บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เสียงปริศนาในเวลาเที่ยงคืน

เชอแตมมาถึงหอพักด้วยอาการเหนื่อยหอบพี่นุกนิกหญิงสาวโสดวัยสามสิบห้าปีที่ใบหน้าดุแต่น้ำใจกลับตรงกันข้ามกับใบหน้า เธอเป็นเจ้าของหอพักกำลังนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์หันมาปะหน้ากับเธอพอดี

"ออกไปเดินเล่นมาอีกแล้วเหรอแตม ไม่กลัวบ้างหรือไงนี่มันดึกมากแล้วนะ อันตรายจะตาย" พี่นุกนิกถาม

"ขอโทษนะคะ พี่นุกนิก"

"ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็เป็นห่วงเราน่ะ แต่มันสิทธิ์ของเราที่จะออกไป แต่ถ้าไม่ออกไปจะดีกว่านะ"

"ค่ะ" เชอแตมรับคำ แต่ในความเป็นจริง เธอจะทำได้ไหมก็ไม่รู้

"อ้อ! ป๊อบคอร์นโทร.มาหาพี่ด้วย เห็นว่าโทร.หาเธอแล้วเธอไม่รับ โชคดีที่วันนี้พี่มานอนที่หอพัก เลยมานั่งรอเธอเสียเลย คิดอยู่แล้วว่าเธอต้องออกไปเดินเล่นอีก"

เชอแตมสีหน้าเหวอ เธอยังไม่คิดเรื่องที่จะรับมือกับเพื่อนรักเพื่อนหวีดสยองคนนี้เลย

"อ้อ! แตมลืมมือถือไว้ที่ห้องน่ะค่ะ"

"ไม่ใช่ว่าตั้งใจลืมไว้หรอกเหรอ" พี่นุกนิกถามแบบรู้ทัน เชอแตมอยู่หอพัก นุกนิกมานานกว่าห้าปี เธอจึงค่อนข้างสนิทกับพี่นุกนิกนุกนิกเองก็พอจะรู้ว่าเชอแตมชอบออกไปเดินเล่นเวลาเที่ยงคืนบ่อย ๆ และมักจะถกเถียงกับป๊อบคอร์นเรื่องนี้กันเป็นประจำ

เชอแตมยิ้มแหยให้พี่นุกนิก "แตมขอตัวกลับห้องก่อนดีกว่านะคะ" พี่นุกนิกพยักหน้าให้เชอแตมยังไม่มีอารมณ์จะคุยอะไรไปมากกว่านี้

เหตุการณ์ที่เจอบนทางเท้าริมถนนเมื่อสักครู่ ยังทำให้เชอแตมขวัญผวาอยู่ไม่หาย เธอจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังได้ เล่าไปก็มีแต่คนสมน้ำหน้าเธอที่หาเรื่องออกไปเดินเล่นเอง ซ้ำร้ายเธออาจจะไม่ได้ออกไปเดินเล่นแบบนั้นอีกแล้ว เพราะหากเพื่อนรักแปดหลอดอย่างป๊อบคอร์นรู้ คงจะขนข้าวของย้ายมาอยู่กับเธอเสียที่นี่ ซึ่งมันจะกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตเชอแตม หากถูกกักขังให้อยู่แต่ในห้องเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน

เชอแตมเปิดมือถือขึ้นมาดู "ห้าสิบสายไม่ได้รับ" เธอถอนหายใจเชิงปลง ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมงที่เธอเดินเล่นเพื่อนรักของเธอสามารถโทรจิกได้ถึงขนาดนี้ ยังไงเธอก็คงหนีความเป็นห่วงของเพื่อนแท้คนนี้ไม่พ้น

"อิเชอ! อิเพื่อนไม่รักดี แกออกไปเดินเล่นมาอีกแล้วใช่มั้ย" เสียงป๊อบคอร์นแว้ดขึ้นมาทันทีที่รับสายเชอแตม เชอแตมเอามือถือออกห่างจากหูทันทีราวกับรังเกียจมันนักหนา ก็เจ้าของน้ำเสียงนั้นออมเสียงให้มันเหลือเดซิเบลที่น้อยที่สุดในยามไม่พอใจได้เสียเมื่อไหร่

"ใจเย็นดิแก" เชอแตมพยายามใช้น้ำเสียงหวานใสให้อีกฝ่ายเย็นลงได้ให้มากที่สุด

"ใจเย็นบ้าอะไรแกล่ะ! ฉันกลุ้มจนเหงื่อแตกร้อนจะตายอยู่แล้วเนี่ย นี่แกไม่ออกไปสักวันจะได้มั้ยห๊ะ แกจะลงแดงตายรึไง" และเชอแตมก็รู้ว่าเสียงหวานใสไม่ได้ช่วยอะไร

"ก็อาจจะ" เชอแตมตอบไปตามความจริงเชิงกวนประสาท

"อิบ้า! แกมันบ้าไปแล้ว"

"ก็อาจจะอีกนั่นแหละ" เชอแตมยอมรับแต่โดยดี เธออาจจะบ้าอย่างที่เพื่อนรักว่าจริง ๆ เธอก็ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นโรคทางจิตอะไรหรือเปล่าที่ชอบไปเดินในช่วงเวลาอันตรายแบบนั้น

"ไปหาหมอมั้ยแก" ป๊อบคอร์นถาม น้ำเสียงจริงจัง

"แล้วแกว่าหมอจะช่วยฉันได้จริงเหรอ"

เชอแตมได้ยินเสียงป๊อบคอร์นถอนหายใจ "ก็คงช่วยไม่ได้ เฮ้อ! ฉันจะทำยังไงกับแกดีเนี่ย"

"ฉันดูแลตัวเองได้นา ไม่ต้องห่วงหรอก" พูดไปก็เหมือนกัดลิ้นตัวเอง ถ้าไม่ได้ชายหนุ่มปริศนาคนนั้น คืนนี้ป๊อบคอร์นคงได้สาปแช่งเธอตามไปถึงนรกสวรรค์ไหนแล้ว

"เหรอ แกรู้มั้ยว่า ฉันต้องทนทรมานแค่ไหนเวลาแกทิ้งมือถือไว้แล้วต้องรอจนกว่าแกจะกลับหอมา แกไม่รู้หรอกว่าจิตใจของคนที่เป็นห่วงน่ะ มันทรมานแค่ไหนที่ต้องคาดเดาว่า เขาจะกลับมาไหมนะคืนนี้"

คำพูดของป๊อบคอร์นดราม่าซะจนเชอแตมรู้สึกผิดมหันต์

"ถึงแกจะกำพร้า ไม่มีใครเลย แต่แกมีฉัน มีลุงคอนเนอร์อยู่นะเว่ย ถ้าแกเป็นอะไรขึ้นมา แกนึกถึงคนที่อยู่ใกล้แกมากที่สุดอย่างฉันสิ ฉันนี่ต้องร้องไห้ขี้มูกโป่ง เสียใจอยู่เป็นเดือนเป็นปีนะ"

"โอเค ๆ ฉันขอโทษ ฉันจะพยายามไม่ออกไปเดินเล่นแบบนั้นอีกแล้วนะ จะพยายามนะ"

"ให้มันแน่ แกมันแพ้ใจตัวเองตลอด ฉันไม่อยากจะเชื่อแกหรอก"

"แกนอนดีกว่านะ นี่ก็จะตีสองละ ฉันทำให้แกไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย"

"เออ ก็รู้ตัวนี่หว่า"

เชอแตมอมยิ้มนิด ๆ "งั้นแค่นี้นะ"

หลังจากวางสายไป เชอแตมก็กลับมาคิดเรื่องชายหนุ่มปริศนาสองคนนั้นต่อ ถึงจะไม่อยากขัดคำสั่งเพื่อนรัก แต่เธอยังอยากรู้ว่าสองคนนั้นเป็นใคร ทำไมถึงได้เหาะเหินเดินอากาศได้ราวกับไม่ใช่คน เธออยากจะออกไปอีกในคืนพรุ่งนี้ แต่ถ้าเธอเจอแต่ชายหนุ่มที่หล่อบรรลัยแต่ใจโหดคนนั้นเพียงคนเดียวเธอจะทำยังไง หากชายหนุ่มที่พยายามช่วยเธออีกคนไม่โผล่มา เธอจะทำยังไง

"พวกคุณ เป็นใครกัน" เชอแตมล้มตัวลงนอนและหลับไปทั้งที่สมองยังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่

เชอแตมคิดออกแล้วว่าจะหาวิธีออกไปเดินเล่นตอนเที่ยงคืนอย่างไรให้ปลอดภัย เธอยิ้มแป้นหลังจากที่สมองตัวเองคิดอะไรที่แสนฉลาดออกมาได้ เธอรีบไปหาพี่นุกนิก และจัดการขอหยิบยืมรถมอเตอไซด์ทันทีหลังจากเลิกเรียนกลับมา เมื่อการยืมเสร็จเรียบร้อย ทีนี้เธอก็รอแค่เวลาเที่ยงคืน

"เอาสิ ถ้าวิ่งไล่ตามมอไซด์ทันก็ให้มันรู้ไป" เชอแตมยิ้มกริ่มกับตัวเอง

"เอ พวกเขาเหาะได้ กระโดดได้ไกลด้วยนี่หว่า ถ้าเขาตามรถมอไซด์ทันจริง ๆ ล่ะ เราจะทำไง” แต่ความลังเลก็เกิดขึ้นอีกจนได้

“ช่างมันเถอะ ไม่ลองไม่รู้” แต่ก็ใจกล้าในเวลาต่อมา

“แต่ถ้าลองแล้วเธอตายขึ้นมาล่ะแตม” อีกใจก็ยังกังวลอยู่ดี “เอาวะ เกิดมาหนเดียวตายหนเดียว เราตัวคนเดียวนี่ ไอ้ป๊อบมันคงเสียใจได้ไม่นานหรอกนา ไว้ตายเมื่อไหร่ เราค่อยมาหามันแล้วบอกมันว่า เราสบายดีไม่ต้องห่วง" เธอพูดเองเออเองกับตัวเองเสร็จสรรพ

"นี่เราคงจะบ้าไปแล้วจริง ๆ " ประโยคสุดท้ายเธอก็ถอนหายใจแบบปลง ๆ ให้กับตัวเอง

เวลาเที่ยงคืนมาถึง เชอแตมเตรียมพร้อมราวกับจะไปออกรบ คราวนี้เธอพกมือถือไปด้วย เผื่อฉุกเฉินขึ้นมาอย่างน้อย 191 ก็อาจจะมาช่วยเธอได้ทัน เชอแตมขึ้นคร่อมรถมอเตอไซด์เกียร์ออโต้ บิดกุญแจแล้วสตาร์ท

เธอขับมาเรื่อย ๆ บริเวณทางเดิมที่เธอเดินมาเมื่อคืน เธอเร่งเครื่องช้า ๆ บางครั้งก็จอดนิ่งเพื่อกวาดสายตามองหาชายหนุ่มคนที่เธอมักเจอบ่อย ๆ และติดหนึบอยู่ในใจเธอไม่ยอมไปไหนทุกคืน อีกใจก็หวาดหวั่นในบางคราวว่าอาจจะเจอหนุ่มอีกคนที่แสนจะโหดร้ายคนนั้น ความเงียบสงัดทำให้เธอได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเองชัดเจน และมันยิ่งเต้นแรงขึ้นเหมือนมีใครเปิดเพลงมัน ๆ จนลำโพงสั่นสะเทือนมากระทบอกเธอ เหตุเพราะเธอเห็นชายหนุ่มคนนั้นกำลังเดินอยู่ที่ทางเท้าฝั่งตรงข้ามถนนกับเธอ!

