บทที่ 8 เฟล
ศิวายืนมองทั้งสองคนจากประตูบ้าน ไม่คิดเลยว่าจะเห็นภาพที่นริสาดึงคิเรย์เข้ามาจูบแบบนี้ ทั้งที่รู้ตัวว่าไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นแล้วมันก็หงุดหงิดแล้วพาลหายใจติดขัดเอาเสียดื้อ ๆ พยายามบังคับตัวเองให้มองไปทางอื่นแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน
มันอะไรกันนะความรู้สึกแบบนี้....
คิเรย์และนริสาค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกจากกัน ชายหนุ่มยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะเกลี่ยผมออกจากใบหน้าสวยไปทัดหู
"จะไม่ให้พี่ไปหรือไง หืม?"
"ถ้าไม่ให้ไปแล้วพี่เรย์จะไปไหมคะ?"
"แล้วถ้าพี่ไม่ให้แต่ง สาจะยังแต่งอยู่ไหม?"
คิเรย์ย้อนถาม นริสาหน้ามุ่ยพลางน้ำตาคลอ
"พี่เรย์ก็รู้ว่าสาไม่ได้อยากแต่ง..."
"สาก็รู้ว่าพี่ไม่ได้อยากไป แต่พี่ต้องไป พี่ไม่อยากให้สาแต่ง แต่พี่ก็ต้องให้สาแต่งไงคะ"
คิเรย์ลูบแก้มเนียน นริสาถอนหายใจก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนเขา
"ถ้างั้นก็ขับรถดี ๆ นะคะ ถึงคอนโดแล้วบอกด้วยนะ"
หญิงสาวยิ้มให้เขาบาง ๆ คิเรย์มองใบหน้าสวยแล้วส่งยิ้มกลับ
"ไว้พี่โทรหานะคะ"
ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินขึ้นรถ นริสายิ้มเศร้าให้เขาก่อนที่คิเรย์จะขับรถออกไป
...ทันทีที่รถออกตัว น้ำตาของชายหนุ่มก็ไหลออกมาช้า ๆ เขารีบปาดมันทิ้งแล้วจับพวงมาลัยแน่น
ต้องทำเป็นเข้มแข็ง ทำให้นริสาคิดว่าเขาไม่เป็นไร ให้เธอคิดว่าเขาเข้าใจในการแต่งงานครั้งนี้ แต่จริง ๆ แล้วเขาแทบเป็นบ้ามาตลอดตั้งแต่รู้เรื่อง แต่ก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ ใช่ว่าเขาจะไม่อยากพาเธอหนี แต่เพราะเขาคิดแล้วว่าเขาทำไม่ได้..
หลายครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้ แค่จะหาทางช่วยให้แฟนตัวเองไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นยังทำไม่ได้เลย แล้วเขาจะดูแลนริสาได้อย่างไร
หรือที่จริงแล้ว เขาควรให้เธอได้ไปเจอคนที่ดูแลได้ดีกว่าเขาจริง ๆ ....
.
.
.
นริสาเดินก้มหน้ากลับเข้าบ้านมากับความรู้สึกแย่ในใจ ก่อนที่จะเงยหน้ามาเจอกับคนที่เธอไม่รู้เลยว่าแอบมองเธอกับคิเรย์คุยกันมาตลอด
หญิงสาวสบตากับศิวาครู่หนึ่ง เธอไม่อยากคุยกับเขาเพราะสิ่งที่เขาพูดบนโต๊ะอาหาร เขาพยายามจะสร้างสงครามประสาทกับคิเรย์ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าเธอจะยังคบกับคิเรย์ได้ และเขาควรรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้มันก็เป็นแค่การแต่งงานหลอก ๆ เขาไม่ควรพูดอะไรให้ใครรู้สึกแย่ทั้งนั้น
นริสาตัดสินใจเดินหนี แต่ก็ถูกศิวาคว้าแขนไว้
"เดี๋ยว..."
ศิวาเรียก นริสาชะงักแต่ไม่ได้หันมามองเขา ชายหนุ่มพอดูออกว่าเธอโกรธ ก็พอรู้ตั้งแต่บนโต๊ะอาหารแล้ว นริสาไม่ยอมพูดกับเขาเลย แล้วยังท่าทางมึนตึงนั่นอีก
...แต่ปัญหาก็คือเขาไม่รู้ว่าจะง้อเธออย่างไร คนไม่เคยรู้จักนิสัยใจคอกันมาก่อน แต่ใกล้จะต้องมาแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบหรือไม่ชอบอะไร ไม่รู้ว่าจุดอ่อนจุดแข็งอีกฝ่ายคืออะไร โกรธแล้วต้องง้ออย่างไร เขาไม่รู้เลยจริงๆ
ศิวาเงียบอยู่นานจนนริสาต้องหันมามอง
"ถ้าไม่มีอะไรจะพูด ก็ปล่อยค่ะ"
ร่างบางพูดเสียงเรียบพลางพยายามดึงแขนออกจากมือหนาแล้วเดินหนี ชายหนุ่มคว้าข้อมือเธอไว้อีกครั้งก่อนจะดึงร่างเล็กมาแนบตัว
"พี่ศิวา ปล่อยนะคะ!"
นริสาร้องอย่างตกใจเมื่อเธอเข้ามาใกล้ศิวาขนาดนี้ มือเล็กพยายามผลักตัวเองออกจากการจับกุมของเขา
"ปล่อยค่ะ!"
"ไม่ปล่อย จนกว่าริสาจะคุยดี ๆ กับพี่ก่อน"
"สาไม่มีอะไรจะคุย ปล่อยได้แล้วค่ะ"
หญิงสาวพยายามดิ้น แต่ศิวาก็ยิ่งจับเธอแน่นขึ้น
"ปล่อยนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่มาเห็น"
นริสาดิ้นพลางมองซ้ายมองขวา กลัวว่าพ่อแม่จะมาเห็นเธอโดนศิวากอดอยู่แบบนี้
"กลัวเหรอ? ทีเมื่อกี๊ดึงผู้ชายมาจูบหน้าบ้านยังไม่เห็นกลัวอะไรเลย"
ศิวาถาม น้ำเสียงหงุดหงิดอยู่ในทีทำเอานริสานิ่งไป ทั้งตกใจที่ศิวาเห็นและทั้งโกรธกับคำพูดที่ว่า 'ดึงผู้ชายมาจูบ' ถึงแม้เธอจะเป็นฝ่ายดึงคิเรย์เข้ามาจูบจริง ๆ ก็เถอะ แต่น้ำเสียงและคำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงไร้ยางอายคนหนึ่ง
"ก็พี่เรย์เป็นแฟนสา สาไม่เห็นต้องกลัวอะไรนี่คะ"
"อย่าลืมนะว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน จะทำอะไรก็ให้เกียรติพี่บ้าง"
ศิวาดุ เพิ่งจะเข้าใจที่พ่อแม่นริสาเคยบอกว่าเธอคือลูกสาวจอมดื้อ ดื้อจนอยากจับตีก้นเสียให้เข็ด
"แล้วพี่ศิวาล่ะคะ ให้เกียรติสาบ้างรึเปล่า? พี่พูดแบบนั้นตอนทานข้าวได้ยังไง ถึงยังไงพี่เรย์เค้าก็ยังเป็นแฟนสานะคะ พี่ศิวาพูดแบบนั้นก็ไม่ให้เกียรติทั้งสาทั้งพี่เรย์เหมือนกัน"
"พี่ไม่ให้เกียรติตรงไหน? พี่ก็พูดไปตามจริง"
ศิวาเถียงข้าง ๆ คู ๆ ก็พอรู้ตัวแหละว่าตอนนั้นเขาต้องการเอาชนะ ให้คิเรย์รู้สึกแพ้จริง ๆ อยากให้คิเรย์รู้ว่าเขาคือคนที่กำลังจะได้แต่งงานกับนริสา
"ตามจริงของพี่มันคือการไม่ให้เกียรติกันค่ะ พี่ศิวาน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าพูดออกมาด้วยเจตนาอะไร"
หญิงสาวบอกเสียงแข็ง ศิวานิ่งไป ร่างสูงมองคนตรงหน้าด้วยสายตารู้สึกผิด เขาค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอออก นริสามองหน้าเขาก่อนจะเบือนสายตาหนี
"สาว่าพี่ศิวากลับไปได้แล้วล่ะค่ะ"
หญิงสาวบอกเสียงเรียบทำเอาศิวารู้สึกชาเล็ก ๆ
นี่ถึงกับต้องไล่กันเลยหรือไง...
"ไล่พี่เลยเหรอ?"
ศิวาถามอย่างน้อยใจ รู้ว่าเขาคงทำให้ริสาไม่พอใจมาก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้พูดไปแบบนั้น
"ไม่ได้ไล่ค่ะ แค่เห็นว่ามันดึกแล้ว สาไม่อยากให้พี่ศิวาขับรถตอนดึก ๆ"
หญิงสาวพูดโดยที่ยังไม่หันกลับมามองหน้าเขา ศิวาถอนหายใจก่อนจะเดินออกมา แต่แค่ไม่กี่ก้าวเขาก็ชะงักแล้วหันกลับไปหาเธอโดยที่หญิงสาวยังคงยืนหันหลังให้เขาอยู่
"พรุ่งนี้...ที่ร้านจะเอาชุดแต่งงานมาส่งนะ" ศิวาบอก ริสายังคงนิ่งอยู่ เธอไม่ได้หันกลับมามองเขา "แล้วก็...ช่วงนี้พี่ก็คงต้องวุ่น ๆ กับการเตรียมงานแต่ง พี่ต้องเข้าไปคุมเรื่องการตกแต่งในงานเอง อาจจะไม่ค่อยได้มาหานะ..."
