14
เจษฎาอึดอัดหัวใจมานานถือโอกาสนี้ระบายกับภาริณ ไหน ๆ ไอ้กันต์มันก็เคยบอกเองว่าไม่เคยมีความลับต่อกัน ชายหนุ่มเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้อีกฝ่ายฟังอย่างละเอียด ไม่เว้นแม้กระทั่งความคิดเห็นส่วนตัวที่เขาเห็นแย้งกับกันต์ดนัยที่มันกล่าวหาว่ามีนาร่วมมือกับญาติ ๆ ของเธอและโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้เด็กสาวคนนั้น ทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่ว่าเธอเป็นฝ่ายถูกเอาเปรียบเสียมากกว่า
“ความจริงหากนายกันต์มีเมียจริงก็ถือเป็นข่าวดีนะเนี่ย ถ้าคุณน้ารู้เข้าคงจะดีใจมากกว่าใคร ๆ ทำไมถึงไม่ยอมเปิดเผย”
“ผมก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ไอ้กันต์มันขี้ระแวงเกินไปเด็กคนนั้นมองยังไงก็ไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์อย่างที่มันตั้งแง่กับน้องเขาหรือไม่มันก็คงเฟ้นหานางฟ้านางสวรรค์มาเป็นคู่ครองส่วนคนอื่น ๆ เป็นได้แค่ทางผ่าน”
“อืม.....เรื่องแบบนี้ก็พูดยากเรามันคนนอก” ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทีสุขุมอย่างคนเข้าใจโลก
ภาริณรู้ซึ้งเป็นที่สุดเพราะเจอมากับตัวเอง ผู้หญิงที่เลือกและผ่านการดูใจกันมาแล้วอย่างดีตั้งใจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าแต่แล้วแต่งงานได้ไม่ทันไรก็ไปกันไม่รอด ทั้งที่มีลูกสาวเป็นโซ่ทองคล้องใจแต่ก็ไม่สามารถยึดคนสองคนเอาไว้ได้ต้องต่างคนต่างไปอยู่ดี.......
ทางด้านคนหัวร้อนกัดฟันไม่พูดไม่จาหลังจากยัดมีนาใส่รถแล้วก็ระบายความโกรธกับคันเร่งด้วยการตะบี้ตะบันเหยียบมันจนเกือบมิดร่างเล็กที่นั่งข้าง ๆ ได้แต่ทำใจหากวันนี้ต้องสู่ขิตก็นึกเสียว่าได้พาลูกเขยไปพบพ่อกับแม่ก็แล้วกัน.....พอคิดอย่างนั้นเธอก็หลับตาลงไม่อยากเห็นภาพชวนหวาดเสียวอีกต่อไป จนกระทั่งเขาพาเธอกลับถึงห้องจนได้ อย่างนี้ก็หมายความว่าพ่อกับแม่ก็ไม่อยากเจอเขาใช่หรือเปล่า.......
“มีอะไรก็พูดมา” ชายหนุ่มเอ่ยขณะยืนกอดอกเผชิญหน้ากัน
“มีนแค่ไปทำงานพิเศษเองนะคะ” หญิงสาวเริ่มอธิบายหลังจากยอมให้เขากึ่งจูงกึ่งลากกลับมาถึงห้อง จะว่าไปอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องทะเลาะกันอวดใคร
“ฮึ! ขายให้ฉันคนเดียวยังไม่พอใช่ไหม หิวเงินนักหรือไง”
“ขายอะไร.......พี่กันต์หมายความว่าไงคะ” มีนาตวัดสายตาขึ้นมองอย่างไม่พอใจ มันจะมากไปหรือเปล่าเพียงแค่เห็นเธอปรากฏตัวที่ร้านเหล้าที่เขาเองก็ยังไปเที่ยวที่นั่นด้วยซ้ำ เท่านั้นก็ปรักปรำหาว่าเธอขายตัวในสมองของเขาคงมีแต่ความคิดชั่ว ๆ
“แล้วเธอไปขายอะไรในที่แบบนั้นล่ะ”
“มีนไปขายแรงงาน เป็นผู้ช่วยแม่ครัวไม่ได้ไปทำเรื่องชั่ว ๆ อย่างที่พี่กันต์คิดหรอกค่ะ”
“เฮอะ! ผู้ช่วยแม่ครัวประสาอะไร ถึงได้ออกมายืนอ่อยไอ้คิงคองนั่น” ภาพนั้นยังจำได้ติดตา ต้องสนิทกันขนาดไหนถึงได้จับหัวเล่นกันได้หรือว่าเธอเข้าถึงง่ายกับผู้ชายทุกคน กันต์ดนัยมองใบหน้าใส ๆ แล้วไม่อยากเชื่อหากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง
“เฮียกายอายุไม่น้อยแล้วนะคะเขาก็แค่ใจดีกับมีนไม่ได้มีความคิดสกปรกอย่างที่พี่กันต์คิด”
“ไม่คิดงั้นเหรอ แล้วไอ้ที่ยืนจับหัวกันมันคิดอะไรอยู่วะ”
“พี่กันต์ มันจะมากไปแล้วนะ”
“ใครกันแน่ที่มากไป ต่อไปนี้อย่าให้เห็นอีกนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่เลี้ยงเธอไว้แน่” ชายหนุ่มชี้หน้าผู้หญิงหน้าซื่อใจคดก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไปไม่อย่างนั้นอาจจะหมดความอดทนทำรุนแรงลงไปยังไงเธอก็ตัวนิดเดียว........
มีนามองแผ่นหลังกว้างที่เดินจากไป เธอได้แต่เม้มปากดวงตาแดงก่ำ ความสัมพันธ์ที่เริ่มจะดีขึ้นมาตามลำดับพังทลายลงไปในชั่วพริบตา เขากล่าวหาและเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจมาตลอดว่าเธอเลว คำพูดของเธอไม่มีความหมายเขาไม่ให้โอกาสเธอได้แก้ต่างใด ๆ ทั้งสิ้น ตัดสินจากอคติของตัวเองล้วน ๆ .......พี่กันต์ใจร้าย..........
หญิงสาวปล่อยน้ำตารินไหลไม่ขาดสายทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง.......สิ่งที่หวังมาตลอดว่าสักวันคงจะได้หัวใจเขามาครอบครองแต่เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า เธอหวังสูงเกินไปแม้แต่อคติในใจของผู้ชายคนนี้เธอยังไม่สามารถลบออกได้เลยด้วยซ้ำไป......