เชอแตมค่อนข้างแน่ใจว่าน่าจะเป็นเขาที่ช่วยเธอ เพราะเธอจำท่าทางการเดินที่แสนเทพเท่ห์นั้นได้ดี เขาเดินเรื่อย ๆ ราวกับเดินเล่นกินลมชมวิว

"ยังไงคืนนี้ ฉันก็ต้องเห็นหน้าและรู้จักคุณให้ได้ ฉันจะไม่ยอมเสียเที่ยว" เธอพูดกับตัวเองแล้วสตาร์ทรถตั้งใจจะยูเทิร์นไปฝั่งที่เขาเดินอยู่ หากแต่เธอละสายตาไปเพียงชั่วครู่ แล้วมองกลับไปที่เขาอีกครั้ง

มันกลับว่างเปล่า!

"เขาหายไปไหนแล้ว! " เชอแตมจอดรถและพยายามหันรีหันขวางมองหาเขาจนทั่ว

ตึก! รถมอเตอไซด์ยวบลงเพราะมีอีกคนมานั่งซ้อน เชอแตมตกใจปากอ้าค้างใจเต้นรัว เธอกำลังจะหันไปมองแต่คนปริศนากลับเอ่ยคำสั่งกับเธอขึ้นมาก่อน

"ขับรถ! " น้ำเสียงเขาทุ้มนุ่มแต่จับความรู้สึกได้ว่าดุเข้มเจือด้วยอำนาจอันน่าเกรงขาม จนเชอแตมไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดหรือรู้สึกไปเองหรือเปล่าที่น้ำเสียงของเขามันเจือความเป็นห่วงด้วย!

"ขะ...ขะ...ขับ ไปไหน" ความตระหนกทำให้ใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ปากสั่นจนพูดติดอ่างอย่างน่ารำคาญ

"ขับไปก่อน เดี๋ยวผมบอกเอง" เขาสั่ง น้ำเสียงยังคงอำนาจ

"แตะ...แตะ...แต่ว่า"

"ชักช้าก็ตายกันพอดี" เสียงชายหนุ่มเริ่มจะหงุดหงิดรำคาญ เขาไม่รอให้เธอขับรถเอง และสิ่งที่เขาทำหลังจากนั้นเชอแตมถึงกับสูดหายใจเข้าทางปากแบบตื่นตะลึง ชายหนุ่มโน้มตัวมาจากข้างหลังและใช้มือทั้งสองจับแฮนด์รถเอง พร้อมกับสตาร์ทบิดคันเร่งเองเสร็จสรรพ เชอแตม หน้าเหวอกับท่าทางที่เหมือนกับว่าเขากำลังกอดเธออยู่!

หัวใจที่กระตุกเต้นอยู่ตอนนี้ทำให้เธอแยกไม่ออกว่ากำลังรู้สึกแบบไหนระหว่าง กลัวกับขวยเขิน

“นี่ เห็นใจฉันหน่อยสิ ใจฉันเต้นจนจะแตกตายอยู่แล้วนะ” เธอบ่นอุบในใจ

เขาทำทุกอย่างโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทั้งการปรากฏตัวและการขับรถที่เร็วอย่างกับพอล วอล์คเกอร์กลับมาเกิดใหม่

“โอ๊ย! มันจะฟาส ฟิวเรียสไปแล้วนะ” เธอไม่กล้าบ่นด้วยปาก เพราะไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่ขับรถเธออยู่ตอนนี้ร้ายดียังไง

"คุณจะขับไปไหนเนี่ย" เธอถามแข่งกับเสียงรถและสวนทางกับแรงลมที่ตีหน้า

"ที่ที่ปลอดภัย" เขาตอบ

"ทำไมเหรอ มีใครตามเรามาเหรอ"

"..." เขาไม่ตอบ

"คุณพาฉันกลับที่พักฉันก็ได้นะ ที่นั่นก็ปลอดภัย"

