บทที่ 2 เปิดตัว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไวจนน่าตกใจ วันนี้นริสาต้องไปร่วมงานเปิดตัวโครงการบ้านใหม่ในเครืออสังหาริมทรัพย์ของบริษัทชเวกรุ๊ป มารดาจึงจัดการหาชุดให้เธอสวยเป็นพิเศษ ชุดราตรีสีดำประดับเพชรที่ช่วงบนดูเรียบหรู ช่วงกระโปรงยาวผ่าข้างให้ดูขาเรียวขึ้น คู่กับรองเท้าส้นสูงสีเงินประดับเพชร และต่างหูเพชรเม็ดเล็กที่เป็นสมบัติของผู้เป็นแม่ พร้อมกับการแต่งหน้าทำผมที่ช่างแต่งหน้ามาแต่งให้ถึงบ้าน ทำให้วันนี้หญิงสาวดูสวยและสง่าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก เรียกว่าเปลี่ยนลุคไปเลยทีเดียว
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานริสากับศิวาไม่ได้เจอกันเลย แต่ทางฝ่ายครอบครัวของศิวาโทรมาบอกครอบครัวของเธอว่าวันนี้เขาจะมารับเธอด้วยตัวเองเพื่อไปงานพร้อมกัน
และเวลาเจ็ดวันที่ผ่านมา เธอก็ยังไม่ได้บอกคิเรย์เรื่องที่ว่าเธออาจจะต้องแต่งงานกับศิวา เพราะคิเรย์เองก็งานยุ่งมาก มีงานแทบทุกวันไม่ได้พัก เธอเลยไม่กล้าเอาเรื่องไม่สบายใจไปบอกเขาอีก แค่นี้เขาก็คงเหนื่อยมากพอแล้ว และนริสเองก็ยังคิดไม่ออกด้วยว่าจะบอกอย่างไรให้เขาไม่โกรธ ไม่มาโวยวายกับพ่อแม่ของเธอ ให้เขาเข้าใจว่าถ้าหากเธอต้องแต่งงานจริง ๆ มันก็เกิดจากความจำเป็น โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาโอกาสเหมาะ ๆ ที่จะบอกได้เมื่อไรเพราะเธอเองก็ไม่อยากปิดบังเขาไปนานกว่านี้อีกแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ก่อนที่เด็กรับใช้ในบ้านจะเปิดประตูเข้ามา
"คุณริสาคะ คุณศิวามารับแล้วค่ะ"
ทันทีที่เด็กปิดประตูห้องนริสาก็ถอนหายใจออกมา เรื่องวันนี้ก็เหมือนกัน เธอจะต้องทำท่าหรือวางตัวอย่างไรเพราะเธอไม่รู้จักใครเลยด้วยซ้ำ งานวันนี้คงจะน่าเบื่อมากสำหรับเธอ ก็ถือเสียว่าไปดูบ้านขำ ๆ ก็แล้วกัน
ร่างบอบบางเดินลงมาที่ห้องนั่งเล่น พบบิดาและมารดากำลังนั่งคุยกับศิวาอยู่ หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้
"สวัสดีค่ะพี่ศิวา"
ศิวารับไหว้ วันนี้เขามาในชุดสูททักซิโด้สีดำหล่อเนี้ยบที่ดูแล้วน่าจะตัวละหลายหมื่นบาท ทรงผมที่เซตเข้าทรงอย่างดีทำให้เขาดูหล่อกว่าวันที่เจอกันครั้งแรกอีกหลายเท่า
หล่อ...หล่อจริง ๆ
ศิวาเองก็มองหญิงสาวอย่างไม่วางตา วันนี้เธอดูแตกต่างจากวันแรกที่เจอกันอย่างสิ้นเชิง ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และการแต่งหน้าแต่งตัวครบชุดแบบนี้ทำให้เธอยิ่งดูน่าหลงใหลมากขึ้น จากวันก่อนว่าน่ารักแล้ว วันนี้ยิ่งมากกว่าเดิม
ใจเย็น ๆ ศิวา ใจเย็น ๆ... น้องมีแฟนแล้วนะ ถึงแกจะต้องแต่งงานกันจริง ๆ แต่ก็มีกติกาอยู่ไม่ใช่หรือไง อย่าลืมสิ...
"เอ้า ไปกันได้แล้วลูก เดี๋ยวรถติดแล้วจะยิ่งช้านะ"
สุภาวดีเสนอ ศิวาพยักหน้าก่อนจะยกมือไหว้ลา
"งั้นผมลานะครับ แล้วจะพาน้องกลับมาส่งอย่างปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วงครับ"
"ขอให้สนุกนะลูก"
อดิศรกอดลูกสาวก่อนที่เธอจะเดินออกไปกับศิวา ชายหนุ่มเปิดประตูรถยุโรปคันหรูให้เธอขึ้นก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขับออกไป
ทั้งคู่เงียบกันไปตลอดทาง ไม่รู้จะพูดอะไรกันดี ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร จากที่เคยคิดว่าพอจะทลายกำแพงระหว่างกันได้เมื่ออาทิตย์ก่อนแล้ว แต่พอไม่ได้เจอกันหลังจากนั้นก็ทำให้ความสนิทกลับไปอยู่ที่ศูนย์ตามเดิม
"หิวไหมครับ?"
ศิวาเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ นริสาหันมายิ้มให้เขาบาง ๆ
"...ไม่ค่อยเท่าไหร่ค่ะ"
"เดี๋ยวไปกินที่งานนะ อาหารอร่อย ๆ เพียบ"
ศิวาบอก หญิงสาวยิ้มแห้ง ๆ เพราะไม่รู้จะตอบอะไร
ความเงียบกลับมาครอบงำอีกครั้ง ศิวาขับรถไปก็นึกถึงหัวข้อสนทนาไปว่าควรจะต่อบทสนทนาอย่างไรดี ให้ตายสิ ทำไมมันดูกระอักกระอ่วนแบบนี้ ปกติเขาไม่เคยชวนใครคุยยากขนาดนี้เลยนะ
"เอ่อ...แล้วนี่กลับดูไบวันไหนครับ"
"อ๋อ วันศุกร์นี้ค่ะ"
"แล้วมาอีกทีเมื่อไหร่?"
"ก็จะมีทำไฟลท์บินมาค่ะ ประมาณอีกอาทิตย์นึง"
"ได้กลับบ้านบ่อยก็ไม่เหงาเนอะ"
"ค่ะ"
นริสายิ้มรับแห้ง ๆ พาบรรยากาศเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
หญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าเป็นคนชอบตัดบทสนทนา หาเรื่องคุยกับพี่เขาต่อสิ อยากนั่งอึดอัดแบบนี้ไปอีกชั่วโมงนึงหรืออย่างไรกัน
"พี่ศิวา...หล่อจังเลยนะคะวันนี้"
พูดออกไปแล้วก็อยากจะเขกหัวตัวเองมากกว่าเดิม ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ปากพูดสิ่งที่คิดออกไปได้อย่างเถรตรงแบบนี้ ชายหนุ่มหันมามองเธอด้วยสายตาประหลาดใจ
"ข - - ขอบคุณครับ"
ศิวาตอบอย่างงง ๆ ทั้งงงทั้งเขินแบบแปลกๆ ไม่รู้จะรู้สึกแบบไหนมากกว่ากันดี
"เราเองวันนี้ก็สวยมากนะ แต่งแบบนี้แปลกตาไปเลย ดูไม่เด็กแล้ว"
"สาว่ามันเว่อร์ไปนิดค่ะ แม่จัดการให้หมดเลย"
นริสาบ่นอุบ ศิวาหันมามองเธอแล้วอมยิ้มก่อนจะหันไปมองถนนต่อ
"ไม่เว่อร์หรอก สวยแล้ว"
ร่างสูงชมทำเอาคนโดนชมหน้าแดงแบบไม่รู้ตัว ข้างในนี่เขินบิดไปหมดแล้ว
เดี๋ยวก่อน ตอนแฟนชมเธอเขินขนาดนี้ไหม..? เธอมีแฟนแล้วนะริสา
นริสาหุบยิ้มทันทีเมื่อเสียงในหัวดังขึ้น นี่จะมาเขินกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะ!
"แล้ว...ปกติเวลามีงานแบบนี้ พี่ศิวาต้องออกงานเองทุกครั้งเลยเหรอคะ?"
"ก็ในแง่ความสัมพันธ์กับลูกค้ากับความน่าเชื่อถือของบริษัทน่ะ ผู้บริหารก็ควรลงมาเจอลูกค้าหรือออกสื่อเอง ดีกว่าให้ลูกน้องออกฝ่ายเดียว มันจะสร้างภาพลักษณ์ให้บริษัทมากกว่า" ศิวาอธิบาย "แต่ก็ไม่รู้ว่าหลังจากข่าวบ้า ๆ นั่น ภาพลักษณ์ดี ๆ พี่จะเหลืออยู่หรือเปล่า"
"พี่ศิวาแถลงข่าวไม่ได้เหรอคะว่ามันไม่จริง พี่ไม่ได้ทำคุณเขมิกาท้อง"
"ฝ่ายพีอาร์มองว่ามันจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์บริษัทดูแย่น่ะ สังคมจะมองว่าพี่ไม่รับผิดชอบ ยังไงคนก็เข้าข้างผู้หญิงอยู่แล้ว พูดไปไม่มีประโยชน์หรอก ดูแก้ตัวเปล่า ๆ พ่อแม่พี่ก็เห็นด้วย ท่านถึงเสนอวิธีแต่งงานเพื่อกลบกระแสข่าวขึ้นมา ก็คือประกาศแต่งงานไปเลย บอกว่าหมั้นกันมานาน คบกันมานานแล้ว มันก็จะจบปัญหาได้เลยว่าพี่ไม่ได้ทำเขาท้องแน่นอนโดยที่ไม่ต้องมาคอยตอบคำถามอะไรที่ดูเหมือนแก้ตัวอีก"
ศิวาบอก ฟังจากน้ำเสียงริสาก็พอรู้ว่าเขาคงหนักใจมาก เพราะผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับเขาคงส่งผลกระทบหนักมากเหมือนกัน และบริษัทนี้ก็สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของพ่อเขา เขาเองคงเสียใจถ้าเป็นคนทำลายมันด้วยข่าวที่ไม่จริง
พอรู้ถึงเหตุผลของเขา ยิ่งทำให้นริสาอยากช่วยมากขึ้น ทำให้เธอคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้มันน่าจะต้องมีผลดีมากกว่าผลเสียแน่ ๆ
...อย่างน้อยก็ได้ช่วยคนดี ๆ กับครอบครัวดี ๆ ให้พ้นจากเรื่องแย่ ๆ ได้
ทั้งที่เขาจะหาใครมาแต่งงานด้วยก็ได้ แต่เขากลับมองว่าเธอจะเป็นคนเดียวที่เหมาะที่จะแต่งงานกับเขาและมองว่าเธอช่วยเขาได้ เธอก็รู้สึกยินดีที่จะช่วย
"เดี๋ยวถ้าถึงงานแล้ว...อยู่ตัวติดกับพี่ตลอด ห้ามเดินไปไหนเลยนะเข้าใจไหม แล้วก็พี่อาจจะต้องขอล่วงหน้าไว้ก่อน ว่าพี่อาจจะมีแตะเนื้อต้องตัวเราบ้าง ก็ขอโทษล่วงหน้าเลยแล้วกัน"
"อ - - อ๋อ ได้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ"
หญิงสาวตอบ ก่อนที่ศิวาจะเลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรมหรูห้าดาวที่เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงคืนนี้ เขาจอดรถที่หน้าโรงแรมเพื่อให้พนักงานมาเอารถไปจอด ก่อนจะเดินไปรับนริสาลงจากรถ
"ไปกัน"
ชายหนุ่มยื่นข้อศอกออกมาให้เธอควงแขน นริสาคล้องแขนเขาอย่างประหม่า ก่อนจะเดินเข้างานไปพร้อมกัน
ทันทีที่มาถึงหน้างาน เธอก็พบว่ามันเป็นงานที่ใหญ่โตและหรูหราอย่างมาก มีทั้งไฮโซ ดารา และนักข่าวเต็มไปหมด ที่ backdrop หน้างานก็มีแขกที่มาร่วมงานกำลังยืนถ่ายรูปกันอย่างดูดี แสงแฟลชกระจายเต็มไปหมดทั้งงาน ก่อนที่จะมีทีมงานวิ่งมาหาศิวาเพื่อพาไปที่ backdrop ขนาดใหญ่ด้านหน้า
"ถ่ายรูปกันนะ"
ศิวาหันมาบอก นริสาตาโตเมื่อฟังคำชวนของเขา
"อ - - อะไรนะคะ?! ไม่ถ่ายนะพี่ศิวา พี่ศิวาถ่ายเลยค่ะ เดี๋ยวสายืนรอ"
"ไม่ได้สิ มาด้วยกันก็ต้องถ่ายด้วยกัน อย่าดื้อ"
ศิวาเอ็ดเสียงเบาก่อนจะพาร่างเล็กที่ควงแขนเขาอยู่ไปที่ backdrop เสียงนักข่าวและแขกที่มาร่วมงานที่เห็นศิวาควงนริสาต่างส่งเสียงฮือฮากันยกใหญ่พร้อมกับเสียงแฟลชที่รัวสนั่น หญิงสาวยิ้มแบบไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร แต่ก็พยายามยิ้มให้ดูดีที่สุดเพราะไม่อยากให้รูปของศิวาถ่ายออกมาน่าเกลียดไปด้วย
เธอเหลือบไปดูหน้าชายหนุ่มตอนถ่ายรูป คนอะไร แค่ทำหน้านิ่ง ๆ มองกล้องรอบ ๆ ไม่ต้องยิ้ม ไม่ต้องเก็กก็หล่อแล้ว
"มองอะไรพี่ล่ะ มองกล้องสิ"
ศิวาพูดโดยไม่ได้หันมามองเธอ นริสาสะดุ้งนิดหนึ่งที่เขารู้ว่าเธอแอบมอง หญิงสาวยิ่งทำหน้าไม่ถูกว่าจะต้องทำหน้าอย่างไรดี
"ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมากครับ"
ศิวายกมือขอบคุณสื่อมวลชนที่มาถ่ายรูป ก่อนที่จะมีทีมงานรีบมาพาเขาและเธอเข้าไปในงาน เมื่อเข้ามาแล้วก็ยังไม่พ้นสายตาจับจ้องจากผู้ร่วมงานทั้งหลาย นริสาแอบเห็นคนทั้งมองทั้งซุบซิบกันอย่างออกรส
'คุณศิวามากับใครน่ะ'
'สาวคนใหม่เหรอ'
'ทำไมไม่เห็นสวยเลย'
'ไปขุดมาจากไหนเนี่ย'
'ฉันว่าก็น่ารักดีนะ'
'นางจะมาจับคุณศิวารึเปล่าน่ะ'
'ไม่นะ คุณศิวาของช้านน'
ได้ยินเสียงซุบซิบแล้วหญิงสาวก็หน้าเสีย
ขนาดยังไม่แต่งยังนินทาเธอกันขนาดนี้ ถ้าแต่งไปแล้วจะขนาดไหน
คงพูดกันไม่หยุดปากว่าเธอไม่เหมาะสมกับศิวาแน่ ๆ
ร่างสูงพาเธอเดินมาที่ข้างเวทก่อนที่ทีมงานจะบรีฟเขาคร่าว ๆ เพราะในฐานะรองประธานบริษัทศิวาจะต้องขึ้นไปกล่าวต้อนรับและแนะนำโครงการใหม่นี้ทั้งหมดสามภาษา ไทย อังกฤษ และเกาหลี แต่นริสาไม่ได้สนใจฟัง คำพูดซุบซิบเมื่อครู่ยังทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่
"โอเครึเปล่า?"
ศิวาถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเธอนิ่งไป หญิงสาวสะดุ้งก่อนจะยิ้มให้เขาบาง ๆ
"อ - - โอเคค่ะ"
"เดี๋ยวอีกห้านาทีพี่จะต้องขึ้นไปบนเวทีแล้ว ริสารอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพอพี่ลงมาแล้วจะพาไปหาอะไรทาน"
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่ศิวาไม่ต้องกังวล สาเดินหาอะไรทานเองก็ได้นะคะ"
"บอกแล้วไงว่าห้ามไปไหนเอง รอพี่อยู่ตรงนี้แหละ เอ่อ...คุณแพทครับ" ศิวาเรียกทีมงานคนหนึ่ง "ผมฝากดูแลคุณริสาระหว่างที่ผมขึ้นไปบนเวทีด้วยนะครับ"
"ได้เลยค่ะคุณศิวา"
ทีมงานชื่อแพทรับคำ ก่อนจะเอามือจับหูฟังที่ใส่อยู่ "คุณศิวาคะ
ถึงคิวแล้วค่ะ"
ศิวาพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที
เสียงปรบมือต้อนรับดังไปทั่ว ก่อนที่ทีมงานสาวจะพานริสามานั่งที่โซฟาใกล้ๆเวที
ดวงตาสวยมองชายหนุ่มที่ขึ้นไปกล่าวบนเวที บุคลิกของเขาดูดีมาก สมกับการเป็นนักธุรกิจและผู้บริหารบริษัทใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ ทั้งหล่อ ทั้งดูดี มีความน่าเชื่อถือ เธอไม่มีอะไรเหมาะกับเขาเลยจริง ๆ ขนาดทำงานแล้วยังดูเป็นเด็กกะโปโลอยู่เลย ไม่ได้สวย ไม่มีอะไรเหมาะกับศิวาสักอย่าง
หรือจะให้เขาไปหาคนเหมาะสมกว่าแต่งงานด้วยดีนะ...
"เดี๋ยวเชิญคุณคิเรย์นั่งรอตรงนี้เลยนะคะ"
เสียงทีมงานดังขึ้นก่อนที่จะมีร่างของชายหนุ่มนั่งลงข้าง
ๆ เธอ นริสาหันไปมองอย่างตกใจกับชื่อที่ได้ยิน
เขาคือคิเรย์ แฟนของเธอจริง ๆ
"พ - - พี่คิเรย์..!"
หญิงสาวเรียกชื่อเขาอย่างตกใจ คิเรย์หันมามองเธออย่างตกใจไม่แพ้กัน
"ริสา?! มาได้ยังไงเนี่ย?"
คิเรย์ถามน้ำเสียงประหลาดใจปนดีใจ ดีใจที่ได้เจอแฟนตัวเอง อีกใจก็งง ๆ เพราะไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่
วันนี้คิเรย์แต่งตัวใส่สูทดูดีเต็มยศเช่นกัน สูทกำมะหยี่สีกรมท่าเหมาะกับเขามาก ตั้งแต่คบกันมาริสาไม่เคยเห็นเขาใส่สูทดูดีแบบนี้มาก่อนเลย
"สา - - เอ่อ...มากับ - - เพื่อนน่ะค่ะ" ริสาตอบอึกอัก "ละ - - แล้วพี่เรย์มาร้องเพลงเหรอคะ?"
"ใช่ค่ะ พี่มาร้องเพลง ยุ่งมากเลยไม่ได้โทรบอกเลย ขอโทษนะ"
คิเรย์บอก หญิงสาวยิ้มให้เขาบางๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ แล้ว...พี่เรย์ทานอะไรหรือยังคะ?"
"ทานแล้วค่ะ สาทานรึยัง? เดี๋ยวพี่ร้องเพลงเสร็จแล้วเราไปกินข้าวกันนะ เดี๋ยวพี่พาไป มีร้านอร่อยอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนี้มาก เพื่อนพี่แนะนำมา นี่สักครึ่งชั่วโมงก็ร้องเสร็จแล้วล่ะ"
ชายหนุ่มชวนทำเอานริสาตอบไม่ถูก อย่างแรกเลยคือเธอไม่คิดว่าจะเจอคิเรย์ที่นี่ อีกอย่างคือเธอจะบอกเขายังไงว่าเธอไปกับเขาไม่ได้ เธอต้องอยู่ที่นี่และกลับพร้อมศิวา
"วันหลังได้มั้ยคะพี่เรย์ สาเกรงใจเพื่อนน่ะค่ะ ไม่อยากทิ้งนางกลับคนเดียว"
"เพื่อนคนไหนคะ? ชวนไปด้วยกันไหม มีเพื่อนคนไหนของสาที่พี่ไม่รู้จักอีกเหรอ"
"เพื่อน...ที่ดูไบน่ะค่ะ เพื่อนแอร์ฯด้วยกัน คนนี้พี่เรย์ไม่น่าจะรู้จัก ไม่ได้สนิทกันมากน่ะค่ะ"
"ก็ไปด้วยกันได้นะคะ พี่ไม่ซีเรียส"
"อย่าเลยค่ะ ไม่ได้สนิทมาก เดี๋ยวนางเอาไปเม้าท์ล่ะแย่เลย เป็นข่าวไม่ดีหรอกค่ะ"
"ถ้างั้นสาก็ไปกับพี่ไม่ได้จริง ๆ เหรอ?"
คิเรย์ถามเสียงอ่อน อยากพาแฟนไปกินข้าวเพราะหาเวลาเจอกันยากมาก เธอกลับมาไทยรอบนี้ก็แทบจะไม่ค่อยได้เจอเขา พอได้เจอกันก็อยากจะใช้เวลาให้ได้มากที่สุด
"สาอยากไปนะคะ แต่สาทิ้งเพื่อนไม่ได้จริง ๆ ไว้วันหลังนะคะพี่เรย์ มีว่างวันไหนอีกไหมคะ เดี๋ยวสาไปหาที่คอนโดก็ได้ ไปทำกับข้าวให้กินไงคะ"
นริสายิ้มอ้อนพลางเข้ามากอดแขน คิเรย์ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า
"งั้นเดี๋ยวพี่โทรบอกแล้วกัน ถ้าไม่ว่างอีกนะ โกรธจริง ๆ ด้วย"
คิเรย์ทำเสียงแข็งแล้วหันหน้าหนี ร่างเล็กกระเถิบเข้ามาใกล้ก่อนจะกอดเขาไว้แน่น
"สาคิดถึงพี่เรย์ อยากอยู่กับพี่เรย์นะคะ แต่วันนี้สาไปไม่ได้จริง ๆ ไว้วันหลังนะคะ สาอยากไปจะตายพี่เรย์ก็รู้..."
นริสาพูดเสียงเศร้า คิเรย์ถอนหายใจก่อนจะหันมาหาเธอ ชายหนุ่มหอมแก้มแฟนสาวไปฟอดใหญ่
"วันนี้สวยนะ"
คิเรย์ชม นริสายิ้มกว้างก่อนจะชมเขากลับ
"วันนี้แฟนสาก็หล่อที่สุดเลยค่ะ"
"อะแฮ่ม"
เสียงกระแอมดังขึ้น ทำเอานริสากับคิเรย์สะดุ้งออกจากกันโดยอัตโนมัติ ศิวายืนอยู่ตรงหน้า มองทั้งคู่ด้วยสายตาเรียบ ๆ ที่อ่านไม่ออก
"ต่อไปคิวคุณคิเรย์ขึ้นเวทีแล้วนะคะ อ้อ ลืมแนะนำไป คุณคิเรย์คะ นี่คุณศิวา รองประธานบริษัทชเวกรุ๊ปค่ะ"
ทีมงานคนเดิมแนะนำ คิเรย์ยิ้มให้ศิวา
"สวัสดีครับคุณศิวา ขอบคุณที่ให้เกียรติผมได้มาร้องเพลงที่งานนะครับ งานจัดดีมากเลยครับ"
"ขอบคุณเช่นกันที่มาร่วมงานของเรานะครับ หวังว่าคราวหน้าจะได้มีโอกาสร่วมงานกันอีก"
"ยินดีมาก ๆ ครับ"
คิเรย์ยิ้มกว้าง ก่อนจะหันมาบอกร่างเล็กด้านข้าง "พี่ขึ้นไปก่อนนะคะ"
นริสาพยักหน้าพลางยิ้มเจื่อน ๆ ให้คิเรย์ ก่อนจะมองมาที่ศิวาที่กำลังมองเธออยู่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง
"เอ่อ...คือ - -"
นริสาอึกอัก ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ทำไมเธอต้องพูดไม่ถูกเหมือนทำความผิดอะไรมาอย่างนั้น เธอเป็นแฟนกับคิเรย์ และเธอยังไม่ได้เป็นอะไรกับศิวา ทำไมถึงต้องกลัวเขาโกรธด้วย...
...และทำไมเขาถึงทำเหมือนโกรธด้วยล่ะ
"แฟนสินะ?"
ศิวาพูดขึ้นมาเรียบ ๆ ริสากลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
"ค - - ค่ะ"
หญิงสาวรับ ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร แต่ที่รู้ ๆ ตอนนี้เธอเหมือนเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกผู้ใหญ่จับได้ เหมือนเพิ่งจู๋จี๋กับกิ๊กแล้วแฟนมาจับได้เสียอย่างนั้น
แต่ประเด็นคือเธอเป็นแฟนคิเรย์ จะต้องกลัวศิวาทำไมเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
"พี่รู้นะว่าข้อตกลงที่เราเคยมีกันไว้คือสามารถใช้ชีวิตตัวเองได้เต็มที่ พี่ไม่ได้บังคับให้ริสาเลิกกับแฟน แต่วันนี้ริสามากับพี่ ก็น่าจะให้เกียรติพี่ด้วย นักข่าวก็เห็นว่าเรามาด้วยกัน ถ้าพวกเขามาเห็นว่าริสากอดกับนายคิเรย์นั่น มันก็คงจะไม่ดีทั้งกับตัวริสาแล้วก็แฟนริสาด้วย"
ศิวาพูดเสียงแข็ง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงนิ่งแข็งได้ขนาดนี้ โกรธหรือ...ไม่น่าใช่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกรธ หึงหรือ...ยิ่งไม่ใช่ไปใหญ่ เขาจะไปหึงเธอทำไมกัน
อาจจะแค่รู้สึกเหมือนนริสาไม่ไว้หน้ากันแค่นั้นแหละ...
...มันก็แค่นั้น
"ขอโทษค่ะ..."
นริสาบอก เธอลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิท เธอไม่อยากให้คิเรย์มีข่าวอะไรไม่ดี ตอนนี้เขากำลังรุ่ง ไม่อยากให้ข่าวบ้า ๆ มามีผลอะไรกับการงานของเขา
"ไม่ต้องขอโทษหรอก แค่ระวังไว้หน่อยก็แล้วกัน"
ศิวาเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นริสาหน้าจ๋อยไปเสียสนิท เขาพูดแรงไปหรือเปล่า...
"เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรทานดีกว่า"
ศิวาเปลี่ยนเรื่องแต่อีกฝ่ายยังคงนิ่งอยู่ เธอรู้สึกเสียใจที่โดนดุ
"ถ้าพี่พูดแรงไปก็ขอโทษด้วยแล้วกัน"
ชายหนุ่มบอก นริสาส่ายหน้า
"ไม่หรอกค่ะ พี่ศิวาพูดถูกแล้วนั่นแหละ สาคิดน้อยไปเอง จะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ"
นริสาเสียงเศร้า ศิวาเห็นก็ใจไม่ดี เขาไม่อยากให้ทุกอย่างกร่อยแล้วสุดท้ายเธออาจจะตัดสินใจไม่อยากแต่งงานกับเขาก็ได้
"เอาล่ะ ช่างมันเถอะ พี่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้ดุด้วย โอเคไหม?" ศิวาก้มหน้าลงบอก "เลิกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้แล้ว ยิ้มก่อนเร็ว"
ศิวาแกล้งทำเสียงดุใส่ แต่คนตัวเล็กยังคงหน้าจ๋อยอยู่
"ยิ้มสิ ริสายิ้มสวยออก พี่ชอบนะ"
คนพี่ชม ทำเอาหญิงสาวตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาจนปลายจมูกชนกับปลายจมูกของศิวาที่ก้มลงมาพูดกับเธอ ทั้งคู่ชะงักนิ่งที่ใบหน้าอยู่ใกล้กันขนาดนี้
...ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
นริสาถอยออกอย่างตกใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ยิ่งทำให้เธอทำหน้าทำตัวไม่ถูก ไม่คิดว่าจะได้อยู่ใกล้กับศิวาขนาดนั้น
ศิวาเองก็ตกใจเหมือนกัน แต่เขาก็ต้องรีบปรับอารมณ์
"ไปหาอะไรทานกันเถอะ พี่ชักจะหิวแล้ว"
ศิวาเปลี่ยนเรื่อง นริสาพยักหน้าอย่างประหม่าก่อนที่เขาจะโอบเอวเธอเพื่อพาไปหาอะไรทานในงาน
คิเรย์ร้องเพลงและเอ็นเตอร์เทนคนดูอยู่บนเวทีตามหน้าที่ แต่ก็ต้องแอบชะงักไปนิดเมื่อเห็นนริสายืนทานอาหารอยู่ที่โต๊ะค็อกเทลกับศิวา มียิ้มและหัวเราะกันเหมือนคุยกันถูกคอ แถมศิวายังโอบเอวเธอขณะที่เดินเลือกตักอาหารมาทานกัน
มันคืออะไรกัน...
