25
หลังจากมีนาอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้วก็ออกมาทนฝืนกลืนอาหารโดยที่คนสั่งไม่แตะต้องสักคำทั้งที่เป็นคนบอกว่าหิว กลับเอาแต่นั่งดื่มเบียร์แทนข้าว......เธอจึงรีบกินรีบอิ่มแล้วจึงเก็บล้างเช็ดภาชนะก่อนจะหลบเข้าห้องโดยไม่สนใจถามไถ่ว่าเขายังจะต้องการอะไรอีกไหมหรือจะกลับตอนไหน คิดว่าอีกเดี๋ยวเขาคงจะกลับไปเพราะไม่เคยนอนค้างที่นี่ตลอดสองปีที่ผ่านมาจนเธอชินชาเสียแล้ว........
มีนากลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งรู้สึกหายใจหายคอได้โล่งขึ้นไม่ต้องถูกกดดันจากท่าทางแปลก ๆ และสายตาวาววับจับจ้องตลอดเวลา จากนั้นจึงตรงไปหยิบกระเป๋าเป้ที่เธอวางไว้หลังตู้ตั้งแต่วันที่เธอถูกผลักไสให้มาอาศัยอยู่ที่นี่กับเขาในฐานะภรรยา.....แต่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเมียลับ ๆ เสียมากกว่า สามีภรรยาที่ไหนเขาอยู่กันแบบนี้คงจะมีแต่คู่ของเธอเท่านั้นกระมัง.......
หญิงสาวเก็บเสื้อผ้าที่มีเพียงไม่กี่ชุดใส่กลับลงไปเกือบเกลี้ยงตู้พรุ่งนี้เธอจะออกจากที่นี่หาเช่าห้องใกล้ ๆ ที่ทำงานไปก่อน หลังจากได้ใบหย่าแล้วค่อยคิดให้รอบคอบอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตของตัวเอง.......คงได้กลายเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบจริง ๆ ล่ะทีนี้…..มีนาได้แต่ยิ้มขื่นกับตัวเองยังดีที่เธอมีการเตรียมตัวไว้แต่เนิ่น ๆ เงินทองที่ได้มาเธอใช้จ่ายอย่างประหยัดทำให้พอมีเงินเก็บคงไม่เดือดร้อนสักเท่าไหร่
มีนาอาบน้ำอีกครั้งหลังจากเก็บนู่นทำนี่จนเหงื่ออกเริ่มไม่สบายตัว เธอตั้งใจพักผ่อนเอาแรงเพื่อสู้ต่อในวันพรุ่งนี้หวังว่าเขาจะยอมหย่าให้ง่าย ๆ อย่าได้คิดเก็บเธอเอาไว้ทรมานเล่นเลยเธอเดาไม่ออกจริง ๆ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับคนร้ายกาจอย่างกันต์ดนัย…..
“พี่กันต์!....” หญิงสาวตกใจเพราะไม่คิดว่าเขายังอยู่ มิหนำซ้ำเธอยังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กพันกายเอาไว้อย่างล่อแหลมอีกต่างหาก
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น” สายตาฉ่ำปรือจ้องมองจ้องเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความรักมาขับเคลื่อน......ชายหนุ่มบอกกับตัวเองอย่างนั้น มันเป็นเรื่องของธรรมชาติทุกครั้งที่ต้องการเธอ
“เอ่อ...ทำไมพี่กันต์ยังไม่กลับไปอีกคะ.....” เธอคิดว่าเขากลับไปแล้วจริง ๆ จู่ ๆ มานอนกระดิกเท้าอยู่บนเตียงหน้าตาแดงก่ำคงจะดื่มเบียร์ต่ออีกหลายกระป๋องหลังจากที่เธอกลับเข้าห้องแล้ว
“ทำไม....ฉันจะนอนที่นี่ไม่ได้หรือไง.......” เขาเริ่มตีรวนทั้งที่ตั้งใจจะเข้ามาพูดดี ๆ แต่พอเห็นกระเป๋าเป้ที่วางไว้หน้าตู้เสื้อผ้าแถมยังอัดแน่นด้วยข้าวของของเธอก็อดหงุดหงิดไม่ได้......พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ......
“แต่พี่กันต์ไม่เคยนอนค้างนี่คะ” เธอแค่แปลกใจแต่ลึก ๆ แล้วมีนาเคยโหยหาอ้อมกอดอันอบอุ่นจากคนเป็นสามีที่ได้หลับและตื่นขึ้นมาพร้อมกันในทุก ๆ วันแต่ที่ผ่านมาเขาทำราวกับว่าเธอไม่ใช่เมียเสร็จสมแล้วก็จากไปทุกครั้งคงคิดไม่ต่างจากนอนกับหญิงขายบริการ เพียงแต่เธอพยายามกดความรู้สึกน้อยใจเอาไว้จนลึกสุดใจพยายามไม่ให้เรื่องนี้เข้ามารบกวนจิตใจ
“ที่พูดนี่ต้องการคำอธิบายจากฉันงั้นสิ.....” เป็นคำถามชนิดที่พร้อมจะหาเรื่องทันทีที่คำตอบผิดหู
“เปล่าค่ะ แล้วแต่พี่กันต์เถอะ” เธอเหนื่อยแล้วจริง ๆ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยอยากจะอยู่หรือไปก็เรื่องของเขาบอกตัวเองให้ทนอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไม่ได้ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เคยหวังแต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว......
กันต์ดนัยปรายตามองกระเป๋าที่วางอยู่หน้าตู้อีกครั้งพลางถอนหายใจ.........ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงหัวอ่อน บทจะดื้อขึ้นมาถึงได้พูดยากเย็นอย่างนี้วะ........
มีนาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะมานอนหันหลังน้ำตาซึมทั้งที่รู้สึกอยากจะหันกลับไปกอดลาเขาใจจะขาด.....รักมากแต่ไม่อยากหลอกตัวเองอีกต่อไป...เขาตีตราว่าเธอเป็นคนเลวไปแล้ว แม้ว่าจะทำดีแค่ไหนก็ไม่มีอะไรดีขึ้นไม่ต่างจากรดน้ำบนตอไม้ที่ตายแล้วไม่มีประโยชน์ใด ๆ นอกจากเสียเวลา.......
“อื้อ....ปล่อยหนู” จู่ ๆ เธอก็โดนดึงเข้าไปปะทะอกกว้างทำให้อดน้อยใจไม่ได้ว่าเขาช่างเห็นแก่ความต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว ทั้งที่เธอกำลังอ่อนเพลียเสียใจอยู่แท้ ๆ ยังคิดจะตักตวงความสุขจากเรือนกายโดยไร้เสน่หาได้ลงคอ
“ฉันไม่ปล้ำคนป่วยหรอกน่า อยู่เฉย ๆ อย่าทำตัวน่ารำคาญ......” เขาเอ็ดเธอเบา ๆ และหยุดอยู่แค่นั้น
มีนาเกร็งตัวเตรียมต่อต้านจนกระทั่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายนิ่งเงียบพร้อมกับลมหายใจสม่ำเสมอ เขาหลับไปโดยที่ยังกอดเธอเอาไว้ทำราวกับสิ่งนี้มันคือความเคยชินทั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก......มีนาบอกไม่ถูกว่าควรจะดีใจ ซึ้งใจหรือรู้สึกอย่างไรกันแน่……..
