EPISODE13 [ปล่อยมันไปก่อน]
Bad Twins เฮียแฝดอย่าร้าย
EPISODE13
[ปล่อยมันไปก่อน]
“พี่หยิน!” หมิวร้องเสียงหลง หวาดกลัวกับคมมีดที่กำลังปรี่เข้าใส่รุ่นพี่หนุ่มของเธอ ในขณะที่เขาไม่ได้มีแววตื่นตกใจอะไรเลยนี่สิ
“เกรี้ยวกราดจังนะฮะ มีดไม้มันอันตรายนะ” หนุ่มน้อยส่งเสียง สายตาจดจ้องอยู่ที่คมมีดสลับกับทิศทางเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม
“เงียบปากไอ้เด็กเหี้ย!” คำพูดที่ราวกับสุมไฟบนหัวคนฟัง ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่รอช้าที่จะตวัดคมมีดใส่หยินทันที
พลั่ก!
จังหวะที่ผู้ชายคนนั้นตวัดมีดมา หยินก็เหวี่ยงกระเป๋าเป้ใส่อีกฝ่าย หวังใช้กระเป๋าป้องกันคมมีด ก่อนจะตรงเข้าไปคว้าข้อมือรุ่นน้องสาวออกวิ่งทันที
‘หนึ่งต่อสี่อยู่ไปก็เสียเปรียบ’ หนุ่มน้อยคิดในใจ
“ลูกพี่! ไอ้เด็กนั่นมันพาผู้หญิงวิ่งไปโน้นแล้ว” หนึ่งในลิ่วล้อที่มัวแต่ตะลึงกับการหลบหลีกคมมีดของหยินตะโกนขึ้น
“ไอ้เหี้ยเอ้ย! มึงก็รีบตามมันไปสิวะ เอาตัวไอ้เด็กนักเรียนมาให้กูยำตีนให้ได้”
จ่าฝูงสั่งเสียงกร้าว มีลูกน้องก็เหมือนไม่มีจริง ๆ แค่เด็กผู้หญิงคนเดียวก็ยังให้มันเอาตัวไปได้
หยินเร่งฝีเท้าไปบนเส้นทางของสวนสาธารณะ มือจับข้อมือรุ่นน้องสาวไว้แน่น
“ต้องรีบไปที่ถนนใหญ่ให้ได้ก่อน” หยินหันมาบอก ทำให้หมิวกัดฟันแน่น สาวเท้าวิ่งตามเขาไปให้ทัน เพราะไม่อยากเป็นภาระเขา ขณะที่กลุ่มนักเลงก็วิ่งไล่หลังมาติด ๆ
“พี่ ๆ จอดก่อนฮะ!”
ขณะที่ใกล้จะถึงทางออก โชคดีที่มีรถแท็กซี่คันหนึ่งเลี้ยวมาส่งคนที่ทางเข้าสวนสาธารณะพอดี เขาเลยรีบพาเธอไปยังรถคันนั้นก่อน
“หมิวกลับไปก่อนนะ!” หยินบอกอย่างรีบร้อน
“แล้วพี่ล่ะ รีบขึ้นมาสิคะ” หมิวแย้งราวไม่ยอม จะให้เธอกลับไปแล้วเขาล่ะ
“พี่ออกรถเลยฮะ” หยินไม่ได้ตอบอะไร เขาปิดประตูรถแล้วให้โชว์เฟอร์ขับออกไปทันที
กลุ่มนักเลงที่ตามมาเห็นว่าหยินส่งผู้หญิงขึ้นรถไปแล้วก็ยิ่งหัวเสีย พวกมันต่างตรงเข้ามาเอาเรื่องหนุ่มนักเรียนอย่างต้องการสั่งสอน
หยินเห็นแบบนั้นจึงรีบออกวิ่งต่อ เขาวิ่งซิกแซกลัดสนามหญ้าไปตามแนวรั้วไม้ประดับ ทำให้กลุ่มนักเลงไล่ตามลำบากขึ้น เพราะฝีเท้าหนุ่มนักเรียนก็เร็วพอตัวทีเดียว
“เกาะติดกูดีจังนะมึง” เขาพึมพำขณะวิ่งมาหลบข้างพุ่มไม้สูง ตอนที่ถอยมาแอบ มือก็ไปจับเจอกับอิฐตัวหนอนที่ทางสวนสาธารณะวางกั้นแนวต้นไม้ไว้ หยินจึงหยิบมันยัดใส่ในเป้มาสองก้อน
“มันหายไปไหนแล้ววะ!” เสียงที่ดังขึ้นใกล้ ๆ ทำให้เขาแทบไม่กล้าหายใจแรง
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานหยินจ้องเขม็งไปยังชายคนหนึ่งที่เดินวนไปวนมาในระยะที่อยู่ใกล้พุ่มไม้มากที่สุด
แสงตะวันสุดท้ายของวันที่ค่อย ๆ เคลื่อนลงต่ำแตะขอบฟ้า ทำให้ไฟในสวนสาธารณะค่อย ๆ ติดขึ้น หยินกัดกรามแน่นขยับตัวออกจากที่ซ่อนเมื่อเห็นว่าพวกนักเลงทำท่าจะเดินไปทางอื่นแล้ว
“เฮ้ย!” เสียงทักสั้น ๆ ทำให้อีกฝ่ายหันกลับมา
พลั่ก! กระเป๋าเป้ที่บรรจุอิฐตัวหนอนถูกฟาดใส่หน้าฝ่ายตรงข้ามทันที
ตุบ!
เจ้าของร่างสูงที่ถูกเป้ตีเข้าที่กลางแสกหน้าถึงกับมึนงงเดินซวนเซ ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อเลือดสีสดไหลอาบนองหน้า
“มึง!” มือสั่น ๆ ที่ยกชี้หน้าหนุ่มนักเรียนบ่งบอกว่านักเลงตรงหน้าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว หยินจึงหมุนตัวกระโดดเตะยอดหน้ามันซ้ำทันที
พลั่ก!
ตุบ!
ร่างของลิ่วล้อที่เดินรั้งท้ายกลุ่มสลบเหมือดไปแล้ว ทำให้คนที่เหลือระวังตัวมากขึ้น เพราะไอ้เด็กนักเรียนนี่ก็ท่าทางจะเอาเรื่องพอตัว
“เก่งนักเหรอมึงอะ” หัวโจกว่า มีดพกที่เอวถูกดึงออกมากระชับไว้แน่น
“จะเดี่ยวจะหมู่ก็ลองได้ฮะ” เขาท้าทาย ทำสีหน้าราวไม่เกรงกลัวของมีคมในมือฝ่ายตรงข้าม
“เล่นแม่งเลย!” สิ้นเสียงนั้นกลุ่มนักเลงก็ปรี่ยกมีดเข้ามาหาเขาทันที
หยินที่มีอาวุธเป็นกระเป๋าใบเดียวพลิ้วตัวหลบคมมีดสลับกับฟาดเป้ใส่อีกฝ่ายทุกครั้งที่มีโอกาส แต่เขาอาจจะห้าวเกินไปหน่อย เพราะพื้นหญ้ามันลื่นไม่น้อยเลย ทำให้หนุ่มนักเรียนลื่น จนเสียหลักล้มลงกับพื้น
ตุบ
“เหี้ยละไง” หยินพึมพำ เมื่อเห็นแสงวาววับของคมมีดที่สะท้อนกับแสงไฟ เขารีบเบี่ยงตัวหลบมีดที่พุ่งเข้าใส่ทันที
ฉึก!
คมของมันที่ถากเข้ากับต้นแขน ทำเอาเสื้อนักเรียนที่สวมอยู่ขาดวิ่น หยินพลิกตัวลุกขึ้นก่อนจะเตะอัดหน้าไอ้คนที่กล้าทำแขนเขามีรอยแผล
พลั่ก!
ผลัวะ!
แรงของเท้าที่ตามด้วยความแข็งของอิฐตัวหนอนในกระเป๋า ทำให้เจ้าของคมมีดอยู่ในอาการชาหน้ามืด เลือดที่ไหลลงมาอาบลูกตาทำให้การมองเห็นพร่าเบลอไปหมด
“จะเอาอีกเหรอฮะ พาเพื่อนไปส่งโรง’บาลก่อนไหม ผมน่ะยังได้อยู่นะ”
หนุ่มน้อยที่ลุกขึ้นตั้งท่ารับมือราวไม่ได้ยี่หระกับบาดแผลพูดหยั่งเชิง ทำให้นักเลงสองคนที่เหลือเริ่มลังเล
“ช่วยกู! ครั้งนี้ปล่อยมันไปก่อน”
ชายคนที่ถูกหยินซัดหนัก ๆ ติดกันสองครั้งพึมพำ ยกมือกวักเรียกให้เพื่อนมาช่วย นั่นทำให้หยินค่อยหายใจสะดวกขึ้น
เวลาต่อมา…ณ ค่ายฝึกมวยฟีนิกซ์ เพลิงและไฟที่เดินเข้ามาในค่าย และเห็นว่าพวกซ่งกำลังแทงสนุ๊กกับเด็กในค่ายอยู่ ก็ได้แต่พากันนั่งลงเงียบ ๆ ทว่าเป็นหยางที่แปลกใจจนต้องออกปากถามเฮียแฝด
“ลมอะไรหอบพวกเฮียมาที่ค่ายได้เนี่ย” หยางว่า
“นี่ก็ค่ายกูไหม” ไฟโต้ตอบ ทำให้หยางยิ้มแหยใส่ ขณะนั้นรถแท็กซี่ก็แล่นมาหยุดลงที่หน้าค่ายพอดี เป็นไอ้เด็กน้อยประจำกลุ่มที่เดินลงมาจากรถด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน มาถึงหยินก็ถอดเสื้อนักเรียนโยนลงถังขยะข้างเสาใกล้กับโต๊ะที่พวกเพลิงนั่งกันอยู่
"มึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอีกแล้ววะไอ้หยิน" ซ่งที่หันมาเห็นสภาพไอ้เด็กที่เนื้อตัวสกปรกกลับมาก็ส่งไม้คิวให้หยางไปแทงต่อ
"พวกกุ๊ยขี้ยามั้งเฮีย จู่ ๆ แม่งก็มาหาเรื่อง" หยินส่งเสียงขุ่น พลางถอดเสื้อยืดตัวในที่ชื้นไปด้วยเหงื่อออกไปกางผึ่งพัดลม โดยไม่สนว่าใครจะเหม็นกลิ่นเหงื่อบนเสื้อไหม
เนื้อตัวขาวจัดที่ทุกคนในค่ายเห็นจนชินตาเวลาซ้อมมวยกัน ทว่ากลับไม่ชินจังหวะหัวใจของสองพี่น้องฝาแฝดที่เพิ่งเคยเห็นผิวพรรณของหยินเพียงครั้งเดียว
"มึงจะถอดเสื้อทำไม" เพลิงที่ลุกมาประชิดร่างหนุ่มน้อยก่อนที่ซ่งจะเดินมาถึง ทำให้หยินมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ
"เสื้อมันเปียกฮะ แล้วก็…โอ้ย! เฮียแขน ๆ" หยินกำลังจะอธิบาย ทว่าเพลิงที่เห็นว่าต้นแขนขาว ๆ ของไอ้เด็กที่เอาแต่ทำให้เขาหงุดหงิดมาทั้งวันมีรอยแผลถากจนเลือดซึม ชายหนุ่มก็ลากตัวหยินมานั่งที่โต๊ะทันที
"แขนไอ้หยินทำไมวะ กูดูหน่อย" ซ่งเห็นว่าจู่ ๆ หยินก็ร้องโอยขึ้นมา จึงรีบตามมาดู แต่ไฟก็ขยับตัวมานั่งขวางทางเขาไว้อีกคน
"ไอ้ซ่งมึงไปเอากล่องพยาบาลให้กูที" ไฟหันไปบอกเพื่อนเสียงเรียบ ทำให้ซ่งได้แต่หมุนตัวกลับไปเอาของ ในใจได้แต่งงว่าทำไมวันนี้ไอ้แฝดนรกถึงได้ทำตัวราวกันท่าเขาจากไอ้เด็กหยินจัง
