ตอนที่9-1 สัญญาทาส
ตอนที่9 สัญญาทาส
เมื่อรถแท็กซี่จอดสนิทหน้าบ้านหลังเล็ก มิตาก้าวลงจากรถด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง บ้านที่เคยอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของครอบครัว บัดนี้กลับเงียบสงัดราวกับบ้านร้าง แสงไฟสลัวลอดผ่านหน้าต่างสะท้อนเงาของเฟอร์นิเจอร์ที่วางอยู่อย่างโดดเดี่ยว
มิตาก้าวเท้าเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เคยเป็นศูนย์รวมของทุกคนในครอบครัว ความทรงจำในอดีตไหลบ่าเข้ามา ภาพของพ่อกับแม่ที่นั่งดูทีวีด้วยกัน เสียงหัวเราะที่ดังก้องอยู่ในห้อง และกลิ่นหอมของอาหารเย็นที่แม่ทำ ทุกอย่างยังคงชัดเจนในความทรงจำ แต่กลับไม่มีตัวตนให้สัมผัสได้อีกต่อไป
"พ่อคะ แม่คะ..." เสียงของมิตาสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบแก้ม
"มิตาจะทำยังไงต่อไปดีคะ มิตาคิดถึงพ่อกับแม่จังเลยค่ะ ฮือ ๆ”
ร่างบางทรุดตัวลงนั่งบนพื้น ลูบไล้มือไปที่ ๆ พ่อกับแม่เธอเคยนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
“ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน มิตาจะลากตัวคนผิดมารับโทษให้ได้ พ่อกับแม่จะต้องไม่ตายฟรี มิตาสัญญาค่ะ ฮึกกก”
หญิงสาวนอนเอาใบหน้าแนบพื้น มือก็ลูบไล้ที่พื้นไปมาร้องไห้สะอื้นเจียนจะขาดใจ เธอรู้สึกเจ็บปวด เคว้งคว้างและโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง แทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ แต่เธอจะตายไม่ได้ ถ้าเธอทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้น พ่อกับแม่จะต้องผิดหวังในตัวเธอมากแน่ๆ และคนร้ายที่ฆ่าพ่อแม่เธอมันก็จะลอยนวลใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย หรือไม่ก็อาจจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก
เพราะฉะนั้นเธอจะต้องเข้มแข็ง หลังจากนี้ไปอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาจะกำหนด ไม่ว่าโชคชะตาจะมาในรูปแบบใด เธอก็จะมีสติให้มากและตั้งรับมันให้ได้!!!....
#วันถัดมา
"สรุปได้เรื่องว่า?" เสียงทุ้มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทที่ให้ไปสืบหาข้อมูลของเธอคนนั้นมาอย่างละเอียด
“เป็นตามที่เธอพูดทุกอย่างครับ พวกตำรวจรีบปิดคดีเกินไปจนน่าสงสัย เรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ... ผมว่าเราไม่ควรเข้าไปยุ่งนะครับนาย”
คมสันต์กล่าวรายงานผู้เป็นนายด้วยสีหน้าเครียดและจริงจังแต่มันมีเรื่องที่น่าหนักใจกว่านั้น “แล้วอีกอย่างที่นายไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนั้นอีกก็คือ...”
“คืออะไรวะ...มึงจะเว้นวรรคทำส้นตีนไร”
เมื่อได้ฟังลูกน้องถึงตรงนี้ซันก็ขมวดคิ้มมุ่นอย่างสงสัย จะพูดก็ไม่พูดออกมาทีเดียวทำท่าพิลี้พิไรจนเขาเริ่มหงุดหงิด
“คุณมิตาเธอเป็นลูกสาวของผู้หญิงคนนั้นครับ...คนที่เข้ามาหานายเมื่อสองอาทิตย์ก่อน”
เจมส์เป็นคนตัดสินใจเอ่ยบอกให้เจ้านายรับรู้ ที่พวกเขาไม่อยากให้ผู้เป็นนายเข้าไปยุ่งกับเธอเพราะกลัวความยุ่งยากทั้งกายและใจจะตามมาในภายหลังเอาได้
ซันได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้าครุ่นคิด แต่ไม่ได้เครียดอะไรเพราะไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องเครียดหรือเก็บมาใส่ใจ เขาไม่สนว่าถ้าเธอรู้เรื่องนี้แล้วเธอจะคิดยังไงหรือรู้สึกอะไร
เขาสนแค่ว่าตอนนี้เขาต้องการร่างกายเธอก็เท่านั้น อย่างอื่นไม่จำเป็นต้องเก็บมาคิดให้รกสมอง
“กูไม่สนว่าเธอจะเป็นลูกเต้าใคร กูตัดสินใจแล้ว ในเมื่อกูอยากได้อะไร...กู ต้อง ได้ พวกมึงออกไปได้แล้ว”
“แต่นายครับ...”
“คำสั่งกู พวกมึงไม่ฟังแล้ว?” ซันเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารเลิกคิ้วถามลูกน้องสีหน้าเริ่มไม่สบอารมณ์
“ครับ ๆ” เจมส์และคมสันต์เห็นสีหน้าเจ้านายแล้วก็พากันขนลุกเกรียวจึงรีบรับคำ ค้อมหัวแล้วเดินออกจากห้องทำงานของเจ้านายไปทันที
#อีกด้านหนึ่ง
มิตาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าตึกสูงตระหง่านของสำนักงานกฏหมายตะวันฉาย สองมือกุมกันแน่นจนมือเปียกชื้นเหงื่อ ทั้งที่ตัดสินใจมาอย่างแน่วแน่แล้วแท้ ๆ พอมาถึงเธอกลับลังเลแต่ถ้าปฏิเสธข้อเสนอของเขาเธอก็ไม่มีที่พึ่งอื่นแล้ว
เมื่อตัดสินใจได้มิตาก็สูดลมหายใจเรียกความกล้าให้กับตัวเองแล้วเดินไปที่หน้าเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยบอกอะไร ก็มีลูกน้องของผู้ชายคนนั้นเข้ามาหาเธอ
“เชิญครับ นายกำลังรอคุณอยู่”
คมสันต์ค้อมหัวให้ผู้หญิงของนาย ผายมือไปทางลิฟต์ผู้บริหารที่ไม่เคยมีใครได้เข้าไปนอกเสียจากผู้บริหารชั้นสูงอย่างเขาและญาติพี่น้องที่มาหาเขาเท่านั้น
.
.
.
.
มาติดตามในตอนต่อไปกันนะคะ ว่าสองคนนี้จะกัด เอ๊ย ทะเลาะกันอีกหรือเปล่า?
มาเอาใจช่วยน้องมิตาของเรากันเยอะๆนะคะ น้องน่าสงสาร ญาติพี่น้องที่ไหนก็ไม่มี
ยังจะมาถูกอีตาทนายนี่เอาเปรียบกันอีก ฮือออ
.
(แต่เอ๊ะ!! แล้วอิพี่มันมีความลับอะไร? เกี่ยวข้องกับแม่นางเอกยังไงกันนะ?)
