บทที่ 3 โต้กลับ
เมียจดทะเบียน คำนี้ทำให้อีมีนกลัวมากเป็นพิเศษ ทำไมฉันจะไม่รู้เสี้ยวใบหน้าของมันที่แสดงออกมาเมื่อกี้ไม่สามารถหลบสายตาของฉันไปได้ ฟาดมาก็ฟาดกลับแล้วฉันจะเน้นแรงๆ เอาให้ปวดแสบปวดร้อนไปตามๆ กันนี่แหละ
ตกนรกก็ตก
“ต่ำ”
“จริงต่ำมากโดยเฉพาะแกในเวลานี้ ตกต่ำมากเหลือเกิน”
“ตาลพอแม่ขอ ตาลๆ” และแล้วเสียงของแม่ก็ทำลายทุกอย่างลงน้ำเสียงอ่อนให้อีกฝ่ายยิ่งทำให้ฉันปวดหัวเป็นที่สุด ไม่รู้อะไรนักหนากับคนอย่างอีมีน รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ได้ดีเด่นอะไรขนาดนั้นก็ยังจะดีกับมันอีก “นะตาลนะ เอา...”
“อย่าฝัน อย่ามั่น อย่าคิดไปเอง ไม่มีปัญญาทำให้เจ้าของบัตรให้ก็อย่าสะเออะเสร่อเสนอหน้ามาเอาไป” รู้ไหมตอนนี้บัตรใบนั้นเข้ามาอยู่ซุกในบราเซียของฉันเป็นที่เรียบร้อย ที่ที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาเอาไปแม้กระทั่งแม่ และไอ้อีหน้าไหนกล้าทั้งนั้นข้อนี้หลายคนมักรู้ดียิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ว่าถ้าตัวฉันเป็นรอยแม้แต่เล็กน้อยอะไรจะเกิดขึ้น “จำเอาไว้แล้วนำไปคิดวิเคราะห์ด้วย”
“ตาลแต่คุณมีน...”
“พึ่งบอกไปเองว่าเป็นแค่ของเก่า ของเก่าคือไม่มีสิทธิ อย่าทำให้ตาลโกรธไปกว่านี้นะ” ฉันส่งเสียงแข็งให้แม่ที่เข้าใกล้อีกด้านหนึ่ง แม่ส่งสายตาอ้อนวอนให้ฉันเอาการ์ดดำให้อีมีนแค่นี้ก็รู้แล้วว่าแม่ไม่เคยคิดถึงใจของฉันเลยสักนิดเดียว ใจที่กำลังจะแตกกระจายออกย่อยยับแค่ไหนกับคำพูดนั้น “ไม่งั้นจะฟ้องเจ้าของบัตรแน่ คงรู้ดีว่าถ้าฟ้ารู้เรื่องอะไรจะเกิดขึ้น แล้วใครกันแน่ที่จะโดนหนักแต่ที่แน่ๆ ยืนหนึ่งเลยว่าคนป่วยแบบตาลไม่โดนแน่นอน”
“คิดว่าสายฟ้าจะถือหางได้ตลอดเหรออีตาล”
“ก็มั่นหน้าในระดับสูงเลยแหละไม่งั้นคนแบบอีมีนที่ยืนตรงหน้าจะกล้าเข้ามาตบมั้ยล่ะ” เมื่อก่อนหน้ามันน็อคหลุดถ้าพยาบาลไม่เข้ามาป่านนี้มันตามแผนฉันไปแล้วน่าเสียดายที่สุดเช่นกัน “อ่ะๆ ตบได้นะ”
“...”
เห็นไหมมันก็ไม่กล้า ใบหน้าฉันฉีกยิ้มกว้างแถมยังนั่งเอียงหน้ารอฝ่ามือเข้ามาตบทว่ามันกับยืนนิ่งตัวสั่นเกร็งอยู่แบบนั้น คงอัดอั้นมากแทบระเบิดอีกหน่อยคงเป็นบ้า
“คนประเภทแบบแกไม่ดีพอสำหรับใครหรอก”
“ฉันดีพอสำหรับสายฟ้าแล้วกัน”
เหอะกรอกตาบนแป๊บ
คิดว่าโลกหมุนรอบกะลาที่ครอบตัวเองอยู่หรือไง ในเมื่อตอนนี้มันหมุนไปไหนต่อไหน แล้วอีกอย่างบัตรที่อยู่ในการครอบครองของฉันมันควรเป็นของฉันคนเดียว
ใครหน้าไหนไม่มีสิทธิทั้งนั้น
“จะบอกว่าตัวเองดีเหรอแต่ฉันว่าฟ้าเขามีทุกอย่างทุกสิ่งในชีวิตเพอร์เฟคหมดเลยนะ วันนั้นอาจอยากหาจุดต่ำสุดแสนด่างพร้อยเข้าใส่ตัวเองบ้างมั้งเลยเลือกสิ่งเลวร้ายเข้ามาในชีวิต แต่บังเอิญวันนี้ตาสว่างแล้วเลยหมดเคราะห์หมดทุกข์กับเขาเสียที ดีใจกับฟ้าจัง” ว่าแล้วก็ทำท่าทางเอาฝ่ามือข้างที่ว่างเปล่าจากสายน้ำเกลือทาบหน้าอกประกอบประดุจดั่งอิ่มอกอิ่มใจที่สุด “ความเฮงซวย คนเฮงซวยหายไปได้เสียที”
“ฝากไว้ก่อนเถอะอีตาล”
แค่นั้นร่างมันก็หายออกไปจากห้องฉันเหลือคงไว้แค่แม่ที่ถอนหายใจโล่งอกให้เห็น ความกลัวความเกรงใจของแม่ไม่ธรรมดาหรอกเพราะมีมากเหลือเกิน แม่บูชาคนพวกนั้นราวกับพวกมันเป็นเทพเจ้า เป็นสิ่งบริสุทธ์ผุดผ่องช่วยนำแสงสว่างให้กับชีวิตทั้งที่ความจริงเป็นแค่สวะเท่านั้น
ความใจดีใช้กับคนพวกนั้นไม่ได้หรอกยิ่งทำก็ยิ่งทำให้ได้ใจ
ควรใจร้ายบ้าง
ไม่ควรใจดี
“ตาลแม่ขอลูกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำแบบนั้นกับคุณมีน”
“รักมันมากเหรอ แคร์มันมากเลยใช่ไหม แม่รักมากใช่ไหมผู้ชายคนนั้น” ฉันเลือกมองข้ามคำถามของแม่ไปเพราะอย่างอื่นที่มันเข้ามาในจิตใจมากกว่า คงเป็นคำถามที่จะไม่ถามอีกเลยถ้าได้คำตอบแบบมั่นใจ “แล้วรักตาลบ้างมั้ย”
“...”
“รักบ้างหรือเปล่า”
“...”
“ตาลก็เป็นลูกแม่ แม่เคยรักตาลบ้างไหม”
“…”
เหอะ...
ให้มันได้แบบนี้สิ
“ก็ไม่มีคำตอบออกมาจากแม่เช่นเคยแล้วตาลต้องทำยังไงถึงจะถูกใจแม่ ต้องทำตามที่แม่ร้องขอทุกเรื่องงั้นเหรอ แต่บอกเลยว่าที่แม่ขอร้องตาลทำให้ไม่ได้จริงๆ เทียบกันแล้วผู้ชายคนนั้นกับตาลแม่เลือกเขาตลอดแหละ ให้ตายยังไงแม่ก็เลือกเขา”
“…”
“ให้แม่แต่งงานใหม่ มีสามีใหม่ มันอาจจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำก็ได้นะ”
“ตาล...”
“ตาลเคยคิดจริงๆ”
แล้วแม่ก็ถอนหายใจยาว
“ตาลคุณมีนเขาเป็นยังไงตาลก็รู้”
“ตาลแตะไม่ได้เลยสินะ งั้นแม่ตบตาลแทนอีมีนมั้ยล่ะ”
“...”
“เห็นมั้ยขนาดแม่ยังไม่กล้าเลย คิดว่าอีมีนลูกรักแม่จะกล้าทำอะไรตาลมั้ย”
“...”
“ตาลอยากพักผ่อนค่ะ”
ท้ายสุดฉันก็เลือกตัดบทด้วยประโยคนี้ก่อนล้มตัวนอนหันหลังให้กับแม่โดยไม่พูดหรือว่ามองไปที่ท่านอีกกระทั่งได้ยินเสียงประตูปิดลงคงเป็นคำตอบได้ชัดเจนว่าแม่ออกไปแล้ว มันเป็นแบบนี้เสมอจนกลายเป็นความเคยชินมากกว่า ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือว่าตอนนี้มันเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกคำว่าลูกเมียน้อยตราหน้าฉันมาตั้งแต่เกิดทั้งที่ความจริงไม่ใช่
