4.BAD GUYS ทนายมาเฟีย

บทย่อ

ชีวิตอันสงบสุขในวันที่เพิ่งเรียนจบกลับต้องใจแตกสลาย เมื่อพ่อกับแม่เธอถูกฆาตกรรมโดยบุคคลปริศนา จึงเป็นที่มาของการเข้าไปพัวพันกับเขา‘ทนายเถื่อน’ผู้ที่ไม่เคยแพ้ให้กับคดีไหน! . . BAD GUYS ทนายมาเฟีย (ซัน x มิตา) เขาคือทนายที่เก่งกาจ เย็นชา ไม่สนใคร พูดจาขวานผ่าซาก "กฏข้อสี่ ห้ามหึง ห้ามหวง ห้ามแสดงความเป็นเจ้าของ และอย่าเรียกร้องอะไรจากฉัน ที่ฉันให้เธอไม่ได้” *** “กฏข้อแปด ห้ามท้อง...เพราะฉันจะไม่ป้องกัน เธอต้องดูแลตัวเองถ้าพลาดมา ฉัน ไม่ รับ ผิดชอบ” “และข้อสุดท้าย ห้ามรักฉัน...เด็ดขาด” #แต่ก็เป็นเขานั่นแหละที่แหกกฏซะเอง ซัน ตะวันฉาย เมฆาพิวัฒน์ อายุ 29 ปี สูง 189 ขาว สูง ตาคมดุ เยือกเย็น (ชัยชนะคือขนมหวาน) สำหรับเขา ทนายความชื่อเสียงโด่งดัง รับทำคดีไหนไม่เคยมีคำว่าแพ้ เบื้องหน้าเขาคือผู้รักษากฏหมาย เบื้องหลังเขาคือมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ฉายา'ทนายเถื่อน' . . มิตา รมิตา เกิดผล อายุ 23 ปี สูง 169 อก36 เอว25 หุ่นดี หน้าสวย ผิวขาวจัด แต่งตัวเรียบร้อย ชอบใส่แว่นบดบังใบหน้าสวย เธอเป็นนักศึกษาจบใหม่ ดูจากการแต่งตัวเหมือนจะเรียบร้อย แต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้เรียบร้อยเหมือนการแต่งตัวเลยซักนิด นิสัย - ปากเก่ง ไม่กลัวคน กล้าได้กล้าเสีย เพราะบ้านอยู่ในสลัมเลยทำให้จำเป็นต้องสู้คน มีความสุขหลังเรียนจบได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องใจแตกสลาย เมื่อกลับมาบ้านแล้วเจอ พ่อกับแม่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น โดยตำรวจรีบปิดคดีด้วยสำนวนเหตุการทะเลาะวิวาทและฆ่าตัวตาย ทั้งที่คดีนี้มันมีหลายจุดที้ผิดสังเกต และเธอไม่มีทางเชื่อแน่นอนว่าพ่อกับแม่จะคิดสั้นแบบนี้ เพราะเมื่อกลางวันพวกท่านยังไปงานรับปริญญาเธออยู่เลย แถมก่อนจากกันเราก็ยังนัดที่จะฉลองด้วยกันอีกด้วย มันไม่มีเหตุจูงใจที่ต้องทำแบบนั้นเลย นอกเสียจาก "มีคนฆาตกรรมพวกท่าน" แล้วจัดฉาก "ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ฉันจะลากคอแกมาเข้าคุกให้ได้" . ตัวอย่างบางช่วงบางตอน . “เหอะ ไม่มีแฟน...แล้วไอ้เวรนั่นมันเป็นใครวะ?” “เฮียซันเป็นบ้าอะไร ปืนเป็นแค่เพื่อนไม่ใช่แฟน” “ตอแหล! เธอคิดว่าฉันโง่มากรึไง ที่จะดูไม่ออกว่าไอ้เวรนั่นกับเธอมีใจให้กันอยู่” “เธอชอบมันใช่ไหม พูดดด?” “ถ้ามิตาบอกว่าใช่...แล้วมันจะยังไงต่อ เราเป็นแค่เพื่อนกันไม่มีทางที่มันจะเป็นมากกว่านั้นได้” “หึหึ ชอบมันจริง ๆ สินะ” พรึบบบ!! “อ๊ายยย!! ปล่อยมิตาลงนะเฮียซัน!” *** ปึก ปึก ปึก "อ่าส์...เธอไม่มีวันหนีไปจากฉันได้มิตา" "ในเมื่อเธอเป็นเมียฉันแล้ว...ก็เป็นมันไปจนวันตายนั่นแหละ"