บท
ตั้งค่า

INTRO…CHANGE YOU (2/3) ความในใจของนักเขียน

ในขณะที่ฉันไม่คิดจะทำตามในสิ่งที่เขาบอก ก้าวยาวๆ ตามแบบฉบับสาวสูง 168 เซนติเมตร ออกไปทางประตูด้านข้าง เพื่อหามุมสงบให้ตัวเองได้พักผ่อน

เมื่อออกมารับลมเย็นๆ ด้านนอกได้ ฉันก็หายใจเข้าลึกๆ และผ่อนออกอย่างแรงจนสุด สองขาพาร่างกายไปประชิดกำแพงคอนกรีต ที่สูงเลยช่วงเอวมาเล็กน้อย

ฉันวางมือบอบบางที่ใช้ทำเงินหลักหลายล้านมาแล้ว ลงบนราวเหล็กที่มีอุณหภูมิเย็นเฉียบ ก่อนหลับตาซึมซับความสงบที่ชื่นชอบหนักหนาอย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งมีเสียงไม่พึงประสงค์ดังขึ้นในกระเป๋าเสื้อสูทสีขาวพอดีตัว

ฉันเปิดเปลือกตาลืมขึ้นและถอนหายใจแรงๆ มีน้อยคนนักที่จะรู้จักเบอร์ส่วนตัวของฉัน และกล้าพอจะเสี่ยงโทรหาได้ โดยไม่กลัวโดนฉันแหกปากแหวใส่

พ่อเสียไปตั้งแต่ฉันยังไม่เรียนไม่จบมัธยมต้นด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนแม่พึ่งจากไปตอนที่ฉันเรียนจบใหม่ๆ ด้วยโรคร้าย

พี่น้องไม่มีใครนับญาติ เพราะสันดานฉันเสียจนพวกเขาเอือมระอา เพื่อนสนิทมิตรสหายยิ่งแล้วใหญ่ เติบโตขึ้นมาจนอายุ 28 ปีเต็ม ยังไม่เคยรู้จักกับคำว่ามิตรภาพ

ชีวิตนี้จึงโดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิง และตัวฉันเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกโหยหามันเลยสักนิด

แม้แต่ความสัมพันธ์แนวรักๆ ใคร่ๆ ที่มักจะเข้ามาหาอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ถูกฉันเหวี่ยงออกไปจนไกลสุดขอบโลก และสุดท้ายพวกผู้ชายรอบๆ ตัว ก็เริ่มรู้ฤทธิ์เดชของฉันกันจนหมด ไม่มีใครกล้าเสี่ยงแบกหน้ามาให้แหกอีกเลย

จนกระทั่งได้มารู้จัก ‘คุณอร’ บรรณาธิการสำนักพิมพ์ที่ฉันเซ็นสัญญาร่วมงานอยู่ในขณะนี้ เขาเป็นหญิงวัย 40 ปีปลายๆ ที่มองเห็นศักยภาพในตัวฉัน

หลังจากที่เทียวส่งต้นฉบับไปนับสิบที่ แต่กลับไม่มีใครสนใจผลงานของฉันเลยสักคน จนสำนักพิมพ์สุดท้ายที่คิดมาดีแล้ว ว่าถ้าหากแห้วอีกฉันจะจบความฝันลมๆ แล้งๆ ของตัวเอง และกลับไปเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ เหมือนเดิม คุณอรเธอก็ปรากฏตัวขึ้น

เธอส่งเมลล์กลับมาหาในวันนั้นเลย เอ่ยชมผลงานอย่างที่ฉันไม่เคยได้รับจากใคร และเสนอให้เซ็นสัญญาเป็นนักเขียนในการดูแลของเธอ

และนั่น...คือจุดเริ่มต้นของการก้าวเดินตามความฝัน จนในที่สุดฉันก็ได้รับสมญานามว่า ‘นักเขียนมือทอง’ ในวันนี้

“ว่าไงคะคุณ บก. ที่รักยิ่ง”

ฉันล้วงมือเข้าไปหยิบมือถือขึ้นมากดรับ และกรอกเสียงอย่างแดกดันลงไป ขนาดผู้มีพระคุณฉันยังไม่เว้นที่จะทำนิสัยแย่ๆ ใส่

[ไม่ต้องมาแดกดันฉันเลยนะ วันนี้เป็นไงบ้าง ราบรื่นดีไหม?]

คุณอรยังคงรู้ใจกัน และรู้วิธีในการรับมือกับเจ้าแม่สายวีนอย่างฉันเสมอ

“อิมเคยทำให้คุณผิดหวังด้วยเหรอคะ?”

ฉันหันกายกลับมาเผชิญหน้ากับผนังกระจกอาคาร และใช้สะโพกกลมกลึงของตัวเองอิงราวเหล็กเอาไว้ด้วยท่วงท่าสบายๆ

สายลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกาย ทำให้เส้นผมยาวสลวยซึ่งถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ปลิวมาคลอเคลียอยู่ข้างแก้มจนเกิดความรู้สึกรำคาญ จึงต้องยกมืออีกข้างที่ว่างขึ้นจับผมทัดใบหู

[ตอนนี้เธออาจจะยัง แต่ในอนาคตเธอทำแน่]

“อิมไม่เข้าใจ คุณกำลังจะสื่ออะไรคะคุณอร?”

ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจว่าสิ่งที่คุณอรกำลังสื่อคืออะไร แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราว และแกล้งถามไปอย่างนั้น

[อย่ามาแกล้งโง่ ฉันรู้ว่าเธอรู้ ว่าฉันพูดถึงเรื่องอะไร]

ไม่เคยมีสักครั้งที่จะโกหกเธอได้ คุณอรรู้ความคิดฉันทุกอย่าง ราวกับว่าเธอฝังไมโครชิป เอาไว้ในหัวสมองอันล้ำค่าของฉัน

“อิมไม่ได้แกล้งโง่นะคะ อิมไม่รู้จริงๆ” ฉันยังคงแกล้งโง่ และตีหน้าใสเสียงซื่อๆ ต่อไป

[เธอยื่นเอกสารขอยกเลิกสัญญาการเป็นนักเขียนทำไม?]

และในที่สุด คุณอรก็ขี้เกียจเล่นสงครามประสาทกับฉัน เธอเลือกที่จะถามในสิ่งที่อยากรู้ออกมาจนได้

ฉันยืนนิ่งสายตามองตรงเข้าไปในผนังกระจก ที่สะท้อนภาพตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายรองเท้าส้นสูง

ผู้หญิงในภาพสะท้อนหน้าตาสะสวย เครื่องหน้าครบครันตามแบบฉบับสาวไทยแท้ ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งมีดหมอก็สวยได้อย่างไร้ที่ติ ทรวดทรงองเอวมีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน แม่ให้มามากเกินพอดีเสียด้วยซ้ำ

ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตเป็นลอนธรรมชาติ ไร้สารเคมีจากการถูกดัดหรือย้อมสี แถมเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ ก็เป็นแบรนด์เนมราคาแพงระยับทั้งตัว

ดูเผินๆ เธอเหมือนคนที่ควรจะต้องมีความสุขมากๆ คนหนึ่ง ทว่าในนัยน์ตาสีเดียวกับเรือนผมนั้น กลับดูว่างเปล่าอย่างน่าใจหาย

ใช่! ฉันไม่มีความสุขในชีวิตเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ความฝันที่วาดเอาไว้เป็นจริงแล้ว ฉันได้เป็นนักเขียนที่เกินกว่าจะใช้คำเรียกว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ เสียอีก

ผลงานถูกยอมรับจากนักอ่านมากมาย มีนักแปลต่างชาติซื้อลิขสิทธิ์นำไปทำหนังสือขายต่อในประเทศของเขา จนชื่อเสียงฉันโด่งดังระดับโลก

ถูกทาบทามขอสัมภาษณ์จากสื่อมากมายทั่วประเทศ ได้จับเงินหลักร้อยล้านในเวลาไม่ถึงปี มีแฟนคลับมากมายแห่ชื่นชมและคอยให้กำลังใจ แต่ชีวิตการเป็นนักเขียนในเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมานี้ ฉันกลับรู้สึก...ว่างเปล่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel