บท
ตั้งค่า

EP.3 แต่งงานกันเถอะ

หลายวันต่อมา

มหาวิทยาลัยX.L.

“นินวันนี้แกต้องไปทำงานหรือเปล่า” บังอรเพื่อนสาวคนสนิทของชญานินท์ถามขึ้นขณะที่พวกหล่อนกำลังเดินลงจากอาคารเรียน

“ไปสิ ช่วงนี้ลูกค้าแน่นร้านทุกวันเลย”

“นี่ ฉันได้ข่าวมานะว่าที่พักหลังร้านพี่คิวเขาขายดิบขายดีเนี่ยเป็นเพราะคุณอิน อินทราชหนึ่งในตระกูลราชภิรมย์ภักดีเขาแชะภาพครอบครัวลงอินสตาแกรมแล้วเช็กอินที่ร้านนี้ จริงหรือเปล่าแก” ชลลี่หรือสายชลเพื่อนสาวประเภทสองอีกคนในกลุ่มเอ่ยถามอย่างมีจริต ดูทรงจะแอบปลื้มชายหนุ่มที่ชื่ออินอยู่ไม่น้อย

“เออนั่นดิ จริงปะวะแก” บังอรกดดันเพิ่ม

คำถามของเพื่อนทั้งสองทำเอาชญานินท์รู้สึกจุกที่กลางลำคอคล้ายมีของแข็งติดคาอยู่ เพราะมันทำให้เธอหวนนึกถึงใครอีกคนที่เป็นหนึ่งในทายาทของตระกูล

เหมราช..

“เอ้าอีนี่! ยืนเงียบเป็นใบ้ไปได้ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย” เมื่อเห็นว่าเพื่อนมีท่าทีที่ผิดแผกแปลกไป ชลลี่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงนางจะปากคอเราะรายไปเสียหน่อยแต่เรื่องรักเพื่อนนางยืนหนึ่งกว่าใครๆ

“ปะ..เปล่า..” ชญานินท์ไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรมาก เพราะกลัวจะหลุดพูดเรื่องที่เธอตั้งท้องกับเหมราช แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ยังไม่หลุดถึงหูของสองเพื่อนรัก

“แล้วสรุปเขาไปจริงไหม?” ชลลี่ยังคงความใคร่รู้

“อื้อ..มา” เธอหยักหน้าตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ

“โอ๊ยก็แค่เนี้ย! พูดยากพูดเย็นเนอะ” สาวสองกลอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้

“เอาหน่าแก แกก็รู้ว่ายัยนินมันก็เป็นคนพูดน้อยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่าไปว่ามันนักเลย” บังอรสะกิดเตือนชลลี่ เพราะเห็นว่าชญานินท์ยังมีอาการเซื่องซึมไม่เลิก

“เฮ้ยนิน..นี่แกหงอยเพราะฉันเหรอวะ” ชลลี่ถามเสียงแผ่วด้วยความรู้สึกผิด

“เปล่า แกจะบ้าเหรอฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อยน่ะ” คนที่ทำให้เธอรู้สึกหน่วงซึมแบบนี้คือเหมราชต่างหาก แล้วสงสัยว่าวันนี้เธอคงจะยืนตากแดดนานไปหน่อยจึงรู้สึกอ่อนเพลียเป็นพิเศษ

“แน่ใจนะยะ! ไม่ใช่แอบไปนินทาฉันกันลับหลังนะ”

“แน่ใจสิ ฉันเคยทำแบบนั้นหรือไงกัน”

“พวกแกฉันกลับก่อนนะ คุณพ่อโทรตามแล้วอะ” บังอรที่เพิ่งวางสายจากบิดาไปเอ่ยบอกพร้อมโบกมือลาเพื่อน

“บ๊ายบายแก” ชญานินท์โบกมือตอบ

“บายจ้าชะนี” ชลลี่เองก็ด้วย “งั้นฉันก็ไปบ้างดีกว่า เจอกันพรุ่งนี้นะนิน ผัวมารอแล้ว” หล่อนหันไปพูดอย่างกระดี้กระด้า

“จ้า บายๆ” หญิงสาวฝืนอมยิ้มเพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องเป็นห่วง คล้อยหลังที่ทุกคนเดินจากไป ความนอยด์ความน้อยใจก็กำซาบสู่หัวใจอีกครั้ง

เฮ้อ..ทำไมพอนึกถึงเขาทีไรเราต้องรู้สึกน้อยใจแบบนี้ด้วยนะ..

ร่างเล็กเดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัยอย่างเชื่องช้า ภายในหัวนึกถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อน วันที่เขาคนนั้นบุกรุกเข้ามาขอเบอร์โทรศัพท์ของเธอถึงหน้าห้องพักพนักงาน

ขอไปแล้วก็ไม่เห็นจะโทรมาเลยนี่นา..

เธอถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่ร้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องไปรู้สึกอะไรกับเขา หากถามว่ารู้สึกยังไงเธอเองก็ยังคงตอบไม่ได้ รู้แค่ว่ามันโหยหา และอยากเจอหน้าเขาแปลกๆ

ถึงกระนั้นก็ไม่คิดจะเป็นฝ่ายไปหาหรือเรียกร้องอะไรจากเขาหรอก

เธอกับเขาน่ะมันอยู่กันคนละชั้น

ชญานินท์เดินตามริมฟุตบาธมาเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงป้ายรถเมล์ ทว่าอยู่ๆ เธอก็รู้สึกมึนศีรษะขึ้นมาอย่างหนัก ภายในหูอื้ออึ้งและไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็เห็นคล้ายกับว่าสถานที่โดยรอบกำลังหมุนเป็นวงกลม

เธอรู้สึกตาลายและหายใจไม่ทัน บริเวณหน้าอกอัดแน่นไปด้วยแรงลมหลายขุม หญิงสาวเซไปเซมาก่อนที่ร่างของเธอจะสิ้นสติล้มลงไปนอนกองกับพื้น

“เฮ้ย!!” ใครบางคนที่มาดักรอเพื่อเจอเธอร้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเป้าหมายหมดสติล้มลงไปต่อหน้า “เชี้ยละ!” เหมราชรีบเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปประคองร่างของชญานินท์มาวางไว้ในรถ ก่อนจะรีบพาตัวเธอไปส่งโรงพยาบาลทันที

โรงพยาบาล BKK

เหมราชนั่งรอคนเป็นลมอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยอาการกระวนกระวายใจ ล้มแรงขนาดนั้นไม่รู้ว่าเด็กในท้องจะเป็นอย่างไรบ้าง

นึกแล้วก็อดโทษตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่นั่งชะเง้อคอมองบริเวณนั้นอยู่ตลอดเพื่อที่จะได้ไม่คลาดกันกับเธอ แต่เพียงแค่ครู่เดียวที่เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตอบแชตคนรู้ใจ เธอก็กลับเดินออกมาในเวลานั้นพอดี

หากเขาไม่ละสายตาในตอนนั้นเธอและเด็กก็คงไม่ต้องมาเสี่ยงแบบนี้

เวลาผ่านไปได้ราวๆ เกือบหนึ่งชั่วโมง บานประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เหมราชเห็นเช่นนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปถามไถ่อาการของชญานินท์ทันที

“หมอครับลูกกับเมี..เอ่อ..” เขาชะงักแล้วกลืนคำว่า ‘ลูกกับเมีย’ ลงลึกสุดคอ ก่อนจะตั้งสติแล้วเรียบเรียงคำพูดใหม่ “เธอเป็นยังไงบ้างครับ”

“คนไข้แค่มีอาการอ่อนเพลียอาจจะมีสาเหตุมาจากการพักผ่อนน้อยเลยทำให้หมดสติไป ส่วนเด็กในท้องปลอดภัยดีครับ แต่ว่า..” เหมราชยังไม่ทันได้โล่งอกสักเท่าไหร่ เขาก็ต้องรู้สึกวูบโหวงในใจกับคำว่า ‘แต่ว่า’ ของหมอ

“แต่ว่าอะไรครับ” เขาขมวดคิ้วมุ่น

“แม้จะปลอดภัยแล้วแต่ช่วงที่ลมคนไข้คงได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งคุกคาม ยังไงช่วงนี้หมออยากให้คนไข้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและระมัดระวังเรื่องการใช้ชีวิตด้วยนะครับ”

“ครับ ขอบคุณครับหมอ” ชายหนุ่มแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินข่าวดีและข่าวร้ายมาพร้อมๆ กัน สงสัยเขาคงต้องรีบกระทำในสิ่งที่ลังเลอยู่นานหลายวันให้ชัดเจนเสียที

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...ชญานินท์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในห้องพักฟื้นพิเศษสุดหรูหรา เธอค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วหันมองไปรอบๆ ห้องด้วยความกังขา มือเล็กยกขึ้นกุมขมับเพราะยังมีอาการมึนศีรษะอยู่ แต่ก็น้อยลงจากตอนแรก

“ใครพาเรามาส่งโรงพยาบาลกันเนี่ย” เธอพึมพำถามตัวเอง พลางคิดในใจว่าห้องหรูขนาดนี้ค่าใช้จ่ายคงจะแพงหูฉีก เธอจะไปหาเงินจากที่ไหนมาจ่ายเขากันล่ะเนี่ย

“ฉันเอง” เสียงทุ้มอ่อนดังขึ้นพร้อมกับร่างกำยำของเหมราชที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาหลังจากไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลรวมถึงค่าห้องพักฟื้นพิเศษให้กับเธอ

ชญานินท์ยังต้องนอนแอดมิทที่โรงพยาบาลต่ออีกสองสามวันตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะถึงแม้ภาพโดยรวมที่ออกมาจะไม่น่าเป็นห่วงแต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่อยากชะล่าใจ

“คะ..คุณเหม!” เธอร้องเรียกเขาด้วยอาการตกใจ นึกถามตัวเองซ้ำๆ ว่ากำลังฝันไปอยู่หรือเปล่า

ก่อนหมดสติก็เพิ่งนึกถึงเขา พอตื่นขึ้นมาก็ได้เจอเขาเลย

หรือเธอกำลังฝัน? พอคิดมาถึงตรงนี้ชญานินท์ก็แอบหยิกขาอ่อนที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอนิ่วหน้าเบาๆ เพราะรู้สึกเจ็บ

แสดงว่าไม่ได้ฝันไป

“เป็นอะไร?” เขาจ้องหน้าถาม

“ปะ..เปล่า..ฉะ..ฉันแค่ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่” เธอก้มหน้าตอบ

“ก็ฉันเป็นคนพาเธอมาส่งโรงพยาบาลเอง อยู่ๆ ก็หมดสติไป”

“ขอบคุณนะคะ เรื่องค่ารักษาฉันจะ..”

“ไม่ต้องหาเงินมาคืน”

“ทำไมล่ะคะ? โรงพยาบาลนี้ดูใหญ่โตมากค่ารักษาคงแพงหูฉีก”

“บอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้อง แต่ถ้าเธออยากตอบแทนหรือชดใช้ให้ฉันล่ะก็..เรามาแต่งงานกันเถอะ”

“....”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel