บท
ตั้งค่า

CHAPTER 2

ค่ำคืนที่มืดสนิทของสองยามในวันใหม่ได้เริ่มขึ้นพร้อมกับแสงสลัวจากจันทร์เต็มดวงในช่วงใกล้ลอยกระทงประจำปี ร่างเล็กของผู้ดีกลางบ้านเดินทอดน่องไปตามถนนเส้นเล็กที่ตนก็พอรู้มาบ้างว่ามันมีถนนเส้นนี้อยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงคนรับใช้ของศิวกรมาพบเจอเสียก่อนที่จะหนีออกไปจากที่นี่ได้สำเร็จ

“...” แม้ความหวาดกลัวจะมีอยู่เต็มใจของอินธาราเพียงใด แต่นั่นก็คือสิ่งที่เขาเลือกด้วยตัวเองแล้ว หากจะย้อนกลับเปลี่ยนใจเดินหวนคืนบ้านหลังใหญ่ในตอนนี้คงจะเกิดเรื่องใหญ่เป็นข่าวทั่วพระนครเป็นแน่

‘วันพุธเรือใหญ่จากพระนครจะขึ้นทวนน้ำไปขายสินค้าทางเหนือ คุณอินจะไปพร้อมกับเรือน่ากลัวนี่เพียงคนเดียวจริงหรือคะ?’

‘จ้ะ ขอบใจป้าพรนะจ๊ะ อินจะไม่ลืมบุญคุณของป้าพรเลย’

ความลำบากแรกคือเขตรั้วของบ้านตนไม่ได้อยู่ใกล้แม่น้ำที่มีเรือสินค้าพายขึ้นล่องอยู่ไม่ขาดสาย แต่หากเดินออกนอกเขตมาสักสองสามอึดใจคงได้ถึงแม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่ไกลออกมาพอควรและขึ้นเรือสินค้าของคนจีนได้ทันเวลา

แม้เรือสินค้ามากมายจะขึ้นเหนือล่องใต้อยู่ตลอดเวลา แต่ก็หาได้อยู่ในความสนใจของคุณหนูอินธาราเสียเมื่อใด การที่จะขึ้นไปกับเรือสินค้านี้ก็ใช่จะเป็นเรื่องง่ายกับคนที่ไม่เคยไปไหนเพียงผู้เดียวอย่างเขา แต่เพราะไม่มีทางเลือกให้แล้วมากกว่า หากเดินทางด้วยสัตว์หรือล้อเกวียนก็หาได้รู้ว่าจักกี่ชั่วยามจะถึงจุดหมายของตน

“ขอโทษจ้ะคุณน้า นี่ใช่ท่าน้ำรอขึ้นเรือสินค้าหรือไม่?”

“ใช่จ้ะ ว่าแต่พ่อหนุ่มเป็นใครหรือ ข้าล่ะคุ้นหน้าเสียจริง”

อินธาราไม่ใช่คนที่ออกไปไหนเกินกว่าความจำเป็น นอกจากออกงานกับคุณชวินทร์และคุณนายเขมมิกาอยู่บ้าง ก็มีเพียงโรงเรียนที่เพิ่งจบมัธยมกลางมาจวนจะเข้าเตรียมอุดมในกลางปีนี้ แต่ก็มีเหตุให้หนีออกจากบ้านมาเสียก่อน

คำว่าคุ้นหน้าค่าตาก็คงไม่แปลกอะไร ในเมื่ออินธาราก็เป็นบุคคลที่สำคัญของตระกูลศิวกรอยู่เหมือนกัน ผ้าคลุมโพกหัวที่พกพาดบ่าเล็กมาถูกรั้งขึ้นมาคลุมหน้าคลุมตาในที่สุด

“คุณน้าคงจำคนผิด”

นอกจากผ้าที่เพิ่งถกขึ้นคลุมหัวอำพรางใบหน้าแล้วยังคงมีเสียงของอินธาราที่ถูกดัดแปลงไปด้วยเฉกเช่นเดียวกัน แม้จะรู้ว่าคงไม่มีใครจำเสียงตนได้ แต่ก็ป้องกันไว้ก่อนเสียดีกว่า หากไม่กลัวว่าแผนจะแตกและถูกลากตัวกลับไป คงไม่กังวลมากเพียงนี้

“ไม่หรอก แต่ข้านึกยังไงก็นึกไม่ออก ไหนถกผ้าคลุมของเอ็งลงให้ข้าดูที เผื่อจะรู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร”

“...”

ความกังวลใจของอินธาราเพิ่มทวีกับคำพูดของคุณน้าที่ตนก็ไม่รู้จัก แต่หากเปิดผ้าออกตามคำคงได้โดนจับและรับโทษลูกไม่รักดีเป็นแน่ กลุ่มชาวบ้านที่มารอขึ้นเรือสินค้าเพื่อไปทางเหนือตามเส้นแม่น้ำต่างหันมาให้ความสนใจต่อสองคนที่พูดคุยกันเสียงดังดั่งกำลังมีเรื่อง

“เอ๊ะ ไอ้นี่ เอ็งคือโจรหรือ ถึงไม่เปิดหน้าให้ข้าดู?”

“ไม่ใช่จ้ะ”

“ไม่ใช่แล้วมีเหตุใดถึงไม่กล้าเปิดเล่าเอ็ง!?”

ชาวบ้านผู้นี้นอกจากจะคิดผิดที่เข้ามาถามแล้ว ยังพาให้จะพบเจอเรื่องไม่ดีจากสายตาของกลุ่มชาวบ้านที่มองมาเกือบทุกคู่สายตา อินธาราครุ่นคิดต่อเรื่องนี้ ตนควรหาทางออกอย่างไรดี

“ใครจะขึ้นเรือสินค้าก็ต่อแถวให้เรียบร้อย”

“โชคดีไปนะเอ็ง เดี๋ยวข้าจะขึ้นเรือไม่ทันเหมือนเมื่อวันก่อน”

“...”

หลังจากที่คนดูแลท่าตะโกนบอกเสียงแสบหู ชาวบ้านผู้นั้นก็เดินหนีออกไปเพื่อต่อแถวเรียงอันดับตามที่เจ้าของท่าเอ่ยบอก ทำเอาอินธาราโล่งใจไปด้วย คิดว่าจะต้องถูกขู่เข็ญให้เปิดผ้าออกเสียแล้ว

โล่งใจอยู่ได้ไม่นานเกินนาทีก็ต้องเดินไปต่อแถวก่อนที่จะอดขึ้นเรือรอบนี้แล้วจะต้องรอต่ออีกห้าชั่วโมงที่เรือสินค้าลำใหม่จะพายทวนน้ำมา ใช้เวลาอยู่ไม่นานกับปลายแถวที่อินยืนรอท่า ร่างเล็กของผู้ดีที่หนีออกจากบ้านก็กำลังจะได้ขึ้นเรือแล้วตามที่หวัง

“มองหน้าข้าทำไมหรือเอ็ง?”

“กะ...กี่บาทหรือจ๊ะ?”

แม้เจ้าของเรือจะเป็นคนจีนแต่คนที่คอยดูแลเก็บค่าขึ้นเรือก็ยังเป็นคนไทยที่เป็นทาสในการดูแล แถมยังตัวโตกว่าอินธาราอยู่มาก หน้าตาก็หาได้เป็นมิตร คำถามที่เปล่งไปเลยกระอึกกระอักดั่งที่ได้ยิน

“สองบาท”

“สักครู่นะจ๊ะ”

น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยตอบ ทำเอาอินธาราไปไม่เป็นมากกว่าเดิม ผ้าคลุมที่โพกมาก็ยังถูกจับเหมือนเดิมไม่ปล่อย สีหน้าเป็นกังวลชัดเจนใต้ผืนผ้าเริ่มคิดไม่ตกต่อค่าขึ้นเรือลำนี้ แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อตนไม่มีอย่างอื่นแล้วนอกจากแบงก์ร้อยที่หอบพกมา

“เอ็งวิปลาสหรือ?!” นอกจากจะไม่ยอมรับเงินแบงก์ร้อยที่หยิบยื่นให้แล้ว ยังถูกตะคอกใส่อย่างดังทำเอาผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นพาให้ตกใจไปกันหมด

“ฉันทำอะไรผิดงั้นหรือ?”

“ยังจะกล้าถามข้าอีกหรือ ค่าขึ้นเรือเพียงแค่สองบาทแต่เอ็งกลับยื่นแบงก์ร้อย ข้าไม่มีทอนหรอก”

พอรู้เหตุผลที่ตนโดนตะคอกใส่ก็ไม่รู้แล้วว่าจะทำเยื่องไรดี แต่อินธาราก็ต้องขึ้นเรือลำนี้ออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน เวลาใกล้รุ่งเต็มที หากช้าไปอาจจะไม่ทันการณ์ คนของศิวกรจะได้มาลากตัวกลับไปเป็นแน่

“พูดดี ๆ ไม่ได้หรือ? ฉันไม่รับเงินทอนก็ได้จ้ะ แต่ให้ฉันขึ้นเรือลำนี้เถอะหนา”

“เอ็งพูดจริงหรือ?”

เจ้าของสายตาที่ลอดออกมาเพียงเท่านั้นก็ไม่ได้มีทีเล่นหรือต้องการจะยั่วโมโหอะไรคู่สนทนาตน อินธาราไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันถูกต้องมากน้อยเพียงใด แต่ถึงพูดแบบนั้นออกไป คนคุมเก็บค่าขึ้นเรือในตอนนี้ก็ไม่คลางแคลงใจอะไรอินแล้ว

“รีบขึ้นไปแล้วเอาเงินมา ครั้งนี้ข้าจะเว้นให้แล้วกัน”

“ขอบใจจ้ะ”

แม้คำขอบคุณเมื่อครู่ควรจะเป็นคำของชายร่างโตตรงหน้า แต่อินธาราก็ไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากดีใจและตื่นเต้นอยู่พอสมควรกับการขึ้นเรือครั้งแรกเพียงคนเดียวของตน

ชาวบ้านที่ตามเรือสินค้าไปส่วนใหญ่คือต้องการนำสินค้าไปขาย มีเพียงไม่กี่ส่วนที่ต้องการเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่เรือลำนี้เข้าเทียบท่า จุดหมายปลายทางของอินธาราก็หาไม่ชัดเจน เขาคิดเพียงว่าคงจะนั่งไปก่อน อยากลงก็ลง

ความเหนื่อยล้าจากการเดินติดตามกันร่วมชั่วโมงจากบ้านถึงท่าน้ำที่เพิ่งขึ้นเรือมาบวกกับความนอนน้อยไม่ถึงสองชั่วโมงเพราะความตื่นเต้นทำเอาอินรู้สึกง่วงนอนตามหลังได้ไม่ยาก

กายเล็กนั่งอิงหลับยังบริเวณที่จัดไว้ให้สำหรับผู้โดยสารของเรือลำนี้ ไม่รู้ว่าอินธาราเผลอหลับไปกี่ชั่วยาม รู้ตัวอีกทีเสียงโหวกเหวกโวยวายก็ดังขึ้นแว่วอยู่ข้างหูจากคนกลุ่มหนึ่งพาให้ตื่นขึ้นมา

“พวกป้าดูยายด้วยหนา พลัดตกเรือไปจะหาว่าข้าไม่เตือน”

“ปากดีไปเถอะเอ็ง”

อินธาราพอจับใจความได้ว่าตอนนี้ลำเรือที่นั่งมาคงกำลังจอดเทียบท่าน้ำที่ไหนสักแห่งแล้ว คนที่เพิ่งได้สติรีบรั้งผ้าคลุมหัวมาพันรอบคอปกปิดหน้าตาตนอีกครั้ง นัยน์ตากลมสอดมองลอดผ่านประตูออกดูภายนอก

ตอนนี้แดดแก่เสียจริง อินธาราถูกเรือพามาถึงที่ใดแล้วกันแน่

“นั่งคิดอะไรอยู่หรือ?”

“...”

เป็นเสียงจับกังของเรือสินค้าลำนี้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลแถมยังเห็นท่าทีลุกลี้ลุกลนของอินเลยยิ่งอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาทักทายไถ่ถาม หากแต่ต้องการความช่วยเหลือก็ย่อมได้

“คงไม่เคยนั่งเรือใช่หรือไม่?”

“...ใช่จ้ะ”

อินพูดตอบไปตามความจริง แม้คนผู้นี้จะแปลกหน้าไม่น้อย แต่ก็ยังมีน้ำใจมาถามไถ่ยามที่อินธาราไม่เหลือใครให้พึ่งพา เขาไม่ได้เป็นบุคคลที่น่าไว้ใจ แต่ก็นับว่าเป็นบุคคลที่ยื่นมือเข้ามาหาไม่ว่าจะต้องการเรื่องใดอยู่

“จะลงที่ใดหรือน้อง พี่จะได้บอกกล่าวให้หากถึงท่าที่จะลง”

“...”

“หากไม่ลงจะร่วมเดินทางไปกับพี่ก็ได้หนา”

เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้เข้าหาในทางที่ดีมากนัก ก็ไม่ได้มีเหตุอันใดที่ทำให้อินธาราใจเย็นอีกต่อไป หากฝืนอยู่บนเรือลำนี้ต่อคงไม่พ้นถูกจับกังคนไหนสักคนจับเป็นเมีย จากสายตาลักษณะเดียวกันมันทำให้อินธาราไม่สามารถตีความหมายเป็นอย่างอื่นได้เลย

“ฉันจะลงท่านี้จ้ะ ขอตัวก่อนนะจ๊ะ”

“อ้าว รีบไปไหนเล่าน้องคนสวย”

การเผลอหลับไปเมื่อครู่มันทำให้ผ้าคลุมของอินธาราเปิดออกทั้งหมดจนเห็นใบหน้าสะสวยดั่งสตรีได้อย่างชัดเจน ลักษณะร่างกายคงไม่ผิดแน่หากจะเดาว่าคนตัวเล็กผู้นี้คือบุรุษท้องได้ที่มีน้อยนักในพระนคร

“...”

“เสียดายนัก น่าจะฉุดเสียให้รู้แล้วรู้รอด”

นอกจากใบหน้าจะถูกเปิดเผยแล้วก็ไม่วายให้ชายที่พบเจอต้องหมายปอง อยากจะเอาชายท้องได้ผู้นี้มาเป็นเมียและแม่ของลูก อินรีบหอบกระเป๋าเงินลุกออกจากที่ในทันที ไม่รู้ว่าปลายทางด้านหน้าจะเป็นอย่างไร แต่อินธาราผู้นี้ก็ขอเสี่ยงเป็นกับตายเหมือนเดิมดีกว่า

“ที่นี่ที่ไหนกัน?”

เพราะความรีบร้อนจากการลนลานเพื่อลงเรือด้วยเวลาเข้าจอดเทียบท่าอันน้อยนิดที่เหลือ อินธารายืนนิ่งมองสภาพแวดล้อมตรงหน้าที่แทบไม่ได้ต่างอะไรไปจากพระนครที่ตนจากมา แม้ความเจริญตรงหน้าจะไม่เทียบเท่า แต่ก็เห็นต่างได้ไม่ชัดเจนว่าอินขึ้นเรือมาไกลมากน้อยเพียงใด

ท่ามกลางผู้คนที่กำลังลงจากเรือสินค้ามานับหลายสิบคนกำลังเรียกความสนใจของอินธาราที่ยืนเหม่อให้ต้องหันไปมองในที่สุด ไม่รู้ว่าเหตุใดคนที่เพิ่งลงจากเรือมาเมื่อครู่ จึงต้องเรียงแถวกันเป็นระเบียบเช่นนี้ หากจะบอกว่าไม่มีทางเดินก็ไม่ใช่ เพราะที่ตรงนี้กว้างมากกว่าทางขึ้นลงเรือลำเมื่อครู่เสียอีก

“ยืนโง่ทำอะไร ทำไมมึงไม่ไปเข้าแถวเฉกเช่นผู้อื่น?”

“พูดกับฉันหรือจ๊ะ?”

อินธาราเริ่มไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดคนแปลกหน้าผู้นี้จึงเข้ามาหาเรื่องตนด้วยถ้อยคำหยาบคายเยื่องนี้ด้วย หากเป็นถิ่นของศิวกร คุณพ่อคงไม่ปล่อยไว้ให้เป็นจุดดำของตระกูลใหญ่เป็นแน่

แต่ตอนนี้อินธารา ก็ไม่อาจจะใช้ศิวกรลงท้ายได้อย่างเต็มปาก

“หูมึงหนวกหรือ หากกูไม่คุยกับมึง จะคุยกับผู้ใดได้อีก”

“ไม่ได้หูหนวกจ้ะ ฉันแค่ไม่อยากรับฟังคนไม่มีมารยาท”

อินธาราพูดกลับด้วยแววตาเรียบเฉยผิดนิสัยไปอีกครั้ง หากจะเข้ามาคุยด้วยท่าทีที่ดีกว่านี้คงไม่เกิดเหตุให้ต้องปะทะคารมกัน แม้ที่ผ่านมาจะเป็นเด็กชายตัวเล็กและยากจะต่อกรกับชายฉกรรจ์ตรงหน้า แต่หากพบเจอคนไม่มีมารยาท พูดจาไม่ดีกับตนก่อน อินผู้นี้ก็จะสู้

ไม่รู้ได้เลยว่าหลังจากนี้อินธาราจะต้องพบเจอกับผู้คนแบบใดอีก หากไม่ช่วยเหลือตนเองเสียแต่ตอนนี้ แล้วชีวิตหลังจากนี้จะต้องอยู่อย่างไรกับเส้นทางที่ตนเลือกเดินเข้ามา

“มึงอยากโดนตีนกูนักหรือ!!!”

“มีเรื่องอะไรกันงั้นหรือไอ้ขาม?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel