บท
ตั้งค่า

CHAOTIC LOVE : 06

[Part Plernta]

01:35 น.

@คอนโดG

หลังจากที่จัดการตัวเองให้อยู่ในสภาพพร้อมนอนเรียบร้อย แต่โคมไฟหัวเตียงยังเปิด สายตาโฟกัสหน้าจอมือถือซึ่งปรากฏแชทที่โคตรจะหนักขวา เพราะไร้การตอบกลับจากผู้รับ

ฉันยันตัวขึ้นนั่งพิงพนักหัวเตียง ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความส่งไปอีกครั้ง

ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ : Plern_TA

ต่อมาฉันดีดแผ่นหลังขึ้นตั้งตรงเมื่อหน้าจอโชว์ว่า ‘เห็นแล้ว’ หลังจากข้อความถูกส่งไปได้ไม่ถึงนาที ริมฝีปากผลิบานทันควัน

ตึกตัก…ตึกตัก…ตึกตัก

เสียงหัวใจเต้นเร็วและแรงจนสัมผัสได้ เมื่อมีสัญญาลักษณ์ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังพิมพ์ แสดงขึ้นในหน้าแชท

De.FiEw : อืม ถือว่าหายกัน

“อร๊ายยยยย!!!” ฉันหลุดกรี๊ดเสียงลั่นจนตัวเองยังตกใจ ก่อนจะดึงผ้านวมขึ้นมากัดไว้ ทั้งแขนและขาดีดดิ้น อยู่ไม่สุข แถมยังม้วนกลิ้งไปมาบนที่นอน นี่ฉันเขินกว่าตอนที่เขาจับมืออีกนะ…ดีใจยิ่งว่าตอนได้แต๊ะเอียจากป๊าม้าหลายร้อยเท่า

“ตอบแล้ว เขาตอบกลับฉันแล้ว ในที่สุด อ๊ายยย!” อยากจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้ ไปจนถึงดาวเคราะห์ดวงที่แปดโน่นเลยจริงๆ

มือเล็กถูกยกขึ้นทาบอกในตอนที่ดีดตัวขึ้นนั่ง พยายามผ่อนลมหายใจเข้าออก ก่อนจะกลับมาจับจ้องหน้าจอมือถืออีกครั้ง

แต่ประโยคที่เขาพูดหมายถึง...? หายกันเรื่องอะไร

เรื่องอะไรคะ ที่ว่าหายกัน : Plern_TA

แต่คราวนี้เงียบแฮะ…อ่าน แต่ไม่ตอบ ฉันทิ้งเวลาผ่านไปราวๆ ห้านาที และนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกเรื่องที่จะเอามาคุยกับเขาได้

พรุ่งนี้เพลินเอาเสื้อไปคืนให้ที่ชั้นบนได้ไหม : Plern_TA

De.FiEw : ฝากมิณมา

(ส่งสติกเกอร์หมาคอตก) : Plern_TA

ว่าแล้วเชียว…คอฉันตก เหมือนสติกเกอร์ที่ส่งให้เขานั่นแหละ

เช้าวันต่อมา….

08:30 น.

“อื้ออออ…”

ฉันรู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงกริ่งหน้าคอนโดดังรัวไม่หยุด ก่อนจะม้วนหมอนหนุนเข้าแนบหูพลิกตัวนอนคว่ำเพื่อหวังว่าจะไม่ได้ยินและนอนต่อ

แต่มันไม่ได้ไง…ฉันดีดตัวขึ้นนั่ง ยกมือยีผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท ก่อนจะหย่อนเท้าลงสวมสลิปเปอร์ข้างเตียงพลางหรี่ตาขึ้นเล็กน้อย แล้วกระแทกเท้าไปยังประตู

“อีมิณนะอีมิณ มาทำห่าอะไรแต่เช้าวะ…แม่จะด่าให้ยับเลย ไม่ได้นอนเต็มอิ่มสักวัน” บ่นพึมพำไปตลอดทางเดิน

ฉันดึงประตูเปิดพร้อมกับอ้าปากเตรียมจะด่าเต็มที่

“…” แต่ยังไม่ทันได้เริ่มก็ต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันซะก่อน คำด่ามากมายถูกกลืนกลับลงคอไปพร้อมก้อนน้ำลายอึกใหญ่

“ลูกม้าตื่นสายขนาดนี้เลยเหรอ หืม?” เสียงจากผู้เป็นแม่ทำให้ฉันตื่นขึ้นเต็มตาและมองตามผู้มาเยือนทั้งสองที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาด้านในโดยไม่ได้รับคำเชิญ

สุดท้ายฉันทำได้แค่ดันประตูปิด...

“ป๊าม้า มาทำอะไร ไม่เปิดร้านรึไง” ฉันเอ่ยถามขณะสาวเท้าไปขนาบข้างผู้เป็นแม่ของทุกสรรพสิ่งในบ้าน

“เปิดก็มาได้ ทำไม ไม่อยากให้ป๊าม้ามา?” ป๊าตอบพลางกวาดสายตาสำรวจรอบคอนโด ส่วนม้าก็เดินตรงไปยังโต๊ะอาหารขนาดกลางก่อนจะวางข้าวของที่หอบมาลงบนนั้น

“ไม่ใช่สักหน่อย ก็ป๊าม้าชอบมาแบบไม่บอกอะ” ฉันพูดขึ้น แต่ยังจับจ้องอยู่กับอาหารหลายอย่างที่ม้าเตรียมมา

“ก็ลูกสาวคนเดียวของม้าไม่ยอมกลับบ้านเลย ปิดเทอมตั้งเป็นเดือนก็ไม่ยอมกลับ” ม้าบ่นไป จัดอาหารไปตามสไตล์ของมารดาที่แท้ทรู ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเดียว ป๊ากับม้าก็เลยหวงมากเป็นพิเศษ แต่ที่ได้แยกออกมาอยู่คอนโดก็เพราะฉันทำคะแนนได้ดีมาตลอด นี่คือสิ่งที่ได้ตอบแทน และมันโคตรคุ้มค่ากับการลงทุนตั้งใจเรียน

“ไม่ใช่ไม่อยากกลับ แต่ว่าลูกเตรียมเรื่องฝึกงานไง อีกสองอาทิตย์ก็เปิดเทอมแล้ว ต้องไปเริ่มฝึกงานเลยด้วย” ฉันอธิบายขณะสอดแขนเข้าโอบรอบเอวผู้ให้กำเนิดแน่น

“ลูกได้ที่ฝึกงานแล้วเหรอ” เสียงป๊าดังออกมาจากห้องนอน ฉันเบิกตากว้างหันไปมองด้วยความตกใจ เข้าไปตั้งแต่ตอนไหนนะ ไม่นานผู้เป็นพ่อก็เดินมือไขว้หลังออกมา

นี่นักสำรวจตัวยงเลยนะเนี่ย

“ได้แล้วซิคะ” ฉันตอบกลับเรื่องที่คุยกันค้างไว้ “บริษัทใหญ่ด้วยน้า กว่าจะได้ ลูกส่งไปตั้งหลายรอบแน่ะ”

“ได้ที่ไหน ไม่เห็นบอกม้าเลย”

“พีพีเอ็นค่ะ” ฉันตอบด้วยความภาคภูมิใจ นี่ไม่ใช่ใครนึกอยากจะเข้าไปฝึกงานก็ไปได้ง่ายๆ หรอกนะ เกรดต้องดีแถมต้องผ่านบทสัมภาษณ์ตั้งหลายรอบและฉันติดหนึ่งในสองคนของปีนี้ หนึ่งปี พีพีเอ็น จะรับเด็กเข้าฝึกงานแค่สองคนจากมหาวิทยาลัยดังทั้งจังหวัด ไม่มีการใช้เส้นสายใดๆ ทั้งสิ้น

อีกอย่างนี่เป็นบริษัทของครอบครัว ภูริศิรินันท์ ฉันจะได้เจอเขาทุกวันตลอดเวลาที่ฝึกงานอย่างแน่นอน

“ว้าว...สุดยอดเลย” ม้าตาลุกวาว แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก พีพีเอ็น

“ใช่ไหมล่ะคะ อ๊ะ!” ฉันยกยอตัวเองหน้าชื่นตาบานพลางเอื้อมมือไปหยิบของโปรดอย่าง ฮะเก๋ากุ้ง ที่อยู่ในกล่องอาหารแต่ถูกม้าตีอย่างแรง

“ไปอาบน้ำแปรงฟันก่อน ค่อยมากิน”

“ม้าอะ” ฉันลูบมือตัวเองป้อยๆ พลางทำหน้ามุ่ยใส่ผู้เป็นแม่

“ไปเลย”

ก่อนจะสะบัดตูดปั่นปึงไปจัดการตัวเองตามที่ม้าสั่งด้วยความจำยอม เพราะท้องร้องโครกครากไม่หยุดในตอนที่ได้กลิ่นอาหารหลากหลายของร้าน ไท่เหยียนติ่มซำ เป็นร้านที่ป๊ากับม้าช่วยกันสร้างขึ้นมาจนฉันมีชีวิตสุขสบายในวันนี้

ใช้เวลาไม่นานฉันก็พาตัวเองมานั่งเขี้ยวอาหารตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อยพร้อมหน้าพร้อมตา ท่านคงจะเหงาที่ฉันไม่อยู่บ้าน

“เออ ในกล่องนั่นของมิณกับนนท์นะ ม้าแยกให้แล้ว ฝากลูกไปให้พวกเขาด้วย”

“ได้ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะคิดได้ว่าเขาขึ้นไปกรุงเทพในช่วงปิดเทอมนี้ คนที่ม้าพูดถึง พี่นนท์ พี่ชายข้างบ้านที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ป๊ากับม้ารักและเอ็นดูเขามาก พอๆ กับมิณนั่นแหละ ถึงมิณจะเป็นเพื่อนช่วงมหาลัยแต่ป๊ากับม้าก็รักมันมากๆ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันขาดอะไรหลายๆ อย่าง แต่สู้ชีวิตสุดยอด

เพราะฉะนั้น ในเมื่อพี่นนท์ไม่อยู่ ของฝากเหลือชุดหนึ่ง

ฉันวางตะเกียบลงพร้อมไอเดียดีๆ ในหัว

“จะไปไหน” ม้าเอ่ยถามในตอนที่ฉันผุดลุกจากเก้าอี้พุ่งตัวไปยังของฝากที่ม้าเตรียมมา

“เอาของไปให้มิณ” ฉันบอกพร้อมกับหยิบกล่องอาหารหนึ่งชุดมาถือไว้ในมือสาวเท้าไปที่ประตูด้วยความเร่งรีบ

“เอ้?…ทำไมต้องรีบละ กินให้อิ่มก่อนก็ได้”

“ลูกอิ่มแล้วค่ะ”

ประตูถูกปิดหลังจากสิ้นเสียงฉัน

แน่นอนว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงไม่ใช่การเอาของไปให้เพื่อนรักอย่างเดียวอยู่แล้ว แต่ฉันต้องได้ข้อมูลอะไรกลับมาด้วย…

และแล้วฉันก็พาตัวเองมายืนกดกริ่งอยู่หน้าคอนโดเพื่อนรัก ไม่ถึงสามนาที มิณก็มาเปิดประตูให้

“อุกกาบาตจะชนโลกไหมวะเนี่ย” มันทำหน้าตกใจราวกับเรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น ตอนไปเรียนฉันก็ตื่นเช้าไหมล่ะ…

“อีนี่…” ฉันยกมะเหงกจะเคาะหัวมันแต่ก็ต้องลดมือลง เพราะนึกขึ้นได้ว่านี่ไม่ใช้เวลาจะมาทะเลาะกับมัน

“ผัวมึงอยู่ไหม” ฉันพยายามมองเข้าไปด้านใน เพราะปกติเวลามาหามิณฉันจะไม่เข้าไปอยู่แล้ว เกรงใจรุ่นพี่ยูตะ และส่วนมากจะเป็นมันมากกว่าที่ขึ้นไปหาฉัน

“ถามหาทำไมมิทราบ” มันเอียงคอถามฉันเสียงแข็ง ความหวงผัวไม่มีใครเกินเพื่อนฉันจริงๆ

“กูมีอะไรจะขอให้เขาช่วยหน่อย” ไหนๆ เขาก็รู้กันหมดแล้ว ก็ขอให้เขาช่วยไปเลยแล้วกัน

“เรื่อง” มันเลิกคิ้วถาม

“กูอยากได้ที่อยู่ของเฮียฟิวส์” สิ้นเสียงฉันเพื่อนรักก็สบถออกมาเสียงดังลั่น

“ฮะ!!!”

จนฉันสะดุ้งโหยง บ้าจริง…

“จะตกใจอะไรขนาดนั้น”

“เกินไปปะ นี่มึงจะไปหาเขาถึงบ้านเลยเหรอ คิดอะไรอยู่” มันโวยวาย

“ไม่ใช่ มึงจะบ้าเหรอ…”

“แล้วจะเอาที่อยู่เขาไปทำอะไร”

“แค่จะส่งของไปให้ เนี่ยป๊าม้าเอาของมาฝากมึง” ฉันว่าพลางชูกล่องอาหารขึ้นตรงหน้าและอธิบายเหตุผลต่อ

“แล้วกูก็เลยอยากเอาให้เขาด้วย”

มันรับกล่องอาหารไปถือไว้พลางกลอกตาไปมา เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะพยักหน้ารับ

“เข้ามาก่อนงั้นอะ เฮียยูอาบน้ำอยู่”

“อ้าวเหรอ…งั้นมึงขอให้กูได้ไหม”

“ไม่รับปากว่าจะได้รึเปล่า”

“น้า…เพื่อนรัก” ฉันใช้สกิลการออดอ้อนที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดเอื้อมมือไปเกาะแขนเพื่อนสุดที่รักเพียงคนเดียว พร้อมกะพริบตาปริบๆ หวังว่ามันคงจะเห็นใจฉันบ้าง ไม่มากก็น้อย

ในที่สุดมันก็พยักหน้ารับ

“ม๊วฟ…รักมึงที่สุด” ฉันยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มหนึ่งที่ก่อนจะถูกเพื่อนรักผลักออกอย่างแรง

“อี๋ ขนลุก” มันทำหน้าเหยเกขั้นสุด แล้วยกมือปัดไล่ก่อนประตูถูกจะปิดใส่ แต่ฉันไม่โกรธมันหรอกนะ มิหนำซ้ำยังเดินร้องเพลงกลับคอนโดตัวเองด้วยความสบายใจ…

อะไรที่มิณยอมรับปาก แสดงว่าต้องได้อย่างแน่นอน....

“อุ๊ย!...” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยในตอนที่เปิดประตูเข้ามาเห็นป๊ากับม้ายืนจ้องตาเขม็ง ท่าทางเคร่งเครียดและจริงจัง ก่อนออกไปยังดีๆ อยู่เลย เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย…

“นี่ของใคร” ป๊าถามเสียงเข้มพร้อมกลับเอาของออกมาจากด้านหลัง

ซวยแล้ว…ดวงตาฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะพุ่งเข้าไปแย่งแจ็คเกตของเฮียฟิวส์มากอดไว้แน่น

“ขะ…ของเพื่อน นะ…หนูยืมใส่แล้วลืมคืน”

“เพลินตา ลูกรู้ไหมว่าสกิลในการโกหกของลูกเป็นศูนย์” ม้าพูดพลางหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด

สายตาฉันล่อกแล่กไปมาเพื่อหลีกหนีการถูกไล่ต้อน จนมันเหล่เข้าหากัน

“ไม่ต้องมาทำตาเหล่ใส่ม้า” ม้าว่าพลางฟาดมือลงมาที่ต้นแขนฉัน

“อ๊ะ! ก็เพื่อนจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน” ฉันบอกเสียงอ่อยก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาอย่างแรง

“หมายความว่าไง ลูกกำลังจะมีแฟนแล้วไม่บอกป๊างั้นเหรอ” ป๊าพูดขณะเดินอ้อมมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ตามด้วยม้ามาประกบอีกข้าง

“ไม่ใช่สักหน่อย” ฉันปฏิเสธ

“ไหนลูกสัญญาว่าถ้ามีแฟนจะบอกป๊ากับม้าก่อนไง” คนเป็นแม่ทวงสัญญาที่ฉันเคยให้ไว้เมื่อนานมาแล้ว และฉันก็ไม่ได้ลืม ไม่ได้ตั้งใจปิด แต่…

“ก็ตอนนี้ยังไม่มีไงแล้วก็ไม่รู้จะได้เป็นรึเปล่าด้วย เขาไม่ได้ชอบลูก แง่งงงง…” ฉันร้องกระจองอแงเหมือนเด็กน้อยขึ้นมาทันที เพราะรู้ว่าป๊ากับม้าจะใจดีกับฉันเสมอ

“โอ๊ะ…ตายแล้ว มาๆ ม้ากอด”

ฉันร่างถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงขึงขังของผู้เป็นพ่อที่รักลูกสาวอย่างฉันสุดชีวิต

“ใครมันกล้าปฏิเสธลูกสาวป๊า บอกมา ป๊าจะไปจัดการให้”

“ช่างเถอะ ลูกไม่อยากพูดถึง” น้ำเสียงปนสะอื้นเล็กน้อยที่มาจากเพลินตาการละคร แน่นอนถ้ามาโทนเศร้าแบบนี้ ป๊าม้าจะหยุดซักไซ้ในทันที เพราะทั้งสองจะพากันปลอบโยนฉันไม่หยุด

ยกยิ้มมุมปากไปหนึ่งทีและบีบน้ำตาต่อเบาๆ …

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel