ตอนที่ 24 พี่ถาม น้องตอบ | ทริปเกาะล้าน
EP24 พี่ถาม น้องตอบ | ทริปเกาะล้าน
“มองอะไร” มิเกลถามออกไปสายตามองร่างหนาที่จ้องมองตนเองด้วยสีหน้าครุ่นคิดก่อนที่เธอจะหันกลับมาสนใจเก็บชุดที่เหลือเข้าตู้ต่อ พอจัดเสร็จเรียบร้อยก็หยิบเสื้อปาดไหล่สีพาสเทลออกมาและกางเกงขาสั้นพร้อมกับผ้าคาดผมที่ไหมเป็นคนเลือกให้
“ทำไมมองไม่ได้รึไง” ฟีฟ่าตอบกลับแล้วมองร่างเล็กที่เดินหายเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องนํ้าโดยไม่มีบทสนทนาใดๆ ตอบกลับมา เขาเลยเดินไปหยิบชุดของตัวเองแล้วเอามาเปลี่ยนบ้าง พอเปลี่ยนเสร็จก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มิเกลเปิดประตูออกมาจากห้องนํ้า เธอไล่สายตามองเขาเล็กน้อยแล้วละความสนใจไปที่หน้ากระจกแทน
“จะออกไปไหน” ฟีฟ่าถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กหยิบผ้าคาดผมขึ้นมาสวมและมันก็ยิ่งเพิ่มความน่ารักให้เธอเข้าไปอีกเท่าตัว
“เดินเล่น”
“กับใคร” เขาถามต่อในขณะที่ร่างกายนั่งด้วยท่าทีสบายอยู่ปลายเตียง
“คนเดียว” มิเกลสวมผ้าคาดผมเสร็จก็เอื้อมมือมาถอดแว่นออก เธอหยิบเครื่องสำอางขึ้นมาแต่งแต้มบนใบหน้าของตนเอง
“ฉันจะไปด้วย” ฟีฟ่าพูดขึ้นมาแล้วก็ไล่สายตามองร่างสวยเสื้อของเธอมันโชว์ไหล่ แถมกางเกงขาสั้นสีขาวที่ผิวแทบจะสว่างเท่าก็สั้นมาถึงแก้มก้น แต่งตัวแบบนี้ยังไงก็ถูกมองแน่นอน ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด
“แล้วแต่… แค่อย่าวุ่นวาย”
“กางเกงขาสั้นเธอมันโป๊ไปนะ” พอได้ยินคำพูดนั้นมิเกลก็ก้มลงมองกางเกงตนเองซึ่งมันก็เป็นกางเกงขาสั้นปกติ ไม่ได้ถือเข้าขั้นโป๊ หรือเป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นเธอใส่แบบนี้กันเลยมองว่าโป๊…
“ตรงไหน”
“ทุกตรง”
“แล้ว?” ใบหน้าสวยหวานหันกลับมามองด้วยความสงสัยมันโป๊แล้วยังไง เธอต้องทำยังไงต่อ?
“เปลี่ยนสิ ถามอะไรโง่ๆ”
“ไม่…” มิเกลตอบคำเดียวสั้นๆ เท่านั้นก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าใบเล็กขึ้นมาสะพายคล้องบ่าเธอเดินออกมาจากห้องโดยที่ไม่ได้สนใจฟีฟ่าเลยแม้แต่น้อย ด้านคนที่ไม่ได้ดั่งใจตนเองก็รีบลุกไปหยิบเสื้อเชิ้ตของตนเองออกมาแล้วเดินตามมิเกลไปติดๆ
“รอหน่อยก็ดี” เมื่อวิ่งมาหยุดข้างกายมิเกลฟีฟ่าก็มองด้วยความไม่พอใจ เขาเดินชิดร่างเล็กจนมิเกลต้องถอยห่างออกมาเป็นระยะๆ
“ไม่ได้ขอให้มาด้วย”
“ปากดี”
“…” หญิงสาวไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปเธอเดินมาที่ลานกิจกรรมซึ่งตอนนี้เหล่าสตาฟกำลังเตรียมหลายอย่างเพราะที่พักจัดเตรียมแค่บางส่วนยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งหมด บรรยากาศช่วงเย็นทำให้พระอาทิตย์กำลังตกแสงกระทบกับท้องทะเลสีสวยเป็นภาพที่มองแล้วชวนสบายใจ
กลุ่มนักศึกษาบางคนก็ช่วยสตาฟเตรียมมื้อคำบางคนก็เดินเล่น ถ่ายรูปบ้าง สวมบีกี่บ้าง บางคนก็ออกไปขี่รถจักรยานยนต์รอบเกาะเพื่อชมบรรยากาศ มิเกลมองเห็นตำแหน่งเตาย่างที่ว่างอยู่และกำลังขาดคนเธอเลยเดินไปประจำที่และฟีฟ่าก็เดินมาชิดกับตัวเธอเช่นเคย…
“ฉันทำคนเดียวได้” มิเกลหันไปบอกเพราะฟีฟ่าเอาแต่เดินประกบหลังไม่ก็มาตัวติดข้างกายตลอดจนทำให้กลุ่มนักศึกษาจับกลุ่มซุบซิบกัน
“ฉันจะทำด้วย”
“…” มิเกลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และไม่สนใจเขาก่อนจะสวมถุงมือพลาสติกแล้วหยิบของทะเลออกมาจากกล่องโฟมขึ้นมาล้างทำความสะอาดแล้วก็เอาขึ้นย่างตามขั้นตอนแต่ละอย่างและก็มีฟีฟ่าคอยยืนย่างช่วยไม่ห่าง
ทริปนี้ตั้งใจจะมาอย่างสนุกแต่ก็ดันมีวิญญาณมาคอยตามติดจนหน้าหงุดหงิด…
“สวมเสื้อคลุมหน่อยมั้ย” และในขณะที่เขากำลังย่างอยู่สายตาก็คอยมองสำรวจเรือนร่างมิเกลไปด้วย ซึ่งตอนที่เธอก้มก็ทำให้เห็นร่องสวยเล็กน้อย ดึงดูดสายตาของนักศึกษาผู้ชายที่จ้องมองเธอตั้งแต่เดินออกมาจากบ้านพักแล้วแต่เจ้าตัวดันไม่รู้อะไร
“ใส่ทำไม”
“นมโผล่” ไม่พูดเปล่ามือหนาที่ไม่ได้เธอคีบเหล็กก็ดึงเสื้อขึ้นปิดด้วยความรุนแรง มิเกลปรายตามองแล้วก้าวห่างออกมาจากเขาแต่ก็ถูกเดินตามมาติดๆ
“นี่พี่..”
“ถ้ารำคาญก็ใส่เสื้อซะสิ มันโป๊ พูดไม่รู้เรื่อง”
“ใครกันแน่..” ปากเล็กบ่นอุบอิบแล้วถอดถุงมือพลาสติกออกเธอยอมหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวของฟีฟ่าที่พาดอยู่หลังเก้าอี้มาสวมให้มันจบๆ เพราะทนต่อสายตาของแต่ละคนที่มองมาด้วยความอิจฉาไม่ได้แล้ว อิจฉาที่ฟีฟ่าใกล้ชิดกับเธอปานจะกลืนกิน แต่สำหรับมิเกลแล้วเธอรำคาญสิ้นดี…
“ใส่ไว้ก็จบเรื่อง” มิเกลสวมเสื้อคลุมเอาไว้เสร็จฟีฟ่าก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนที่เขาจะจัดการย่างของทะเลต่อ เวลาดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลานัดหมายคือสองทุ่ม..
20.00 น.
ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันที่อาหารมื้อเย็นกันเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว โต๊ะอาหารถูกเรียงยาวและมีกล่องโฟมของสดหลายกล่องมีอาหารทะเลที่ทั้งย่างแล้วและกำลังย่างใหม่หลากหลายเมนู กุ้ง หอย ปู ปลา มีทุกอย่างและนํ้าจิ้มอีกหลากหลายและของทานเล่น อีกทั้งยังเครื่องดื่มอีกมากมายดูก็รู้ว่าครอบครัวของฟีฟ่ารวยมากขนาดไหนที่ให้งบมาเยอะขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่ใครหลายคนอยากมาเรียนคณะนี้
“มึงหายหัวไปไหนมาวะ ไม่ไปขับมอไซเล่นกับพวกกูอ่ะ” ไวท์เดินมาคล้องคอฟีฟ่าแล้วพากันเดินมาหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ปลายโต๊ะยาว จังหวะนั้นมิเกลเลยปลีกตัวเดินออกมาจากฟีฟ่าและมานั่งที่ปลายโต๊ะของอีกฝั่ง ที่นั่งข้างกายเธอว่างธามที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เลยเดินมานั่งข้างมิเกล ฟีฟ่าเห็นแบบนั้นร่างกายกำลังจะลุกขึ้นไปแย่งที่นั่งธามแต่ก็ถูกมือไวท์กดบ่าลง
“ไม่ด้ายยยยยยย มึงจะไปไหน” ไวท์ส่ายหน้าไปมาและกดดันเขา แต่สายตาฟีฟ่าก็กระวนกระวายไม่น้อยอยากจะไปให้ได้แต่โต๊ะนี้ก็เต็มหมดด้วยความรวดเร็ว ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนได้แค่โต๊ะอื่น
“ไอ้ธามมันโผล่มาจากไหน”
“มันไปเข้าห้องน้ำมา ว่าแต่มึงเถอะ กูรู้ว่าสนิทกับน้องอย่างกับผัวเมียแถมแม่งเสือกนอนบ้านเดียวกันอีก พี่น้องจริงอ่อวะ?”
“แปลกตรงไหน”
“ก็มึงเล่นตัวติดขนาดนั้น ไอ้ห่า ยิ่งกว่าวิญญาณ เฝ้าเหมือนหมาหวงก้างเลยไอ้ควาย มึงก็มีช่องว่างให้น้องเฉิดฉายบ้าง” ไวท์พูดกรอกหูฟีฟ่าแต่ดูเหมือนว่าความสนใจของเขาก็อยู่แค่กับมิเกล “ไอ้นี่ มึงฟังกูพูดเปล่า”
“ฟัง” ฟีฟ่าตอบด้วยนํ้าเสียงไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะหยิบซ้อมขึ้นมาแล้วจิ้มเข้าที่ปลาหมึกในจานอย่างรุนแรงจนไวท์สะดุ้งตกใจ
“ทำไรของมึงเนี่ย จิ้มเล่นเป็นเด็กเอาแต่ใจไปได้” ไวท์มองการกระทำของเพื่อนตนเองและมองตามสายตาของฟีฟ่าและเขาก็เห็นธามกำลังแกะกุ้งให้มิเกล เกาะให้ทุกอย่างจนเธอยิ้มให้..
“…”
“แค่น้องๆ มึงอย่าทำตัวหวงก้างอย่างกับน้องเป็นเมียมึง” ไวท์เตือนแต่ฟีฟ่าก็ไม่ได้สนใจและบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็ดำเนินไปเรื่อยๆ โดยมีสายตาไม่พอใจมองการกระทำของธามและมิเกลอยู่
ช่วงเวลาดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงเวลารวมตัวกันเพื่อกิจกรรมเล่นเกม…
ทุกคนมายืนรวมตัวและตรงหน้าคือเหล่าพี่สตาฟ โดยการเล่นเกมจะแยกตามกลุ่มใหญ่ที่ขึ้นรถเดินทางมาที่นี้
ธามและมิเกลยืนอยู่ข้างกายกันฟีฟ่าและไวท์เลยเดินมายืมรวมกลุ่มด้วย ไวท์ยืนริมสุดตามด้วยธามมิเกลและฟีฟ่า
“ตอนนี้ทุกคนก็มารวมตัวกันครบแล้ว วันนี้เราจะมาร่วมสนุกกันก่อนเข้าที่พักกันค่ะ โดยเกมที่เราจะเล่นกันนะคะคือเกม..” มะตูมพูดด้วยนํ้าเสียงขี้เล่นก่อนจะผายมือไปให้เหล่าพี่สตาฟที่ยืนเรียงกันอยู่มีสตาฟของทุกชั้นปีส่วนมากเป็นเด็กปีหนึ่งเพราะเป็นกิจกรรมหลักของปีหนึ่ง “..พี่ถามน้องตอบนะๆๆๆ”
เหล่าสตาฟพูดพร้อมกันแล้วทำท่าประกอบแล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงโห่แซวของทุกคนอย่างสนุกสนาน
“กฏิกาของเรานะคะ เราจะเชิญรุ่นพี่ถูกคนมายืนตรงนี้และให้รุ่นพี่สุ่มเรียกรุ่นน้องหนึ่งคนเป็นคู่ของตัวเองมาถามและรุ่นน้องที่ถูกเรียกก็ต้องตอบโดยคำถามก็ต้องสุ่มหยิบในกล่องมาตอบ ถ้ารุ่นน้องตอบผิดจะถูกลงโทษ แต่ถ้าลงน้องตอบถูกรุ่นพี่จะถูกลงโทษแทน แต่ๆๆๆๆ แบบนี้มันดูง่ายไปใช่ไหม เรามีอะไรมากกว่านั้น บทลงโทษของเรานะคะ จะเป็นการวัดดวงพี่สตาฟจะสุ่มหยิบเลือกบทลงโทษ ฝ่ายที่แพ้ได้บทลงโทษแบบไหนก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตนเองไปนะค่าาาา~~”
“บทลงโทษของเรามีตั้งแต่กินของพิสดาร เต้นเพลงเซ็กซี่ และอีกมากมายเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเชิญรุ่นพี่ปีสามออกมาเริ่มก่อนเลยค่าาา” สิ้นเสียงมะตูมรุ่นพี่ปีสามจึงเดินออกไปมีเกือบสิบคนได้ “เชิญคู่แรกเลยค่าาา พี่นํ้าขิงเชิญเลือกรุ่นน้องมาตอบคำถามและสุ่มหยิบคำถามได้เลย”
เกมดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงคนสุดท้ายคือฟีฟ่า…ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นหวั่นไหวจนทุกคนหันมามองที่กลุ่มนี้
“คนสุดท้ายจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ มะตูมขอเป็นตัวแทนกราบไหว้คุณพ่อของพี่ด้วยนะคะที่ทำให้ทริปนี้เกิดขึ้น” มะตูมเดินมาพร้อมกับย่อตัวไหว้หัวแทบจรดหัวเข่าด้วยท่าทางตลดเรียกเสียงหัวเราะให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก “ขอสัมภาษณ์นิดนึงค่ะ รู้ตัวไหมคะว่าการที่พี่มาทริปนี้ทำให้สาวๆ หลายคนเสียอาการกันเยอะมากประหนึ่งดาราท่านหนึ่ง”
“ไม่รู้เลยครับ เป็นแบบนั้นจริงๆ หรอ” ฟีฟ่าตอบด้วยท่าทีขี้เล่นและส่งยิ้มหว่านเสน่ห์ซึ่งมันก็ทำให้มะตูมแทบจะลมจับ
“ไหนลองตอบพี่ฟีฟ่าหน่อยสิ ขอเสียงดังๆ” มะตูมผายมือไปหาทุกคนและเสียงของผู้หญิงก็ตอบเสียงดังฟังชัด
“ใช่ค่าาาา~~”
“งั้นเราให้พี่ฟีฟ่าเลือกดีกว่าว่าจะให้รุ่นน้องคนไหนมาตอบคำถาม เชิญค่าาาา”
“ผมขอเลือก… รุ่นน้องสมัยมัธยมของผมเองครับ”
“ใครเอ่ย…”
“น้องมิเกลครับ”
พอได้ยินชื่อตนเองมิเกลก็มองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ เธออีกแล้วหรอ?
______________
เอาอีกแล้วพี่ฟีฟ่า??
