บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 วันแต่งงาน

ตลอดเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาก่อนจะถึงงานแต่ง นริสากับศิวาไม่ได้เจอเลย เพราะชายหนุ่มเองก็ยุ่งอยู่กับการช่วยที่บ้านเตรียมการงานแต่งทั้งหมด จะมีโทรมาหาเธอเพื่อบอกความคืบหน้าบ้าง แต่ก็คุยกันได้สั้น ๆ แล้วก็วางไป ส่วนว่าที่เจ้าสาวเองก็ต้องวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเข้าคอร์สบำรุงผิวเจ้าสาวทุกวันที่มารดาจัดการเตรียมไว้ให้ ไหนจะต้องลองชุดแต่งงานทั้งงานเช้างานเย็นเพื่อปรับแก้ครั้งสุดท้าย เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็ทำให้เวลาแค่ไม่กี่วันผ่านไปเร็วมาก...

...จนวันนี้ถึงวันแต่งงานของเธอแล้ว

งานเช้าผ่านไปอย่างราบรื่นกับพิธีรดน้ำสังข์แบบไทย ผสมกับธรรมเนียมเกาหลี ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมของตระกูลเพื่อนสนิทของศิวา งานเช้าจะมีแค่เพียงครอบครัวและคนสนิทเท่านั้น มีสื่อมวลชนไม่กี่เจ้าที่ได้อนุญาตให้ทำข่าวในช่วงเช้า งานเลี้ยงช่วงเย็นถึงจะมีแขกที่เป็นคนนอกมาร่วมด้วย ทั้งฝั่งของเธอและศิวา ราว ๆ เกือบห้าร้อยคนได้

และตอนนี้ก็ถึงช่วงเวลาที่ทั้งคู่จะจดทะเบียนสมรสกันตามฤกษ์ที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเตรียมไว้

ศิวากับนริสานั่งข้างกันโดยมีนายทะเบียนนั่งฝั่งตรงข้าม ตรงหน้าของทั้งคู่มีกระดาษทะเบียนสมรสวางอยู่ รอทั้งคู่เซ็นลงไปเพื่อให้กลายเป็นใบทะเบียนสมรสที่สมบูรณ์

"ถ้าพร้อมแล้ว เชิญเซ็นได้เลยนะครับ"

นายทะเบียนบอกพลางผายมือไปที่กระดาษตรงหน้าทั้งคู่ ศิวาหยิบปากกามาเซ็นลงไปอย่างไม่ลังเล ผิดกับนริสาที่นิ่งคิดไปนิดหนึ่ง

ต้องเซ็นจริง ๆ สินะ... เธอกำลังจะเป็นภรรยาของศิวาตามกฎหมายแล้วจริง ๆ หากเธอเซ็นใบทะเบียนสมรสนี้

เอาเถอะ...แค่เซ็นไปตอนนี้ อีกไม่นานก็เซ็นใบหย่าแล้ว ไหน ๆ มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องไปให้สุดสิ

นริสาตัดสินใจเซ็นลงไปในทะเบียนสมรสทั้งสองใบที่มีลายเซ็นศิวาอยู่ในนั้นเรียบร้อย ศิวายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เขากับนริสาเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องในทางนิตินัยแล้ว...

"และตอนนี้...คุณทั้งคู่ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยินดีด้วยครับ"

นายทะเบียนประกาศ ก่อนที่ทั้งคู่จะหยิบทะเบียนสมรสขึ้นมาถือไว้เพื่อให้กล้องจากสื่อมวลชนได้ถ่าย นริสายิ้มอย่างประหม่า ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี แต่เธอควรจะดีใจไม่ใช่หรือที่กำลังจะได้มีสามี แถมสามีของเธอทั้งหล่อ ทั้งรวย การงานดี มีแต่คนอยากได้ ควรจะต้องดีใจสิ...

"เจ้าบ่าวหอมเจ้าสาวหน่อยนะครับ"

เสียงตากล้องบอกก่อนที่ศิวาจะหันมามองหน้านริสาเป็นเชิงขออนุญาต หญิงสาวมองหน้าเขาเช่นกัน มาถึงขั้นนี้แล้ว จะปฏิเสธก็คงจะไม่ทันแล้วไหม

ศิวาหอมแก้มนริสาค้างไว้เพื่อให้กล้องต่าง ๆ ได้ถ่ายรูปขณะที่ทั้งคู่ถือทะเบียนสมรสอยู่ เจ้าสาวยิ้มอย่างเขิน ๆ ที่ถูกหอมแก้มต่อหน้าคนมากมายแบบนี้

"โชว์แหวนหน่อยนะคะ"

เสียงช่างภาพดังขึ้น นริสาแอบถอนหายใจเบา ๆ ที่ถูกเรียกให้จัดท่าทางตามใจมากเหลือเกิน ไม่รู้ว่าขั้นต่อไปจะต้องให้เธอขี่คอเจ้าบ่าวถ่ายรูปด้วยหรือเปล่านะ...

.

.

.

หญิงสาวในชุดไทยสีครีมนั่งอยู่ในห้องของโรงแรมอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อพิธีช่วงเช้าเสร็จสิ้น ขณะที่ช่างแต่งหน้าทำผมกำลังช่วยเธอแกะผม ลบหน้าจากพิธีช่วงเช้าเพื่อเตรียมตัวในงานช่วงเย็นต่อ ใบหน้าสวยก้มลงมองแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายของตนเอง

...จากที่ตอนเด็ก ๆ ชอบเอาแหวนของแม่มาใส่เล่นเป็นแหวนแต่งงาน บางครั้งก็เอาต้นหญ้ามามัดเป็นวงกลมเพื่อทำเป็นแหวนใส่เล่น แต่ตอนนี้เธอกำลังได้ใส่แหวนเพชรจริง ๆ ซึ่งเป็นแหวนแต่งงานของเธอ ที่มีผู้ชายที่เป็นเจ้าบ่าวของเธอสวมให้....

...แม้เธอและเขาจะไม่ได้แต่งงานเพราะความรักกันก็ตาม

นริสามองแหวนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่รู้จะดีใจที่ได้มีแหวนเพชรสวมอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างที่ฝัน หรือจะเสียใจที่คนที่สวมมันกลับไม่ใช่คนรักของเธอ และเธอก็ไม่ใช่คนรักของเขาเช่นกัน

"เป็นอะไรไปลูก"

สุภาวดีเดินเข้าไปถามเมื่อเห็นลูกสาวก้มหน้ามองแหวนแล้วนิ่งไป หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองแม่ตัวเองก่อนจะยิ้มให้บาง ๆ

"ไม่มีอะไรค่ะแม่ แค่...รู้สึกงง ๆ นิดหน่อย"

"แหวนเนี่ย เป็นแหวนจากต้นตระกูลชเวของพ่อศิวาเขาเลยนะลูก พี่ศิวาเขาตั้งใจให้หนูนะ เก็บไว้ให้ดีนะลูก"

ผู้เป็นแม่บอก ร่างเล็กก้มลงมองแหวนเพชรเม็ดโตที่อยู่บนนิ้วของเธออีกครั้ง เธอไม่ได้สนใจหรอกว่าแหวนมันจะราคาเท่าไร เพชรกี่กะรัต หรือแหวนนี้มาจากไหน เพราะการแต่งงานครั้งนี้มันเป็นแค่การแต่งงานหลอก ๆ อยู่แล้ว เขาจะเอาแหวนปลอมมาแต่งเธอไม่ได้แคร์ แต่พอรู้ว่าเขาตั้งใจเอาแหวนจากต้นตระกูลมาให้เธอเลย กลับรู้สึกใจเต้นขึ้นมาแปลก ๆ ...

"แล้วแหวนที่หนูใส่ให้พี่ศิวาล่ะคะ อันนั้นแม่ซื้อมาจากไหน"

"อ๋อ ไม่ได้ซื้อหรอกลูก แหวนของคุณปู่ทวด คุณพ่อเขาให้เอามาให้เป็นแหวนแต่งงาน ของครอบครัวเราก็ให้ศิวาใส่ ของครอบครัวศิวาก็ให้หนูใส่ไงลูก ถือว่าสองครอบครัวเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว"

นริสาแอบประหลาดใจเล็ก ๆ เมื่อได้ยินคำตอบ นี่ทั้งสองครอบครัวเขาจริงจังกันขนาดนี้เลยหรือ

"งั้นหนูเตรียมตัวต่อเถอะลูก เดี๋ยวแม่ลงไปช่วยพ่อเขาดูสถานที่ก่อน"

สุภาวดียิ้มให้ลูกสาวก่อนจะเดินออกจากห้องไป นริสานิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดโซเชี่ยลมีเดียเล่น การแจ้งเตือนในเฟสบุ๊คขึ้นมาอย่างมากมายเนื่องจากมีเพื่อนสนิทของเธอที่มางานแต่งงานโพสต์รูปงานแต่งในช่วงเช้าของเธอ มีทั้งกดชื่นชอบและข้อความแสดงความเห็นมากมาย ซึ่งความเห็นส่วนใหญ่ก็ล้วนมีแต่....

'เจ้าบ่าวดีมากกกกกกก'

'ยินดีด้วยน้าริสา อิจฉาอ่ะเจ้าบ่าวหล่อเว่อร์'

'ผัวนังสางานโคดดีเลยข่า'

'อ้าว ริสาแต่งงานแล้วเหรอ ยินดีด้วยนะจ๊ะ แฟนล๊อหล่ออ่ะ อิอิ'

'โหยยย ขอเจ้าบ่าวหน้าแบบนี้ที่นึงค่าาา หล่อมากกก'

อ่านข้อความแล้วก็ทำให้คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน ในรูปก็มีเจ้าสาวด้วยนะ ทำไมถึงชมกันแต่เจ้าบ่าวล่ะ

ถึงจะหงุดหงิดที่มีแต่ความเห็นที่เหมือนอยากจะกินเจ้าบ่าวแต่นริสาแอบอมยิ้มเบา ๆ อย่างภูมิใจ

หากใครจะอิจฉาที่เธอได้สามีที่เพียบพร้อมอย่างศิวา ก็คงจะช่วยไม่ได้จริง ๆ

.

.

.

ศิวาเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก เขาถอดเสื้อนอกออกจนเหลือแต่เสื้อกล้ามกับกางเกงขายาวก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน

นี่ขนาดแค่งานเช้ายังเหนื่อยขนาดนี้ ยังไม่ทันถึงงานช่วงเย็นเลย อาจจะเป็นเพราะเขาต้องอยู่เตรียมงานทุกวันไม่ได้หยุด ทั้งเรื่องการตกแต่ง อาหาร และการเชิญแขกต่าง ๆ แต่เมื่อเช้าที่ได้เห็นนริสาใส่ชุดไทยเข้ามาในพิธีหมั้น ได้สวมแหวนให้เขา และเขาก็สวมแหวนให้เธอ และทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วด้วย มันทำให้สิ่งที่เขาเหน็ดเหนื่อยมาหลายวันไม่เสียเปล่า

ศิวาก้มลงมองแหวนที่สวมอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายที่นริสาเป็นคนสวมให้เขาแล้วก็ยิ้มออกมาไม่รู้ตัว เขารู้ว่าเธอประหม่ามากในพิธี แต่ท่าทางงก ๆ เงิ่น ๆ ของเธอมันดูน่ารักมากสำหรับเขา

บ้าแล้ว นี่เขากำลังรู้สึกอะไรอยู่นะ...

"เป็นไงบ้างไอ้ลูกชาย เหนื่อยไหม?"

ไกรวิทย์ถามขึ้นเมื่อเขาเดินตามศิวาเข้ามาในห้อง

"นิดหน่อยครับป๊า"

ศิวาบอกก่อนจะก้มลงมองแหวนต่อ ชายสูงวัยเห็นลูกชายจ้องแหวนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็อดแซวไม่ได้

"นี่ยิ้มเพราะได้ใส่แหวน หรือยิ้มเพราะคนใส่แหวนให้กันแน่ หืม?"

ศิวาตกใจกับคำแซว เขารีบแก้ตัว

"ยิ้มเพราะ - - แหวนสวยดีต่างหากล่ะครับ"

ศิวาเฉไฉ ทำเอาผู้เป็นพ่อหัวเราะ

"ฮ่ะ ๆ ๆ ว่าแต่วันนี้หนูริสาสวยมากเลยนะ"

"อ๋อ...ครับ ก็แปลกตาดี ไม่เคยเห็นริสาแต่งแบบนี้"

"คงแปลกตามากจนแกมองไม่วางตาเลยสิ..." ไกรวิทย์ยิ้มแซว ชายหนุ่มมองหน้าพ่อตัวเองอย่างตกใจ "หึหึ ป๊าเห็นสายตาแกนะว่ามองหนูริสาเขาไม่วางตา เหมือนตอนที่ป๊ามองม๊าในวันแต่งงานเลย"

"เอ่อ...ผมไม่เห็นรู้ตัวเลยว่าผมมองริสา..."

ศิวาอ้ำอึ้ง ก็ยอมรับว่ามองนะ แต่ไม่ได้มองตลอดเวลาแบบไม่วางตาสักหน่อย

"รู้ไหมว่าการที่เรามองคน ๆ หนึ่งตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัวน่ะแปลว่าอะไร?"

"อ - - อะไรเหรอครับป๊า?"

"แปลว่าเราตกหลุมรักเขาไง"

คำตอบของบิดาทำเอาศิวาชะงัก นี่พ่อกำลังคิดว่าเขาตกหลุมรักนริสาอย่างนั้นหรือ

บ้าน่า...

"ม - - ไม่ใช่หรอกครับป๊า ผมจะไปตกหลุมรักริสาได้ยังไง ป๊าก็รู้นี่ครับว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร"

ศิวาบอก ไกรวิทย์นั่งลงข้างลูกชายก่อนจะเริ่มพูด

"แกก็รู้ใช่มั้ยล่ะว่าป๊ากับม๊าแกก็ถูกจับคลุมถุงชนเหมือนกัน ป๊าก็เคยคิดเหมือนแกนี่แหละว่าคนที่ไม่ได้รักกัน ถึงต้องแต่งงานกัน ยังไงมันก็ไม่รักกันหรอก ตอนนั้นป๊าคิดแค่ว่าก็แต่ง ๆ ไปให้ครอบครัวสบายใจ แต่พอป๊าได้รู้จักม๊าแกมากขึ้น ป๊าก็ตกหลุมรักม๊าเขาอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าความรู้สึกมันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน รู้แค่ว่ามันรู้สึกหึงเวลาที่เห็นใครมาจีบม๊า ไม่อยากให้ใครมายุ่ง ชอบเวลาที่ม๊าเค้าทำอะไรน่ารัก ๆ หรือดูเป็นห่วงป๊า แค่ได้จับมือม๊า ใจป๊าก็เต้นแรงแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ จนถึงวันแต่งงานป๊าถึงได้เริ่มเข้าใจว่ามันคืออาการของคนตกหลุมรัก เพราะป๊ามีความสุขมากที่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาเป็นคู่ชีวิตของป๊า ป๊าอยากดูแลเค้าจนกว่าป๊าจะตาย ยิ่งตอนรู้ว่าม๊าเค้าท้องแก ป๊ายิ่งมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าครอบครัวของป๊ากำลังจะสมบูรณ์จริง ๆ "

ไกรวิทย์เล่าเรื่องราวความรักของตนให้ฟังทำเอาศิวานิ่งไป ไม่คิดเลยว่าเรื่องของพ่อและแม่จะเหมือนกับชีวิตเขาขนาดนี้

เขาเองก็คิดมาตลอดว่าคนไม่ได้รักกัน ต่อให้แต่งงานกันไปอย่างไรก็คงไม่มีวันรักกันอยู่ดี แต่ความรู้สึกที่เขามีให้นริสามันเริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือความรู้สึกอะไร...

รู้สึกดีที่นริสาเป็นห่วงเค้า

ชอบเวลาที่ถูกนริสาหึง

ใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้จูบเธอ

หึงทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้คิเรย์

และวันนี้เขาก็มีความสุขมากที่รู้ว่านริสากำลังจะมาเป็นภรรยาของเขาจริง ๆ

มันคืออาการที่เรียกว่าตกหลุมรักอย่างนั้นหรือ...

"แต่ผมคงไม่ได้อยู่กันไปตลอดอย่างป๊ากับม๊าหรอกครับ เพราะถ้าข่าวเงียบเมื่อไหร่ ริสาคงขอให้ผมหย่าให้เค้าทันที เพราะเขาเองก็มีแฟนอยู่แล้ว..."

ศิวาพูดเสียงเศร้า ไกรวิทย์ตบบ่าลูกชาย

"เฮ้ย อย่าเพิ่งไปรีบคิดล่วงหน้าแบบนั้น เขามีแฟนแล้วยังไง? ตอนนี้แกเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ ทำให้ผู้หญิงที่ต้องกินอยู่หลับนอนกับเราทุกวันตกหลุมรักน่ะไม่ยากหรอก คืนนี้แกก็รวบรัด จัดเลยสิ ของป๊านะ รักไม่รักไม่รู้แหละ เป็นเมียเราแล้วนี่ เข้าหอคืนแรกป๊าจัดไปเลยสามยก แกก็จัดซะหกยกไปเลยคืนนี้ รับรอง...ไม่ไปไหน"

"ป๊า!!"

ศิวาตกใจกับความคิดของพ่อตัวเอง ชายสูงวัยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

"เราลูกผู้ชายเหมือนกันนะไอ้เสือ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องอาย อยากได้เทคนิคให้สาวหลงน่ะเดี๋ยวป๊าจัดให้"

ไกรวิทย์แหย่ต่อเมื่อยิ่งเห็นลูกชายหน้าแดง ก่อนจะหัวเราะ

"โอ๊ย ป๊าครับ"

"ฮ่ะ ๆ เอาล่ะ ๆ เดี๋ยวป๊าลงไปจัดการดูห้องจัดงานก่อนนะ แกก็พักผ่อนแล้วก็เตรียมตัวไปแล้วกัน"

ผู้เป็นพ่อตบบ่าลูกชายอีกครั้งก่อนจะออกจากห้องไป ศิวาก้มลงมองแหวนอีกครั้งพลางคิดถึงคนที่สวมแหวนให้เขา

อดใจรอดูนริสาในชุดเจ้าสาวไม่ไหวแล้ว ตอนลองชุดว่าสวยแล้ว ไม่รู้คืนนี้จะสวยขนาดไหน

สงสัยเขาจะตกหลุมรักเข้าจริง ๆ แล้วหรือเปล่านะ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel