EPISODE14 [แค่เอาตัวรอด]
Bad Twins เฮียแฝดอย่าร้าย
EPISODE14
[แค่เอาตัวรอด]
“ทำไมสภาพพวกมึงเป็นแบบนี้วะ”
ตี๋ที่ได้รับสายจากกลุ่มคนที่เขาจ้างให้ไปทำงาน ก็รีบตรงมายังจุดนัดพบทันที ทว่าสภาพของไอ้นักเลงหัวไม้ที่แทบจะลากสังขารมาเจอเขา ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น
“มึงยังมีหน้ามาถามอีกเหรอวะ ดูที่ไอ้เด็กเปรตนั่นทำลูกพี่กูก่อน นักเรียนส้นตีนอะไร มึงส่งพวกกูไปตายชัด ๆ”
ลิ่วล้อตัวแทนที่มีสภาพฟกช้ำน้อยกว่าใครชี้นิ้วไปยังลูกพี่ของตนที่นอนรออยู่ในรถด้วยสภาพที่ถูกตีจนยับ โดนหมอพันผ้าพันแผลจนแทบจะเป็นมัมมี่อยู่แล้ว
ตี๋เห็นแบบนั้นก็ได้แต่อึ้งไป หรือไอ้พวกนี้จะไปจัดการผิดคน
“มึงแน่ใจนะว่ามันเป็นเด็กนักเรียน” ตี๋ถามย้ำ เพราะถ้าพวกมันตีผิดคน เขาก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าแรง
“ก็เด็กนักเรียนสิวะ ที่มันทำผมน้ำเงิน ๆ ตัวขาว ๆ ไอ้เหี้ยแม่งเอาอะไรตีพวกกูก็ไม่รู้” ลิ่วล้อนักเลงบอกย้ำ ไอ้เด็กนั่นสวมชุดนักเรียนMDLชัด ๆ พวกเขาไปตีไม่ผิดคนหรอก มันผิดตรงที่ไอ้เด็กนั่นมันสู้เก่งเกินไปต่างหาก
“เออ ๆ มึงเอาค่าจ้างไป แล้วนี่กูให้เพิ่มค่าหมอ เงียบปากพวกมึงให้ดีแล้วกัน” ตี๋เบื่อจะคุยเลยยอมจ่าย ๆ จะได้จบเรื่อง
ณ ค่ายฝึกมวยฟีนิกซ์
“อู้ย! เบาหน่อยสิฮะ” หยินร้องออกมาเมื่อไฟเทแอลกอฮอล์ราดลงบนแผลสดของเขา ท่าทางที่เหมือนทำแผลไม่เป็นของเฮียแฝด ทำให้หยางได้แต่สงสารไอ้เด็กน้อยจับใจ
“เฮียใช้สำลีด้วยดิ แบบนั้นมันเปลืองแอลกอฮอล์ตายห่า” หยางว่า ลุ้นเฮียไฟทำแผลยิ่งกว่าลุ้นมวยเสียอีก
“นั่นดิ! มึงราดแบบนั้นไอ้หยินมันก็แสบสิวะ” ซ่งเตือน
“มึงทำเป็นไหมเนี่ยไอ้ไฟ ถ้าไม่เป็นก็ให้ไอ้หยางมันทำ” เฉินเสริมอีกคน
“พวกมึงเงียบปากเหอะ กูใช้สมาธิอยู่” ไฟทำเสียงขุ่นใส่ไอ้พวกเพื่อนเวรที่เอาแต่ส่งเสียงขัดเขาอยู่นั่นแหละ
ตอนนี้คนในค่ายมวยต่างพากันมายืนดูเฮียเพลิงและเฮียไฟ ที่กำลังทำแผลให้หยินด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ สงสารไอ้เด็กน้อยที่ขัดขืนหนีไปไหนไม่ได้ด้วยสิ
“ทาอะไรอีกวะ สีเหลืองไหมวะ” เพลิงที่กำลังไล่อ่านขวดยาในกล่องพยาบาลเงยหน้าขึ้นมาถามหยาง
“ใช่เฮีย แต่ไม่ต้องราดแบบเฮียไฟนะ เอาสำลีค่อย ๆ แตะพอ” หยางรับคำเฮียแฝด ทำให้เพลิงดึงสำลีออกจากห่อ
“ไอ้เพลิงมึงใช้ที่คีบด้วยสิวะ เผื่อมือมึงสกปรก แผลไอ้หยินจะติดเชื้อเอา” ซ่งรีบเตือน ทำให้เพลิงช้อนสายตาดุมองสบตาซ่ง ทำไมไอ้เพื่อนเวรของเขาถึงได้คอยสนใจไอ้เด็กนี่ตลอดเลยวะ
สภาพที่หยินถูกรุมล้อมไปด้วยหนุ่มรุ่นพี่ในค่ายมวย ทำให้ตี๋ที่เพิ่งกลับมาถึงรีบเดินไปดูอาการไอ้เด็กนักเรียนทันที ไอ้พวกนักเลงยังเละขนาดนั้น หรือว่าไอ้หนูนั่นมันจะเจ็บหนักกว่า พวกเฮียแฝดถึงได้นั่งประกบมันขนาดนั้น
“เกิดอะไรขึ้นวะ ใครเป็นอะไร” ตี๋ที่แสร้งส่งเสียงตกใจราวไม่รู้เรื่องอะไร แหวกทางเดินเข้าไปดูอาการหยิน แต่เขากลับต้องอึ้งไป เมื่อเห็นว่าหยินมีแค่รอยถลอกฟกช้ำ และแผลของมีคมถากที่ต้นแขนเท่านั้น
‘ที่ไอ้เด็กนี่บอกว่าเคยรับตีคนมาก่อน ท่าทางจะจริงนี่หว่า สี่ต่อหนึ่งมันยังรอดมาได้’ ตี๋ได้แต่ชื่นชมความสามารถไอ้เด็กน้อยในใจ แต่ก็อดโมโหไม่ได้ที่ไอ้พวกนั้นงัดมีดไม้มาใช้
“นี่มึงไปตีกับใครมาวะ” ตี๋ถาม ทำให้หยินช้อนสายตาขึ้นมองสบตารุ่นพี่หนุ่ม
“กุ๊ยขี้ยามั้งเฮีย สงสัยอยากยา เลยหาไถเงิน” หยินว่า มองดูเฮียเพลิงทายาให้ที่แผลไปด้วย
“มึงแสบไหม” เพลิงพึมพำถาม โดยไม่ได้มองหน้าคนฟัง
“นิดหน่อยฮะ” หยินว่าเสียงเรียบ ได้แต่ขบกรามแน่นมองคนตรงหน้านิ่ง ในใจหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
‘เดี๋ยวสิฮะ! คุยกับผมก่อน’
ตอนที่กลุ่มนักเลงยอมเป็นฝ่ายล่าถอย หยินก็เข้าไปรั้งคอไอ้หัวโจกกลุ่มไว้ มีดที่ตกอยู่ใกล้ ๆ ถูกเขาคว้ามาจ่อที่คอหอยอีกฝ่ายทันควัน
‘มึงจะเอาอะไรอีกวะ กูก็ปล่อยมึงแล้วไง’
‘ใครส่งพวกพี่มาฮะ บอกผมให้ชื่นใจหน่อย’ หนุ่มน้อยถามทำให้มันกลั้วหัวเราะใส่หน้าเขาทั้ง ๆ ที่เลือดกบปากอยู่แท้ ๆ
‘ถ้ากูไม่บอ…’
ฉึก!
‘อ๊าก!’
เสียงร้องลั่นดังขึ้น เมื่อคมมีดแทงฝังลงบนไหล่ตรง ๆ ก่อนจะถูกกระชากออกอย่างแรง โดยที่อีกฝ่ายยังพูดปฏิเสธไม่จบประโยค ทำให้หัวโจกนักเลงตระหนักได้แล้วว่าเขาไม่ควรเล่นลิ้นกับไอ้เด็กนี่ตอนนี้
‘อย่าให้ผมเสียเวลาสิฮะ เลือดมันจะไหลหมดตัวเอานะ’
หนุ่มน้อยที่สีหน้ายังคงความเรียบเฉย มองหน้าเขาแล้วระบายยิ้มอ่อนให้ ราวรอฟังคำตอบที่เข้าหูที่สุด
‘กะ…กูไม่รู้หรอก แต่เหมือนเคยเห็นมันที่ฟีนิกซ์’
แปะ ๆ
สันมีดที่หนุ่มนักเรียนตบลงบนข้างแก้มระบมของเขาเบา ๆ ทำให้หัวโจกกลุ่มอกสั่นขวัญแขวนไม่น้อย
‘ขอบคุณฮะ วันนี้ผมสนุกมาก’
ปึก!
หยินทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะขว้างมีดไปปักคาอยู่กับต้นไม้ต้นหนึ่งอย่างแม่นยำ
เพลิงที่ใส่ยาและพันแผลให้หนุ่มน้อยนักเรียนเสร็จ ก็ได้แต่เงยหน้ามองสบตาอีกฝ่ายนิ่ง เนื้อตัวที่มีรอยฟกช้ำจาง ๆ และแผลเพียงแค่ที่เดียว ทำให้เขารู้ว่าฝีมือไอ้เด็กนี่คงไม่เลวเลย
“กระเป๋ามึงเลอะอะไรวะไอ้หยิน” เฉินยกกระเป๋าหยินขึ้นมาดู และพบว่ามันดูหนักแปลก ๆ เขาเลยรูดซิปและเทของที่บรรจุอยู่ข้างในออกมาดู
ตุบ! อิฐตัวหนอนสองก้อนที่ร่วงลงมาจากกระเป๋า ทำให้ทุกคนหันมองหน้ากันด้วยแววตาสงสัย
“มึงพกอิฐไปโรงเรียนทำไมวะ” ซ่งถามขึ้นอย่างอยากรู้
“เปล่าฮะ ผมเก็บได้ตอนขากลับ”
หยินตอบซ่งแล้วขยับยิ้มให้เพลิง ทำให้เฉินป้ายคราบของเหลวสีเข้มที่ติดอยู่บนกระเป๋าของหยินมาดู และพบว่ามันน่าจะเป็นรอยเลือด
“เลือดไหมวะ” เฉินยื่นมือไปให้ซ่งดู นั่นทำให้ตี๋รู้แล้วว่าไอ้พวกนักเลงเจ็บหนักขนาดนั้นได้ยังไง ก็ไอ้หนูนี่มันเล่นซัดอิฐตัวหนอนอัดหน้าขนาดนั้นนี่หว่า
“คงงั้นฮะ” หนุ่มน้อยรับคำ
“เช็ด! มึงก็ฉลาดนี่หว่าไอ้ลูกหมา”
ซ่งได้ฟังก็เดินมาขยี้ผมไอ้เด็กเล่นอย่างเอ็นดู ไหวพริบของหยินทำให้ซ่งภูมิใจขึ้นมา
“แค่เอาตัวรอดฮะ ถ้าพวกเฮียไม่มีอะไรแล้ว ผมขอกลับไปทำรายงานก่อนแล้วกันฮะ” หยินพูดขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมลุกขึ้นยืน
“ไอแพดกูอยู่บนโต๊ะ ถ้ามึงจะใช้ต่อ” ซ่งพูดขึ้น ทำให้หยินยิ้มน้อย ๆ
“ขอบคุณฮะ วันนี้น่าจะเสร็จ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเอามาคืนนะเฮีย” หนุ่มน้อยว่า ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อมาสวม แล้วคว้าไอแพดของซ่งใส่กระเป๋า ทำท่าจะเดินออกไป ท่าทางไอ้เด็กที่ไม่มองหน้าพวกเขาตั้งแต่ทำแผลเสร็จ ทำให้เพลิงและไฟมองสบตากันนิ่ง ก่อนจะลุกขึ้น
“พวกมึงจะไปแล้วเหรอวะไอ้แฝด”
“เออดิ! ไอ้หยินมึงก็ไปพร้อมพวกกูก็ได้ เดี๋ยวกูแวะไปส่งที่ห้อง” ไฟว่า แล้วกระชากกระเป๋านักเรียนของหยินเดินนำไปที่รถ
