ตอนที่ 9 หมดทางเลือก
EP09
ลับร่างมิเกลที่เดินออกจากห้องไปก็มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของฟีฟ่า ร่างหนาจึงหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วดูรายชื่อก็พบว่าเป็นน้องสาวของเขาเองที่โทรมา
“ว่าไง” เสียงทุ่มตอบกลับปลายสายไป
(น้องถึงสนามบินแล้วนะคะ พี่ฟีฟ่ามารับได้มั้ย)
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่บอกพี่” ฟีฟ่าแสดงสีหน้าตกใจเพราะนีน่าเธอไปเรียนต่างประเทศเป็นปีแล้วจู่ๆ ก็กลับมาโดยที่ไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งพ่อของเขายังไม่รู้เรื่อง
(น้องอยากเซอร์ไพรส์พี่กับคุณพ่อยังไงคะ) นํ้าเสียงสดใสพูดผ่านปลายสายออกมาพร้อมกับเสียงประกาศของสนามบินที่เล็ดลอดผ่านปลายสายมาเหมือนกัน
“โอเค เดี๋ยวพี่ไปรับ”
(โอเคค่าาา~~) พูดคุยโทรศัพท์กันเสร็จฟีฟ่าก็กดตัดสายแต่ร่างหนาไม่ได้เดินไปหยิบกุญแจรถและเดินออกไปนอกห้อง ฟีฟ่ากดเข้าไปในไลน์แล้วทักหาใครบางคน
ข้อความ
ฟีฟ่า : อยู่สนามบินป่าว
ฟีฟ่า : ฝากรับนีน่าไปส่งที่บ้านหน่อยเธออยู่สนามบิน
ข้อความนั้นถูกเปิดอ่านอย่างรวดเร็วแต่มาทีนไม่ได้ตอบอะไรกลับมานั้นแปลว่าเขาทราบเรื่องแล้วแล้วก็คงจะไปรับนีน่าให้ตามที่ฟีฟ่าบอก
อีกด้านที่สนามบินวันนี้มาทีนมีบินพอดีแล้วไฟล์ของเขาก็มาลงที่กรุงเทพเป็นช่วงระยะเวลาเดียวกันกับนีน่าพอดีตอนแรกเขาว่าจะกลับไปแล้วพอเห็นข้อความของเพื่อนเลยกดอ่าน ร่างสูงในชุดยูนิฟอร์มเต็มรูปแบบเดินเข้ามาในสนามบินส่วนที่ผู้โดยสารกำลังเดินเพ่นพ่านกันเป็นจำนวนมาก ดวงตาคมกริบกวาดมองหาร่างของนีน่าจนกระทั่งพบเข้ากับเธอ
นีน่าสวมรองเท้าบูธยาวเกือบถึงเข่าสีดำและสวมเสื้อกล้ามพร้อมกับเสื้อโค้ชพร้อมกับผ้าพันคอเพราะเมืองที่เธอพึ่งกลับมาเป็นเมืองหนาว มือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อออกจากกรอบหน้าตนเองแล้วจับผ้าพันคอออกแต่มันกลับทำให้ของที่เธอพรุงพรังเอาไว้ตกลงพื้น
“คนยิ่งร้อนจะตายอยู่แล้ว” ปากเล็กบ่นอุบอิบแล้วก้มลงจะเก็บผ้าพันคอขึ้นแต่ก่อนที่มือจะเอื้อมถึงก็มีคนมาจับขึ้นให้เสียก่อน ทั้งสองสบตากันก็ทำให้นีน่ารู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
“พี่…?”
“พี่ชายเธอฝากมารับ” นีน่าได้ยินกลับมาแค่เสียงเรียบนิ่งและแววตาไร้อารมณ์ก่อนที่มือหนาจะยื่นผ้าพันคอคืนพอที่สวมถุงมืออยู่จึงยื่นมารับแล้วเอ่ยปากขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ” ดวงตากลมโตที่โอบล้อมด้วยขนตาแพงอนหลบสายตาคู่สั้นแล้วก้มหน้าเธอไม่คิดว่าการกลับมาที่ไทยวันแรกจะได้เจอเขาเลยทันทีผู้ชายที่เป็นสาเหตุทำให้เธอต้องหนีไปรักษาใจถึงญี่ปุ่น
“ตามมาที่รถ” มาทีนเอ่ยบอกแค่นั้นก็เดินนำร่างของคนตัวเล็กเจ้าของผิวกายขาวผ่องออกมาจากสนามบินโดยไร้บทสนทนาใดๆ นีน่าเองก็เดินตามมาเงียบๆ จนกระทั่งถึงรถของเขา
มาทีนเดินมาแล้วขนข้าวของเธอใส่ท้ายรถก่อนจะปิดมันลงแล้วเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ นีน่ามองการกระทำทุกอย่างแล้วเดินอ้อมมายังฝั่งคนนั่งโดยปริยาย พอขึ้นมานั่งบนรถด้วยกันสองคนทุกอย่างก็เงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงสตาร์ทรถและเคลื่อนตัวออกมา
“…เป็นยังไงบ้างคะ” ในที่สุดนีน่าก็ทนกับความเงียบระหว่างคนทั้งสองไม่ไหวเธอเลยตัดสินใจชวนคุยขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศตรงนี้
“หมายถึงอะไร”
“สบายดีมั้ยคะ”
“ก็สบายดี” ได้ยินเพียงเสียงตอบกลับมาเรียบนิ่งและสายตายังคงมองตรงไปยังบนท้องถนนเช่นเดิมก่อนจะพูดคำนึงขึ้นมา “เธอล่ะ…”
“สบายดีค่ะ… แต่ใจไม่เท่าไหร่” ปลายเสียงแผ่วลงมากจนแทบไม่ได้ยินแต่มาทีนกลับได้ยินมันชัดทุกคำ
“ดีแล้ว” และคำตอบของเขาที่ตอบกลับไปก็ทำเหมือนว่าตนเองไม่ได้ยินประโยคหลัง แล้วนาทีต่อมาก็เกิดความเงียบขึ้นบนรถอีกครั้ง
“นีน่าขอโทษนะคะ เรื่องก่อนหน้านั้น” สิ่งที่เธออึดอัดใจมานานตลอดระยะเวลาหนึ่งปีนีน่าเลยตัดสินใจพูดมันออกมาเพราะเธอเองก็ไม่อยากให้มันค้างคาใจตนเองเหมือนกัน
“ไม่เป็นไร”
“ไม่โกรธหรอคะ”
“ไม่โกรธ… แค่ไม่ชอบ” คำนั้นที่ตอบกลับมาตอกเข้าเต็มหน้าทำให้สีหน้านีน่าเจื่อนลงในทันทีเธอจิกมือลงที่กระโปรงของตนเองแน่น แค่การที่เธอสารภาพรักมันทำให้มาทีนไม่ชอบขนาดนั้นเลยหรอ แต่นีน่าก็ควรจะชินกับความปากร้ายของเขาได้แล้วเธอต้องมองมาทีนเป็นแค่เพื่อนของพี่ชาย
“รู้แล้วค่ะ จะไม่ทำอีก”
“ช่างมันเถอะผ่านมาแล้ว”
“ค่ะ” เธอขานรับในลำคอและปล่อยให้ความเงียบครอบงำบรรยากาศบนรถไปตลอดทางจนล่วงเลยเวลาไปหลายนาทีก็มาถึงบ้านของนีน่า รถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านและคนรับใช้ก็เดินออกมาดู
“ไปก่อนนะคะ”
“อืม” มีเพียงเสียงตอบกลับมาเล็กน้อยมือเล็กจึงเอื้อมไปเปิดประตูและก้าวลงมาจากรถแต่ก่อนที่เธอจะปิดประตูรถลงก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
“จะอยู่ไทยถาวรเลยหรอ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”
“ฉันถามเฉยๆ”
“…” ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักเพียงพยักตอบก่อนที่เธอจะเดินไปทักทายคนรับใช้ในบ้านด้วยความสดใสและรอให้คนขนของลงจากรถให้ ขนของเสร็จก็รอให้รถเคลื่อนออกจากบริเวณตัวบ้านจนลับสายตาก็เดินเข้าบ้านไป
…
วันต่อมาตกดึก…
ดวงตาคู่สวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาไม่แพงมากนักจ้องมองตนเองผ่านกระจกบานใหญ่ภายในห้องนอนของตนเอง มิเกลสำรวจใบหน้าที่ถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางมากขนาดนี้เป็นครั้งแรกด้วยความแปลกใจมันสวยขึ้นมาเยอะมากทั้งสวยทั้งน่ารักเหมือนไม่ใช่ตนเอง มิเกลพึงพอใจกับฝีมือตนเองไม่น้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงสำรวจการแต่งกายของตนเอง
มิเกลอยู่ในชุดเดรสรัดรูปช่วงบนและเป็นกระโปรงข้างล่างข้างบนเปิดไหล่หมดและมีโบว์ประดับตรงกลางของเสื้ออวดเรือนร่างซ่อนรูปที่ตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจน เรือนผมสวยที่มักถูกม้วนเป็นมวยให้ดูเชยอยู่ตลอดถูกปล่อยให้สยายทั่วแผ่นหลังและดัดลอน ริมฝากเคลือบด้วยลิปสติกสีเชอร์รี่น่าจุ๊บ การแต่งตัวแบบนี้แน่นอนว่าเธอต้องไปที่ผับ…
มันเป็นการตัดสินใจวิธีรองสุดท้ายจากการไปติดต่อไทเกอร์หรือการยอมตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นกับฟีฟ่า มันคือการ ขายตัว
เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาจากห้องของตนเองและตรงดิ่งไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งทันทีเพราะเมื่อวานเธอได้มีการติดต่อตามแหล่งออนไลน์ไว้แล้ว ใช้เวลาไม่นานมิเกลก็มาถึงสถานที่นัดที่ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นยี่สิบด้วยหัวใจที่เต้นแรงมาถึงหน้าห้องมือเล็กก็ยกขึ้นเคาะ
แล้วไม่นานก็มีคนออกมาเปิดประตูเป็นชายวัยกลางคนที่เหมือนกับเสี่ยทั่วไป เสี่ยคนนั้นอยู่ในชุดคลุมอาบนํ้าเรียบร้อยแล้ว
“คนที่นัดไว้ใช่ไหม”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าตอบและตกใจกับสายตาหื่นกามของคนตรงหน้าที่ไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับกวาดลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองด้วยท่าทางหิวกระหาย
“เข้ามาก่อนสิหนู” พูดจบร่างนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องมิเกลขาแข็งทื่อเธอพยายามทำใจดีสู้เสือแล้วก้าวเข้าไปข้างใน สายตากวาดมองบริเวณรอบห้องแต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจขึ้นมาเพราะเสียงชวนคุยของเขา
“แล้วหนูเอาเงินไปทำอะไรเยอะขนาดนั้น”
“จ่ายค่าเทอมค่ะ”
“เยอะขนาดนั้นฉันทำอะไรกับหนูได้บ้าง?” สายตานั้นดูน่ากลัวจนมิเกลไม่กล้าจะเดินเข้าไปใกล้เธอได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก
“ไม่รู้ค่ะ… หนูไม่เคยขาย”
“ถ้าจะเอาราคานั้นจริงๆ ฉันคงทำกับหนูได้ทุกอย่างนะถึงจะคุ้ม” ราคาที่มิเกลเรียกคือจำนวนเงินที่ขาดจากค่าเทอมของเธอซึ่งมันก็เยอะพอสมควรอย่างที่เสี่ยบอกแต่เธอไม่รู้เลยว่าทำทุกอย่างของผู้ชายคนนี้คืออะไร
“ทำอะไรบ้างคะ”
“ทุกอย่างที่ฉันต้องการ”
“ค่ะ” ไร้ทางเลือกเลยต้องตอบออกไปแบบนั้นอย่างน้อยๆ ทุกอย่่างก็หมายถึงเรื่องเซ็กส์ไม่ได้หมายถึงเรื่องร้ายแรงอะไรเพราะงั้นจะลองดู
“หนูชื่ออะไร”
“มิเกลค่ะ”
“มานี้สิ” ร่างของชายที่สูงแค่ร้อยเจ็บสิบเดินไปหย่อนตัวนั่งลงที่เตียงแล้วตบลงที่นั่งข้างๆ เป็นการเชื้อเชิญให้มิเกลไปนั่งข้างกายเธอจึงจำใจเดินไปหย่อนตัวนั่งลงตรงนั้นและสายตาของเขาก็มองด้วยสายตาชวนน่ากลัว
“หนูนี้สวยมากเลย ตั้งแต่ฉันเจอเด็กที่ขายมา”
“…” มิเกลรอบกลืนนํ้าลายลงคออย่างยากลำบากเธอตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง
“กลัวหรอ ฉัมไม่รุนแรงหรอก” พูดจบใบหน้านั้นก็ยื่นเข้ามาซุกไซร้ที่ลำคอขาวจนมิเกลต้องเอามือมาดันอกออกด้วยอาการตกใจ
“ดะ เดี๋ยวค่ะ”
___________________
ว่าแต่อิเสี่ยแปลกๆ นะน้องจะรอดม่ายยยยยย
มาเอาช่วยน้องในตอนต่อไปนะคร่าาาา
ส่วนมาทีน&นีน่า มีปมเฉลยแน่นอนจ้าาา???