"ไม่ได้! " เขาตวาดเสียงดุ "จะให้มันรู้ที่อยู่คุณไม่ได้"

เชอแตมนิ่งอึ้งปากอ้าค้าง เรื่องมันร้ายแรงขนาดนี้เชียวหรือ

"เราหนีใครอยู่ คุณบอกฉันได้มั้ย"

"ถึงแล้ว" เขาไม่ตอบคำถามเธอ แต่กลับบอกว่าเขาถึงจุดหมายแล้ว

เชอแตมมองไปยังสถานที่ที่เขาพาเธอมา "อยู่ที่นี่จนกว่าจะเช้า ถ้าไม่อยากตาย" เขาสั่ง

"โบสถ์? " เธอพึมพำกับตัวเอง มัวแต่สนใจกับโบสถ์คริสต์ที่เด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้า แต่พอหันหลังจะไปคุยกับหนุ่มปริศนาคนนั้น เขากลับหายไปแล้ว!

เชอแตมมองหาเขาจนทั่ว "คุณ! คุณอยู่ไหนน่ะ คุณ! " เธอเรียกหาเขาเสียงหลง ใจหนึ่งก็กลัว ใจหนึ่งก็สงสัย แต่ตอนนี้ความกลัวมันมีมากกว่า

เขาเอาเธอมาทิ้งที่นี่เนี่ยนะ!

"แล้วฉันต้องอยู่ที่นี่จนเช้าจริงเหรอเนี่ย" ภายในใจเธอสับสนวุ่นวายไปหมด เธอควรเชื่อเขางั้นหรือ ถ้าเธอกลับหอพักไปไม่ดีกว่าหรือ โบถ์แค่นี้จะกันใครเข้ามาได้ยังไงกันในเมื่อเธอกับเขายังเข้ามาได้ เมื่อคิดสับสนว่ากลับหรือไม่กลับหออยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจจะสตาร์ทรถแต่พอเหลือบไปมองนอกโบสถ์ เธอก็เจอกับนัยน์ตาวาวโรจน์ของหนุ่มปริศนาที่จะทำร้ายเธอคนนั้น มันชัดเจนยิ่งกว่าใบหน้าหล่อเหลาของเขาเสียอีก เชอแตมรีบวิ่งไปหลบหลังเสาของโบสถ์ทันที แล้วคอยชะเง้อถี่ ๆ มองเขา เธอกลัวมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา แต่กลับอุ่นใจเมื่อเขาไม่มีท่าทีจะก้าวเข้ามาในโบสถ์เลย

"เหมือนเขาไม่กล้าเข้ามา ทำไมนะ" เธอบ่นกับตัวเอง

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ชายหนุ่มปริศนาแววตาเหี้ยมก็หายไป เธอถอนหายใจและนั่งแหมะลงกับพื้น

"มันอะไรกันเนี่ย ทำไมเขาไม่กล้าเข้ามาในโบสถ์" เธอบ่นเบา ๆ ในใจนึกถึงชายหนุ่มที่พาเธอมาที่นี่ เธอลืมไปเลยว่าตัวเองยังไม่ได้เห็นหน้าเขา ขนาดที่อยู่ใกล้กันตอนนั่งรถมอเตอไซด์ เธอยังไม่แม้แต่จะได้เงยหน้ามองเขา ทั้ง ๆ ที่มีเวลาถมเถไป เพราะความวุ่นวายและความกลัวแท้ ๆ

"พวกคุณเป็นใครกันแน่" เชอแตมยังคงถามคำถามนี้กับตัวเอง โดยที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้คำตอบ

"แต่เสียงของคุณ มันช่างน่าหลงใหลเหลือเกินค่ะ คนที่ช่วยชีวิตฉันไว้" เชอแตมพูดจบก็ยิ้มเบา ๆ แบบไม่รู้ตัว น้ำเสียงของเขายังคงติดหูเธออยู่จนตอนนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel