ตอนที่6 ขัดจังหวะ
“หึ!!! ทำสิ อยากนักไม่ใช่? ”
เป็นเสียงผู้ชายพูดขึ้น...แต่ทำไมเสียงนี้มันฟังดูคุ้นๆ นะ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่แล้วความสงสัยของหลินก็ได้คำตอบในนาทีต่อมา
“ได้ค่ะเปิ้ลจะทำให้ถึงใจเป็นหนึ่งเลยค่ะ”
หลินถึงกับตาโตเอามือปิดปากแน่น ‘เอาไงดีล่ะทีนี้ จะออกไปดีไหมหรือเราควรนั่งอยู่แบบนี้ต่อ’ เธอได้แต่คิดลังเลว่าถ้าออกไปจะไปขัดจังหวะเขาไหม
แต่ก็คิดได้ละ ‘ช่างสิเขาอยากเข้ามาเอง ช่วยไม่ได้’ คิดได้ดังนั้นจึงลงมาจากชักโครกแล้วเปิดประตูออกมา
แกร็กกกก!!!
“เห้ยยยย!! / กรี๊ดดดดด แกเป็นใคร”
เสียงของเป็นหนึ่งกับผู้หญิงคนนั้นร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกัน
แต่ควรจะเป็นเธอนี่สิที่ต้องต้องตกมากกว่า เมื่อออกมาแล้วเจอผู้หญิงคนนั้นกำลังนั่งคุกเข่า มือก็รูดซิบกางเกงผู้ชายตรงหน้าลง โดยมีผู้ชายคนนั้นยืนพิงขอบอ่างล้างหน้า ไอ้ที่ใหญ่ยาวนั่นก็แข็งเป็นลำตั้งตรงโผล่พ้นกางเกงมาแล้วด้วย พอเขาเห็นเธอก็รีบเก็บท่อนเนื้อนั้นแล้วรูดซิบกลับอย่างไว
“S***t บ้าชิบ” เป็นหนึ่งสบทออกมาอย่างหัวเสีย
กึก!!! ร่างบางของหลินชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ เมื่อตั้งสติได้จึงเดินไปล้างมือแล้วก็เดินผ่านคนทั้งคู่นั้นออกมาราวกับไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
“บ้า เอ๊ยยย อุจาดตาที่สุด อี๋!!!”
เมื่อเดินพ้นห้องน้ำมาก็รีบเอามือมาปิดหน้าตัวเองอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆนัก ที่ไปเห็นอะไรไม่ควรเห็นเข้า
“ภาพจะติดตาไหมเนี่ย” หลินได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง
ทางด้านเป็นหนึ่งก็หัวเสียเป็นอย่างมากเมื่อกำลังจะเข้าได้เข้าเข็มในที่ประจำกับดาวคณะการโรงแรม ที่ตามตื๊อตั้งท่าอ่อยเขาอยู่หลายครั้ง แต่ทำไมต้องเป็นเธอคนนั้นที่เข้ามาเห็นด้วย มันน่าหงุดหงิดที่สุด
“โธ่เว้ย!! ออกไปซะ” เขาดึงทึ้งผมตัวเองอย่างหงุดหงิด
“แต่ว่า เป็นหนึ่งคะ...” สาวสวยทำสีหน้าเศร้า
“ก็บอกให้ออกไปยังไงวะ”
เขาตวาดดังลั่นจนฝ่ายหญิงสดุ้งโหยงสุดตัว ลนลานรีบเดินออกมาอย่างไวด้วยความอารมณ์เสีย พร้อมกับบ่นเสียงขบเคี่ยวเคี้ยวฟันระหว่างเดิน
“อุตส่าจะได้กินหนุ่มฮ็อตของวิศวะครั้งแรก ดันมาล่มไม่เป็นท่าเพราะอีเด็กบ้านั่นคนเดียวเลย จิ๊”
พรึบบบ!!! ตึก ตึก ตึก
เมื่อหลินเดินมาถึงก็เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าที่โต๊ะแล้วเดินออกไปทางลานเกียร์ทันที
“เอ้า หลินนั่นจะไปไหนน่ะ” เหมยลี่รีบลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินตามอย่างเร็วรี่
“ไปลานเกียร์”
หลินตอบแค่นั้นโดยไม่ได้หันมามองเพื่อนทั้งสอง ที่งงเป็นไก่ตาแตกเดินตามหลังมาติดๆ หันหน้ามองกันอย่างอ๊องๆ
“เป็นอะไรของเค้าวะนั่น”
ภีมหันไปถามเหมยลี่อย่าง งงๆ ส่วนเหมยลี่ก็ทำเพียงแค่ยักไหล่กลับไปประมาณว่า ‘ก็นั่งอยู่ด้วยกันฉันจะไปรู้ไหมล่ะ’
# ลานเกียร์วิศวะ
เมื่อปีหนึ่งมาครบก็เริ่มกิจกรรมกันไปเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงที่ต้องจับฉลากพี่รหัส
หลินจับได้คำใบ้ ‘สาวสวยดาวคณะโยธา’ ซึ่งมันง่ายมากสำหรับคำใบ้นี้ เพราะถ้าพี่รหัสเป็นปีสองก็ต้องเป็นดาวคณะของปีที่แล้วอย่างแน่นอน เธอจึงเดินตามหาผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นดาวคณะของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ปีสองในปีนี้ ส่วนพวกเหมยลี่และภีมก็รู้จักพี่รหัสของตัวเองแล้วเช่นกัน จึงแยกกันไปหาพี่รหัสของตัวเอง
” สวัสดีค่ะพี่ หนูชื่อหลินนะคะเป็นน้องรหัสของพี่ ซึ่งหนูได้คำใบ้ว่าสาวสวยดาวคณะโยธา ใช่พี่หรือเปล่าคะ” เธอถามออกไปพร้อมยิ้มให้สาวสวยตรงหน้า
“ใช่ค่ะพี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักนะพี่ชื่อมาร์เบล หรือเรียกเบลเฉยๆ ก็ได้นะคะ”
จากนั้นเธอก็ทำความรู้จักกับพี่รหัสของตัวเองพร้อมกับได้วันนัดรวมสายรหัสเป็นวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้สถานที่นัดหมายก็คือ Big Asผับ นั่นเอง
หลังจากที่นัดแนะกันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลารวมตัวปิดการรับน้องของวันนี้ แล้วก็แยกย้ายกัน โดยหลินให้เหมยลี่ขับรถเธอกลับไปพร้อมกับภีม ส่วนเธอก็ต้องไปทำงานกับเป็นหนึ่งตามที่ตกลงกับเขาไว้เมื่อคืน
เมื่อมาถึงลานจอดรถเธอก็เห็นเป็นหนึ่งยืนรออยู่ที่หน้ารถของเขาอยู่แล้ว
“รอนานไหมคะ”
เธอปั้นสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพราะไม่อยากคิดถึงเรื่องที่ห้องน้ำเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
“ขึ้นรถสิ”
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วเข้าไปนั่ง หลินเห็นเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาหรือจะพูดอะไรต่อจึงเปิดประตูไปนั่งข้างคนขับทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
# คอนโดของเป็นหนึ่ง
เมื่อมาถึงคอนโดเขาก็เข้าไปจอดรถที่ ช่องจอดVIP แล้วก็นำเธอเดินเข้าลิฟท์ไปส่วนเธอก็เดินตามเขาไปติดๆเช่นกัน จนมาถึงในห้องเขาก็ชี้แจงว่าเธอมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง
“หน้าที่ของเธอก็ไม่มีอะไรมาก แค่ดูดฝุ่นห้องนอน ห้องออกกำลังกาย ห้องนั่งเล่น ในครัวแล้วก็ล้างห้องน้ำห้องรับแขกกับห้องนอนฉันก็พอ ไม่ต้องเข้าไปยุ่งอะไรกับห้องนั้นเด็ดขาด”
เขาอธิบายอย่างชัดเจน แต่หลินก็อดที่จะสงสัยไม่ได้อยู่ดี
“มันคือห้องอะไรหรอคะ”
หลินถามด้วยดวงตาใสซื่อราวกับไม่ได้คิดอะไร
“ห้องทำงาน…รู้แค่ว่า อย่าเข้าไปวุ่นวายก็พอ ฉันไม่ชอบ”
เขาพูดและมองเธอด้วยสายตาดุๆ ดูเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยอำนาจ
“ออค่ะ แล้วพวกเสื้อผ้ากับผ้าปูที่นอน…” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบเค้าก็เอ่ยส่วนขึ้น
“ไม่ต้อง...เดี๋ยวมีแม่บ้านที่บ้านใหญ่มาจัดการเอง”
“ค่ะ…เอ๊ะ!! แล้วทำไมพี่ไม่ให้แม่บ้านทำล่ะคะงานแค่นี้เองจะจ้างหนูให้มาเปลืองเงินอีกทำไม”
“ก็ฉันจะให้เธอทำมีอะไรไหม...แล้วนี่จะถามอีกนานปะ ฉันง่วง”
เขาชักสีหน้าเริ่มไม่พอใจที่เธอถามมากแล้วก็หงุดหงิดที่เธอทำตัวปกติได้ โดยที่เขาอึดอัดแทบแย่
“ค่ะไม่ถามก็ได้ แล้วจะให้หนูเริ่มทำจากตรงไหนก่อนคะ”
“เธออยากเริ่มตรงไหนก่อน ก็ทำไปเถอะ”
เขาตอบแค่นั้นก่อนจะนั่งลงที่โซฟาเอนหลังพิงพนักแล้วหลับตาลง
