บทที่6 เลือด
“สวัสดีครับพ่อ” สายฟ้าไม่ได้ลุกไปเพียงแค่หันใบหน้าไปทางผู้ชายคนนั้นประจวบกับฉันขยับตัวเข้าไปซุกใบหน้ากับอกแกร่งทันที ทุกอย่างในห้องนี้จึงเงียบเพิ่มขึ้นอีก “สวัสดีครับคุณกานดา”
“สวัสดีลูก ตาฟ้ารีบมาเร็วให้พยาบาลเขาทำหน้าที่ให้สะดวก”
“ตาลปล่อยฟ้าก่อนนะลูก นะตาลนะ”
หึ...
ทำตามก็โง่แล้ว
“ไม่” ฉันปฏิเสธทั้งที่ใบหน้าซุกกับอกของสายฟ้า ไม่มีวันปล่อยแน่ใครหน้าไหนก็สั่งไม่ได้เมื่อความกลัวโลกแล่นเข้ามาร่างกายก็ยิ่งกอดร่างของสายฟ้าแน่นขึ้นถึงจะมือเดียวก็เถอะ “กลัว...”
ประโยคสุดท้ายมันแผ่วเบามากคงได้ยินแค่สองคนเท่านั้น
อย่าลุกนะสายฟ้า
อย่าไป
“ไม่เป็นไรครับผมอยู่แบบนี้ดีกว่า ตาลไม่ปล่อยก็ช่างเถอะครับ” สายฟ้ายกมือขึ้นมาวางไว้บนศีรษะฉันเบาๆ จากนั้นมือเขาอีกข้างก็แตะมือฉันไว้เพื่อให้พยาบาลเจาะ “ไม่ต้องกลัวหน่า ไม่เจ็บ”
“เมื่อคืนเจ็บนะฟ้า” อดเถียงไม่ได้เลย
“เจ็บก็กอดแน่นๆ โอเคมั้ย ฟ้าก็กอดลูกหมาแน่นๆ เหมือนกัน”
เจ็บ...
เจ็บจี๊ดเลย
วินาทีที่เข็มแทงเข้าทะลุเนื้อแน่นอนฉันกอดสายฟ้าแน่นเข้าไปอีก พยายามไม่ส่งเสียงหรือว่าขยับตัวเพราะกลัวกลัวทุกอย่างที่เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนตอนเข้ามานอนโรงพยาบาลแล้วโดนเจาะแม่บอกว่าอย่าดิ้นไม่งั้นเข็มที่แทงจะหักคาเนื้อ สิ่งนี้ทำให้ฉันจำมาทุกวันนี้ไม่เคยลืม
“โอ๋”
โอ๋ไม่ไหวแล้ว
“อือ...”
ไม่เจ็บบ้าอะไรหลังมือพรุนไปหมดแล้ว ใช้เวลาไม่นานกับการเจาะสายน้ำเกลือใหม่รอบสองคราวนี้รู้ไหมว่าอาการหลังจากที่โดนเจาะฉันปฏิบัติตัวแบบไหนบ้าง ไม่กระดุกกระดิกตัวเลยถึงแม้จะผละออกจากตัวสายฟ้านานแล้วพอเตียงปรับให้เป็นปกติฉันนอนนิ่งส่งตาแป๋วไปหาเขาแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ห่างสายตาไปไหนทั้งนั้น
สายฟ้าก็รู้ดีเขาจึงนั่งบนเตียงพับผ้าขนหนูสีขาวผืนพอประมาณให้มันมีขนาดเล็กลงจากนั้นก็ยกมือข้างที่โดนเจาะของฉันอย่างแผ่วเบาเพื่อสอดผ้าเข้าไปให้มือวางไว้
“หายดื้อแล้วมั้ยลูกหมา”
“...” พอฉันไม่ตอบสายฟ้าก็ยิ้มออกมาอย่างขำๆ แต่ฉันไม่ขำด้วยหรอกนะ เขาไม่ได้เป็นคนโดนจะไปรู้อะไรล่ะว่าการโดนเจาะเข้าไปในเนื้อมันเจ็บขนาดไหน “คืนนี้ผมเฝ้าตาลเองครับไม่ต้องห่วงกัน”
“เอาอย่างงั้นเหรอสายฟ้า”
“ครับพ่อ”
สายฟ้ารับคำผู้ชายคนนั้นที่เปลี่ยนมานั่งโซฟาห่างออกไปหน่อย ผู้ชายคนนี้เป็นครั้งแรกมั้งที่เข้ามานั่งในห้องโรงพยาบาลมาให้ฉันเห็นหน้ามาให้รับรู้ว่ามาแล้วทั้งที่ไม่จำเป็นสักนิด ไม่ได้โหยหาถึงขนาดต้องทำว่ามันเป็นสิ่งจำเป็น ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยมาสักครั้ง เลือกมาตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร
แค่มีแม่คนเดียวก็พอแล้ว
“มีอะไรบอกพ่อได้นะสายฟ้า”
“ไม่มีอะไรครับ ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
“ถ้าตาฟ้ามีงานก็กลับไปเคลียร์ก่อนได้นะลูก ตาลยุพินคงดูแลได้”
“นั้นสิคะสายฟ้า” ตบท้ายด้วยประโยคของอีมีนศัตรูคู่ขวัญฉันเอง “ดูตาลก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย”
“ไม่มีอะไรให้เคลียร์แล้วครับ ทุกอย่างเสร็จหมดเรียบร้อยตั้งแต่บ่ายแล้ว” สายฟ้าที่ยังคงทำตัวตามปกติไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขารับรู้ถึงการสื่อสารที่ไม่ใช่แค่ประโยคธรรมดาแต่มีความหมายว่าไม่อยากให้เฝ้าฉันเป็นกลายๆ จากอีกานดาแล้วก็อีมีนแต่สายฟ้าก็ไม่สนใจปล่อยละไปไม่ใยดี แบบนี้แหละไม่มีใครสามารถคอนโทรลคนแบบสายฟ้าได้ทั้งนั้น “อีกอย่างเป็นวันเกิดตาล ผมอยากอยู่ด้วยครับ อยู่แบบทุกปีที่ไม่มีคนอื่น”
จากห้องที่ค่อนข้างเงียบกริบเจอประโยคนี้เข้าไปกับกลายเป็นว่าเงียบกว่าเดิมแทบได้ยินเสียงหายใจคลอแต่ใครจะรู้ไหมว่าฉันแอบยิ้มเยาะให้อีมีนกับอีเนียร์อย่างลับๆ อยู่
“งั้นพ่อกับคุณกานดาแล้วก็ยุพินกลับก่อนนะ”
“ครับพ่อ สวัสดีครับ สวัสดีครับคุณกานดา” สายฟ้าลุกจากเตียงแล้วไหว้สองคนนั้นถึงแม้สายฟ้าจะดูเหมือนเย็นชา ดื้อเงียบทุกคนเกรงขามทว่าทุกครั้งเขามีมารยาทเสมอ “สวัสดีครับแม่”
“ฝากตาลอีกครั้งนะฟ้า ดื้อนักตีได้เลย”
“แม่... ”
“หื้ม?”
“ขอบคุณค่ะสำหรับทุกอย่าง” พอฉันเอ่ยประโยคนี้ไปร่างของแม่ก็หยุดนิ่งเดินเข้ามาที่เดิม “ตาลก็รักแม่”
“แม่ไปนะตาล”
สามคนนั้นออกไปแล้วคงเหลือในห้องที่รวมฉันกับสายฟ้าแล้วก็อีสองคนนั้นที่ยังหน้าตั้งเชิดเหมือนไม่มีอาการปวดคอ พวกมันไม่เอ่ยอะไรออกมาแต่อีมีนมันขยับตัวเข้ามาตรงหน้าสายฟ้า
“คุยกันแป๊บหนึ่งได้มั้ยสายฟ้า”
“ได้”
สายฟ้ารับคำแล้วเดินออกไปจากห้องตามไปด้วยอีมีนที่รั้งท้ายมันหันใบหน้ามามองฉันบ้าง ถ้าจะบุญน้อยขนาดนี้จะยอมให้ก็แล้วกัน
เผื่อได้บุญกลับ
“เขาไปรื้อฟื้นเรื่องราวเก่าๆ กันแล้วหล่อนไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไงกัน”
“แล้วต้องรู้สึกยังไง” ยังมีอีเนียร์ที่ยืนหัวโด่จีบปากจีบคอพูดขึ้นทั้งที่ฉันกะจะไม่ใส่ใจแล้วแท้ๆ “ในเมื่อแกเป็นคนบอกเองว่ามันเป็นเรื่องราวเก่าๆ ต่อให้รื้อยังไงก็ยากอ่ะ เอาน้ำมันราดสิบถังก็ยังไม่ติดด้วยซ้ำ”
“เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นกัน”
จะทำให้ฉันเขวละสิ
บอกเลยว่าไม่โง่เง่าขนาดนั้น
“ขนาดแกมั่นอย่างงี้ฟ้ายังไม่มองตอนอ่อยเลยแล้วกับอีมีนที่ได้ชื่อว่าเป็นของเก่าฟ้ายังจะมองมั้ยล่ะ”
“อีน้ำตาล!”
