บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 หึง??

ในที่สุดทั้งคู่ก็เลือกแพ็คเกจแต่งงานได้ลงตัวในธีม Glamourous white & rose gold เนื่องจากศิวาอยากได้แค่สีขาวเรียบ ๆ แต่นริสาชอบความเป็น rose gold ก็เลยเอามารวมกันเสียเลย และอีกอย่างทางบ้านของทั้งคู่ก็ถือเคล็ดของความเป็นสีทองที่มีความหมายในความรุ่งเรือง ก็เลยได้ออกมาเป็นธีมนี้ ที่คาดว่าน่าจะเอาใจทุกฝ่ายได้ดีที่สุด

และอีกภารกิจที่ทั้งศิวาและนริสาต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้คือการลองชุดแต่งงาน พนักงานในร้านพานริสาไปเลือกชุดหลายแบบหลายสีให้เข้ากับธีมงานและแบบที่หญิงสาวชอบที่สุด

"แถบนี้จะเป็นชุดของ Vera Wang ทั้งหมดค่ะคุณนริสา บอกเลยว่างานของ Vera Wang นี่เนี้ยบมาก คือดูเรียบแต่หรูค่ะ ลองดูได้เลยนะคะ"

พนักงานแนะนำ นริสาเองก็เห็นด้วย ชุดแต่งงานแบรนด์นี้ดูสวยและหรูมาก จนในที่สุดเธอก็เลือกได้ชุดถูกใจ เป็นชุดเกาะอกสีขาวสะอาด กับกระโปรงยาวฟูตามสไตล์เจ้าหญิง พร้อมกับโบว์คาดเอวสี rose gold ซึ่งตรงตามคอนเซ็ปท์งานของเธอทุกอย่าง นริสาจึงตกลงลองชุดนี้ทันที

หญิงสาวลองชุดอย่างเคอะเขิน เมื่อเห็นตัวเองในกระจกที่อยู่ในชุดแต่งงานก็ยิ่งรู้สึกไม่อยากเชื่อว่าเธอกำลังจะได้แต่งงานจริง ๆ ขณะที่กำลังหมุนซ้ายหมุนขวาดูตัวเองและชุดในกระจก เธอก็เห็นศิวาที่ยืนมองอยู่จากด้านหลัง เขาเองก็อยู่ในชุดสูทดูดีสีขาว รอบตัวมีพนักงานกำลังช่วยเก็บชุดให้เข้ากับตัวศิวาให้มากที่สุดแต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจ สายตาคมจ้องมองเธออยู่อย่างกับต้องมนตร์สะกด

สวย...สวยมากๆ...

นริสาเองก็ลูบชุดอย่างเขิน ๆ เมื่อเห็นศิวามองมา ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี จะบิดซ้ายบิดขวาก็กลัวจะดูตลก เขามองจนเธอเขินทำอะไรไม่ถูก ขนาดแค่มองผ่านกระจกเท่านั้น หากเขามาจ้องเธอแบบตรง ๆ ใกล้ ๆ จะทำเธอเขินขนาดไหนกัน

"สวยมาก ๆ เลยค่ะ เข้ากับคุณนริสามาก ๆ เลย ตกลงเอาชุดนี้เลยไหมคะ เดี๋ยวดิฉันให้ช่างเก็บไซส์ให้เลย"

"เอ่อ...ค่ะ เอาชุดนี้แหละค่ะ"

นริสาพยักหน้า แต่ก็ยังสบตากับศิวาที่มองเธอผ่านมาจากกระจก จนตอนนี้เขายังไม่ละสายตาจากเธอเลย

"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณศิวา"

"..."

พนักงานสาวร้องบอก แต่ศิวาไม่ได้ยิน การที่ได้เห็นนริสาในชุดแต่งงานแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก

...อยากจะให้ถึงวันแต่งงานเร็ว ๆ อยากให้ริสาใส่ชุดเจ้าสาวยืนอยู่ข้างเขาในวันงานแล้ว...

"คุณศิวาคะ"

"..."

"คุณศิวาคะ!"

"เอ่อ ครับ!?"

"เรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญเปลี่ยนชุดได้เลยนะคะ"

พนักงานบอก ศิวาพยักหน้า เขาหันไปมองนริสาอีกครั้งก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุด

ใจเย็นน่าศิวา ใจเย็น ๆ อีกอาทิตย์เดียวเท่านั้น...

ศิวาสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเอง ก่อนที่จะคิดว่าตัวเอรู้สึกอะไรบ้า ๆ ขึ้นมา

ชอบ....นริสาอย่างนั้นหรือ?

.

.

.

ทั้งคู่นั่งเงียบกันตลอดทางในรถ ต่างคนต่างยังคิดถึงภาพของอีกฝ่ายที่อยู่ในชุดแต่งงานอยู่ ขนาดแค่ลองชุดยังเขินกันขนาดนี้ แล้ววันแต่งงานจริงจะเขินกันขนาดไหนหากต้องเห็นอีกฝ่ายดูดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

เสียงโทรศัพท์นริสาดังขึ้น หญิงสาวมองชื่อที่ขึ้นหน้าจอก่อนจะหันไปมองศิวาอย่างเกรงใจ เธอถอนหายใจก่อนจะกดรับ

"ฮ...ฮัลโหล"

(ถึงแล้วเหรอคะ?)

"ค่ะ เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้เอง"

(แล้วเดี๋ยวไปไหนรึเปล่า พี่พาไปกินข้าวไหม?)

"คือ...."

นริสาอึกอัก บอกไม่ถูกว่าจะบอกคิเรย์อย่างไร เพราะศิวาก็กำลังจะพาเธอไปทานข้าวเหมือนกัน ทั้งที่รู้ว่าศิวาเองก็คงไม่มีปัญหาถ้าเธอจะไปทานข้าวกับคิเรย์ เพราะเขาเองก็รู้ว่าเธอกับคิเรย์เป็นแฟนกัน

แต่ทำไมเธอถึงกลัวเขาจะรู้สึกไม่ดีที่เธอจะไปกับคิเรย์แทน

"...วันหลังได้ไหมคะพี่เรย์ อีกไม่กี่วันสาก็จะกลับมาไทยถาวรแล้ว วันนี้สาเพลีย ๆ มากเลย อยากพักน่ะค่ะ"

พอพูดชื่ออีกฝ่ายขึ้นมาก็ทำเอาศิวาเซ็งทันที ชายหนุ่มหน้าตึงขึ้นมาพลางถอนหายใจอย่างข่มอารมณ์

ก็รู้ว่าเป็นแฟนกัน แต่ก็ไม่อยากฟังนริสาพูดชื่อนี้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ

(งั้นก็ได้ค่ะ วันไหนสามาอีกโทรบอกพี่เลย เราไปกินข้าวกันนะ เดี๋ยวพี่ไปรับ)

"ได้ค่ะ"

(รักสานะคะ)

"สาก็...ร - - รักพี่เรย์ค่ะ"

นริสาพูดอย่างกระอักกระอ่วนก่อนจะวางสายไป จะไม่พูดก็ไม่ได้เดี๋ยวคิเรย์จะคิดว่าเธอไม่เหมือนเดิม แต่จะให้พูดต่อหน้าศิวาแบบนี้เธอก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน

กลัวว่าศิวาจะโกรธ กลัวเขาจะรู้สึกไม่ดี ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นห่วงความรู้สึกศิวาขนาดนี้ด้วย

หรืออาจจะแค่เกรงใจ เพราะเธอจะต้องแต่งงานกับเขา แล้วจะให้มาพูดบอกรักแฟนต่อหน้าคนอื่น มันก็เขิน ๆ น่ะสิ

ใช่...ก็แค่เกรงใจเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือจากนี้...

"ต้องมีธุระสำคัญไปไหนรึเปล่า เดี๋ยวพี่ไปส่งก็ได้นะ"

ศิวาพูดเสียงเรียบ รู้สึกหงุดหงิดอย่างไรบอกไม่ถูก

จริง ๆ ก็พอจะเดาได้ตั้งแต่ตอนที่ริสารับโทรศัพท์แล้วว่าใครโทรมา แต่พอได้ยินประโยค 'สาก็รักพี่เรย์ค่ะ' แล้วมันหงุดหงิดอย่างห้ามไม่ได้

ถ้าเป็น 'สาก็รักพี่ศิวาค่ะ' จะไม่ว่าเลย

คิดขึ้นมาก็ทำให้ศิวาอยากจะเอาหัวโขกพวงมาลัยรถ ไม่เข้าใจตัวเองที่ทำไมถึงมีความคิดนี้ขึ้นมาได้ นี่เขาคงใกล้บ้าไปแล้ว

"เอ่อ...ไม่มีอะไรค่ะ"

"แฟนโทรมาตามไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องไปกับเค้าหรือไง?"

ศิวาถามเสียหงุดหงิด แค่บอกว่าไม่มีอะไรแค่นั้นไม่ได้แปลว่าจะทำให้เรื่องจบง่าย ๆ

"พี่ศิวา...หงุดหงิดอะไรเหรอคะ?"

นริสาหันไปถามอย่างกังวลที่จู่ ๆ เขาก็หงุดหงิดจนเธอเดาใจไม่ถูก

"เปล่า ไม่ได้หงุดหงิด"

ศิวาตอบเสียงหงุดหงิด ทั้งที่เพิ่งตอบไปว่าไม่ได้หงุดหงิดแท้ ๆ

"แล้วทำไมถึงดูหงุดหงิดจังล่ะคะ ไม่พอใจอะไรรึเปล่า?"

นริสาถามอย่างสงสัย จะว่าหงุดหงิดเรื่องที่คิเรย์โทรมาหาเธอหรือ? คงไม่น่าใช่ เพราะก็ทำข้อตกลงกันไว้แล้วว่ามีชีวิตของตัวเองได้ และศิวาก็พูดเองว่าเธอก็ยังคบกับคิเรย์ได้ปกติ

"เปล่า"

"พี่ศิวาบอกเองว่าถ้าเป็นอะไรก็ต้องพูด เราจะได้ปรับกันได้ งั้นถ้าพี่ศิวาไม่พอใจอะไรก็บอกได้นะคะ แต่ถ้าไม่ได้เป็นอะไรก็ดีค่ะ"

นริสาพูดเตือนในสิ่งที่ศิวาเพิ่งบอกเธอไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ชายหนุ่มถอนหายใจเพื่อข่มอารมณ์

"เอาข้อตกลงการแต่งงานมาไหม?"

"ไม่ได้เอามาหรอกค่ะ สาเก็บไว้ที่บ้าน"

"งั้นเดี๋ยวแวะบ้านก่อน แล้วเราค่อยไปกินข้าวกัน"

ศิวาบอก ก่อนจะเหยียบคันเร่งเพื่อมุ่งไปบ้านหญิงสาวทันที

โชคดีที่พ่อแม่นริสาไม่อยู่บ้าน ศิวาจึงให้เธอเอาข้อตกลงการแต่งงานลงมาให้เขาทันที เพราะถ้าพ่อแม่ของเธออยู่บ้านล่ะก็ เขาคงได้ขึ้นไปเขียนบนห้องนอนของเธอแน่ ๆ

"พี่ศิวาจะเพิ่มหรือลบอะไรเหรอคะ ทำไมไม่เห็นบอกเลย"

หญิงสาวถามอย่างสงสัยเมื่อหยิบกระดาษลงมาจากห้องเพื่อเอาให้ศิวา ชายหนุ่มหยิบมาอ่าน ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา

ข้อตกลงการแต่งงาน (ฉบับไม่เป็นทางการ)

1. จะไม่ล่วงเกินโดยที่อีกฝ่ายไม่อนุญาต

2. จะไม่มีความสัมพันธ์ทางกาย

3. สามารถมีชีวิตของตัวเองได้เต็มที่ แต่ต้องให้เกียรติอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน

4. หากอยู่ต่อหน้าคนอื่น ต้องปฏิบัติตัวให้เหมือนสามีภรรยาโดยทั่วไปไม่ให้ใครสงสัย

5. ห้ามพูดถึงเรื่องถูกจับคลุมถุงชนให้คนอื่นรู้เด็ดขาด

6. หากต้องการหย่า ต้องมีเหตุอันสมควรถึงจะตกลงเรื่องการหย่ากันได้

ศิวาหยิบปากกามาเขียนข้อต่อไปลงไปทันที

7. ห้ามโกหกกัน ถ้าอีกฝ่ายต้องการรู้อะไรต้องบอกให้หมด และพูดแต่ความจริง ห้ามปิดบัง

8. ห้ามแตะเนื้อต้องตัวเพศตรงข้ามต่อหน้าอีกฝ่าย ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครก็ตาม ยกเว้นแค่พ่อแม่ ญาติและครอบครัว

9. ห้ามพูดว่ารัก คิดถึง หรือคำใดๆที่สื่อถึงความรู้สึกของสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับคนอื่น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต่อหน้าอีกฝ่าย

10. ถ้าอีกฝ่ายพูดอะไรต้องทำตาม เพราะถือเป็นการให้เกียรติกันในฐานะสามีภรรยา

11. ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดข้อตกลง จะต้องโดนอีกฝ่ายลงโทษตามที่ต้องการ โดยฝ่ายที่ทำผิดข้อตกลงจะต้องทำตามห้ามโต้แย้ง (แต่บทลงโทษนั้นต้องไม่รุนแรง ไม่ละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ ไม่ทำให้บาดเจ็บทางร่างกายหรือจิตใจ และไม่ถึงแก่ชีวิต)

ทันทีที่ศิวาเขียนเสร็จ นริสาก็หยิบไปอ่านทันที อ่านจบปุ๊บก็รู้ว่าข้อตกลงพวกนี้เพิ่มมาจากที่คิเรย์โทรมาหาเธอเมื่อครู่เป็นแน่

นริสาอมยิ้มก่อนจะแกล้งถาม

"หมดแล้วใช่ไหมคะ? สาจะเอาไปเก็บแล้วนะ"

"เอาไว้ที่พี่นี่แหละ เดี๋ยวพี่จะเอาไปพิมพ์ให้มันอ่านง่าย ๆ จะได้ดูเป็นทางการด้วย"

ศิวาบอกก่อนจะยื่นมือไปรับกระดาษจากนริสา หญิงสาวทำหน้าแซว

"ต้องจริงจังเป็นทางการขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"

"ก็เราอยากให้มีข้อกำหนดที่ว่าทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้างไม่ใช่เหรอ ก็ต้องเขียนไว้แบบนี้แหละ จะได้ไม่ลืมไง"

ศิวาพูดเสียงเรียบ ยังคงทำหน้านิ่งขรึมไว้เพื่อรักษามาด ทั้งที่จริง ๆ อยากจะทำหน้าหงุดหงิดตั้งแต่ในรถแล้ว

" 'ห้ามพูดว่ารัก คิดถึง หรือคำใด ๆ ที่สื่อถึงความรู้สึกของสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับคนอื่น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต่อหน้าอีกฝ่าย' อันนี้คือเพิ่งคิดได้เมื่อกี๊เลยรึเปล่าคะ?"

เสียงเล็กแซว ศิวาทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนจับได้ ชายหนุ่มพยายามเฉไฉ

"เปล่าซะหน่อย พี่คิดไว้ตั้งนานแล้ว แค่ลืมมาเขียน"

ชายหนุ่มไม่สบตา นริสาอมยิ้มก่อนจะแกล้งเขยิบเข้าไปใกล้

ได้เวลาเอาคืนที่แกล้งเธอที่ร้านแล้วล่ะ...

"หึงเหรอคะ?"

แกล้งถามเสียงหวานพลางเอาหน้าเข้าไปซบกับแขนแกร่งของคนพี่ ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ ไม่คิดว่านริสาจะมาไม้นี้

"ม - - ไม่ได้หึง"

ศิวาปฏิเสธเสียงติดขัด การกระทำของนริสาทำให้เค้าทำอะไรไม่ถูก

"ไม่ได้หึงจริงเหรอ?"

นริสาแกล้งต่อ พยายามดันตัวเข้าไปใกล้ศิวามากขึ้นเพื่อจะให้เขามองหน้าเธอให้ได้ แต่ศิวาก็ยังคงเบือนหน้าหนี

"ก็ไม่ได้หึงไง..."

ถ้าเข้ามาใกล้มากกว่านี้ จะไม่ใช่แค่ตัวที่แข็งแล้วนะ...

"แบบนี้เขาเรียกว่าหึงค่ะ"

นริสาเอาคำพูดของศิวามาแกล้งเขาคืน และโดยไม่รู้ตัว ตัวเธอก็ขึ้นมาอยู่บนตักของเขาเสียแล้ว ศิวามองหน้าเธอก่อนจะเหลือบตาลงมองท่าทางของนริสาที่อยู่บนตัวเขาตอนนี้อย่างตกใจ หญิงสาวเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าอยู่ใกล้ศิวาขนาดนี้ แต่ก็ขยับตัวออกไม่ได้ ศิวาขยับหน้าเข้ามาใกล้โดยที่นริสาเองก็ไม่ได้ขยับหนี ก่อนที่ริมฝีปากของศิวาจะทาบเข้ามาที่ริมฝีปากเธออย่างช้า ๆ ร่างสูงเริ่มขยับจังหวะก่อนเพื่อให้อีกคนขยับตามภาพจูบที่งานวันนั้นก็ลอยเข้ามา ถึงจะเป็นการจูบที่ไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ครั้งนี้ไม่มีคนอื่น มีแค่เธอและเขาเพียงสองคน

ศิวาจูบต่อเนื่องโดยไม่ปล่อยให้ร่างบางได้พักหายใจ นริสาพยายามผลักเขาออกเมื่อรู้ตัวว่าหายใจไม่ทันแล้ว ชายหนุ่มผละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย แต่ก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะขาดใจไปก่อน นริสาหอบเบาๆพลางหน้าแดงระเรื่อ

หญิงสาวเม้มปากอย่างเขิน ๆ เมื่อเห็นสายตาที่คนตรงหน้ามองเธอ เมื่อเห็นนริสาปรับลมหายใจได้แล้ว ศิวาก็ทำเหมือนจะเข้ามาจูบอีกครั้ง แต่หญิงสาวดันเขาออก

"อย่าค่ะพี่ศิวา พอแล้ว..."

นริสาบอกเสียงเบาเพราะความเขินพลางเอียงหน้าหนี ศิวาเห็นท่าทีตรงหน้าแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้

หลังแต่งงานไปแล้ว เขาจะอดใจ 'ห้ามมีความสัมพันธ์ทางกาย' ได้อย่างไรถ้าขืนคนตรงหน้ายังเอาแต่ทำตัวน่ารักแบบนี้

"ถ้าบอกรักคนอื่นให้พี่ได้ยิน ก็จะเป็นแบบนี้แหละ"

ศิวาขู่ทีเล่นทีจริงทำเอาร่างเล็กหน้าแดงกว่าเดิม

นี่หึงจริงๆหรือ...

"ก็...ไหนในข้อตกลงบอกว่ามีชีวิตของตัวเองได้เต็มที่ไงคะ ไม่ได้หมายความว่ายังทำอะไรได้เหมือนเดิมหรอกเหรอ?"

นริสาบ่นอุบอิบ เธอก็ไม่ได้ทำผิดข้อตกลงตรงไหนนี่นา

"ก็ตอนนี้มีข้อตกลงใหม่แล้วว่าห้ามบอกรักคนอื่นต่อหน้าอีกฝ่าย ถือว่าริสาผิดข้อตกลงไง พี่ต้องทำโทษ"

ศิวาบอกพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

ใครจะคิดว่านักธุรกิจหนุ่มอย่างเขาจะฉลาดแกมโกงแบบนี้กัน

"แล้วถ้าตอนนี้ไม่ลุกล่ะก็...พี่ไม่รับรองว่าจะหยุดแค่จูบรึเปล่านะ...."

"อย่านะคะ!" นริสารีบยกมือห้าม "สาอยากลุกตั้งแต่แรกแล้ว แต่ลุกไม่ได้ เหน็บกิน พี่ศิวาอย่าเพิ่งทำอะไรนะ"

ศิวาหัวเราะกับคำพูดและท่าทางของคนบนตัก สายตามองเธออย่างเอ็นดู

ได้จูบอีกครั้งแล้ว....ก็ไม่เลวนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel