20
กันต์ดนัยแวะมาทานอาหารกลางวันกับมารดา เพราะความร้อนใจจากเรื่องเมื่อวานที่ท่านการัณย์ให้สัมภาษณ์ทำนองนั้นทั้งที่ยังไม่เคยถามสักคำถึงความสัมพันธ์ของเขากับอรปรียากลับด่วนสรุปเอาเองแล้วยังประกาศออกสื่อคงหวังจะมัดมือชก.......รู้ทั้งรู้ว่าบังคับไม่ได้แต่ก็ยังชอบยื่นมือมาวุ่นวาย.....
“ผมกับอรเราไม่ได้คบกันอย่างที่พ่อเข้าใจ....” ชายหนุ่มพยายามข่มอารมณ์และตั้งใจอธิบายอย่างใจเย็นกับผู้เป็นพ่อเขาต้องใช้ความอดทนสูงมากเพื่อไม่ให้กระทบกับมารดาอันเป็นที่รัก แน่นอนว่าท่านคงไม่อยากเห็นพ่อลูกบาดหมางกันดังนั้นบางเรื่องที่เขารู้และเห็นมาจึงถูกละเอาไว้ก่อน......
“ฮึ! แล้วไอ้ที่พาเขาไปกินไปดื่มนั่นล่ะ จะให้ฉันเข้าใจว่ายังไงหรือว่าแกบังเอิญเจอน้องเขาทุกครั้งล่ะสิ” ส.ส.หลายสมัยอย่างท่านการัณย์เอ่ยอย่างรู้ทันลูกชาย เขาไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องน่าปิดบังอะไรในเมื่อคนคุ้นเคยกันทั้งนั้น ท่านรัฐมนตรีอาคมนั่นก็เพื่อนร่วมรุ่นถึงแม้ไม่ได้ร่วมก๊วนแต่ก็รู้จักกันดีบางทีสมัยหน้าตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยอาจจะลอยมาตกบนหลังคาบ้านก็ได้ ใครจะรู้......
“พ่อให้คนตามผม? ....” เขาสงสัยอยู่เหมือนกันแต่คนของพ่อมีฝีมือใช่ย่อยจึงจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเสียที
“ก็แค่สั่งให้คนของฉันไปรักษาความปลอดภัยให้แกเท่านั้น...... ก็แกมันก่อศัตรูเอาไว้ทั่วบ้านทั่วเมืองนี่หว่า....สักวันเถอะจะโดนเขาเช็คบิลกลับเอาบ้าง........”
ถึงจะรู้ว่าลูกชายเอาตัวรอดได้เพราะแต่ละคดีที่ทำเจอตอใหญ่ ๆ ทั้งนั้นจึงไม่แปลกที่สำนักทนายกันต์ดนัยจะโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็วทีมงานแต่ละคนเก่ง ๆ หาตัวจับยาก...แต่....สี่ตีนยังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง.....คนผ่านโลกมามากขอเชื่อโบราณเอาไว้บ้าง เพื่อความไม่ประมาทเขาไม่ยอมพลาดเพราะมีไอ้เจ้าลูกชายหัวดื้ออยู่คนเดียว....... สมบัติมากมายใครจะช่วยใช้....ไอ้ลูกไม่มีความคิด....
“ผมเป็นศัตรูกับพวกคนเลว ๆ เท่านั้นแหละพ่อไม่ต้องห่วง.....ว่าแต่พ่อเถอะอย่าเผลอไปคบกับคนเลวเข้าก็แล้วกันสักวันจะติดร่างแหไปด้วย.....” เขามองหน้าบิดาอย่างค้นหาถึงแม้จะรู้เรื่องลับของคนเป็นพ่อมานานแต่ก็ไม่เคยปริปากพูดออกมาได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องเลวร้ายชนิดที่เกินจะรับไหวเพิ่มเข้ามาสงสารก็แต่มารดาที่ทั้งรักและไว้ใจ อุตส่าห์โอบอุ้มสามีที่มีแต่ตัวจนทุกวันนี้ได้ดิบได้ดีมีพร้อมทั้งลาภยศเงินทอง
“แกหมายความว่าไง หรือว่าไปรู้เรื่องอะไรมา” การัณย์หรี่ตาประเมินลูกชายปากกล้า คนมีแผลย่อมระแวงเป็นธรรมดาเปรียบดั่งวัวสันหลังหวะ...แต่จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไรมากมายเสียหน่อยในแวดวงเพื่อนฝูงของเขาก็ทำกันทั้งนั้น
“พ่อจะกลัวทำไม ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด”
“เฮอะ!....แกอย่าเที่ยวมาตัดสินคนโน้นคนนี้บางทีอาจจะเป็นเพราะแกระแวงไปเองก็ได้”
“ไม่ต้องห่วงหรอกพ่อยังไงผมก็กัดไม่ปล่อยแน่”
“เออ.....ฉันก็หวังว่าแกจะไม่โดนคนพวกนั้นสอยร่วงเสียก่อนที่จะได้เป็นเจ้าของสำนักทนายอันยิ่งใหญ่ก็แล้วกัน” การัณย์คร้านที่จะเล่นสงครามประสาทกับลูกชาย เขารู้ดีว่าความฝันของลูกคืออะไร....
อันที่จริงเขาอยากให้กันต์ดนัยเล่นการเมืองมากกว่าแต่คนมันไม่ชอบ ฝืนไปก็ไม่รุ่งจึงได้ปล่อยให้ทำในสิ่งที่ต้องการและที่สำคัญกันต์ดนัยทำได้ดีเสียด้วย พ่ออย่างเขาก็ได้แต่แอบภูมิใจอยู่เงียบ ๆ แต่คนที่ไม่เงียบก็คือคุณสิรีศรีภรรยาของเขานี่เอง......
สิรีผู้มีเรือนร่างอวบอิ่มไม่ถึงกับอ้วนแค่มีน้ำมีนวลสวยงามตามวัยใบหน้าแต้มด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดีรีบปรี่เข้ามาโอบกอดลูบหลังไหล่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างคิดถึง แม้อยู่ใกล้กันแค่นี้ก็ใช่ว่าจะมีโอกาสได้พบกันบ่อย ๆ แต่นางเข้าใจว่าลูกชายเป็นคนหนุ่มไฟแรงขยันสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยวัยเพียงยี่สิบเจ็ดปีก็มีทั้งชื่อเสียงเงินทอง เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จโดยที่พ่อแม่แทบจะไม่ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเลยด้วยซ้ำ จะมีบ้างที่แอบอำนวยความสะดวกให้ในหลาย ๆ ครั้งก็ในเมื่อทำให้ลูกได้ทำไมต้องเพิกเฉยแต่สำหรับกันต์ดนัยนั้นเขาไม่ค่อยจะชอบใจนัก.....
“ตากันต์ลูก....มาก็ดีแล้วแม่มีเรื่องอยากถามเยอะเชียว”
“สวัสดีครับแม่” กันต์ดนัยอ่อนโยนเสมอสำหรับมารดาที่ยิ้มร่าเข้ามาหาอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับโอบกอดผู้หญิงคนเดียวในชีวิตที่รักได้เต็มหัวใจโดยไม่มีความระแวงสงสัย.....
