายตาไล่ดูรูปภาพ หมายเลขลงทะเบียน ชื่อ น้ำหนัก ส่วนสูง กรุปเลือดของผู้ชายคนนี้ จนกระทั่งแน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องครบถ้วน
"ดิฉันจะจ่ายยากระตุ้นการตกไข่ให้ไปทานนะคะ เริ่มทานวันที่ 3 ของการมีประจำเดือน ในเวลาเดิมติดต่อกัน 5 วัน พอยาหมดเราจะมาซาวด์ดูจำนวนไข่กัน ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหมอจะฉีดยากระตุ้นให้นะคะ"
"ขอบคุณมากๆ ค่ะ"
"ด้วยความยินดี แล้วพบกันใหม่นะคะ"
ทั้งสองกล่าวลากัน ก่อนที่มิคาสะจะเดินออกมาชำระเงิน และรับยา เพื่อเดินทางกลับไปสะสางงานที่คั่งค้างต่อที่บ้าน และเตรียมตัวสำหรับปาร์ตี้ เพื่อเลี้ยงส่งสาวโสดเป็นครั้งสุดท้าย
19:37 น.
รองเท้าคัตชูสีดำพาร่างระหงในชุดเดรสสั้นสีดำ คลุมทับด้วยสูทสีขาวลายดำ เข้ามาภายในร้านอาหารนอกตัวเมือง ที่มีเบียร์อร่อยและลูกค้าสาวๆ เพียบ
จนกระทั่งมาถึงโต๊ะโซฟาใหญ่มุมร้านที่ประจำของเธอ โดยมีเสียงร้องเรียกและโบกมือดังขึ้นจากกลุ่มคนนับสิบ
"ทางนี้ๆๆ "
"ว่าที่คุณแม่มาแล้ว!!!"
เสียงร้องแซวดังขึ้นเรียกความสนใจให้โต๊ะข้างๆ จนมิคาสะต้องทำภาษามือให้พวกเขาเงียบเสียงลง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งข้างๆ ฮิริเมะสถาปนิกเพื่อนสาวคนสนิท เมื่อก้นแตะโซฟาที่คีบน้ำแข็งที่เพื่อนๆ แสร้งว่าเป็นไมค์ก็ถูกยืนมาตรงหน้าเธอ
"จะได้เป็นแม่คนแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะ!?"
"ไปฉีดมาแล้วเจ็บไหม?"
"เจ็บน้อยกว่าของจริงป่ะ?"
"แล้วจะท้องแน่ๆ ใช่ไหม อีกกี่เดือนถึงจะรู้ผลอ่ะ?"
"ชุดล่ะ ไหนจะแพมเพิสอีก ตายแล้วๆๆ ฉันต้องเตรียมซื้อของรับขวัญหลานแล้วสินะ!!"
สารพัดข้อสงสัยจากบรรดาเพื่อนๆ ทั้งโสดและแต่งงานกำลังรุมกระหน่ำ จนไม่เหลือช่องว่างให้เธอได้ตอบคำถามของพวกเขาแม้แต่ข้อเดียว
"หยุด!!!!!"
อาราชิยกมือห้ามทัพ ก่อนที่เรื่องมันจะวุ่นวายมากไปกว่านี้
"เดี๋ยวๆ ให้เธอได้พักหายใจบ้างเถอะ!!"
"ฉันเพิ่งไปตรวจมา คุณหมอเลยให้ยามากินกระตุ้นไข่ก่อน แล้วก็เลือกเจ้าของเชื้อ"
ประโยคสุดท้ายทำให้เพื่อนๆ ถึงกับตาลุกวาว โดยเฉพาะมัสซึดะเพื่อนสาวสองผู้น่ารักของเธอ ที่เริ่มคิดเลยเถิดไปไกล
"แบบ...ไปยืนหน้าห้องเก็บเชื้ออะไรแบบ…"
"แบบไหนย๊ะ!!?"
"แบบ…โอ๊ยย!!"
และก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อถูกเพื่อนๆ ฟาดด้วยอะไรก็ตามที่อยู่ใกล้มือด้วยความหมั่นไส้
"เขามีแฟ้มให้เลือก และก็มีรูปภาพข้อมูลคร่าวๆ ฉันถ่ายรูปเขามาด้วยนะอยากดูรึเปล่า? "
เมื่อเปิดรูปให้เพื่อนๆ ดู เสียงฮือฮาเบาๆ ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
"ตาถึงนะหล่อน!!!"
"สเปคเธอเนี่ย ตั้งแต่สมัยเรียนไม่ค่อยเปลี่ยนเลยนะ"
"ไทป์ของนางชัดเจนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว"
"เออ...แล้วสรุปว่าแน่ใจแล้วจริงๆ ใช่ไหม ตอนนี้ถ้าเกิดอยากเปลี่ยนใจยังทัน..."
"ฉันคิดดีแล้ว ขอบคุณมากนะ"
ยูคิโนะถึงกับหน้าเจื่อน เมื่อได้ยินคำพูดที่ยืนยันหนักแน่นของเธอ ท่ามกลางเสียงพูดคุยและหัวเราะสนุกสนาย มีเพียงบรรยากาศรอบตัวของเธอกับเขาเท่านั้น ที่ดูจะอึมครึมเงียบสงบ ราวกับอยู่คนละโลกกับเพื่อนๆ
วันที่น่ายินดีแบบนี้แต่กลับมีเขาเพียงคนเดียว ที่เอ่ยคำนั้นออกมาได้ไม่เต็มปาก ยูคิโนะจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ดี ตอนที่รู้ว่ามิคาสะตัดใจจากผู้ชายที่ชื่อว่าฟูจิโร่ได้สำเร็จ นั่นทำให้ความ หวังของเขาถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง..
.
.
ฮิริเมะ : 'ไปตั้งแคมป์สิ้นเดือนนี้เอาไง ขอคอนเฟิร์มหน่อยค่า'
Me : 'ยกเลิกของฟูจิโร่นะ'
ฮิริเมะ : 'อ้าว ทำไมอ่ะ'
Me : 'เลิกกันแล้ว'
มัสซึดะ : 'ดี ฉันเชียร์มานานแล้ว ผู้ชายไรวะเย็นชาฉิบหาย นึกว่ามันเป็นพระเอกนิยายหรือไงวะ!! '
ฮิริเมะ : 'ใจเย็นๆ แกหัวร้อนจังวะ'
มัสซึดะ : 'มิสะมันเพื่อนฉันนะ!? '
อาเนะ : 'ทำไมแชทมันไหลไวจังวะ'
อาเนะ : 'เดี๋ยวนะมิคาสะโสด ก็ต้องฉลองดิ!!!'
อาราชิ : 'ก็นี่ไงยูคิคุงยังว่างนะ'
ยูคิโนะ : 'ถามฉันก่อนสิ'
มัสซึดะ : 'อ่ะงั้นถามเลยละกัน ว่าไงยูคิโนะคุง'
Me : 'ไม่เอาแล้วล่ะ'
Me : 'ฉันตัดสินใจว่าจะเป็นซิงเกิ้ลมัม'
ฮิริเมะ : 'นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เอาจริงเหรอมิคาสะ?'
อาราชิ : 'เฮ้ย เอาจริงดิ'
มัสซึดะ : 'ทำงานหนักไปนะ พักก่อน!!!'
ฮิริเมะ : 'ซิงเกิ้ลมัม?!'
Me : 'ฉันพูดจริง'
Me : จะไปฉีดเชื้อวันมะรืน'
Me : 'เป็นกำลังใจให้ฉันด้วยล่ะ'
แต่ความหวังเหล่านั้นก็มอดดับลงแทบในทันที ที่เห็นข้อความในแชทกลุ่มของเธอ
"ขอแสดงความยินดี ให้กับการเป็นคุณแม่ของมิคาสะจัง!"
เสียงของมัสซึดะดังขึ้นเรียกความสนใจของเพื่อนๆ แก้วทุกใบที่วางแน่นิ่งถูกยกชูขึ้นสูง
"เอ้าชน!!!"
เสียงแก้วนับสิบกระทบกันดังลั่นโต๊ะ เพียงไม่นานเบียร์ เหล้าและน้ำอัดลมก็กองอยู่เต็มพื้น แค่ไม่ถึงชั่วโมงร่างของเพื่อนหลายคน ก็เริ่มทิ้งดิ่งลงบนโซฟาอย่างหมดสภาพ
จนในที่สุดคนที่ต้องรับอาสาไปส่งเพื่อนๆ ก็คือฮารุจิ มิคาสะ เคนตะ และอาราชิที่นำรถส่วนตัวมา ส่วนยูคิโนะที่ติดรถมากับเคนตะ ก็ช่วยพยุงเพื่อนๆ มาส่งที่รถจนครบทุกคน
"เดี๋ยว อย่าดันสิ!!?"
ร่างของยูคิโนะถูกผลักให้มาที่รถของมิคาสะ โดยฝีมือของเคนตะ เขาจึงหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยแววตาขุ่นเขียว แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
"รถฉันเต็มแล้ว มิคาสะจังฉันของฝากเจ้ายูคิกลับบ้านด้วยคนสิ!!"
"ได้สิ ยังเหลือที่ว่างอีกเยอะเลย"
ในตอนนี้รถ CRV คันใหญ่ของเธอมีร่างของฮิริเมะ และมัสซึดะนอนสลบไสลอยู่ที่เบาะหลัง ยูคิโนะมองร่างเล็กเดินอ้อมไปทางฝั่งคนขับ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างๆ ด้วยท่าทีเกรงใจ
รถทั้ง 4 คันเคลื่อนตัวตามกันเป็นขบวนออกจากลานจอดรถ มุ่งหน้าไปยังบ้านของเพื่อนๆ แต่ละคน ภายในรถที่เงียบสงบของมิคาสะมีเพียงเสียงกรนเบาๆ กับเสียงเพลงสากลดังคลอไปตลอดทาง ยูคิโนะไม่อาจละสายตาจากใบหน้าสวยหวาน ที่กำลังมองตรงไปยังท้องถนนเบื้องหน้าอย่างตั้งใจ
แสงจากเสาไฟข้างถนนสว่างวาบผ่านเข้ามาภายในรถ ทำให้เห็นหน้าของมิคาสะได้อย่างชัดเจน... เป็นใบหน้าที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ความรู้สึกที่ได้เห็นก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักครั้ง
"ยูคิโนะ"
'ยังเหมือนเดิม'
.
.
"ยูคิโนะ!"
"หืม?"
"เห็นมองฉันนานแล้ว เพลงไม่ถูกใจเหรอ?"
เขาส่ายหน้าและรีบดึงสายตาออกมาจากเธอทันที ใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำและร้อนผ่าว ในตอนนี้เขาอยากจะขอบคุณความมืดรอบตัวที่ช่วยอำพรางใบหน้าเขา จากสายตาช่างสังเกตของเธอ และหนทางที่ยาวไกลเบื้องหน้า ก็ทำให้ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาภายในหัวของเขา
"คิดดีแล้วใช่ไหม"
"เรื่องอะไรเหรอ?"
"เรื่องมีลูก"
"ฉันคิดมาร่วมสัปดาห์แล้ว ปรึกษากับทางบ้านแล้วด้วยไม่มีอะไรน่ากังวล"
"กังวลสิ..."
คำพูดของเขาทำให้เธอละสายตาจากถนนเบื้องหน้า ออกมามองเขาแวบหนึ่งด้วยความประหลาดใจ
"มันอาจจะดีกว่าถ้าได้อยู่กันพร้อมหน้าสามคน"
มิคาสะหัวเราะหึในลำคอ และส่ายหน้ากับคำพูดของเขา
"การสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ ให้ได้อย่างที่ใจเราต้องการ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะรู้ไหม"
"..."
"มีปัญหามากมายเกิดขึ้นทุกวัน ความขัดแย้ง เรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ความชอบ รสนิยม และ…เรื่องของเวลา"
.
.
"ฉันใช้เวลาค้นหามาพอแล้ว แต่ก็ไม่เจอมันสักที..."
ยูคิโนะอยากจะพูดว่าเขานี่ไง …คนที่เธออาจมองข้ามไป คนที่ยังไม่ได้เปิดใจให้คนนี้
"ถึงคนนี้จะดีในเรื่องนี้แต่ก็ยังมีข้อเสียอีกเรื่อง ในเมื่อเราเป็นฝ่ายที่ต้องยอมและเปลี่ยนแค่คนเดียวมันก็คงไม่ไหว หรือต่อให้ฝืนทำดียังไง สักวันเนื้อแท้ของแต่ละคนก็เผยออกมาอยู่ดี เพราะงั้นฉันถึงได้ 'อยากสร้างครอบครัวของตัวเอง' "
"..."
"ครอบครัวที่ฉันต้องการโดยที่ไม่ต้องรอคอย ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องผิดหวังอีก"
"บางที ถ้าเกิดว่าเป็นฉัน..."
"ขอบใจนะยูคิโนะ"
.
.
"แต่ฉันตัดสินใจแล้ว"
ทำพูดทะลุกลางปล้องของเธอ ทำให้เขาถึงกับสะอึกและชาวาบไปทั้งหน้า
ตลอดมามิคาสะเป็นผู้หญิงที่มีความตั้งใจแน่วแน่ ถ้าเธอได้ตัดสินใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใจเธอได้ทั้งนั้น และความเป็นเพื่อนที่เธอไม่เคยยอมให้เขาก้าวล้ำเข้าไปก็เช่นกัน มันคือปราการสูงชันที่เขาพยายามปีนป่าย และใช้เวลาเพื่อที่จะข้ามผ่านมันไปให้ได้มานานหลายปี
…แต่ก็ไม่เคยผ่านมันไปได้เลยสักครั้ง
และความหวังของเขาที่จะได้ดูแลเธอ ในฐานะคนรักที่เคยมีเพียงไม่ถึง 1% บัดนี้มันติดลบจนไม่เหลืออะไรอีกแล้ว รวมไปถึงหัวใจที่บอบช้ำของเขาตอนนี้ด้วยเช่นกัน...
สายตาทั้ง 2 คู่จากหลังรถ หันมาสบตากันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย พวกเขาได้ยินการสนทนาของทั้งสองคนตลอดเวลา ทั้งรู้สึกเข้าใจในความปรารถนาอันแรงกล้าของมิคาสะ และก็รู้สึกถึงหัวใจที่กำลังแตกสลายหล่นเรี่ยราดมาตลอดทางของยูคิโนะ
ที่ตอนนี้คงแหลกละเอียดจนไม่เหลือชิ้นดีเสียแล้ว…
วันนี้ช่างเป็นวันที่น่ายินดีของ 'เธอ'
และเป็นวันที่น่าหดหู่ใจของ 'เขา' เหลือเกิน