"ไม่เป็นไรค่ะ"
นริสารีบตอบ ไม่ต้องมาเจอก็ดี เพราะถ้าแต่งงานกันแล้วเธอก็ต้องเจอเขาทุกวัน อย่างไรก็ขอใช้เวลาก่อนแต่งให้ได้อยู่กับตัวเองสักหน่อยแล้วกัน แม้จะแค่ไม่กี่วันก็ตาม
"ไว้พี่จะโทรหานะ"
ศิวาบอก นริสาเงียบไม่ตอบอะไรเขาทำเอาชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
"พี่...." ศิวาพูดออกมาอย่างอึดอัด "....ขอโทษแล้วกันถ้าพี่ทำอะไรให้ริสาโกรธ"
ศิวาตัดสินใจพูดออกมา นริสาอึ้งที่ได้ยินคำขอโทษจากปากเขา ไม่คิดว่าผู้ชายมีมาดอย่างศิวาจะกล้าขอโทษในสิ่งที่เขาคิดว่าตัวเองไม่ได้ผิด ก็เห็นวางมาดมาตั้งนาน เถียงข้าง ๆ คู ๆ ว่าตัวเองไม่ผิด แล้วจู่ ๆ อารมณ์ไหนถึงยอมพูดขอโทษกัน
หญิงสาวอมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะรีบหุบยิ้มแล้วหันมามองหน้าเขา
"พี่ศิวารีบกลับบ้านเถอะค่ะ ขับรถดึก ๆ มันอันตราย"
นริสาบอก ทำเป็นเฉไฉเหมือนว่าไม่สนใจคำขอโทษของศิวา ทำเอาชายหนุ่มเสียเซลฟ์เล็ก ๆ
ปกติก็ไม่ได้จะต้องขอโทษใครก่อนหรอกนะ เขาไม่อยากให้เธอโกรธถึงได้ยอมพูดว่าขอโทษ แต่กลับได้การตอบกลับแบบนี้น่ะหรือ
โดนไล่กลับบ้านอีกรอบ...
...เฟลเป็นบ้าเลย
"งั้นก็...พักผ่อนนะ"
ศิวาบอกก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เขาไม่รู้ว่านริสาหายโกรธหรือยัง หรือควรจะทำอย่างไรต่อไปดี อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานแล้ว หากเธอยังโกรธเขาอยู่จนถึงวันนั้น ก็ต้องแต่งงานกันแบบมึนตึงแบบนี้น่ะหรือ ศิวาเกาหัวอย่างหงุดหงิดตัวเองเบา ๆ เขาทำอะไรไม่ถูกเอาเสียเลยจริง ๆ
.
.
.
ร่างบางเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงพลันครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตอนแรกโกรธศิวาอยู่มาก แต่พอโดนเขากอดแบบนั้นแล้วใจมันก็หวิวแปลก ๆ และยิ่งพอเขาพูดออกมาว่าขอโทษก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกใจหวิวไปใหญ่
คิดเข้าข้างตัวเองแบบแปลกๆว่า...เขาแคร์เธอ
นริสาสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเอง พลางยกมือจับหัวใจที่อยู่ ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมาเสียเฉย ๆ เพียงนึกถึงเรื่องของศิวา
ตึ๊ง~
เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้ามาทำให้หญิงสาวได้หยุดคิดเรื่องไร้สาระ เธอเงยหน้าขึ้นจากหมอนเพื่อหยิบโทรศัพท์มาดู แอบหวังเล็กๆว่าจะเป็นข้อความของศิวา...
P'Kiray ❤️ : ถึงคอนโดแล้วค่ะ พักผ่อนเยอะๆนะคนเก่งของพี่
P'Kiray ❤️ : รักสานะคะ
P'Kiray ❤️ : sent sticker
I'M RISA : ฝันดีค่ะ
นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความตอบกลับไปก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียงแล้วนอนลง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องผิดหวังที่ไม่ใช่ข้อความของศิวา
ดวงตาสวยหลับลงหวังจะให้ตัวเองหายฟุ้งซ่าน ทั้งที่พร่ำบอกกับตัวเองเสมอว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขาแท้ ๆ แล้วจะต้องมาคาดหวังอะไรจากเขากัน
บางครั้งตัวเองก็ยังไม่เข้าใจความต้องการของตัวเองเอาเสียเลย...
