บท
ตั้งค่า

ใบผัก | ซวยจัด รัสเซีย

ใครจะรู้ว่าหญิงสาวผู้มีหน้าตาสวย (แต่อาภัพ) จะวิ่งวุ่นหาถุงยางอนามัยไซส์ห้าสิบหกเป็นสิบ ๆ ร้านสะดวกซื้อ

ทำไมมันหายากหาเย็นแบบนี้นะ มันไม่ใช่ไซส์มาตรฐานชายไทยรึไง?

ฉันบ่นกระปอดกระแปดอยู่พักใหญ่ จนสุดท้าย... มาหยุดที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้ชาย และเขาก็กำลังยืนส่งยิ้มพิมพ์ใจถามไถ่อย่างสุภาพ

“รับอะไรดีครับ?” ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วลูบท้ายทอยเขิน ๆ

“อะ เอ่อ... มีถุงยางอนามัยไซส์ห้าสิบหกมั้ยคะ?”

“มีครับ รับแบบไหนดี มีปุ่มหรือผิวเรียบ” ให้ตายสิโว๊ย อิกัปตันไม่ได้บอกมาด้วย

“แบบไหนดีสุดคะ?”

“แล้วแต่ความชอบครับ”

“งั้นเอาแบบมีปุ่มก็ได้ค่ะ น่าจะรู้สึกดีกว่าเนอะ แหะ ๆ” ฉันยิ้มแห้ง ๆ แล้วหยิบเงินในกระเป๋าตังค์ตัวเองจ่าย ก่อนที่จะขอใบเสร็จกับเภสัชกรแล้วรีบออกมาจากร้านอย่างรวดเร็ว

แต่พอยกนาฬิกาข้อมือดูตอนนี้เวลาก็ปาไปสิบห้านาทีแล้ว ฉันยังไม่ถึงไหนเลยแถมรถยังติดมากด้วย เอาไงดีวะ ไม่ได้อยากประเคนทุกอย่างให้อิตานั่นหรอกนะ แต่ฉันต้องทำตามหน้าที่

เมื่อเวลามันจำกัดแค่สิบห้านาที สุดท้ายฉันก็ต้องตัดสินใจทิ้งรถแล้วนั่งพี่วินไปแทน

เอาวะ! อิใบผัก ทนเจ็บเข่าหน่อยแล้วกัน และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับแก แกก็เรียกค่ารักษาพยาบาลมันให้ยับไปเลย

LUXURY CONDOMINIUMS

‘ติ๊ด’

ทันทีที่ขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นบนสุด ฉันก็หาเบอร์ห้องที่ตรงกับบัตรแล้วแตะคีย์การ์ดเปิดเข้าไปทันที จนตอนนี้เจอกับลมแอร์ฉ่ำ ๆ ประทะใบหน้า และจากนั้นรีบถอดรองเท้าทรุดนั่งกับพื้นอย่างสุขอุรา สบายใจ

เฮ้อ... ทัน รีบจนหอยไหม้ หวังว่าอิตานั่นจะไม่หาเรื่องฉันเป็นหมา

บ้าอีกนะ

“หึ หอบเป็นหมาเลยนะ”

นั่นไง! ฉันเงยขึ้นมองเจ้าของเสียงทุ้มที่เดินมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียว บอกเลยฉันพยายามสุด ๆ ที่จะไม่มองเบื้องล่าง แต่... มันก็ตุงโดดเด่นเป็นลำชะมัด

“พะ เพราะใครล่ะ?”

“พูดให้มีหางเสียง ให้รู้ซะบ้าง... ว่าใครเจ้านาย ใครทาส”

คราวนี้ฉันถลึงตามองขึ้นไปด้วยความรำคาญ ก่อนจะลุกขึ้นปาดเหงื่อที่ขมับออกอย่างหงุดหงิด เออ! รอให้ฉันเป็นไทยก่อนเถอะ!

“มองอะไร? ไปจัดกระเป๋า รายละเอียดแม่บ้านคนเก่าเขียนไว้หมดแล้ว แล้วถุงยางฉันล่ะ? ถ้าเธอลืมซื้อนะ ฉันจะจับเธอโยนลงจากตึก”

‘ฟึบ’ ฉันโยนถุงสีขาวขุ่นไปที่โต๊ะทันที จนกัปตันหนุ่มนิสัยเสียมองตามด้วยหางตา

“ไซส์ห้าสิบหก?”

ฉันพยักหน้า ก่อนจะเลี่ยงหลบตาเข้าไปในห้องที่คิดว่าเป็นห้องแต่งตัว

แต่มันไม่ใช่ พอเลื่อนเปิดประตูเข้าไปข้างในนั้นมันกลับมีอะไรชวนอึ้ง!

มันเป็นห้องสีดำทึบ ๆ มีเตียงสีขาว โซ่ แส้ กุญแจมือ รวมถึงเสาสแตนเลสคล้ายไม่กางเขนตระหง่านกลางห้อง แล้วเมื่อฉันยืนมองรอบ ๆ ขนลุกซู่ อยู่ ๆ แผ่นหลังก็ถูกผลัก ‘ปึก’ จนหัวคะมำเข้าไปข้างใน

“ว้าย!”

“เข้าไปดูสิ เผื่อว่ามันจะซึมใส่สมองเธอให้หายจืดชืดบ้าง”

คำก็จืดชืด สองคำก็จืดชืด เขาคิดว่าตัวเองเด็ดสาระตี่แค่ไหนกันวะ ขนาดด่าในใจน้ำไหลไฟแล่บ ภาพเราในคืนวันหิมะโปรยปรายก็ดีดขึ้นฉายให้ฉันเห็น

อีกระลอก

ร่างสูงใหญ่กำยำกดหน้าฉันที่กระจกใสวิวกรุงโซล ก่อนจะรั้งเอวบางกระทั้นกระแทก จนฉันครางระงมพ่นลมหายใจเป็นดวงหมอก

หิมะข้างนอกตกหนักมันเทลงมาไม่หยุดยั้ง เหมือนเอ็นใหญ่ลำโตที่ฝังลึกจากด้านหลังที่ทรมานฉันตัวคลอน จนฉันเอี้ยวไปจับท่อนแขนกรีดร้อง และจากนั้นก็หันไปมองเขาราวจะขาดใจ

อยากวอนขอให้เขาลดราวาศอกให้ แต่ยิ่งมองเท่าไหร่ เขายิ่งโถมกระหน่ำใส่ฉันแรงขึ้น ๆ

“กัดปากทำไม?”

สติฉันกลับมา และภาพที่ย้อนอยู่ก็วูบกลับมาถึงปัจจุบัน จนเห็นว่ากัปตันโซลเขาเดินมาใกล้ ๆ ฉัน และตอนนี้เขาก็ถอดผ้าเช็ดตัวออกล่อนจ้อนแล้ว!

กรี๊ดไอ้นั่น มัน...

“นี่อิกัปตันบ้าใส่ผ้าเช็ดตัวเดี๋ยวนี้นะ และออกไปห่าง ๆ ฉันด้วย”

มือหนึ่งข้างชี้ มือหนึ่งข้างยกปิดตา แต่มือหนากลับจับมือฉันออก

“ทำไม? ดูซะสิ ครั้งนึงมันเคยเข้าไปอยู่ในปากเธอ เธอจำไม่ได้เหรอ?”

ฉันส่ายหน้ารัว ใครจะจำก็จำ แต่กูไม่จะ...

อึก! แกกลืนน้ำลายทำซากอะไรใบผัก!

“ไม่ต้องหิว ฉันไม่กินของเก่าแน่นอน หลบไป... ฉันจะอาบน้ำ” ว่าจบเขาก็ผลักไหล่ฉันให้หลบไปอีกทาง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูที่อยู่ในสุดเข้าไปในห้องน้ำ ด้วยสภาพเปลือยเปล่า

อายฉันเถอะขอร้อง ขนาดเจ้านายเก่าที่เป็นผู้หญิงด้วยกันยังไม่มีใครแก้ผ้าให้ฉันดูเลย นี่ผู้ชายทั้งแท่งนะ อุจาดตาที่สุด

แต่ระหว่างที่กัปตันโซลไปอาบน้ำ ฉันก็เดินไปที่ห้องเสื้อผ้าแล้วเริ่มลงมือเปิดกระเป๋าเดินทางที่เขาวางทิ้งไว้ ให้ตาย... ไม่แปลกใจทำไมน้องสาวถึงหา

บัตเลอร์ให้ ก็เพราะเสื้อผ้าและของใช้เมื่อไฟลท์ที่แล้วยังอยู่ในกระเป๋าเขาอยู่เลย รวมถึงกางเกงในเลขแปดด้วย!

ไม่คิดจะทำให้มันคืนสภาพหน่อยเหรอวะ

“ซกมกจริง ๆ”

ฉันบ่นอุบอิบแล้วหยิบเสื้อผ้าแยกใส่ตะกร้าทีละตัว ๆ รวมถึงกางเกงใน

ใบ้หวยของเขา ก่อนจะเปิดแพลนที่เตรียมไว้ข้างกระเป๋า ดูว่าเขาจะบินไปที่ไหนต่อ

รัสเซีย? ตอนนี้อากาศเป็นยังไงบ้างนะ

ฉันเช็คสภาพอากาศในมือถือแล้วเลือกชุดให้เขาสามชุด ก่อนจะเดินไปเปิดตู้วอล์คอินคลอเซ็ทหยิบเสื้อโค้ทตัวยาวสีน้ำตาลเข้มออกมาหนึ่งตัวเป็น

ของแถม

ตอนนี้รัสเซียอากาศเริ่มอุ่นแล้วประมาณสิบองศาต้น ๆ แค่เสื้อคอเต่าลองจอนและโค้ทน่าจะพอดีสำหรับคนร่างควายอย่างเขา

‘แกร๊ก’

“ชุดนี้โอเคมั้ย ว้าย! ทำไมคุณชอบเดินล่อนจ้อนจังห๊ะ? โรคจิต!”

ฉันหวีดร้องแล้วปิดตาทันที เมื่อหันไปเห็นเจ้าตัวดีของเขา

“มีปัญหาอะไร นี่ห้องฉัน”

เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบและมองฉันด้วยหางตา ก่อนจะเดินเปลือยเปล่าโทงเทงไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมรัว ๆ และสะบัดน้ำฟรึบ จนฉันหรี่ตาหลบ

แต่ให้ตาย... อิตาเจ้ากรรมเผลอมองตรงนั้นอีกแล้วค่ะ

มะเขือพวงใหญ่มันแกว่งไม่หยุดหย่อนเลย เฮ้อ... หวังว่าฉันจะไม่เป็นตากุ้งยิงนะ

“ฉันเก็บเสื้อผ้าให้คุณหมดแล้ว ขอตัว” ฉันรีบบอกแล้วใช้โอกาสนี้หนีออกไป แต่ขณะที่เดินผ่านคนร่างใหญ่มือเขาก็คว้าหมับ ที่แขนฉัน

“ห้ามไปไหน แต่งตัวให้ฉัน”

ว้อท? เป็นง่อยรึไงวะ

“อะไร? คิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายรัชทายาทรึไงฉันถึงต้องแต่งให้น่ะห๊ะ?”

ฉันแย้งกลับ จะมาใช้งานฉันเกินขอบเขตไม่ได้นะเว้ย เดี๋ยวแม่งตบ

คว่ำเลย

“แต่เธอเป็นขี้ข้าฉัน ขี้ข้า... ต้องทำทุกอย่าง”

เขาเน้นคำว่าขี้ข้าใส่หน้าฉันโคตรชัด จนฉันต้องลอบถอนหายใจเสียงดัง แล้วกัดฟันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนักบินออกมา

แต่มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะคะ กางเกงใน บ็อกเซอร์ ฉันก็เป็นคนใส่ให้

เขามีหน้าที่แค่ยกขา ยกแขนใส่เท่านั้น ซึ่งตอนที่ฉันนั่งย่อลงมันบรรลัยมาก เพราะหน้าฉันมันห่างจากมะเขือพวงนั้นแค่คืบเดียว!

ทนไว้ใบผัก สักวันมึงจะชิน... แล้วมองว่ามันเป็นไข่หมา!

“เรียบร้อย! ฉันได้กลับสักที”

“กลับไปไหน? เธออย่าโง่น่า... ฉันรำคาญ”

ฉันที่กำลังรูดเนคไทชะงักถลึงตาใส่คนเอ่ยประโยคนั้น อย่าบอกนะ ว่าฉันต้องบินไปรัสเซียด้วย เสื้อผ้า พาสสปอร์ต มันยังนอนเล่นกับนานะที่ห้องอยู่เลย!

“เธอลืมอะไรไปรึเปล่ายัยสมองกลวง เธอต้องติดตามฉัน ไปรับใช้ฉัน

ทุกที่”

ทุกที่ ทุกที่ ทุกที่...

นี่คือเสียงแอคโค่ที่ดังก้องในหูอีใบผักคนนี้ ก่อนที่ฉันปล่อยมือจากเนคไทแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าวประมวลผลเวลาและความน่าจะเป็น รู้ว่าต้องติดตาม แต่ไปตั้งแต่วันนี้เลยเหรอวะอิหอกหัก! แล้วทำไมไม่บอกกูก๊อน...

“หึหึ”

เสียงหัวเราะในลำคอที่ดังทุ้มมันแสนเย้ยหยัน และจากนั้นก็ไม่มีอะไรเอื้อนเอ่ยออกมาอีก นอกจากมือใหญ่ที่รูดเนคไทขึ้นสุด แล้วริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

“ทำไมคุณไม่บอกก่อนฉันออกมา”

“ลืม”

หา? แค่นี้เองเหรอ? เมื่อฉันยืนทำอะไรไม่ถูกเจ้านายหนุ่มก็เดินไปหยิบนาฬิกาข้อมือขึ้นมา

“เอาหล่ะ เธอมีเวลา หนึ่ง สองสาม สี่ อีกสี่สิบนาทีฉันจะไปประชุมแผนการบิน กลับมาให้ทันแล้วขับรถให้ฉัน”

ไอ้ ไอ้... โอ๊ย กูจะด่ามันยังไงดีวะ ทำไมนิสัยเสียแบบนี้ เคยเห็นอกเห็นใจฉันบ้างมั้ย ระยะทางมันไม่ใช่ใกล้ ๆ ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว

“ไฟลท์หน้าไม่ได้รึไง ฉันเพิ่งทำงานวันแรกเองนะ”

“ได้ แต่ฉันคงต้องบอกให้น้องสาวฉันเขียนคอมเมนต์”

“เออ! ไปก็ไปโว้ย!”

สุดท้ายฉันก็กะพัดกระพือยอมเขาแล้ววิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว นาทีนี้ทั้งวิ่งทั้งพี่วิน แถมฉันยังโทรไปขอให้นานะมันเตรียมกระเป๋าให้แต่เนิ่น ๆ

ไปถึงฉันจะได้รีบคว้าแล้วเรียกรถแท็กซี่กลับมาทัน

อีกัปตันชั่ว ฝากไว้ก่อนเถอะ เผลอเมื่อไหร่ฉันเอาคืนแน่!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel