ตอนที่2 หลักฐาน
และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของงานฌาปณกิจพ่อกับแม่มิตา หญิงสาวมาส่งพวกท่านเป็นครั้งสุดท้าย แม้จะพยายามเข้มแข็งแล้วแต่น้ำตาก็ไหลออกมาอยู่ดี ตอนพ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่พวกท่านมักจะบอกเธอให้เข้มแข็งหากวันหนึ่งไม่มีพวกท่านอยู่แล้ว ต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ ใช้ชีวิตให้มีความสุข อย่าได้ยึดติด ร้องไห้เสียใจให้กับคนที่จากไป พวกท่านจะคอยมองดูเธอจากบนฟ้าเสมอ เราจากกันแค่กายแต่ใจเราไม่เคยจากกันเลย...
“มิตาจะเข้มแข็ง มิตาจะไม่ร้องไห้แล้ว พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงมิตานะคะ อยู่บนนั้นก็คอยเอาใจช่วยมิตาด้วยนะ ฮึก”
“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร...ฉันจะลากคอแกมาเข้าคุกให้ได้” มิตายืนมองปล่องควันที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนจะมองรูปพ่อกับแม่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสายตาแน่วแน่ สองมือกำแน่นเมื่อคิดถึงหลักฐานที่เธอบังเอิญไปพบเข้าตอนถูบ้านด้วยความเจ็บปวด
# บ้านรมิตา
“มิตา แล้วแกจะเอายังไงต่ออ่ะทีนี้ เรื่องคดีตำรวจก็ปิดไปแล้วยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหแทนว่ะ” แจมถามขึ้นในตอนที่กลับมาถึงบ้าน
“เอาตรง ๆ นะ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปเลยอ่ะ” มิตาตอบก่อนจะก้มหน้าลงมองมือสองข้างที่ประสานกันอยู่หน้าขา
“เอ้อ! มิตาแล้วไอ้หลักฐานที่มิตาพบอ่ะ คืออะไร เอาให้ตำรวจไปยัง?” กำปั้นถามขึ้นเมื่อนึกได้ว่ามิตาเคยบอกว่าเจอหลักฐานบางอย่างที่ใต้โซฟา
“ยังอ่ะ แป็ปนะ” ว่าจบก็เดินเข้าไปในห้องนอนเนื่องจากบ้านของเธอเป็นบ้านชั้นเดียวจึงสามารถเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ได้อย่างคล่องตัว
“อ่ะ! อันนี้แหละ” รมิตายื่นถุงซิปล็อกที่มีต่างหูห่วงสีเงินเล็ก ๆ อยู่ในนั้นหนึ่งข้างให้กำปั้นดู
“เห้ย! นี่มันแบรนด์เดียวกับที่เราใส่อยู่เลยนี่” ปืนพุดขึ้นเมื่อเห็นของในมือของกำปั้น มิตาจึงเหลือบสายตาไปมองที่หูของเพื่อนชาย และมันก็คล้าย ๆ กันจริงด้วย
“จริงดิ งั้นก็แสดงว่ามันเป็นของผู้ชายใช่ป่ะ” มิตารีบลุกขึ้นมานั่งข้างปืนแล้วยกมือขึ้นไปจับต่างหูปืนโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวจึงได้แต่นั่งนิ่งทำตัวไม่ถูก
“เหมือนกันมาก แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว เอ๊ะ!มันมีเลขอะไรอยู่ด้วยอะ” เธอลูบไปมาที่ต่างหูพูดขึ้นอย่างเลื่อนลอย ก่อนสายตาจะไปสะดุดที่เลขนัมเบอร์ที่ห่วง
“ใช่!...ของแบรนด์นี้ของแต่ละชิ้นจะมีซีเรียลนัมเบอร์ติดไว้ และเราก็สามารถให้ที่ร้านเช็กให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของ” กำปั้นตอบกลับที่มิตาพูด เพราะดูแล้วปืนวิญญาณน่าจะออกจากร่างไปแล้วเลยตอบแทนแฝดพี่ตัวเอง
“จริงหรอปั้น แบบนี้เราก็จะได้รู้น่ะสิว่าเป็นของใครแล้วคน ๆ นั้นก็อาจจะเป็นคนร้าย...” มิตาถามขึ้นด้วยดวงตาเปล่งประกายความแห่งหวัง
“แต่เราว่าหลักฐานแค่นี้มันไม่น่าจะพอนะ แล้วถ้าเจ้าของร้านไม่เช็คให้เราก็ยิ่งยากเข้าไปอีกเพราะฉะนั้นเราต้องมีแบล็คหนุนหลัง ที่สามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้แค่หยิบมือ” แจมออกความเห็นหลังจากนั่งฟังอยู่นาน
“ใคร/ใคร/ใคร” มิตา ปืน กำปั้น หันขวับมามองแจมแล้วถามออกไปอย่างพร้อมเพรียงกัน
“โอ๊ย! พวกแกอย่าจ้องฉันแบบนี้สิ คนมันทำตัวไม่ถูกนะเว้ย” แจมโบกมือไล่เพื่อนให้เลิกมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด ๆ แล้วส่งให้มิตาดู
[“ซัน ตะวันฉาย เมฆาพิวัฒน์ ทนายความตัวท็อปของประเทศ ดีกรีนักเรียนนอก หล่อ รวย เพอร์เฟกเป็นที่หมายปองของสาว ๆ”]
มิตาอ่านข่าวที่แจมเปิดแล้วยื่นส่งมาให้ ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปม ‘ซันงั้นหรอ?’ พอได้ยินชื่อนี้อีกครั้งมันทำให้เธอก็รู้สึกใจหวิว ๆ ในอกข้างซ้ายเริ่มเต้นแรง ‘น่าจะแค่คนชื่อเหมือนแหละมั้ง’
“อะไรเนี่ย! แกให้ฉันอ่านข่าวอีตาทนายหน้าหล่อนี้ทำไม?”
มิตาถามเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ ว่าแจมส่งมาให้เธออ่านทำไม ข่าวไร้สาระ พาดหัวข่าวให้คนบ้าผู้ชายอ่านชัดๆ คนยิ่งเครียด ๆ อยู่
“โอ๊ยยย....ฉันให้แกดู ว่าคนนี้ไงแบล็คที่ฉันพูดถึง ไม่ได้ให้แกไปอ่านข่าวนั่นซะเมื่อไหร่” แจมเหลือบตามองบนใส่เพื่อนสาว
“เออ! จริงด้วยฉันก็ได้ยินข่าวมาเหมือนกันนะเว้ย คนนี้อะของจริง! ทำคดีไหนไม่เคยแพ้ ชนะทุกคดี ทางครอบครัวเค้านะ ใหญ่กันทั้งตะกูล พ่อเป็นนายพล แม่เป็นท่านทูตเลยนะเว้ย” กำปั้นพูดเสริมขึ้นยกใหญ่ แต่ไม่เกินจริงจากที่เอ่ยเลยซักนิด
“รู้ดีไปหมด...แล้วรู้ด้วยป่ะว่าเค้าไม่ได้รับทำคดีให้ใครง่าย ๆ ต่อให้มีเงินแค่ไหน ถ้าเค้าไม่อยากทำก็คือไม่ทำ” ปืนพูดขึ้นบ้างด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่จ้องมองไปที่หน้ารมิตาไม่วางตา
“นั่นแหละประเด็นสำคัญ ถ้าลำพังกะอีแค่เรื่องเงินพวกเรายังพอช่วยแกได้นะเว้ยมิตา แต่คุณตะวันฉายเค้ามีเงินอยู่แล้วไง แกต้องลองไปคุยกับเค้าดูอะ ว่าเค้าจะช่วยหรือเปล่า” แจมพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มแหย ๆ หนักใจแทนเพื่อนไม่น้อย
“อืมมม ไม่เป็นไรแค่นี้ก็ขอบใจพวกแกมาก ๆ แล้วไหนมาจะช่วยงานพ่อกับแม่ ช่วยออกค่าดำเนินการต่าง ๆ ให้อีกฉันก็เกรงใจจะแย่แล้ว ที่เหลือเดี๋ยวฉันหาทางจัดการต่อเอง”
“คิดจะทำอะไรมิตา?” ปืนรีบโพร่งถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เมื่อได้ยินว่าเธอจะหาทางจัดการเอง
“ก็จะไปลองคุยกับคุณทนายนั่นดูไง เค้าอาจจะใจดีช่วยเราก็ได้ หน้าตาก็ดีไม่น่าใจร้ายหรอกมั้ง!...”
“รู้ได้ไงว่าจะไม่ใจร้าย นายนั่นน่ะมันเสือผู้หญิงเลยนะมิตา ให้เราไปเป็นเพื่อนดีกว่านะ” ปืนหันมาพูดกับมิตาด้วยสีหน้าจริงจังมากยิ่งขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกปืน เราจัดการเองได้เชื่อเราสิ...มิตาซะอย่าง” มิตายิ้มอ่อน ให้ปืนไม่อยากให้เพื่อนลำบากมาช่วยอะไรเยอะแยะ
“แต่ว่า..../ ถ้าเราติดปัญหาเราจะรีบบอกทันที แต่เราขอลองพยายามหาทางด้วยตัวเองก่อนนะปืน” ปืนกำลังจะแย้งแต่มิตาก็พูดสวนขึ้นเสียก่อน เขาจึงจำต้องพยักหน้าตกลงตามที่เธอบอก
