ตอนที่ 6 ระดับความสำคัญ
“คุณเดียร์ ท่านประธานไม่อนุมัติเหรอคะ” เลขาส่วนตัวเดินเข้าห้องตามหลังเจ้านายมาติด ๆ ดูจากสีหน้าแล้วคงเดาได้ไม่ยาก
ทว่า…เดียร์น่าไม่ได้หัวเสียแค่เรื่องเดียว แต่เธอยังรู้สึกไม่ถูกชะตากับนางเอกรุ่นน้องของค่ายนั่นด้วยต่างหาก
เวลาต่อหน้าเธอทำไมถึงได้แสดงกิริยาแบบนั้น
ทั้งที่เวลาต่อหน้าเพื่อนเธอและต่อหน้าพ่อเธอ…ยัยนั่นไม่เคยเมินหน้าใส่ กลับน่ารักหน้าเอ็นดู
“ยูโรล่ะคะ”
เดียร์น่ามืออาชีพมากพอจึงสลัดความคิดก่อนหน้านี้ทิ้งแล้วถามเลขาส่วนตัวอย่างเปลี่ยนเรื่อง
“พี่ให้ไปรอห้อง J1 ค่ะ”
“งั้นเราไปหาน้องกันค่ะ”
“แล้วเรื่องโปรเจกต์โอเคแล้วเหรอคะ”
“ไม่ผ่าน…”
“อ้าว~ ทำไมท่านประธานทำแบบนั่นล่ะคะ”
“คุณพ่อไม่อนุมัติก็ไม่เป็นไร เดียร์ลงทุนเองก็ได้” เธอไม่ได้ใช้อารมณ์ แต่คิดทบทวนดีแล้ว ลงทุนกับยูโรยังไงไม่ให้ขาดทุน
“พี่ว่าค่อย ๆ คิดดีกว่าไหมคะ”
“เราไปหาน้องกันเถอะพี่เอม” เดียร์น่าก้าวออกจากห้องนำไปทันที ทำให้เลขาสาวรุ่นพี่ต้องเดินตามออกไปด้วยอย่างห้ามไม่ได้
…
ห้อง J1
ใบหน้าสวยเฉี่ยวเปิดเข้ามาในห้องซ่อมที่มีหนุ่มไอดอลรออยู่ก่อนแล้ว โดยที่ไม่มีพี่เลี้ยง มีแค่เขาเพียงคนเดียว
“สวัสดีครับ คุณเดียร์น่า” ยูโรลุกขึ้นยืนแล้วเป็นฝ่ายทักทายก่อน
“อ่านรายละเอียดแล้วใช่ไหม”
เพราะก่อนหน้านี้เธอให้เลขาพายูโรมารอที่ห้องนี้และให้เอกสารสัญญาต่าง ๆ ให้อ่านพราง ๆ ก่อนที่จะคุยรายละเอียดยิบย่อยกัน
“ครับ”
“อยากจะถามอะไรไหม”
“ผมไม่อยากมีผู้จัดการส่วนตัว”
“…!?” เดียร์น่าขมวดคิ้วงุนงง มีที่ไหนกันดารานักแสดงไม่มีผู้จัดการ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เธอจะไม่ให้พลาดเป็นอันขาด
คนก่อนหน้านี้ขนาดมีผู้จัดการสองคนยังมีข่าวมัวสุ่มจนพลอยให้ค่ายพังไม่เป็นท่า มาคราวนี้อย่าหวังว่าเธอจะใจอ่อน
“ตัดข้อนี้ออกไปได้ไหม ส่วนเรื่องอื่นผมโอเค” ไอดอลหนุ่มหย่อนตัวลงไปนั่งเหมือนเดิม ทำตัวตามสบายอย่างกับว่าคุ้นชินกับลูกสาวเจ้าของค่ายมานาน ทั้งที่ความจริงเป็นการเจอกันครั้งแรกแบบตัวต่อตัว
“ไม่ได้ ยังไงก็ต้องมี” เดียร์น่าไม่อยากยืนเหมือนกำลังขึ้นเสียงใส่เด็กตัวเอง จึงลงไปนั่งตรงกันข้าม
“ผมตรงต่อเวลา…” ยูโรพูดไม่ทันจบ
“ฉันห่วงเรื่องอื่นมากกว่า”
“คุณเดียร์น่าหมายถึงเรื่อง!?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นคำถาม
“ฉันพอจะรู้วีรกรรมของคุณมาบ้าง” ถึงจะอายุน้อยกว่า แต่การทำธุรกิจเธอก็ต้องให้เกียรติ จึงต้องแทนสรรพนามอย่างเป็นทางการ
“อ้อ เรื่องผู้หญิง” ยูโรดีดนิ้วแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยักคิ้วโปรยเสน่ห์ “…ต้องเรียกผมคุณหรอก ทางการเกินไป ผมอยากเป็นกันเองมากกว่า”
เดียร์น่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ “แล้วทีหลังอย่าเข้ามาในบริษัทโดยที่ฉันยังไม่ส่งคนไปรับ”
“ยุ่งยากชะมัด!”
“ฉันมีกฎไม่กี่ข้อหรอก ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่ช่วงนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องที่นายจะเซ็นสัญญากับทางค่าย อุตส่าห์ติดต่อผ่านโซเชี่ยลเพื่อเป็นความลับกันตั้งนาน แต่นายดันมาเปิดตัวที่บริษัทจนพนักงานเห็นจนได้”
“ระดับคุณเดียร์น่า ผมรู้ว่าปิดข่าวได้อยู่แล้ว”
“อืม แต่อย่าให้ฉันจะคอยตามปิดให้บ่อย ๆ แล้วกัน” เดียร์น่าส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจกับอาชีพตัวเอง
เพราะก่อนที่เธอจะเข้าไปพบประธานบริษัทเพื่อของบประมาณ เดียร์น่าได้สั่งให้ให้เลขาไปลบภาพกล้องวงจรปิด สั่งพนักงานที่เข้าลิฟต์พร้อมกันทั้งหมดปิดปากเงียบไม่ให้ข่าวรั่วไหล แต่ไม่รู้ว่าจะปิดได้นานแค่ไหน
คงต้องเตรียมตัวปล่อยคลิปซ้อม ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
“ผู้จัดการนี่ ผมขอเลือกเองได้ไหม”
“ได้”
ทันทีที่เดียร์น่าตอบกลับ ยูโรก็ส่งยิ้มกริ่ม
ทว่า…เพียงไม่ถึงสองวินาทีก็โดนดับฝัน
“ฉันมีช้อยให้เลือก แค่สามคนนี้ เลือกเอา” เดียร์น่าส่งไอแพดให้เลื่อนสไลด์โฉมหน้าผู้จัดการที่เป็นสาวสองหนึ่งคนและอีกสองคนก็เป็นหญิงสาววัยสามสิบอัป
“โอ้ว ใจร้ายวะ” ยูโรส่ายหน้าอย่างหมดอารมณ์ ทำใจเลือก ๆ ไปอย่างนั้น
“เตรียมตัวย้ายมาอยู่คอนโดที่ฉันเตรียมเอาไว้ด้วย ตกลงตามนี้นะ”
เมื่อเดียร์น่าเสร็จธุระกับเด็กเทรนคนใหม่ เธอก็มุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานตัวเอง ส่วนยูโรก็ออกจากที่นี่โดยมีเลขาเดียร์น่าเป็นคนไปส่งพร้อมกับปิดหน้าปิดตาส่งออกทางประตูหลังแล้วมีลูกทีมของเดียร์น่าไปส่งที่คอนโดตามแผนที่ตกลงกันไว้
รถหรูเลี้ยวเข้ามาในผับย่านดังที่กำลังเป็นที่นิยมของกลุ่มวัยเรียน มีทั้งโซนลูกค้าทั่วไปและวีไอพี เดียร์น่านั่งตัดสินใจในรถหลายนาทีเพราะเสื้อตัวนี้เลยทำให้เธอมาที่นี่อีกครั้ง…หลังจากตัดสินใจจบความสัมพันธ์แบบคู่นอนและตั้งใจไม่กลับมาที่นี่อีก ถ้าความรู้สึกยังไม่กลับมาเหมือนเดิม
ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูรถจากลูกน้องในผับ ทำให้เดียร์น่าต้องเปิดประตูลงไปพร้อมถุงเสื้อ
“เสี่ยพีทรออยู่ชั้นสองครับ”
“อืม” เธอพยักหน้าเข้าใจ
“ขอกุญแจรถด้วยครับ” ลูกน้องในร้านเอ่ยต่อ
“ไม่เป็นไร จอดไว้นี่แหละ” เพราะเดียร์น่าแค่เอาเสื้อมาคืนไม่ได้คิดจะอยู่นาน จากนั้นร่างบางจึงไปชั้นเป้าหมายอย่างไม่รีรออีก
ทว่า…เหมือนบางอย่างกำลังช่วยให้เดียร์น่าไม่ต้องอยู่ที่นี่นาน ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าไปในห้อง จู่ ๆ ก็มีเสียงอ่อนหวานเอ่ยทักมาแต่ไกล
“คุณเดียร์น่า”
“…” เดียร์น่าไล่สายตามองร่างแบบบางที่เจอกันก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ต่างกัน ขนาดเจอกันแบบชนหน้า นางเอกซีรีส์ชื่อดังยังเชิดใส่ แต่นี่เธอไม่ได้เห็นก่อน ทว่ากลับเข้ามาทักทาย
“มาหาพี่พีทเหรอคะ”
“อืม”
“โบว์ลิ่งกำลังจะเข้าไปพอดีเลย เชิญคุณเดียร์น่าเข้าไปก่อนก็ได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไร เข้าไปพร้อมกันนี่แหละ” มือบางเอื้อมไปเปิดประตูแล้วแทรกตัวเข้าไปก่อน ทำให้ร่างสูงที่กำลังนั่งรอเหลียวหน้าไปมองอย่างไว แต่แล้วไม่ได้มีแค่เพื่อนรักของเขาคนเดียว ยังมีหญิงสาวอีกคนที่เขายังไม่ได้ไปง้อคืนดีกัน
“วางไว้ตรงนี้นะ” ใบหน้าสวยเฉี่ยวเอ่ยอย่างราบเรียบ วางถุงเสื้อก็หมุนตัวเดินออก
“คุณเดียร์น่าจะกลับแล้วเหรอคะ” โบว์ลิ่งที่เข้าตามหลังมาติด ๆ ก็ถามขึ้นมา “โบว์ลิ่งอยากคุยเรื่องซีรีส์กับคุณเดียร์น่า สะดวกคุยไหมคะ”
“คุยทำไม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“…” ร่างสูงมองหญิงสาวทั้งสองสลับกัน
คนหนึ่งอ่อนหวาน ดูนุ่มนิ่ม สมกับเป็นนางเอก ส่วนอีกคนคำพูดคำจาดูวางตัวสมกับเป็นลูกคนรวย
“เอ่อ..โบว์ลิ่งขอโทษค่ะ โบว์ลิ่งเห็นว่าพระเอกเป็นเด็กใหม่ที่คุณเดียร์น่ารับมา ก็เลยอยากจะนัดปรึกษากันก่อน”
“เป็นนักแสดงมาตั้งนาน จำไม่ได้เหรอ เวลานัดคุยเรื่องบท ทางทีมงานจะติดต่อวางคิวผ่านผู้จัดการ ไม่ใช่มายืนขอคิวเวลานอกอย่างนี้”
“…” คนที่เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ลุกขึ้นเดินไปอยู่ระหว่างกลางเพราะตอนนี้นางเอกซีรีส์ชื่อดังมีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อโดนลูกเจ้าของค่ายหนังเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรแถมยังติดตำหนิ
“จะขึ้นเสียงทำไมวะ น้องเขาก็แค่คุยดี ๆ” พีรภัทรหันไปพูดเตือนเดียร์น่า
“ปกติฉันก็พูดแบบนี้” เดียร์น่าชักสีหน้าไม่พอใจทันทีที่พีรภัทรออกโรงปกป้อง
แต่อย่างว่า…คนที่กำลังเลื่อนสถานะจากคนคุยมาเป็นแฟนกับคนที่เป็นเพื่อนแต่ดันพลาดมีความสัมพันธ์ลับ ระดับความสำคัญมันต่างกัน
“อ้อ! อีกอย่างไม่รู้ใครบอกเธอว่าเด็กฉันจะเล่นซีรีส์คู่กับเธอ แต่เธอคงฟังมาผิดเพราะฉันไม่อนุมัติ!” พูดจบเดียร์น่าก็เดินเชิดออกไป
หมับ!
ทว่า…มือหนาก็เอื้อมมาจับไว้ซะก่อน
“อย่าเพิ่งกลับ ฉันคุยกับโบว์ลิ่งก่อน เสร็จแล้วจะมาคุยกับเธอต่อ” ร่างสูงปล่อยมือแล้วเลื่อนไปกุมมือเล็กอีกคนแทนเพื่อเดินจูงมือออกจากห้องไปในพื้นที่ส่วนตัว
เดียร์น่ายืนนิ่งด้วยความรู้สึกบางอย่างในจังหวะที่พีรภัทรกุมมืออีกคนเดินผ่านหน้า
เขาให้เธอเป็นฝ่ายรองั้นเหรอ
